หลังจากเมื่อวานนี้หนูเล็กพาไปชมโครงเหล็กบันลือโลกอย่างหอไอเฟลกันแล้ว

https://th.readme.me/p/4655

กว่าจะกลับถึงที่พักก็ดึกดื่นค่อนคืน แต่ด้วยความที่ยังสดใหม่ เพิ่งมาถึง สมาชิกทุกคนพากันตื่นเช้าได้ตามที่นัดหมายกันเอาไว้ เช้านี้เรามีที่หมายกันที่จะไปชมสถาปัตยกรรมอันงดงามแห่งหนึ่ง ส่วนจะเป็นที่ใดนั้นเดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะมีภารกิจที่สำคัญกว่าที่จะต้องไปจัดการกันก่อน นั่นคือ เราจะต้องทดลองเดินทางจากที่พักไปยังสถานีรถไฟ Gare de l'Est ที่เราจะต้องเดินทางไปใช้บริการในวันพรุ่งนี้ เพราะตามแผนการเดินทางพวกเราจำต้องจากปารีสไปเที่ยวยังเมืองถัดไป ครั้งนี้เราเลือกใช้บริการรถไฟของฝรั่งเศส TGV2363 (เท-เจ-เว) ซึ่งจะออกเดินทางกันตั้งแต่ 06.55 น. ดังนั้น เราจึงต้องมาออกตั๋วให้เรียบร้อย พร้อมกับทำการสำรวจทางหนีทีไล่และจับเวลาการเดินทางจากที่พักเพื่อมายังสถานีรถไฟว่าใช้เวลาประมาณกี่นาทีเพื่อการคำนวณเวลาตื่น เวลาเดินทาง เพื่อกันพลาด เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นละก็ แผนที่วางไว้คงยุ่งไปหมดเป็นแน่แท้

บรรยากาศเช้านี้สดใสดีจริงๆ ค่ะ

มุดสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Gare de l'Est

จากที่พักเรานั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Gare de l'Est จากนั้นเดินจากสถานีรถไฟใต้ดินต่อเนื่องมายังสถานีรถไฟ SNCF เพื่อมาหาตู้สีเหลืองสำหรับการออกตั๋ว ตั๋วนี้หนูเล็กได้ทำการซื้อออนไลน์ไว้เป็นที่เรียบร้อย แต่บังเอิญเลือกเมนูพลาดแทนที่จะพิมพ์เป็นกระดาษ A4 เพื่อขึ้นรถไฟได้เลย กลับไปเลือกเมนูมาออกตั๋วกับตู้ SNCF self-service terminal ตามสถานีเสียนี่ ก็เลยเพิ่มความยุ่งยากขึ้นมาอีก ก่อนมาจึงต้องเพิ่มการศึกษาวิธีการออกตั๋วมาให้เรียบร้อยเพราะถ้าทำผิดขั้นตอนนั่นหมายถึงว่าเราจะต้องซื้อตั๋วเดินทางใหม่หมดซึ่งราคาต่อใบไม่ใช่น้อยเลย และที่สำคัญจะมีเวลาที่เราต้องการจะไปเหลืออยู่หรือเปล่า นี่สิปัญหาใหญ่

รถไฟใต้ดินสาย 5 พาเราไปถึงสถานีรถไฟ Gare de l'Est ได้เลยค่ะ

ถึงสถานีรถไฟ Gare de l'Est แล้วค่ะ

เจอแล้วตู้สีเหลืองที่เราต้องการ

กระดาษนี้ที่เราพิมพ์มาเพื่อนำรหัสมาออกตั๋วค่ะ

ผลของการทำการบ้านมาอย่างดี ทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหา เมื่อออกตั๋วเรียบร้อยก็เดินสำรวจตรวจตรา ศึกษาวิธีดูขบวนรถ ดูชานชาลาจากหน้าจอ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย จากนี้ก็ได้เวลาไปไฮไลต์สำหรับวันนี้กันแล้วค่ะ

ออกตั๋วเดินทางสำหรับพรุ่งนี้สำเร็จแล้วค่ะ

เดินสำรวจบริเวณโดยรอบไว้ก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่พลาด

หน้าตาแบบนี้ค่ะที่เราจะโดยสารในวันพรุ่งนี้

พรุ่งนี้เราคงมานั่งในบรรยากาศนี้เป็นแน่

โปรแกรมของวันนี้เป็น request ของหนูเล็กที่ขอบรรจุไว้ในโปรแกรมทัวร์ปารีส ทัวร์เราอาจไม่เหมือนใครที่ถ้ามาฝรั่งเศสจะต้องไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) หรือพระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles) เราขอเลือกไปที่นี่แทนค่ะ Palais Garnier หรือ Opéra de Paris คือ โรงอุปรากรปาแลการ์นีแย เป็นโรงอุปรากรที่สร้างโดย Charles Garnier เป็นสถาปัตยกรรม Neo Baroque ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคนั้นเลยทีเดียว สถานที่นี้จะไม่ได้แพ็ครวมกับบัตร Museum Pass แต่เงินค่าเข้า 11 Euro ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้เข้าไปเห็นสำหรับหนูเล็กแล้วคิดว่าไม่ได้แพงเลย เพราะแค่จากที่ศึกษาก่อนไปมันก็อลังวังเวอร์จนอยากไปเห็นของจริง

จากสถานีรถไฟสามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปลงยังสถานี Opera ได้เลยค่ะ

และเมื่อออกจาก Metro โผล่หน้าขึ้นไปก็จะไปเจออาคารขนาดใหญ่ แค่ตัวอาคารก็เล่นเอาตื่นเต้นตะลึงงันเลยทีเดียว

เริ่มต้นเดินทางจากสถานีรถไฟใต้ดินที่นี่ได้เลยค่ะ

เมื่อเดินทางมาถึงสถานี Opera เดินตามป้ายทางออก (Sortie) ที่เขียนว่า Palais Garnier ได้เลยค่ะ

เมื่อออกจากตัวสถานีรถไฟใต้ดินโผล่ขึ้นไป อาคารโรงอุปรากร Palais Garnier ตระหง่านตรงหน้าเลยค่ะ

แกะสลักหินให้พลิ้วเป็นผ้าได้ขนาดนี้ สุดยอดจริงๆ

อย่ามัวตะลึงกับความสวยงามใหญ่โตค่ะ ให้เดินไปที่ด้านหลังอาคารเพื่อไปติดต่อซื้อตั๋วที่ทางเข้าด้านหลัง จ่ายเงินไปก็ได้ตั๋วมา จากนั้นก็เดินชมได้ตามความพอใจ เสียดายเงินก็เดินให้คุ้ม เดินให้นานเท่าที่อยากเดินใช้เวลาให้มากที่สุดเท่าที่ใจอยาก ข้อดีที่สถานที่นี้ไม่รวมใน Museum Pass ก็คือจะไม่มีมหาชนมากมายนัก ทัวร์จีนก็จะไม่มาลงให้ปวดเศียรเวียนเกล้า

ป้ายบอกทางตำแหน่งที่จำหน่ายบัตรเข้าชม

กว่าจะเดินถึงที่หมายมีประติมากรรมงามๆ ให้ชมตลอดทาง

ด้านหลังรูปปั้น Charles Garnier คือทางเข้าไปซื้อบัตรและเข้าชมค่ะ

ได้บัตรเข้าชมมาแล้วค่ะ

บริเวณโถงที่จำหน่ายบัตร

ลวดลายบนเพดาน

เมื่อก้าวเข้าสู่การเข้าชมขอเตือนว่าจงเก็บจิตเก็บใจไว้กับเนื้อกับตัวให้มาก เพราะเมื่อได้เห็นหนูเล็กเชื่อว่าทุกคนคงรู้สึกไม่แตกต่างจากหนูเล็ก เราจะอดตะลึงพรึงเพริศไปกับความงดงามอลังการ วิจิตรบรรจงของศิลปะประดามีที่ประดับประดาไปทุกอณูนั้นไม่ได้ เขาเก็บความงดงามได้ทุกรายละเอียดทุกซอกทุกมุม คุ้มค่ากับที่ได้เสียเงินเสียเวลาเข้ามาชม ไปค่ะ เข้าไปชมด้วยกันเลย

ไฮไลต์สำหรับที่นี่และห้ามพลาด แต่ก็คงพลาดไม่ได้เพราะอย่างไรก็ต้องเดินผ่านนั่นคือ บันไดเอก (Grand Escalier) และ ห้องโถงเอก (Grand Foyer) สำหรับ part นี้ หนูเล็กขอพาชมถึงแค่บันไดเอกกันก่อน บันไดเอกสร้างอย่างสวยงามหรูหรา ทั้งตัวบันได ที่พักบันได และเวิ้ง สลับไปมาอย่างสวยงาม เพดานโค้งสูงด้านบนที่มีภาพเขียนสียิ่งขับให้โถงบันไดนี้โดดเด่น งดงามทรงคุณค่ายิ่ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงไม่ต้องมีคำอธิบายหรือคำบรรยายใดๆ ลองพิจารณาจากภาพถ่ายฝีมือบ้านๆ ของหนูเล็กก็คงพอบอกเล่าความงามได้บ้างแล้วว่างดงามเพียงใดเอาเองแล้วกันค่ะ

กับสถานที่แห่งนี้ยังมีห้องอื่นๆ ที่งดงามอลังการให้ชมกันอีก รอติดตามกันต่อค่ะ ไว้หนูเล็กพาชมให้คุ้มค่าตั๋วเลยค่ะ

แวะทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่

https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/

Piyai&Noolek

 วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.12 น.

ความคิดเห็น