เที่ยวเกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 2565 

คนเดียวแบบไม่มีรถส่วนตัว และรายละเอียดค่าใช้จ่าย 

สำหรับมือใหม่หัดเดินทางคนเดียว ด้วยงบ 1900



คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเดินทาง

►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►


ฝากติดตามเพจด้วยครับ

facebook fanpage : https://goo.gl/Fumgyi [ยิ้มแบกเป้เที่ยว]

อย่าลืมกดLike กดShare และ subscribe ด้วยนะครับ
YouTube
►► https://bit.ly/2yFR22w


แพลนรายละเอียดการเดินทาง

เวลา 08.00 น.

ผมมาซื้อตั๋วรถทัวร์ สายกรุงเทพ-ศรีราชา ที่สถานีขนส่งเอกมัย

ผมบอกกับพนักงาน ว่าจะไปเกาะสีชัง

พี่เค้าก็บอกให้เรา ไปลงที่โรบินสันศรีราชา 

เพื่อต่อรถไปยังเกาะลอย

สถานที่ที่เป็นท่าเรือไปยังเกาะสีชังนั่นเอง

ค่าโดยสารราคา 94 บาท ค่าโดยสารรถตู้ รถทัวร์

ราคาอาจจะไม่เท่ากันนะครับ แล้วแต่เราว่าจะเลือก

ผมมารอที่ชานชาลา 21

จาก บขส.เอกมัย มายังโรบินสัน ศรีราชา

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

รถทัวร์มาจอดตรงข้ามโรบินสันศรีราชา

ในส่วนขากลับสามารถมาขึ้นรถตู้ คันไหนก็ได้ที่เข้ากรุงเทพ หน้าโรบินสันได้เลย

ผมนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ราคา 30 บาท 

เพื่อเดินทางมาท่าเรือเกาะลอย


ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที

ผมก็มาถึงเกาะลอย

จากนั้นก็มาซื้อตั๋วเรือ ราคา 50 บาท เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะสีชัง

ซึ่งตารางเดินเรือเนี่ยจะออกทุกๆ ชั่วโมงต่อ 1 เที่ยว


หลังจากนั่งเรือมาได้ 50 นาที ผมก็มาถึงเกาะสีชัง

เกาะสีชังเนี่ย เป็นเกาะที่มีชื่อเสียง มานานนับร้อยปีเลยก็ว่าได้

และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์

คือ รัชกาลที่4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6

ผมจองที่พัก บ้านคุณทวด อยู่ใกล้ๆกับท่าเรือ

เป็นบ้านไม้ ที่ชั้นล่างขายอาหารและเครื่องเดิม

ส่วนด้านบนปรับแต่งให้เป็นที่พัก

ราคา 800 บาท

เมื่อต้องมาคนเดียว และถ้าจะเดินทางไปรอบเกาะสีชังแห่งนี้

รถมอเตอร์ไซค์ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางครั้งนี้

ผมเช่ารถมอไซค์จากทางที่พัก ราคา 250 บาท


ตอนนี้ผมเข้ามาใน พระจุฑาธุชราชฐาน

นี่ก็คือหนึ่ง Landmark ที่ทุกคนจะพลาดไม่ได้

กับสะพานอัษฎางค์

สะพานสีขาวที่ทอดยาวไปกลางทะเล

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานที่บริเวณชายทะเล

อย่าลืมมาถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกนะครับ

นี่คือ เรือนไม้ริมน้ำ หรือที่หลายๆคนรู้จักในนามว่า (เรือนเขียว)

ปัจจุบัน เป็นเรือนขายอาหารว่างและเครื่องดื่ม

เรือนวัฒนา เป็นอาคารสีขาว 2 ชั้น ตามสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก

ที่รัชกาลที่ 5 ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระคลัง

เพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นสำหรับผู้ป่วย ที่เดินทางมารักษาตัวที่เกาะสีชัง

ปัจจุบันได้จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับ

เหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ 5

จากนั้นผมขับรถมุ่งหน้าไปหาดถ้ำพัง


ตรงบริเวณที่ผมนั่งอยู่นะครับ เป็นจุดชมวิวหาดถ้ำพัง

แต่ถ้าจะให้พูดถึงหาดนี้เนี่ย

น่าจะเป็นหาดที่ผู้คนนิยมมาเล่นน้ำกัน จำนวนมาก

เพราะเป็นจุดเดียวที่สามารถมาลงมาเล่นน้ำกันได้

และยังมีร้านค้าให้บริการหน้าริมหาดด้วย

ขับรถต่อมาอีกไม่ไกล ก็มาถึงปลายแหลมถ้ำพัง (แหลมจักรพงษ์  )

ตรงบริเวณนี้นิยมมานั่งตกปลากัน

นี่คือจุดถ่ายรูปที่หลายคนมาถ่ายกัน กับ ปลายหิน ที่ยื่นออกมาทะเล

จัดไปซักรูป

และอีกหนึ่งที่ลับๆที่พลาดไม่ได้ กับถ้ำลับๆ ที่ต้องเดินลงไปด้านล่าง

เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปลับๆ ที่บางคนอาจไม่เคยลงมาชม


หน้าตาของถ้ำลับๆที่ทุกคนมาถ่ายรูปกัน


ปลายแหลมถ้ำพังเป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล และมีลักษณะเป็นหน้าผา

ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ตก


สะพานวชิราวุธ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวในยามเย็นเลย

เราจะได้เห็นเรือที่กำลังแล่นกลางทะเล พร้อมกับแสงตะวันที่กำังร่วงลงบนผืนน้ำ




นี่ก็คืออัษฎางค์ประภาคาร

เป็นสถาปัตยกรรม ผสมสานความเป็นประเทศจีน

อีกหนึ่งสีสันแสงไฟประดับยามค่ำคืนของเจ้าหอคอยนี้


เช้าวันที่ 2 ผมขับรถไป สะพานวชิราวุธ (ช่องเขาขาด)อีกครั้ง


ในอดีตบริเวณสะพานวชิราวุธ เป็นที่ตั้งพลับพลา

ใช้เป็นที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5

สามารถมองเห็นได้ทั้งเกาะ หน้าผา และทะเล

เมื่อเราเดินมาเรื่อยๆ จะเป็นบริเวณที่เค้าเรียกกันว่า ช่องเขาขาด


หลังจากนั้นผมก็ขับรถไป ที่ รอยพระพุทธบาท และ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

รอยพระพุทธบาท

โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เกาะสีชัง


ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้



และบริเวณนี้ ยังเป็นจุดชมที่สามารถมองเห็นเกาะสีชัง โดยรอบได้อีกด้วย

หลังจากนั้นผมก็ขับรถลงมา ผ่านศาลเจ้าพ่อใหญ่ เป็นที่สุดท้าย

แต่น่าเสียดายมีเวลาค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่ได้เข้าไปชมความสวยงามด้านในของศาลเจ้าแห่งนี้

ซึ่งถ้าเราบินได้อย่างนก ก็จะเห็นภาพตัวอาคารสีแดง

ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนและไทยเข้าด้วยกัน

และนี่ก็คือเรื่องราวตลอดทริปเกาะสีชัง 2วัน1คืน



สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดนะครับ



ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim

 วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.01 น.

ความคิดเห็น