![](/f/43779/63b7e27ab5367e7e56a5c503.jpg)
![](/f/43779/63b7eba558db5f7e8c7e9670.jpg)
วันสุดท้ายในกรุงไคโร และวันสุดท้ายในประเทศอียิปต์ เรามีเวลาเหลืออีกประมาณครึ่งวันก่อนที่จะเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับเมืองไทย วันนี้จึงถูกกำหนดให้เป็นวันฟรีเดย์ ที่ปล่อยให้แต่ละคนได้ไปในที่ชอบๆ ฟังดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี ขอเปลี่ยนเป็น ไปในที่ที่อยากไปแทนแล้วกัน
![](/f/43779/63b7df4901f2907e7a29a32d.jpg)
น้อเนบ่นว่าเมื่อวานยังเดินช็อปในตลาดข่าน อัล-คาลิลีได้ไม่จุใจ โดยเฉพาะพรม อยากซื้ออีกหลายผืน เพราะคำนวณดูแล้วน้ำหนักกระเป๋าน่าจะยังไม่ถึง 30 กิโลกรัม แต่ติดที่เงินปอนด์อียิปต์ใกล้หมด จึงขอยืมเงินจากผมไปแบบชนิดที่ให้ผมพอมีเงินเหลือพอประทังชีวิตก่อนขึ้นเครื่อง พร้อมชวนน้องหมีคู่ซี้ไปด้วย ในขณะที่โอวันนี้ไม่มีแผนการใดๆ จึงเลือกที่จะตามไปด้วยเพื่อช่วยต่อรองราคา ส่วนพี่น้องทรงก่อนมาก็ไม่มีแผนการเดินทางใดๆในหัวอยู่แล้ว ในเมื่อเที่ยวจนครบทุกสถานที่ตามแผนแล้ว วันนี้จึงไม่มีที่ไป เมื่อได้รู้ว่าวันนี้ผมมีแผนที่จะนั่งรถไฟใต้ดินเที่ยวฝั่งกีซ่า จึงขอติดสอยห้อยตามไปด้วย
![](/f/43779/63b7df9eb5367e7e56a5c500.jpg)
กรุงไคโรนั้นมีรถไฟใต้ดิน 3 สาย โดยสายสีเขียวนั้นวิ่งข้ามแม่น้ำไนล์จากฝั่งไคโรไปยังฝั่งกีซ่า เมื่อกางแผนที่ออกมาดูพบว่าบนแม่น้ำไนล์มีเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ นามว่า เกาะเกซิรา (Gezira Island) ซึ่งมีสถานีรถไฟใต้ดินอยู่บนเกาะนี้ด้วย โดยบนเกาะเป็นที่ตั้งของไคโรทาวเวอร์กับโอเปร่าเฮ้าส์ ในเมื่อเห็นจุดหมายที่เดินทางสะดวกเช่นนี้ แผนการเดินทางวันนี้ของผมจึงเป็นการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเพื่อไปยังเกาะกลางแม่น้ำไนล์แห่งนี้
![](/f/43779/63b7dfca43cab87e6898a2f0.jpg)
ผมกับพี่น้องทรงเดินจากที่พักไปยังสถานี Sadat บริเวณพิพิธภัณฑ์ไคโร บรรยากาศยามเช้ากลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ร้านรวงปิดตัวเงียบเชียบไม่คึกคักเหมือนในเวลากลางคืน ด้วยความที่ผมอยากได้หนังสือเกี่ยวกับประเทศอียิปต์ เมื่อเดินผ่านร้านหนังสือจึงแวะเข้าไปในร้าน พบว่าเกือบทั้งหมดเป็นหนังสือภาษาอาหรับ เมื่อเดินออกจากร้านก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหา เขาถามว่าผมต้องการหนังสือเกี่ยวกับอียิปต์ใช่ไหม ร้านที่ผมเพิ่มเข้าไปไม่มีหรอก แต่ร้านของเขามีหนังสือที่ผมต้องการ
![](/f/43779/63b7e011b5367e7e56a5c501.jpg)
เราเดินตามชายผู้นั้นเข้าไปในตรอกเล็กๆซึ่งอยู่ลึกจากถนนใหญ่พอควร เขาพาเข้าไปในร้านๆหนึ่ง ดูจากด้านหน้าแล้วเดาไม่ออกเลยว่าเป็นร้านขายอะไร แต่เมื่อเข้าไปจึงพบว่าร้านนี้เป็นร้านขายของฝาก ที่มีของฝากหลายอย่างมาก แต่มีอย่างละนิดละหน่อย และจึงเข้าใจด้วยว่าทำไมชายคนนี้จึงต้องดักนักท่องเที่ยวจากภายนอก เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นคงไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนเดินเข้ามาที่ร้านของเขาซึ่งตั้งอยู่ลึกขนาดนี้
![](/f/43779/63b7e06f01f2907e7a29a32e.jpg)
เขาพาผมไปดูหนังสือบนชั้น ซึ่งมีหนังสือไม่กี่เล่ม เหมือนเป็นชั้นวางหนังสือในบ้านมากกว่าชั้นขายหนังสือในร้าน แต่ว่ามีหนังสือภาษาอังกฤษเกี่ยวกับประเทศอียิปต์หลายเล่ม เปิดดูข้างในแล้วเนื้อหาน่าสนใจและมีภาพสีประกอบที่สวยงาม แต่ติดที่ว่าทุกเล่มล้วนพิมพ์มาเป็นเวลาหลายปี จึงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างเก่า จนบางเล่มหน้าหนังสือเริ่มหลุดออกจากสันแล้ว
![](/f/43779/63b7e0a543cab87e6898a2f1.jpg)
ชายผู้นั้นพยามโน้มน้าวใจผมให้ซื้อหนังสือดังกล่าว อย่างน้อยสักเล่มก็ยังดี เขาพูดๆ แล้วก็พูด จนผมเริ่มใจอ่อนที่จะซื้อหนังสือดังกล่าว แต่แม้จะใจอ่อนอย่างไรผมก็ไม่สามารถซื้อหนังสือเหล่านั้นได้ แม้แต่หนังสือเล่มที่ถูกที่สุดก็ตาม เพราะเมื่อเช้านี้น้องเนได้ขอยืมเงินจากผมไปจนผมเหลือเงินติดตัวได้แค่พอประทังชีวิตเท่านั้น
![](/f/43779/63b7e0fc01f2907e7a29a32f.jpg)
หลังเดินออกจากซอย ผมก็เลิกมองหาร้านหนังสืออีกเลย แล้วมุ่งตรงไปที่สถานี Sadat ทันที
![](/f/43779/63b7e15758db5f7e8c7e9667.jpg)
ไม่รู้จะสื่อสารกับคนขายตั๋วรถไฟอย่างไร ผมจึงใช้วิธีส่งแผนที่เส้นทางรถไฟใต้ดิน แล้วชี้ว่าจะไปลงที่สถานี Gezira ซึ่งถัดไปเพียงแค่สถานีเดียว หลังจากได้ตั๋วมาแล้วก็พากันเดินเข้าไปยังชานชลา และรู้สึกงงๆว่ามีพนักงานเก็บตั๋วจากเราไปทันทีเมื่อเราเดินผ่านแผงกั้น ทำให้เริ่มรู้ว่าที่แท้ค่าโดยสารรถไฟใต้ดินที่กรุงไคโรไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ราคาเดียวทุกสถานี คือเพียงแค่ 2 ปอนด์อียิปต์ หรือแค่ 4 บาทเท่านั้น ถูกแสนถูก เมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่ราคาเพิ่มขึ้นตามสถานี แถมเปลี่ยนสายยังต้องซื้อตั๋วใหม่อีก เฮ่อ...
![](/f/43779/63b7e16643cab87e6898a2f2.jpg)
![](/f/43779/63b7e14c58db5f7e8c7e9666.jpg)
หลังจากขึ้นจากสถานี เราก็ออกมายืนยิ้มหลารับแสงตะวันกันบนเกาะเกซิรา จุดหมายแรกของเราคือการเดินไปยังสะพาน Qasr al-Nil ซึ่งเป็นสะพานทอดข้ามแม่น้ำไนล์เชื่อมเกาะเกซิรากับฝั่งไคโร ด้านหน้าสะพานเป็นรูปปั้นสิงโตคู่ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายและขวาของสะพาน น่าเสียดายที่เวลานี้หมอกลงหนามาก ทำให้มองเห็นฝั่งไคโรได้ไม่ค่อยชัด แต่สำหรับแม่น้ำไนล์ที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่างนั้น มองเห็นได้แจ่มชัดในความใสของสายน้ำสีคราม สายน้ำที่ทำให้ก่อเกิดวัฒนธรรมในดินแดนอียิปต์ตั้งแต่เมื่อ 5 พันปีก่อน
![](/f/43779/63b7e1b843cab87e6898a2f3.jpg)
![](/f/43779/63b7e1ab01f2907e7a29a330.jpg)
ณ ตำแหน่งนี้สามารถมองเห็นไคโรทาวเวอร์ (Cairo Tower) หอชมวิวซึ่งตั้งอยู่กลางเกาะได้ถนัดตา หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1961 โครงสร้างทำเป็นตาราง ยอดแหลม มองไกลๆคล้ายเทียนพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีความสูงถึง 187 เมตร เคยครองตำแหน่งหอคอยที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา แต่ปัจจุบันตำแหน่งนี้ตกเป็นของ Hillbrow Tower ที่แอฟริกาใต้ไปเสียแล้ว
![](/f/43779/63b7e1fd01f2907e7a29a332.jpg)
![](/f/43779/63b7e1f301f2907e7a29a331.jpg)
นี่ถ้าหากมาคนเดียวผมคงเดินย่ำต๊อกไปชมหอคอยนี้ใกล้ๆ แต่พี่น้องทรงค้านหัวชนฝาว่าจะเดินไปให้เหงื่อแตกทำไม ขึ้นไปชมวิวด้านบนก็คงเห็นวิวที่ไม่ต่างจากที่มัสยิดโมฮัมหมัดอาลี แถมยังต้องเสียเงินด้วย ที่สำคัญเงินที่เหลือในกระเป๋าพอจ่ายค่าขึ้นหรือเปล่า จึงเปลี่ยนใจไปเดินเล่นที่ไคโรโอเปราเฮ้าส์ (Cairo Opera House) แทน
![](/f/43779/63b7e24043cab87e6898a2f4.jpg)
![](/f/43779/63b7e22eb5367e7e56a5c502.jpg)
ไคโรโอเปราเฮ้าส์เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติกรุงไคโร (Cairo’s National Culture Center) ภายในพื้นที่กว้างใหญ่นี้จึงไม่ได้มีเฉพาะโอเปราเฮ้าส์ แต่มากไปด้วยอาคารที่จัดแสดงงานศิลปะและดนตรี โดยเฉพาะรูปปั้นแนวอาร์ตๆนั้นมีมากมายกระจายเต็มพื้นที่
![](/f/43779/63b7e29b58db5f7e8c7e9669.jpg)
![](/f/43779/63b7e28b58db5f7e8c7e9668.jpg)
แต่เราก็ยังไม่ได้ไปไหน เพราะอยู่ๆก็มีชายใส่แว่นดำ แต่งตัวเหมือนนายแบบ แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างที่ค่อนข้างอ้วนแล้วไม่น่าใช่ เข้ามาขอถ่ายรูปคู่กับพี่น้องทรง พร้อมถามว่าเรามาจากประเทศอะไร พอรู้ว่ามาจากประเทศไทย ก็ถามพี่น้องทรงว่าคุณเป็นดาราของประเทศไทยหรือเปล่า เพราะหน้าตาดีมาก ทำเอาพี่น้องทรงเคลิ้มเดินถ่ายรูปคู่กับชายแว่นดำเสียหลายใบ คนเดือดร้อนคือผมนี่แหละที่ต้องกลายเป็นช่างภาพโดยไม่รู้ตัว
![](/f/43779/63b7e2e0b5367e7e56a5c504.jpg)
![](/f/43779/63b7e2cf58db5f7e8c7e966a.jpg)
ชายแว่นดำนั้นแอ๊ทท่าเต็มที่ ในขณะที่พี่น้องทรงยืนถ่ายรูปแบบงงๆว่าทำไมต้องมาถ่ายรูปกับคนแปลกหน้า แล้วไม่นานความจริงก็ปรากฎ เมื่อชายแว่นดำขอถ่ายรูปเดี่ยว ไล่พี่น้องทรงให้พ้นจากแฟรม แล้วให้ผมถ่ายรูปให้ในท่านั้น ท่านี้ มุมนั้น มุมนี้ จนรู้ว่าที่แท้เขานั้นมาคนเดียว ไม่มีคนถ่ายรูปให้ จึงมาตีสนิทเพื่อให้เป็นตากล้องถ่ายรูปให้ โดยไม่ได้คิดว่าพี่น้องทรงหน้าตาดงหน้าตาดีอะไรหรอก
![](/f/43779/63b7e35401f2907e7a29a333.jpg)
![](/f/43779/63b7e33cb5367e7e56a5c507.jpg)
หลังจากที่ปลีกตัวจากชายแว่นดำได้ เราก็เดินเที่ยวชมบรรดารูปปั้น พร้อมถ่ายรูปกันเองบ้าง และแวะเข้าไปเสพงานศิลป์จากภาพวาดสวยๆที่จัดแสดงในหอศิลป์ น่าเสียดายที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป จึงต้องใช้สายตาเก็บความสวยงามของภาพวาดไว้แทน
![](/f/43779/63b7e38401f2907e7a29a334.jpg)
![](/f/43779/63b7e37343cab87e6898a2f6.jpg)
ท้องเริ่มหิว แต่ดูเหมือนบริเวณนี้จะไม่มีร้านอาหารสักร้าน ผมจึงชวนพี่น้องทรงโดยสารรถไฟใต้ดินต่อไปมหาวิทยาลัยไคโร ซึ่งอยู่ฝั่งกีซ่า ห่างจากที่นี่ไปอีกแค่เพียง 3 สถานีเท่านั้น
![](/f/43779/63b7e3b901f2907e7a29a336.jpg)
![](/f/43779/63b7e3ab01f2907e7a29a335.jpg)
เราเดินทางไปมหาวิทยาลัยไคโร ไม่ใช่เพื่อไปดูความก้าวหน้าของสถานศึกษา ตามแบบฉบับของนักวิชาการ แต่เราไปเพื่อหาอาหารในโรงอาหารกิน เพราะอย่างไงเสีย ภายในมหาวิทยาลัยซึ่งมีนักศึกษาจำนวนมากย่อมมีร้านขายอาหารแน่ๆ อีกทั้งยังได้ดูหน้าใสๆของนักศึกษาเป็นของแถม
![](/f/43779/63b7e3f943cab87e6898a2f7.jpg)
แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดอีกแล้ว เพราะมหาวิทยาลัยไคโรนั้นไม่เหมือนมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ที่ใครๆก็สามารถเข้าไปภายในนั้นได้ หน้ามหาวิทยาลัยไคโรมีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรอย่างเข้มงวด ใครไม่ใช่นักศึกษา อาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยหมดสิทธิ์เข้า แต่เมื่อมาถึงแล้วจึงขอลองดูสักตั้ง โดยผมเดินเข้าไปสอบถามว่าเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยได้ไหม เจ้าหน้าที่ถามกลับว่าต้องการเข้าไปทำไม ผมตอบว่าต้องการเข้าไปหาอาหารกินในนั้น เจ้าหน้าที่ทำหน้างง สักพักจึงบอกว่า ให้เดินตรงไปถึงทางแยก แล้วเลี้ยวขวา บริเวณนั้นมีร้านอาหารตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัย
![](/f/43779/63b7e43358db5f7e8c7e966b.jpg)
ไม่รู้จะทำอย่างไร ในเมื่อมาถึงแล้ว อีกทั้งบริเวณทางเข้าออกสถานีรถไฟใต้ดินก็ไม่มีร้านอาหารสักร้าน และในเวลานี้ท้องก็ร้องโอดครวญว่าเลยเวลาอาหารเช้ามานานโข เราจึงเดินไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก ทางนั้นไม่ใช่ใกล้ๆเลย แถมอากาศยังร้อนระอุ แต่ก็เดินมาไกลแล้ว จะให้หันหลังกลับก็ใช่ที่ จนในที่สุดเราก็มาถึงประตูอีกด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัยไคโร ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหาร 2 – 3 ร้านตั้งอยู่
![](/f/43779/63b7e468b5367e7e56a5c508.jpg)
เราเลือกเข้าร้านที่ดูแล้วเราพอจะสั่งอาหารได้ นั่นคือร้านขายไก่ย่าง เพราะร้านที่เหลือขายอาหารท้องถิ่น ซึ่งไม่รู้ว่าจะสั่งอย่างไร อีกทั้งไม่รู้ว่าอาหารหน้าตาแปลกๆนั้นมันคืออะไร สั่งมาแล้วจะกินได้ไหม แม้ทริปนี้จะกินไก่ย่างเสียหลายมื้อ แต่ในเมื่อวันนี้คือวันสุดท้ายแล้ว กินไก่ย่างอียิปต์อีกสักมื้อจะเป็นไร เราสั่งข้าวหมกไก่ย่างกันคนละจาน พร้อมด้วยด้วยขนมปังไส้ไก่ย่างมาแบ่งกันกิน และสลัดมะเขือเทศไว้กินแก้เลียน จากนั้นก็นั่งรอ รอ แล้วก็รอ
![](/f/43779/63b7e4ab01f2907e7a29a337.jpg)
ทั้งๆที่เราเป็นลูกค้าเพียงโต๊ะเดียวของร้าน แต่อาหารที่สั่งก็ยังไม่มาสักที จนผมต้องเดินไปดูถึงในครัวว่าเขาเริ่มย่างไก่หรือยัง จึงได้เห็นว่าไก่ย่างนั้น ย่างโดยใช้ถ่าน ชนิดว่าไก่ที่เสียบไม้ไว้ประชิดติดกับถ่านที่กำลังลุกไหม้เลย โดยไม่ต้องมีตะแกรงกั้นใดๆ เวลาผ่านไปจาก 10 นาที เป็น 20 นาที 30 นาที จนถึง 40 นาที อาหารที่สั่งจึงยกมาเสริฟ ซึ่งนั่นทำให้ตาเราลุกโพรง เพราะหน้าตาของไก่ย่างนั้นไหม้เกรียมสุดๆ จนต้องหันส่วนที่ไหม้ทิ้งไปเกือบครึ่ง แต่รอนานขนาดนี้ ย่างไหม้ได้ขนาดนี้ ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกเคือง เพราะรสชาตินั้นอร่อยสุดๆ
![](/f/43779/63b7e4f8b5367e7e56a5c509.jpg)
![](/f/43779/63b7e4eb43cab87e6898a2f8.jpg)
ผมกับพี่น้องทรงกลับมาย่านตลาดเฮร์บ เพื่อเจอกับเพื่อนๆ ทีแรกคิดว่าคงต้องเดินหากันนาน แต่ที่ไหนได้ เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอแล้ว เพราะทุกคนมีนัดหมายกันที่ร้านไอศครีม Sultan เพื่อกินไอศครีมแสนอร่อยก่อนกลับเมืองไทย กินไอศครีมเสร็จต่างคนก็แยกย้ายไปช็อปปิ้งของฝาก เพราะในเวลานี้ร้านรวงได้เปิดขายกันทุกร้าน ซึ่งนอกจากเสื้อผ้าแล้ว รองเท้าหนังเป็นอีกสินค้าหนึ่งที่มีร้านขายเป็นจำนวนมาก จนน่าจะติดอันดับย่านขายรองเท้าหนังที่ใหญ่ที่สุดในโลก
![](/f/43779/63b7e55743cab87e6898a2f9.jpg)
![](/f/43779/63b7e53fb5367e7e56a5c50a.jpg)
แล้วผมก็ถูกใจรองเท้าหนังคู่หนึ่ง แต่ต่อราคาแบบสุดๆแล้วก็ยังมีราคาสูงกว่าเงินที่เหลือในกระเป๋า ผมจึงตัดใจเดินคอตกกลับที่พัก เมื่อไปถึงน้องเนก็ทำหน้าเหมือนเด็กที่เพิ่งทำความผิดมา โดยบอกว่า เงินที่ยืมไป ที่บอกว่าจะคืนเป็นเงินบาทใช้ไม่หมดนะ จะว่าอะไรไหมถ้าจะคืน 100 ปอนด์อียิปต์ ในเวลานั้นผมยิ้มแฉ่งแล้วรีบรับเงินมาทันที เพราะ 100 ปอนด์อียิปต์คือเงินที่ขาดไปพอดีในการซื้อรองเท้า แล้วในที่สุดรองเท้าที่หมายปองก็ตกเป็นของผมจริงๆ
![](/f/43779/63b7eb6e43cab87e6898a2fd.jpg)
![](/f/43779/63b7eb6143cab87e6898a2fc.jpg)
การเดินทางท่องอียิปต์ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จากทะเลทรายสู่ทะเลแดงของเราสิ้นสุดแล้ว ยังคงเป็นสัจธรรมของโลกที่ทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่เว้นแม้แต่เทพเจ้า ในวันนี้วันที่เทพเจ้าที่เคยเป็นที่เคารพเมื่อหลายพันปีก่อน ได้ลาจากไปจากความเชื่อของชาวอียิปต์อย่างถาวร เหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งก่อสร้างที่สุดแสนอัศจรรย์และอลังการอันเกิดขึ้นจากแรงศรัทธาในเทพเจ้าเหล่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะยิ่งใหญ่สักเพียงไหน ก็หนีไม่พ้นสัจธรรมของโลกมนุษย์ ชีวิตนี้จึงสุดแสนจะดีใจที่ได้เดินทางไปพบเห็นความยิ่งใหญ่ของสิ่งเหล่านั้นก่อนที่มันจะดับไปอย่างถาวร
![](/f/43779/63b7ebb658db5f7e8c7e9671.jpg)
![](/f/43779/63b7eb8d01f2907e7a29a339.jpg)
ความลับที่ปลายขอบฟ้ายังคงอยู่ เพราะไม่ว่าเราจะเดินทางไปไกลแต่ไหน เราก็ไม่มีวันเดินไปได้ถึงปลายขอบฟ้าเลยสักครั้ง แม้รู้ว่าไม่มีวันไปถึง แต่ผมก็สุขใจเสมอที่ได้ออกเดินทาง ไม่ใช่เพื่อจุดหมายที่ปลายทาง แต่เพื่อเรื่องราวระหว่างทางที่สัมผัส วันนี้ผมได้รองเท้าคู่ใหม่แล้ว การเดินทางครั้งต่อไปจะใส่รองเท้าคู่นี้ออกไปท่องโลก ณ ปลายขอบฟ้าไหนดี
![](/f/43779/63b7ebc958db5f7e8c7e9672.jpg)
กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง
วันพฤหัสที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 16.24 น.