เกาะกูด เกาะน้ำใส เกาะสุดท้ายของประเทศฝั่งตะวันออก จังหวัดตราด หลายคนรู้จัก หลายคนอยากไป หลายคนเคยไป แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าเราสามารถเที่ยวเกาะกูดแบบแบกเป้แบ็คแพ็คกางเต็นท์นอนได้ด้วย การันตีว่าปลอดภัยชัวร์ เพราะเป็นสถานที่ซึ่งเขาเปิดบริการให้กางเต็นท์ ไม่ใช่ไปหาที่กางมั่วๆ เอาเอง

ทริปนี้เราเดินทางกัน 14-17 มกราคม 2565 บรรยากาศเป็นยังไง เหมาะกับสายแบ็คแพ็คแค่ไหน ตามมาเที่ยวกันครับ

---

แบกเป้ไปตราดวิธีไหน

วิธีเดินทางไปตราดง่ายนิดเดียว รถทัวร์ รถตู้ มีเพียบ ใครอยู่จุดไหนของประเทศหาทางกันเอาเอง (ฮา…) ผมอยู่โคราช ขาไปนั่งรถทัวร์ลง กทม. ต่อรถตู้ (มินิบัส) ที่หมอชิต แต่ขากลับนั่งรถทัวร์ 407 พัฒนา เส้น ตราด-หนองคาย เที่ยวเดียวกลับโคราชเลย

ด้วยเที่ยวเรือข้ามไปเกาะกูดมีไม่เยอะ เพราะฉะนั้นหากเดินทางจาก กทม. แล้วหวังจะขึ้นเรือรอบเที่ยงหรือบ่ายโมงให้ทันต้องออกเช้าสุดตั้งแต่ตีห้า

---

ต่อไปท่าเรือแหลมศอกยังไง

เที่ยวเกาะกูดต้องขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอก ห่างจากตัวเมืองตราดประมาณ 30 กิโลเมตร

ตั้งต้นที่ บขส.ตราด มีรถสองแถว ตราด-แหลมศอก … แต่ขอบอกย้ำๆๆๆๆ ว่าเป็นสองแถวที่ไม่ได้วิ่งตามเวลา หรือมายืนรอโบกระหว่างทางได้นะ ข้อมูลไหนบอกว่ามีรถสองแถวประจำทางให้บริการ ราคาคนละเท่านั้นเท่านี้ อย่าเผลอเชื่อเชียว

สองแถวแหลมศอกออกเฉพาะมีเมื่อผู้โดยสารว่าจ้าง (เพราะหากไม่มีคนตั้งแต่ต้นทาง ออกรถวิ่งจนถึงปลายทางก็ไม่มีผู้โดยสารหรอกครับ วิ่งฟรีน่ะสิ) ราคาไปแหลมศอกหนึ่งเที่ยวเขาต้องได้อย่างต่ำ 400 บาท หมายความว่าหากคุณมีเพื่อนร่วมทางสิบคนหรือเกินสิบ ก็แค่คนละ 40 บาท แต่ถ้าบังเอิญมีคุณคนเดียวก็ต้องควักเต็ม 400 บาท … ไม่ต้องเสียเวลาต่อรอง ไม่จ่ายรถไม่ออก คุณตกเรือ จบนะ

ช่วงนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนเที่ยวเกาะกูดไม่เยอะ (หรือที่ไปก็ขับรถส่วนตัว) แถมหากเป็นวันธรรมดาคงไม่ต้องอธิบายว่าบทสรุปจะออกมาแบบไหน ผมสัมผัสมาแล้วค่ารถไป-กลับ ตราด-แหลมศอก 800 บาท

---

ขึ้นเรือเจ้าไหนบ้าง

เรือโดยสารไปเกาะกูดมีสามเจ้า บุญศิริ (500 บาท 10.45 น. กับ 14.20 น.) เกาะกูดเอ็กซ์เพรส (400 บาท รอบ 13.00 น.) เกาะกูดปริ้นเซส (300 บาท รอบ 12.30 น.) ราคาต่างกันตามความทันสมัยของเรือและระยะเวลาเดินทาง ผมเคยนั่งมาหมดทุกเจ้า … ส่วนครั้งนี้เลือกใช้เรือของบริษัทปริ้นเซส สำนักงานอยู่ที่ท่าเรือแหลมศอก ถึงเวลาขึ้นเรือจะมีรถไปส่งเราลงเรือ

ถึงเกาะกูด ทุกเจ้าจะมีรถสองแถวไปส่งตามที่พักหรือจุดที่เราต้องการ เช่นเดียวกับขากลับจะมีรถไปรับเราจากที่พักมาขึ้นเรือ

แนะนำนิดหน่อยว่าทุกบริษัทกว่าเรือจะถึงเกาะกูดก็บ่าย ส่วนขากลับรถจะรับเราจากที่พักไม่เกินเก้าโมงเช้า ดังนั้นหากเที่ยวสามวันสองคืน วันแรกถึงเกาะบ่ายแก่ๆ วันกลับตื่นมาก็ต้องรีบออก เท่ากับมีเวลาเต็มๆ เพียงวันเดียว… ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรไปมากกว่าสองคืนครับ

---

กางเต็นท์ที่ไหน

กางเต็นท์ในที่นี้คือกางเต็นท์ของเราเองจริงๆ ไม่ใช่ที่พักหรือรีสอร์ทที่มีห้องพักแบบเต็นท์

เท่าที่่ผมไปเกาะกูดหลายรอบ มีรีสอร์ทเดียวซึ่งให้กางเต็นท์เป็นกิจจะ ยินดีต้อนรับคนมากางเต็นท์คือ เนเวอร์แลนด์ บีช รีสอร์ท อยู่ที่อ่าวจาก เป็นรีสอร์ทรุ่นลายคราม อาจไม่ทันสมัย แต่ก็เหมาะกับคนชอบความเรียบง่าย ส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน ตลอดแนวหาดเป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง

ค่ากางเต็นท์ 300 บาท ต่อหลัง เลือกทำเลสะดวกได้ทั้งรีสอร์ท ใคร่กางริมหาดก็จัด ใคร่กางโซนสวนมะพร้าวก็จัด หรืออยากกางบนดาดฟ้าตรงบาร์ริมทะเลก็เอาเลย ระวังแค่สองอย่างคือมะพร้าวกับรังมดเท่านั้นพอ

มีห้องน้ำส่วนกลาง สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดีนักแต่มีไวไฟ ชาร์ตแบตเสียบปลั๊กไฟที่ล็อบบี้ได้ แต่ไม่อนุญาตให้ทำอาหารแบบแคมปิ้งนะครับ ทานในรีสอร์ทหรือทานตามร้านต่างๆ เอานะครับ

สำหรับผมถือว่าเป็นทำเลกางเต็นท์โอเค และเป็นการจ่ายเงินที่พักประหยัดสุดแล้วในการเที่ยวเกาะกูด ผมกางสองคน สามคืน แค่ 900 บาท เก็บเงินที่เหลือไว้กินเที่ยวสบายใจ

อ่าวจากน้ำใสเหมือนทุกที่บนเกาะกูด ทั้งหาดมีที่พักแบบเรียบง่ายเพียงสองเจ้าคือเนเวอร์แลนด์ กับ ริมเล เลยเงียบสงบส่วนตัวมาก และเป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่แปลกตามากมาย

---

เที่ยวเกาะกูดยังไง

ใครอยากสำรวจเกาะกูดให้ทั่วต้องเช่ามอเตอร์ไซค์ เช่าง่ายๆ กับเนเวอร์แลนด์ วันละ 300 บาท (นับ 24 ชั่วโมง) เช่าเกินหนึ่งวัน เหลือวันละ 250 บาท

ได้มอเตอร์ไซค์แล้วขี่เที่ยวเองโลด หน้าร้อนไม่ต้องสนพวกน้ำตกหรอก แนะนำตะลอนตามชายหาดต่างๆ อ่าวพร้าว อ่าวบางเบ้า อ่าวตะเภา อ่าวคลองเจ้า อ่าวคลองหิน อ่าวง่ามโข่ อ่าวคลองมาด อ่าวน้อย อยากเห็นกับว่าตรงไหนสวยใสอย่างไรก็ไปซะ บางส่วนต้องลงหาดผ่านรีสอร์ทต่างๆ ซึ่งเราก็ดูตามความเหมาะสมของสถานที่ล่ะนะ ที่ไหนยินดีเปิดรับก็เข้าได้เลย ที่ไหนไม่อยากให้ผ่านรบกวนผู้เข้าพักเราก็ไม่เข้า ที่ไหนมีบาร์มีคาเฟ่ริมทะเลก็อุดหนุนเขาสักหน่อย

อ่าวง่ามโข่ ตรงง่ามโข่ รีสอร์ท หน้าหาดไม่กว้างแต่เหมาะกับมาเล่นน้ำพักผ่อน มีเปลในทะเลของรีสอร์ทให้ถ่ายรูปเก๋ๆ นักท่องเที่ยวข้างนอกก็ไปถ่ายรูปได้ครับ

อ่าวคลองเจ้า หน้าไฮซีซั่น รีสอร์ท ต้องมาปักหมุดถ่ายรูปกับต้นมะพร้าวคู่ที่เติบโตได้ขวางโลกมาก (ฮา…) เดินจากทางลงหาดสาธารณะไปเรื่อยๆ จนถึงหน้ารีสอร์ทได้เลย

ตรงนี้เป็นทะเลสวยๆ ที่อ่าวน้อย รีสอร์ท ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างไพรเวท แต่เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติตอนนี้รีสอร์ทเลยเงียบสนิท เดินลงไปหน้าหาดของเขาได้ สะพานไม้เห็นจากป้ายบอกเลยคิดว่าปกติจะเก็บค่าเข้าสำหรับแขกนอก ทว่าตอนนี้ไม่มีคนมาเที่ยวนี่นะ… เราเลยจัดไปสบายใจ

สำหรับตรงนี้คือสวยปลายอ่าวคลองหิน ที่คลองหิน บีช รีสอร์ท เช่นเดียวกันว่าสามารถขอเดินไปหน้าหาดผ่านทางรีสอร์ท

แต่หาดที่ผมชอบและรักที่สุดยังคงเป็นอ่าวบางเบ้า ปัจจุบันเป็นอ่าวยอดฮิตเพราะมีที่พักมาแรงหลายแห่งมาก สำหรับคนไม่ได้พักพวกที่ดังกล่าวอย่างเรา สามารถลงหาดทางสยามบีช รีสอร์ท มีสะพานไม้เป็นเหมือนแลนด์มาร์กของบางเบ้า ผมมาเกาะกูดครั้งแรกสิบกว่าปีก่อนอยู่ยังไง ถึงตอนนี้ก็ยังอยู่อย่างนั้น

สะพานไม้อ่าวคลองมาด จุดนี้ยังไม่ดังมากเพราะโลเกชั่นเป็นปากคลองและแหล่งชุมชนบ้านคลองมาด แต่อีกไม่นานหรอกคงเริ่มมีคนมาเที่ยวเยอะขึ้น

เดี๋ยวนี้เกาะกูดมีคาเฟ่เยอะมาก ทั้งคาเฟ่ภายในรีสอร์ทที่เราไปใช้บริการกันได้ หรือคาเฟ่และร้านอาหารของคนเกาะกูดเอง ราคาก็แตกต่างกันไป

ใครชอบบรรยากาศชมพระอาทิตย์ตกชิลๆ อยากให้ไปวิวพอยต์คาเฟ่ตรงคลองเจ้า มีเครื่องดื่ม อาหาร ของหวาน ราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ เพราะเป็นร้านชาวบ้าน แนะนำที่เดียวพอ ที่เหลือมีมอเตอร์ไซค์กันแล้วนี่ อยากไปไหนก็ไปเถอะ (ฮา…)

---

เรากางเต็นท์นอนที่เนเวอร์แลนด์สามคืน พอขากลับได้เวลารถสองแถวก็มารับเราไปลงเรือรอบสิบโมงเช้า ถึงท่าเรือแหลมศอก คนลงจากเรือทุกคนขึ้นรถรับส่งไปสำนักงานปริ้นเซสกันหมดเพราะขับรถส่วนตัวมา เหลือเราเพียงสองคนขึ้นสองแถวเข้าตัวเมือง … เพราะฉะนั้นก็จ่ายไปสิ 400 บาท … 30 กิโลเมตร ไม่จ่ายแล้วจะไปยังไงล่ะนะ

นั่นแหละครับ เที่ยวเกาะกูดฉบับแบบเป้กางเต็นท์ อาจมีเรื่องถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง แต่สุดท้ายเกาะกูดยังสวยเสมอ ใครก็สามารถไปได้ หากอยากประหยัดงบ มีงบจำกัด หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นสายแบ็คแพ็คมาลองกัน

ให้มันรู้สิว่า… เกาะกูดก็มีที่กางเต็นท์เหมือนกันนะเอ้อ

---

ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
https://www.facebook.com/alifeatraveller