พาขับรถเที่ยวใต้กับที่จังหวัดชุมพร - นครศรีธรรมราช ทริปนี้เราเริ่มจากสุพรรณบุรีนะคะ และต้องบอกว่าจริงๆ ไปมาเมื่อช่วงเมษายน 2566 แต่มารีวิวช้ามากแบบมากสุดๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาเลยนั่นเอง เอาเป็นว่าเริ่มกันเลย
Day 1 เริ่มวันแรกด้วยการออกจากบ้านแบบเช้ามากๆ ทางเราออกจากบ้านราวๆ ตีสี่ครึ่งได้เลย เพราะแพลนมีแวะเที่ยวหลายจุดนั่นเอง แต่ทางเรานั้นเป็นคนนั่งไม่ใช่คนขับ ดังนั้นเรื่องการเลือกเส้นทางจึงอาจจะไม่สามารถแนะนำคุณผู้อ่านได้ ทางเราเดินทางกันแบบยาวๆ แวะหาอะไรกินนิดหน่อยแล้วยิงยาวไปจนถึงชุมพร และแวะเที่ยวชุมพร ซึ่งมีสถานที่ที่น่าแวะไปถ่ายรูปอยู่ โดยเรื่มจาก "เนินทรายงาม"
ความโดดเด่นของที่นี่ก็คือเนินทรายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และก็ค่อยๆ มีความเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ แต่ทว่าไฮไลท์สำหรับคนชอบถ่ายรูปมันก็คือสะพานไม้ที่ทอดยอดออกไปจนถึงด้านล่างของหาด ซึ่งจัดว่าเป็นมุมถ่ายรูปดีมาก ภาพสวยมาก เล่นได้หลายมุมเลย
แต่เนินทรายงามนั้นมันจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แน่นอนว่าไปหน้าร้อนก็คือร้อนมากๆ ผู้สูงวัยถ้าไม่ไหวก็เลี่ยงดีกว่า นอกจากนี้ทางขึ้นยังเป็นบันไดขั้นใหญ่ มีช่องว่างกว้างดังนั้นควรระมัดระวังในการเดินขึ้น แต่ด้วยวันนั้นมันร้อนมากๆ ทางเราจึงรีบถ่ายรูปและรีบมูฟไปที่ "อ่าวทุ่งไข่เน่า" ต่อ
อ่าวทุ่งไข่เน่า ชื่อมันออกจะแปลกๆ นะ ทางเราก็พยายามค้นหานะว่าทำไมมันถึงชื่อว่าอ่าวทุ่งไข่เน่าแต่ก็หาไม่พบ เอาเป็นว่ามันเป็นอ่าวขนาดเล็กเป็นหาดครึ่งวงกลม เดิมทีมันเป็นหาดที่สวยงามนะ แต่ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะในปัจจุบันนี้บนหาดยังคงสวยงามแต่ทางก่อนไปหาดรวมถึงพื้นที่ทรายรอบนอกถึงมีขยะเกลื่อนอยู่พอสมควรเลย
เพราะอากาศที่ค่อนข้างจะร้อน และทริปนี้ก็เป็นทริปที่มีคนมาเยอะมาก ถึงแม้จะมีคนยังเที่ยวไหว มันก็มีคนที่ไม่ไหวกับอากาศ ดังนั้นทางเราก็เลยตัดสถานที่เที่ยวบางทีออกเพื่อไปที่พักให้เร็วขึ้น ซึ่งโรงแรมที่เราพักก็คือ "โรงแรมทะเลใส" และทำให้เราสามารถไปถ่ายรูปเล่นที่ "หาดทุ่งวัวเล่น" ได้
สำหรับมื้อเย็นเราไปฝากท้องกันที่ร้าน "เจริญซีฟู๊ด" อาหารร้านนี้อร่อยนะ ใครชอบซีฟู๊ดคือต้องแวะมาร้านนี้เลย ที่สำคัญบรรยากาศดีมาก ที่ร้านจัดมุมถ่ายรูปไว้ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปเล่นด้วยนะ ทางเราชอบบรรยากาศร้านนี้มากนะ และรสชาติอาหารก็จัดว่าอร่อยเลย แต่ตอนไปค่อนข้างจะหิวมากๆ เลยลืมที่จะเก็บรูปอาหาร พออาหารมาก็ซัดเลย เลยมีแค่รูปบรรยากาศมาฝากแค่นั้น
Day 2 วันนี้ตื่นเช้าไปทานมื้อเช้าของโรงแรมแล้วเช็คเอาน์เพื่อมุ่งไปขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจากชุมพรนั้นเราจะต้องผ่านสุราษฎร์ธานีก่อนและเพราะคนในทริปก็อยากทานหอยก็เลยแวะชุมชนปากกะแดะ เพราะพี่สาวที่ทำงานอยู่ทางภาคใต้ของแนะนำให้มาที่ชุมชนปากกะแดะ มันเป็นชุมชนที่อยู่ติดทะเลมันก็เลยมีร้านอาหารทะเลเยอะ
จากนั้นเราก็แวะไปถ่ายรูปที่ สะพานไม้อ่าวเตล็ด หลายคนบอกว่าตรงนี้มันเก็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมนะ แต่ตอนที่เราไปคนแทบจะไม่มีเลย และสะพานก็พุพังไปตามกาลเวลาแต่ก็พอจะเดินขึ้นไปได้อยู่ เป็นสถานที่เที่ยวก็จะมีลักษณะเป็นสะพานไม้ทอดยาวออกไป ซึ่งวิวเบื้องหน้าจะเขาสองเขาขนาบอยู่
เพราะสู้อากาศไม่ไหวจริงๆ ก็เลยตรงดิ่งไปเช็กอินที่พักที่ โรงแรมขนอมซันไรส์บีชรีสอร์ท และก็พักร่างกายกันก่อน
Day 3 สำหรับแพลนในวันมี่ 3 นี้เราจะไปเที่ยวขนอมกันแต่แพลนไม่แน่นมากนะ เพราะอากาศมันร้อนมากจริงๆ โดยเริ่มจาก อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้
แล้วแวะไปนั่งชิลที่คาเฟ่ Sea Circle คาเฟ่สไตล์สุดชิคที่มาในสไตล์อาคารครึ่งวงกลม บรรยากาศดีและถ่ายรูปสวยมากค่ะ อาหารและเครื่องดื่มรสชาติดีเลยชอบชีสเค้กสตรอว์เบอร์รี่มากๆ เลยค่ะหวานเปรี้ยวเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเมาแดดเลย
ขณะที่ดูกูเกิ้ลแมพอยู่นั่นก็บังเอิญเห็นว่าแถวนี้มีวัดที่มีท้าวเวสสุวรรณด้วย ชื่อว่า วัดสุชน สำหรับท้าวเวสสุวรรณนั้นขึ้นชื่อเรื่องโชคลาภ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน การค้า และยังช่วยคุ้มครองผู้ที่สักการะนับถือ ตัวเรานั้นบอกก่อนว่าไม่ใช่สายมู ปกติไม่เชื่ออะไรแบบนี้มีความคิดว่า มีแต่ตัวเราเท่านั้นแหละที่จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จแต่ไหนๆ ก็ไปแล้ว และใครๆ ก็ไปสักการะ แถมค่าสักการะก็ไม่แรง โดยชุดบูชาชุดเล็กราคา 99 บาท และชุดใหญ่ 299 บาท ก็เลยเอาสักหน่อยแล้วกัน ซึ่งไปขอเรื่องงานและกลับมาหลายเดือนก็ดันมีการทาบทามเรื่องงานตามที่ขอจริง แต่เป็นแค่ดีลทาบทามนะไว้สำเร็จลุล่วงค่อยมารีวิวอีกทีแล้วกันนะ
ปิดท้ายวันที่ 3 ด้วยการไป จุดชมวิวถนนสายขนอม-สิชล ก็คือจุดถ่ายรูปกับถนนสวยๆ ที่หลายๆ คนต้องไปเช็กอินกัน แต่จุดนี้ขอแนะนำให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังนิดหนึ่งนะคะ เพราะมันไม่มีสถานที่ที่จะให้รถไปจอด ดังนั้นรถก็จะจอดข้างทาง อีกทั้งถนนยังเป็นเนินเขาด้วย รถขับผ่านไปมาด้วยความปกติ เอาจริงๆ ถนนมันก็ไม่ใช่พื้นที่ถ่ายรูป ดังนั้นก็ควรรีบถ่ายแล้วรีบเคลื่อนย้ายกันเพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
Day 4 วันสุดท้ายก็คือวันเดินทางกลับ ไม่มีแพลนแวะพักที่ไหน แต่การขับรถจากนครศรีธรรมราชรวดเดียวนั้นถ้าออกเช้ามากและมีคนเปลี่ยนก็อาจจะตรงดิ่งกลับถึงบ้านมืดๆ ได้ แต่เนื่องจากทั้งรถเป็นผู้หญิงหมดและไม่มีมือเปลี่ยนเป็นขับคนเดียวเลยก็เลยแวะพักที่ประจวบก่อนแต่ไม่มีแพลนไปไหนนะคะ เป็นการรีแลกช์เลยแล้วก็เดินทางกลับในวันที่ 5 จากประจวบถึงสุพรรณบุรีค่ะ
การโร๊ดทริปก็เป็นอะไรที่สนุกดีนะ แต่ถ้าจะให้ดีสุดๆ ก็คือควรไปกับคนสไตล์เดียวกันเพราะถ้าต่างสไตล์หรือไปกับคนบ่นเก่ง นู้นไม่ได้นี่ไม่ไหวก็อาจทำให้กร่อยได้เลย และที่สำคัญคืออย่าลืมเช็กรถก่อนเดินทางด้วยนะคะ รวมถึงเช็กอากาศด้วยและโปรดรู้ไว้ว่าแดดไทยแรงไม่แพ้ชาติใดในโลก โอ้โห้ บางวันถึงกับเมาแดดกันเลยดังนั้นก็เตรียมร่างกายให้พร้อมด้วย อย่างไรก็ตามหากใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์กันออกไปได้เลย หรือถ้าอยากติดตามเรื่องการเดินทางแบบอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามกันได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะ
หญิงเถื่อน Solo Traveler
วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 18.00 น.