ลิงค์รีวิวอื่นๆ ในทริปอยู่ด้านล่างสุดค่ะ

ในลอสแองเจลิส มีการเดินทางสาธารณะหลักๆ คือ รถเมล์ กับรถไฟใต้ดิน โดยมีบัตรโดยสารที่เรียกว่า Tap card บัตรใบเดียวสามารถใช้กับรถสาธารณะหลักๆ ได้เกือบหมด

สำหรับคนที่ใช้ไอโฟน สามารถสมัคร Tap card ในมือถือ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อบัตรแข็งได้เลย แต่เราไม่ได้ใช้ไอโฟน เลยซื้อบัตรค่ะ บัตรขายที่ 1-2 เหรียญ ขึ้นอยู่กับจุดที่ซื้อ แต่ถ้าซื้อที่ตู้อัตโนมัติ จะราคา 2 เหรียญ

เมื่อซื้อแล้วเราสามารถเติมเงินเข้าไปได้ เราสามารถเติมตามยอดที่มันมีให้เลือก หรือระบุยอดที่เราต้องการได้ คล้ายกับการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในไทย

สามารถเติมเงินด้วยบัตรเครดิต เดบิท เหรียญ หรือแบงก์ดอลล่าร์ได้ เราใช้แบงก์เหรียญ สองเหรียญหยอดลูกเดียวเลยค่ะ หนักกระเป๋า 555

ข้อดีของ Tap card

- ระบบจะคล้ายกับ Oyster card ของลอนดอนเลย คือ หลังจากที่เราติ๊ดบัตรหนึ่งครั้ง จะสามารถขึ้นรถเมล์แบรนด์เมโทรบัส และเมโทรฟรีเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง (เอาจริงๆ สาเหตุหลักเพราะการเดินทางครั้งหนึ่ง ต้องต่อรถสาธารณะอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพราะงั้นจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่เลยค่ะ) แต่ถ้าเราจ่ายด้วยเงินสด เราจะต้องควักเงินสดมาจ่ายทุกครั้งที่เปลี่ยนสาย

- มี Daily cap/weekly cap หรือก็คือเพดานราคาสูงสุดที่ระบบจะให้เราจ่าย หากเราใช้จนถึงเพดานสูงสุดแล้ว การเดินทางหลังจากนี้จะฟรี

- ไม่ต้องหาเหรียญหาแบงก์ย่อย เพราะรถเมล์เขาไม่ทอนให้จ้า ค่าเดินทางครั้งละ 1.75 จะกลายเป็น 2 เหรียญไปถ้าเราไม่มีเศษ


รถเมล์ – จ่ายด้วยเงินสด(หยอดตู้ ไม่มีทอนนะจ๊ะ) หรือ Tap card ได้ แต่ๆๆๆ รถเมล์บางคันจะจ่ายได้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้น แต่คนขับมักจะหยวนๆ ให้ขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายเงิน (ก็แอบแปลกใจเหมือนกัน)

รถเมล์ที่นี่มีหลายแบรนด์ เราได้ใช้บริการอยู่ 2 แบรนด์คือ 

1. เมโทรบัส Metrobus สำหรับเดินทางในเมือง 

- ราคาค่าโดยสาร 1.75 เหรียญต่อคน 

- สามารถเช็คเส้นทาง และสเตตัสรถเมล์คันถัดไปว่าอยู่ตรงไหนได้จากกูเกิ้ลแมปเลยค่ะ ค่อนข้างตรง

ป้ายสถานีรถเมล์ จะอยู่ตามเสา

วิธีกดออดมี 2 แบบ ปุ่มกดแบบบ้านเรา หรือดึงสายสีเหลือง มีคนวานให้ดึง ตอนแรกก็งงๆ เอาเชือกไมวะ ปรากฏโอ้ววว จะลงนี่เอง


2. Big Blue bus เราใช้สายนี้ตอนนั่งนอกเมืองเช่น ซานตาโมนิก้า ทะเลเวนิช 

-ค่าโดยสารครั้งละ 1.1 เหรียญต่อคน

-เช็คสเตตัสผ่านกูเกิ้ลแมปไม่ได้ แต่มีแอปติดตามสถานะรถ แต่เราไม่ได้ใช้ค่ะ ได้แต่ยืนร้องเพลงรอ ร๊อ รอ

หากใช้ Tap card เราสามารถเปลี่ยนสายระหว่าง Big Blue bus และเมโทรบัสได้ โดยเสียเพิ่ม 0.5 เหรียญเมื่อแตะการ์ดขึ้นรถคันใหม่

Big blue bus สีฟ้าทั้งคันเลยจ้า



หากต้องการความปลอดภัย ไม่ต้องพะวงกับเหล่าคนไร้บ้าน แนะนำให้นั่งรถเมล์ค่ะ เราใช้บริการรถเมล์ตลอด ไม่ได้รู้สึกกังวลเหมือนตอนเดินลงไปเติมเงินหน้าสถานีเมโทรเลย


เมโทร
 

– จ่ายด้วย Tap card หรือซื้อบัตรรายเที่ยวที่ตู้กด ราคาเที่ยวละ 1.75 บาทต่อคน 

– แต่มีหลายคนบ่นว่านั่งเมโทรแล้วรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย และมีกลิ่นฉี่เหม็นหึ่งค่ะ

บัตร Tap card นี้สามารถซื้อได้ตามตู้กดที่มีอยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดิน และสถานีรถเมล์บางแห่ง แต่...ไม่มีขายในสนามบิน ใช่ค่ะ แอบงงเหมือนกัน ขนาดเมืองหลักๆ ในยุโรปยังสามารถซื้อบัตรเดินทาง บัตรเมโทรที่สนามบินได้เลย แต่นี่อเมริกาทำไม่ไดดดด้ ชั้นงงมากเลยจ้า

เอาล่ะ แต่มันก็มีวิธีไปซื้อจากสนามบินอยู่อย่างน้อย 2 วิธี (อาจมีมากกว่านี้ แต่เราเจอแค่สองวิธีนี้ค่ะ)

  1. นั่ง Airport free shuttle ที่ระบุว่าไป Metro line C สถานี Aviation/LAX แล้วไปซื้อ Tap card ตรงทางเข้าเมโทร วิธีเหมาะกับคนที่พักในเมือง
    1. Metro line C เป็นสายที่ถูกแซวว่า สายที่ไปไหนไม่ได้เลย มันต้องเปลี่ยนเป็นรถเมล์สายอื่น หรือเมโทรสายเท่านั้น ด้วยตัวมันเอง ใช้ไปไหนไม่ค่อยได้
  2. นั่ง Airport free shuttle ที่ระบุว่าไป Economy park แล้วเดินไปยังสถานีรถเมล์ใกล้ๆ เพื่อซื้อ Tap card วิธีนี้เหมาะกับคนที่ต้องการไปยังหาดเวนิส หรือซานต้า โมนิก้า เพราะสามารถนั่งรถเมล์ต่อไปได้เลย 

เมื่อเราเดินออกจากประตูมานอกสนามบิน จะมีจุดขึ้นลงอยู่หลากหลายแบบ ให้เดินหาจุดสีชมพู ที่มีป้ายนี้ค่ะ มันคือจุดรอรถชัตเติ้ลฟรีของสนามบิน มีหลายสาย และระบุเวลาวิ่งด้วย

มันคือสายไหน ให้ดูป้ายไฟวิ่งด้านบนค่ะ 

จุดรอรถบัสใกล้ๆ Metro C สถานี Aviation/LAX

มีคนไร้บ้านนอนอยู่ในขบวนด้วย แอบตกใจ แต่ดูจะเป็นเรื่องปกติของที่นี่ เพราะคนอื่นก็ขึ้นลงตามปกติ ไม่ได้ตกใจอะไรกัน

จุดลงรถที่ Economy parking แต่จุดขึ้นรถจะเป็นอีกจุดนึง ต้องเดินไปหน่อยค่ะ

อันนี้คือจุดรอขึ้นรถชัตเติ้ลไปสนามบิน

มีป้ายบอกชัดเจนท้้งด้านบนและบนพื้น ตรงที่ยืนรอยังมีห้องน้ำและที่เติมน้ำให้ใช้ด้วยค่ะ

จาก Economy parking ให้เดินไปยังจุด Tap card vending machine ที่อยู่ใกล้สุด

ก็จะเจอกับเครื่องซื้อ Tap card และจุดขึ้นรถเมล์ไปยังทะเลเวนิช และซานต้า โมนิก้า

การเดินทางจากสนามบิน นอกจาก Airport free shuttle แล้ว ที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้กันก็คือ Fly LAX ราคาคนละ 9.75 เหรียญ จะไปจอดที่ในตัวเมืองค่ะ แต่เราสายประหยัด และไม่ได้มีแพลนอะไรมาก เลยเลือกนั่งรถฟรีเด้อค่า

เม้ามอยท์

ตอนจะบินจากแอลเอไปเม็กซิโกซิตี้ เราดันกะเวลาเดินทางผิด 55 นั่งรถเมล์มาสนามบินใช้เวลาประมาณ ชม.ครี่ง ต่อ 3 สาย แล้วนี่ดันอ้อยอิ่ง 555 ระหว่างทางลุ้นมาก นั่งกดดูราคาอูเบอร์เป็นระยะ ถ้าแนวโน้มรถติดมาก จะโดดร่มไปอูเบอร์แทน ราคาประมาณ 30 เหรียญ – 1000 บาท แต่นั่งรถเมล์ จบที่ 1.75 เหรียญ – 61 บาท

รถเมล์สาย 111 ที่นั่งมันมี 2 เส้นทาง อีนี่ไม่รู้ ลงท้ายเขาให้ลงปลายทาง รอต่อคันต่อไป ร้อนใจอีกแล้ว อหห

พอรถมา เห็นในเนตว่า สถานีที่ใกล้สนามบินที่สุด มี free shuttle bus เอ๊ย รอๆ ดี ขี้เกียจเดิน

รออยู่ 5 นาที ป้ายที่บอกว่าขึ้นได้ รถมันไม่จอดอ่ะ ไม่รู้ต้องไปตรงไหนด้วย เอาไงดี ดูเวลาแล้ว บิน 1.11 ตอนนี้ 10.05 ไม่รู้เลยว่า แถวเช็คอินและตมยาวแค่ไหน ไม่เสี่ยงรอดีกว่า ยอมเดินไปเทอมินอล ระยะทางประมาณ 1.5 โล พร้อมแบ็กแพ็ก 10 โลด้านหลัง และอีกใบด้านหน้า มันก็จะเต่านิดหน่อย แต่ต้องเร่งฝีเท้าเท่าที่ได้

แล้วความ low cost เทอมินอลมันไกลโคตรรร ถามเจ้าหน้าที่ระหว่างเดินให้ชัวร์ว่าเทอมินอลนี้ใช่ไหม เขาแอบยิ้มแบบ มึงโคตรหอบเลย ไม่มีใครเขาหอบแบบนี้กัน มีแต่เดินชิวๆ 55

หลังจากนั้นคือถามแหลก เอาให้ประหยัดเวลาที่สุด 55 พอมาเช็คอินที่เคาเตอร์ อีเคาเตอร์แม่งแปะป้ายว่า drop off only งงจ๊ะ เอ๊ะ เลยต้องถามไปสองสามคนในแถว กว่าจะรู้ว่าทำได้

เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า ไปเช็คอินที่ตู้ kiosk ยัง ถามย้ำสองครั้ง ก็บอกไปทั้งสองครั้งว่า ทำออนไลน์กับทางแอปแล้ว ไม่ผ่าน ให้มาที่เคาเตอร์เท่านั้น

ตม ผ่านไวหน่อย แต่ทางเดินไปเกทคือยาววววมาก โอ๊ยย ดีที่มีเวลาอยู่ เลยไม่ถึงกับวิ่ง

เส้นสีแดง คือเส้นที่เราจ้ำอ้าว เดินไปค่ะ

ลิงค์ทุกตอนในทริปนี้
ตอน 1 รีวิวแพลนเดินทางเที่ยวเม็กซิโก กัวเตมาลา สายการบิน ค่าเงิน และอื่นๆ https://th.readme.me/p/47557
ตอน 2 การเดินทางด้วยรถสาธารณะในลอสแองเจลิส Los angeles days ago https://th.readme.me/p/47549
ตอน 3 รีวิวการบินกับสายการบินโคตรโลวคอสโวราลิสแห่งเม็กซิโก https://th.readme.me/p/47552
ตอน 4 ขึ้นเขาไปดูหอดูดาวกริฟฟิทที่ลอสแอนเจลิส https://th.readme.me/p/47550
ตอน 5 รีวิว Natural history museum Los Angeles ดูไดโนเสาร์ที่ลอสแองเจลิส https://th.readme.me/p/47551
ตอน 6 Templo Mayor วิหารบูชาเทพเจ้าของชาวแอซเท็ก ใจกลางเม็กซิโกซิตี้ https://th.readme.me/p/47558
ตอน 7 เตโอติอัวกาน (Teotihuacan) เมืองโบราณเมโสอเมริกันใกล้เม็กซิโกซิตี้ https://th.readme.me/p/47559
ตอน 8 การเดินทางด้วยรถสาธารณะในเม็กซิโกซิตี้ https://th.readme.me/p/47560
ตอน 9 พิพิธภัณฑ์มนุษยวิทยา Museo Nacional de Antropología ที่เม็กซิโกซิตี้ ไปดูวัฒนธรรมมายา แอซเท็ก และอื่นๆ ได้ที่นี่ https://th.readme.me/p/47561
ตอน 10 รีวิวรถบัสสัญชาติเม็กซิโก ADO https://th.readme.me/p/47562
ตอน 11 รีวิว 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชิเชน อิตซา Chichen Itza รวมถึงการเดินทาง https://th.readme.me/p/47563
ตอน 12 ปิระมิดชาวมายาที่อุชมัล Uxmal เมริด้า เม็กซิโก ดีไม่แพ้ Chichen itza https://th.readme.me/p/47564
ตอน 13 ปาเลงเก เมืองลึกลับของชาวมายากลางผืนป่าเม็กซิโก https://th.readme.me/p/47565
ตอน 14 นั่งรถข้ามประเทศ จากเม็กซิโกไปยังกัวเตมาลา และค่า FMM form ของเม็กซิโก https://th.readme.me/p/47566
ตอน 15 Tikal National Park อารยธรรมมายาที่ใหญ่ที่สุดในโลก กัวเตมาลา https://th.readme.me/p/47567
ตอน 16 Acatenango volcano hike เดินเขา 2 วัน 1 คืน เพื่อไปดูภูเขาไฟระเบิดที่กัวเตมาลา https://th.readme.me/p/47568
ตอน 17 พิพิธภัณฑ์ชาวมายาแห่งเดียวของกัวเตมาลาซิตี้ https://th.readme.me/p/47569

Duck's journey

 วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17.48 น.

ความคิดเห็น