เรื่องของเรื่องคือว่า เราแพลนกับรุ่นน้องเราจะนั่งรถไฟฟรีจาก กรุงเทพ ไปที่สถานีน้ำตกกัน ไปต่อที่หินตก ริเวอร์แคมป์ยังไงไม่รู้อะ แต่อยากนั่งรถไฟฟรี เพื่อความชิคและความฮิปเตอร์ คืนก่อนวันเดินทาง 2-3 วัน เราก็เช็คเวลารถไฟออก เชี้ยยยย รถไฟออก 7 โมงเช้า ไปไงให้ทันวะ คนนึงอยู่อนุสาวรีย์ชัย อีกคนอยู่ รัชดาซอย 3 เอาว่ะ เพื่อความชิคๆ เราจะตื่นแต่เช้าไปขึ้นรถไฟฟรีกัน นัดกับน้องเรียบร้อย 6 โมงเช้าเจอกันที่อนุสาวรีย์ชัยนะ

วันเดินทาง 6.30 น.

" เจ้ๆ เค้ายังไม่ได้นอนเลยว่ะ"

" อือ มาเจออนุตอน 8 โมงก็ได้ "

"เอ้า จะทันหรอ"

" ไม่ทัน"

"ทำไม"

"กรูเพิ่งตื่นนนนนนนนนนนน"

สุดท้ายก็ได้พึ่งรถตู้ที่น่ารักไปต่อรถไฟฟรีที่กาญจนบุรีเอาเด้อพี่น้อง

อะ เฉียดฉิวอีกรอบ มาถึงกาญปุ๊บ ซื้อตั๋วปั๊บ อีก 10 นาทีรถเข้าชานชาลาจ้า เริ่ดไปอี้ก ไม่ร้องรำทำเพลงอะไรทั้งนั้น รีบเข้าห้องน้ำแล้วมารอรถไฟที่ชานชาลาทันที

อยู่บนรถไฟ 2 คนพี่น้องก็อิ่มไปค่า ซัดไปแต่ละอย่าง ไข่นกต้มงี้ เส้นหมี่แห้งงี้ เออ ก็เป็นสเน่ห์ดีนะ ชอบๆ จากกาญจนบุรีมาถึงสถานีน้ำตกใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมงอยู่นะ ผ่านทางรถไฟตรงเลียบเขานี่ก็ไม่รู้เรื่อง จนฝรั่งที่นั่งใกล้ๆเกิดอาการตื่นเต้นเลยรู้ว่า อ๋อ ควรจะลุกไปถ่ายรูปสินะ 555

เมื่อเรามาถึงสถานีน้ำตกเราก็หารถสองแถวพาเราไปส่งที่รีสอร์ททันที ที่พักของเราไม่ไกลมากค่ะ อยู่ติดกับช่องเขาขาดเลย

ดื่มน้ำให้ชื่นจายยยยยยย

หลังจากเช็คอินเรียบโร้ยย เรากำลังจะเกินไปที่ห้องก็เจอเจ้าแกะกำลังเล็มหญ้าอยู่เลยเข้าไปเซย์ฮัลโลวหน่อย ฮัลโลวจริงๆค่ะ แทบวิ่งชน

หลังจากเก็บของ เปิดแอร์ นอนเล่นสักพัก เรานึกขึ้นได้ว่าเรารู้จักหินตก ริเวอร์แคมป์ จากรูปๆหนึ่งในอินเตอร์เน็ตที่แชร์ต่อๆมา ตือ บ่อน้ำแร่ แล้วเห็นวิวแม่น้ำแคว แถมมีหมอกด้วย อยากเห็นของจริงแล้วสิ : )

บ่อน้ำแร่ที่นี่เป็นบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ มี 2 บ่อด้วยกัน หากมาหน้าหนาว หรือมาแช่เช้าๆหลังฝนตกคงจะเจอหมอกเหมือนในรูป บรรยากาศต้องดีมากๆแน่นอน

นอกจากนี้ตรงนี้เองก็ยังเป็นท่าเรือด้วยนะ มานอนอาบแดดริมแม่น้ำแควก็เก๋ไม่เบา อาจจะได้ผิวที่แทนกว่าทะเลด้วยซ้ำ ฮ่าาาาๆ

หลังจากแช่น้ำกันจนตัวเปื่อย ขึ้นมาที่ห้องก็พร้อมที่จะกินข้าวเย็นแล้ว จริงๆหิวมาก เพราะตอนบ่ายๆกำลังจะไปกินข้าวที่ห้องอาหารปรากฏเขาล้างครัวกันอยู่ เลยได้ยืมจักรยานของรีสอร์ทปั่นไปร้านข้าวใกล้ๆ ประทังชีวิตกันไป

ถ้ามากับเพื่อนหลายๆคนตรงหน้าเต็นท์ที่พักนี่บรรยากาศให้กับการปิ้งบาบีคิวกันมากเลยนะกุ้น

เช้าวันต่อมา หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว นอกจากช่องเขาขาดที่เป็นที่เที่ยวยอดนิยมแล้ว ก็ยังมีวัดใกล้ๆรีสอร์ทอีกด้วย เราสามารถขี่จักรยานไปเช้าๆเพื่อใส่บาตรได้ค่ะ แต่ต้องแจ้งทางฟร้อนท์วันเข้าพักนะว่าจะไปใส่บาตร ทางรีสอร์ทจะเตรียมอาหารไว้ให้ค่ะ

วัดนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหินตกริเวอร์แควค่ะ ต้องข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อยไป จะบอกว่าจุดนี้สวยมาก เหมาะกับการถ่ายรูปสุดๆ

สะพานนี้ชาวบ้านยังคงใช้งานตามปกตินะคะ ถ้าช่วงเช้าๆเขาจะไม่ให้ขี่จักรยานข้ามไปวัดเพราะกลัวจะชนเด็กๆที่จะเดินทางไปโรงเรียนกัน

ก่อนกลับ กทม เราจะต้องแวะช่องเขาขาด นี้คือไฟลท์บังคับ ตั้งใจอยากมามาก อยากลงไปข้างล่างเพื่อนถ่ายรูปสุดๆ

ภายในพิพิธภัณฑ์ทำดีมากๆ มีการนำหลักฐานต่างๆตั้งแต่ของใช้ส่วนตัวของเชลยศึก หรืออุปกรณ์ในการสร้างทางรถไฟมาจัดแสดง เข้าไปแล้วมีความรู้สึกหดหู่ต่อสงครามมากๆ สงสารเชลยศึก

หลังจากเดินพิพิธภัณฑ์หมดแล้ว (ภายในไม่ใหญ่มากค่ะ เดินแปปๆก็หมดละ) เราเลยจะเดินลงไปตรงบริเวณช่องเขาขาดที่มีการสร้างทางรถไฟในสมัยนั้นจริงๆ แต่แล้วลงไปได้ไม่ถึงครึ่งทางก็ตัดสินใจว่า

" กลับเหอะ เดินลงเหนื่อยอะ เดินขึ้นมาจะไหวไหมวะ" - ฟภว ไม่ได้กล่าว-

คือมันชันมาก และต้องเดินต่ออีกประมาณ 2-3 กิโล ไม่กลับคือไม่ไหว ขนาดเดินกลับมาข้างบนยังแฮ่กเลยอะ ขอไปฟิตร่างกายก่อนนะเดี๋ยวจะกลับมาใหม่อีกรอบ

รอบนี้ไม่ผิดหวังเลยที่ได้มานอนที่ หินตก ริเวอร์แคมป์ นอกจากจะได้นอนที่รีสอร์ทบรรยากาศใหม่ๆแล้ว รอบๆยังมีที่เที่ยวอีกตั้งหลายที่แหน่ะ ไว้จะมาเยี่ยมใหม่นะคะ

โดยเฉพาะเจ้าแพะ ขอไปหาวิธีผูกมิตรกับแกก่อนนะ

fahpawa

Fahpawa - Travel and outing

 วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.51 น.

ความคิดเห็น