จากความเดิมตอนที่แล้ว

https://th.readme.me/p/4476

หนูเล็ก พี่ใหญ่และผองเพื่อนมานอนกันอยู่ที่ Kawaguchiko กันแล้ว

เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการตะลุยขับรถเที่ยวในอีก 8 วันข้างหน้า

พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันต่อกับพวกเราเลยค่ะ

การมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงย่างเข้าฤดูร้อน ฟ้าสว่างตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง

อาจจะเพราะพวกเราเพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อวานนี้เองจึงยังไม่รู้สึกอ่อนเพลียอะไร

จึงพากันตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย

ในขณะเดียวกันก็เก็บสัมภาระให้พร้อมสำหรับการออกเดินทางมุ่งขึ้นสู่ตอนเหนือตามแผนที่วางไว้

Kawaguchiko เช้านี้ ฟูจิยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่อย่างสวยงาม

นึกอิจฉาคนในหมู่บ้านนี้เสียจริงๆ มีภูเขาฟูจิขนาดมหึมาให้ได้เห็นจากหน้าต่างบ้าน

ที่สามารถมองได้ทุกวันทุกฤดูไม่รู้เบื่อ

เมื่อถึงเวลานัดหมายเราก็ไปรับรถที่สำนักงาน Nippon Rent A Car

ซึ่งเขาได้นำมาจอดรอไว้ที่หน้าสำนักงานเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับพาหนะในการเดินทางคือ โตโยต้า วิทช์ (Vitz) ที่มีรูปลักษณ์และขนาดแตกต่างจากบ้านเราเล็กน้อย

แต่เป็นการแตกต่างในทางดี นั่นคือค่อนข้างกว้าง นั่งสบายกว่าที่แอบกังวลกันเอาไว้

เพราะการที่คน 4 คน พร้อมกระเป๋าเดินทาง 4 ใบ

จะต้องเดินทางร่วมกันตลอดระยะเวลา 8 วัน หากรถมีพื้นที่จำกัดก็คงจะอึดอัดจนเดินทางไม่สนุกเป็นแน่

ขนาดนี้ละคือขนาดที่เราพอใจที่สุดแล้ว

เมื่อเราตรวจรับรถ ทำสัญญาการเช่า และอธิบายรายละเอียดการใช้งานพวก GPS

หรืออุปกรณ์เบื้องต้นเกี่ยวกับรถเป็นที่เรียบร้อย

จัดสัมภาระเข้าที่เข้าทาง ตั้ง GPS สำหรับเป้าหมายการเดินทางในวันนี้ สร้างความคุ้นเคยกับรถสักครู่

เพียงครึ่งชั่วโมงถัดมาเราก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางกันเสียที

เป้าหมายของวันนี้อยู่ที่ Karuizawa จังหวัด Nagano สาเหตุที่เลือกเมืองนี้เป็นปลายทางในวันแรก

เพราะพี่ใหญ่กับหนูเล็กคุยกันไว้ก่อนแล้วว่า ระยะทางในการเดินทางต่อวันไม่ควรเกินวันละสองร้อยกิโลเมตร

หรือหากเกินก็ไม่ควรถึงสามร้อยกิโลเมตร เพื่อเราจะได้ไม่ต้องรีบร้อนมากเกินไป

แต่ก็ไม่ควรน้อยมากนักเพราะจะทำให้แผนที่เราวางไว้ในแต่ละวันผิดเพี้ยนไป

ซึ่งจะทำให้มีผลต่อแผนการเดินทางทั้งหมดได้ในที่สุด

จาก Kawaguchiko ใช้ทางหลวงหมายเลข 137 เพื่อวิ่งออกสู่นอกเมือง

ตามเส้นทางนี้จะพาเราวิ่งเลาะเลียบให้ได้เห็นฟูจิและ Lake Kawaguchiko

เป็นการอำลาก่อนที่จะกลับมาเยือนอีกครั้งในอีก 8 วันข้างหน้า

ถนนหนทางค่อนข้างรถเยอะอาจเพราะเพิ่งออกจากเมืองท่องเที่ยวอย่าง Kawaguchiko

เพราะเมื่อวิ่งออกไปเรื่อยๆ รถก็ค่อยๆ น้อยลงตามลำดับ

ทำให้ขับรถกันได้สบายขึ้น แต่การขับรถในญี่ปุ่นอาจไม่เหมาะกับนักซิ่งเมืองไทย

เพราะเขาจำกัดความเร็วไว้ที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้ถนนจะว่างเพียงใด ก็ขับได้เท่านั้น

และมารยาทที่ควรจำก็คือ ห้ามขับรถจี้รถคันหน้าซึ่งเป็นการขับที่ไร้มารยาทมากในสายตาคนญี่ปุ่น

แต่การขับไม่เร็วเช่นนี้จะว่าไปก็ดีไปอย่าง ทำให้ได้มีเวลาชื่นชมทิวทัศน์สองข้างทางแบบสบายๆ

ทิวทัศน์สองข้างทางก็น่ามองเสียจริงๆ ตลอดเส้นทางจะมีเทือกเขาขนานไปตลอดช่างน่าตื่นตาตื่นใจดี

แวะหาซื้อเสบียงที่ร้านสะดวกซื้อข้างทาง

หลังจากเดินทางออกนอกเมืองผ่านเมือง Kofu และ Kai ไปไม่นาน ก็เข้าเขตเมือง Hokuto

พวกเราสะดุดตากับธงปลาคาร์ฟหลากสีหลากขนาดที่ร้อยเป็นสายบนท้องฟ้าอยู่ข้างทาง

ซึ่งจริงๆ แล้วตลอดเส้นทางที่ออกเดินทางมาก็ได้เห็นธงปลาติดอยู่ตามบ้านอยู่เหมือนกัน

และก็พอจะมีความรู้มาเหมือนกันว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะเป็นวันเด็กแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น

โดยในวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี ญี่ปุ่นได้กำหนดให้เป็น วันเด็กแห่งชาติ (Children's Day)

แม้ว่าในอดีตจะกำหนดให้เป็นวันเด็กชาย (Boy's Day)

โดยครอบครัวที่มีบุตรชาย นอกจากพิธีบูชาตุ๊กตาที่ใส่ชุดนักรบแล้ว จะตั้งเสาธงปลาคาร์ฟไว้ภายในบริเวณบ้าน

ธงปลาคาร์ฟดั้งเดิม จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนสุด จะเป็นธงพู่ปลิว มี 5 สี ซึ่งแสดงถึงธาตุทั้ง 5 ชนิด

และถัดจากนั้นจะเป็นธงปลาคาร์ฟสีสันต่างๆ ตั้งแต่ 3 ตัวขึ้นไป ปลาคาร์ฟตัวใหญ่สีดำ

หมายถึงพ่อ ส่วนสีแดง หมายถึงลูก และคนในครอบครัว ให้ขึ้นไปแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า เพื่อแสดงความยินดี

และขอให้บุตรชายมีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ ไร้โรคภัยไข้เจ็บ เป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย

โตวันโตคืน เป็นการแสดงความรักและให้ความสำคัญกับบุตรชาย

เหตุที่ใช้ปลาคาร์ฟในเทศกาลนี้ เนื่องมาจาก ปลาคาร์ฟ ถือเป็นปลาที่แข็งแรง

มีความเชื่อมาจากตำนานจีนว่า ปลาคาร์ฟนั้นสามารถว่ายทวนกระแสน้ำ

ในแม่น้ำฮวงโหได้จนกลายเป็นมังกร ชาวญี่ปุ่นจึงเอามาแทนเด็กผู้ชาย

เพราะลูกผู้ชายควรมีใจสู้ความยากลำบากในชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ

เช่นเดียวกับปลาคาร์ฟที่ว่ายทวนน้ำ ธงปลาคาร์ฟจึงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวันนี้ไปในที่สุด

ปัจจุบันธงปลาคาร์ฟนิยมประดับในช่วงเดือนปลายเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม

ซึ่งเป็นช่วงที่มีกระแสลมจะแลดูสวยงาม เห็นดังนี้พวกเราก็เลยแวะกันเสียหน่อย

ที่นี่คือ Minami Yatsugatake Hananomori Park เป็นสวนสาธารณะที่จัดกิจกรรมต้อนรับวันเด็กผู้ชายที่กำลังจะมาถึง

ร้านอาหาร

มาช่วงเวลานี้ยังพอมีซากุระให้ได้เห็น

มีร้านขายสินค้าจำพวกการฝีมือ ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ผักสดหน้าตาน่ากินเยอะแยะไปหมด

ยากิโซบะร้อนๆ

ชื่นชมซากุระกันแบบใกล้ๆ

มี ropeway ขึ้นชมวิวด้านบนด้วย

พวกเราเลือกใช้บริการสิ่งนี้กัน

พวกเราเดินเล่นชมบรรยากาศการพักผ่อนแบบคนญี่ปุ่นกันสักครู่ จากนั้นก็พากันออกเดินทางต่อเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายข้างหน้าต่อไป

วิวสวยๆ จากหน้าต่างรถ

ไม่นานนักเราก็เข้าเขตเมือง Karuizawa

สวนสาธารณะริมทาง

เมืองนี้เป็นเมืองที่เคยจัดโอลิมปิคฤดูร้อนเมืองปี ค.ศ.1964 และโอลิมปิคฤดูหนาวเมื่อปี ค.ศ.1998

ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการเล่นกีฬากอล์ฟและสกีเป็นหลัก

เพราะเท่าที่เห็นมีสนามกอล์ฟและสกีรีสอร์ทริมทางอยู่หลายแห่ง

แต่ที่โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ ชอปปิ้ง เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่มีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายยี่ห้อ

ในเมื่อยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน เราก็แวะไปดีกว่า

มุ่งสู่ Karuizawa Prince Shopping Center

จอดรถกันก่อนออกสำรวจ

ต้นซากุระขนาดใหญ่รอทักทาย

ไปเดินช้อปปิ้งกัน

มีสวนสาธารณะด้านใน

เวทีกิจกรรมต้อนรับสัปดาห์ Golden Week

ชาวญี่ปุ่นมากันเป็นครอบครัว

ภาพประทับใจระหว่างการเดินเล่นคงเป็นภาพของคนญี่ปุ่นกับสุนัขน่ารักๆ ทั้งหลาย

คนญี่ปุ่นมีทัศนคติต่อสุนัขที่อาจจะไม่เหมือนชาติอื่นในโลก

สุนัขของคนญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเอาไว้แก้เหงา แต่เป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

บางครั้งเราอาจพบว่าคนญี่ปุ่นอุ้มสุนัขแต่จูงลูกเล็กๆ ให้เดิน

ภาพนี้น่าจะยืนยันได้เป็นอย่างดี

จากที่นี่เราลองแวะเขาตัวเมือง ไปยังบริเวณที่เขาเรียกว่า Karuizawa Ginza

ย่านนี้อาคารจะเป็นแนว Western Style มีย่านถนนคนเดินคือ Ginza Dori และ Kyu-do

ความสุขของคนรักสุนัขที่ได้เห็นความรัก ความผูกพัน และการเอาใจใส่ของคนญี่ปุ่นต่อสมาชิกในบ้านอย่างแท้จริง

แหล่งรวมร้านอาหาร

ร้านนี้ขายนมอุ่นๆ

ขอปาร์ตี้กันหน่อย

สินค้าอื่นๆ และของที่ระลึกก็มีจำหน่าย

ไหนๆ ก็มามืดค่ำอยู่ในตัวเมือง Karuizawa กันแล้ว หาอะไรร้อนๆ รับประทานกันดีกว่า

เข้าร้านนี้แล้วกัน ดูญี่ปุ่นดี

ชามนี้ของหนูเล็ก

ชามนี้ของพี่ใหญ่

ชามนี้ของชายหนุ่ม จัดหนักเลย

นี่ก็อีกคน

อิ่มหมีปากมันกันแล้ว ก็พากันขับรถเข้าโรงแรมกันเสียที ที่พักคืนนี้เป็นโรงแรมริมทางชื่อ Chisun Inn

ราคาไม่แพงนัก ได้มาตรฐานโรงแรมทั่วไป

Karuizawa เป็นเมืองที่น่าสนใจอีกเมืองหนึ่ง เสียแต่ว่าเรามีเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น

ที่นี่จึงเป็นเพียงทางผ่านสำหรับคืนนี้เท่านั้นเอง

แวะทักทายพูดคุยและชมภาพถ่ายเรื่องเที่ยวของคนคอเดียวกันได้ค่ะ

https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/


Piyai&Noolek

 วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.21 น.

ความคิดเห็น