เหมือน 3 สุสานที่เข้าชมยังไม่ทำให้เราเต็มอิ่ม อีกทั้งยังรู้สึกคาใจที่มาถึงหุบเขากษัตริย์แล้วกลับไม่ได้เข้าชมสุสานของตุตันคาเมน แล้วก็เป็นผมอีกแล้วที่เพื่อนๆให้ความไว้วางใจ เพราะไม่อยากเดินตากแดด ให้กลับไปสอบถามรายละเอียดและซื้อ Extra Ticket มาให้ได้ ผมเดินตากแดดไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้ความว่าต้องนั่งรถลากกลับออกไปซื้อ Extra Ticket ที่อาคารจำหน่ายบัตรด้านนอก ผมจึงไม่รอช้าวิ่งไปที่รถลากที่กำลังเคลื่อนตัวออกพอดี
ความเข้าใจว่า Extra Ticket นั้นสามารถเข้าชมได้ทั้ง สุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 5 และ 6 รวมถึงสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะบัตรเข้าชมสุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 5 และ 6 นั้นราคา 80 ปอนด์ ส่วนบัตรเข้าชมสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน นั้นแพงขึ้นไปอีกถึง 100 ปอนด์ !
ชีวิตต้องเลือกอีกแล้ว เพราะหากซื้อบัตรเข้าชมทั้ง 2 สุสาน ทั้งเงินส่วนตัวและเงินส่วนกลางที่น้องหมีให้มาเพื่อซื้อบัตรนั้นรวมกันไม่พอ เท่าที่ศึกษาข้อมูลมา แม้ว่าสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนจะเป็นสุสานที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมากที่สุด จากการค้นพบของฮาวเวิร์ด คาร์เตอร์ เมื่อปีค.ศ.1922 เพราะสุสานแห่งนี้เป็นสุสานเดียวที่รอดพ้นจากการโจรกรรม จึงทำให้บรรดาทรัพย์สมบัติที่ฝังไว้ในสุสานยังอยู่ครบ แต่ปัจจุบันทรัพย์สมบัติเหล่านั้น รวมถึงหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมนได้ถูกย้ายไปเก็บรักษาและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ไคโรหมดแล้ว ภายในสุสานซึ่งมีขนาดเล็กกว่าสุสานของฟาโรห์ทั่วไปจึงเหลือเพียงภาพวาดและโรงศพของฟาโรห์ตุตันคาเมนเท่านั้น
ในขณะที่สุสานของฟาโรรามเสสที่ 5 และ 6 แม้จะถูกโจรกรรมทรัพย์สมบัติไปหมดแล้ว แต่สุสานนี้จัดว่าเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดสุสานหนึ่งในหุบเขากษัตริย์ อีกทั้งยังมีภาพวาดที่สวยงามที่สุดจนต้องมีการแยกจำหน่ายบัตร ผมจึงตัดสินใจซื้อบัตรเข้าชมสุสานแห่งนี้ แทนที่จะซื้อบัตรเข้าสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมนตามที่ตั้งใจไว้
ทีแรกลังเลเหมือนกันว่าเพื่อนๆจะโอเคไหมที่ผมตัดสินใจซื้อบัตรเข้าสุสานฟาโรห์รามเสสที่ 5 และ 6 แทนที่จะเป็นสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมน แต่เพื่อนๆก็เห็นดีเห็นงามด้วย เราจึงตรงไปที่สุสาน KV 9 ทันที
สมกับที่ต้องซื้อบัตรแยก เพราะสุสานแห่งนี้มีเจ้าหน้าที่พาเราเดินและบรรยายให้ชมตลอดทาง โดยทางเดินจะไต่ลึกลงไปใต้ดิน สองข้างทางมากไปด้วยภาพวาดเหมือนสุสานอื่นๆ แต่ภาพวาดที่สุสานนี้สวยงามมากกว่า อีกทั้งเมื่อแหงนคอขึ้นไปมองที่บนเพดาน จะพบภาพเขียนสีทองบนพื้นสีดำแสดงเหตุการณ์เทพีนุตกำลังกลืนกินดวงอาทิตย์ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นจากเหตุการณ์สุริยุปราคาหรือเปล่า
เราเพลิดเพลินกับการชมภาพเขียนสีที่สวยงามไปตลอดสองข้างทางเดิน โดยที่มาของภาพมาจากคัมภีร์แห่งความตาย ซึ่งเป็นความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย ที่ชาวอียิปต์โบราณเชื่อมาอย่างยาวนานกว่า 3 พันปี
แต่เมื่อทางเดินสิ้นสุดลง ภายใต้บรรยากาศที่ลึกลับ ภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็ถึงกับทำให้เราขนลุก กับโลงศพหินขนาดใหญ่ที่มีรอยร้าว แตกให้เห็นภายใน ไม่ใช่แค่โลงเดียว แต่ข้างๆยังมีอีก 1 โลง เพราะสุสานแห่งนี้เดิมเป็นสุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 5 แห่งราชวงศ์ที่ 20 ซึ่งภายหลังฟาโรห์รามเสสที่ 6 ได้ขยายสุสานแห่งนี้เพื่อใช้ฝั่งศพของตนเองอยู่เคียงข้างศพของพระบิดา
ก่อนอำลาจากสุสานกษัตริย์ เราไม่ลืมที่จะแวะไปที่สุสาน KV 62 ซึ่งเป็นสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน แม้จะไม่ได้เข้าชมภายใน อย่างน้อยได้เห็นปากทางเข้าสุสานก็ยังดี ซึ่งแค่เห็นปากทางเข้าก็รู้สึกได้ว่าเป็นสุสานขนาดเล็กเมื่อเทียบกับสุสานอื่น
นักประวัติศาสตร์สัณนิษฐานว่า เนื่องจากฟาโรห์ตุตันคาเมน แห่งราชวงศ์ที่ 18 ครองราชย์ตั้งแต่อายุ 10 ชันษา อีกทั้งยังครองราชย์เพียงแค่ 9 ปีก็สวรรคต จึงไม่มีเวลาในการเตรียมการสร้างสุสาน จึงใช้พื้นที่บางส่วนของสุสานราชินีเนเฟอร์ติติ ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของฟาโรห์ตุตันคาเมน ดัดแปลงเป็นที่ฝังพระศพของยุวกษัตริย์ ทำให้สุสานแห่งนี้มีขนาดเล็กกว่าสุสานของฟาโรห์ทั่วไป จนแม้แต่ชาวอียิปต์โบราณก็ลืมว่าสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั้นอยู่ที่ใด จึงมีการสร้างสุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 5 และ 6 ทับลงไปอีกที ทำให้สุสานแห่งนี้กลายเป็นสุสานที่เร้นลับ จนเป็นสุสานเดียวที่ไม่ถูกโจรกรรม
และแม้ฟาโรห์ตุตันคาเมนจะแทบไม่ได้สร้างผลงานใดๆในยุคสมัยของพระองค์ เพราะครองราชย์ด้วยเวลาที่แสนสั้น จนชื่อของพระองค์ได้เลือนหายไปจากความทรงจำ แต่กลายเป็นว่า จากทรัพย์สมบัติมหาศาลที่ค้นพบภายในสุสาน ทำให้พระองค์กลายเป็นฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในยุคปัจจุบัน
กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง
วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.40 น.