บ้านจ่าโบ่ นั้นไม่ได้ตั้งชื่อหมู่บ้าน ตามยศของใคร แต่อย่างใด แต่คำว่า "จ่า" นั้น หมายถึงคำว่า "นาย" นั่นแหละ ถ้าเป็น ผญ จะเรียกว่า "นา" ส่วน "จ่าโบ่" ผู้นำหมู่บ้านนั้น เพิ่งจะเสียไปได้ไม่กี่ปีนี้เอง

ชุมชนนี้เป็นชุมชน "เผ่าลาหู่" ที่มีภาษา เครื่องแต่งกายและมีประเพณี ที่เป็นของตัวเอง ด้านความเชื่อยังมีการนับถือผีอยู่ ทั้งหมู่บ้านมีจำนวนประชากร 226 คน 53 ครัวเรือน

บ้านจ่าโบ่เป็นสมาชิกในกลุ่ ม CBT เป็นชื่อเรียกกลุ่ม การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community - Based Tourism) พูดง่ายๆก็คือการเปิดหมู่บ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาสัมผัสถึงความเป็นอยู่ในชุมชน โดยใช้ทรัพยากรจากสิ่งแวดล้อมของหมู่บ้านเหล่านั้นเป็นทรัพยากรพื้นฐาน มีระบบการจัดการร่วมกันทั้งหมู่บ้าน ถ้าเราจะไปพัก เราไม่สามารถเลือกบ้านได้ว่าเราจะได้นอนบ้านหลังไหน อยู่ที่ชุมชนจัดการให้เราเอง ค่าพักคิดเป็นรายหัว ไม่แพงหรอก คุ้มสุดๆ

หมู่บ้านที่เริ่มเป็นที่รู้ จักอีกที่หนึ่งคือ บ้านแม่กำปอง ก็อยู่ในกลุ่ม cbt นี้เหมือนกัน ถ้าอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิก >> http://www.cbt-i.org/

(อ่านรีวิวแม่กำปองของเราได้ที่ บิดสองล้อไปนอนเล่น เดินเล่น ที่บ้านแม่กำปอง)

การมาพักค้างคืนกับชาวบ้านในช ุมชน ทำให้เราได้สัมผัสวิถีการใช้ชีวิตของเค้า ทั้งการกินอยู่ การหลับนอน ได้รู้และเข้าใจประเพณีหลายอย่างของเค้า ด้วยการพูดคุยกับชาวบ้านเอง ซึ่งทุกคนพร้อมจะให้ข้อมูล และต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี



จากบ้านรักไทย ถึง บ้านจ่าโบ่ เป็นระยะทาง 71 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้ ลึกเข้าอีกไม่ไกลนัก ก็จะถึงชายแดนพม่าแล้ว และยังมีอีกหลายหมู่บ้านลึก เข้าไปข้างในอีก

เนื่องจากใช้เวลาในการทัวร์แม่ฮ่องสอน หลายที่มากไปหน่อย จึงต้องเร่งทำเวลาเดินทางให้ทันก่อนค่ำ วันนี้เลยดูพระอาทิตย์ตกระหว่างทาง ขณะซ้อมมอร์เตอร์ไซ แทน


กว่าจะถึง บ้านจ่าโบ่ ก็ค่ำพอดี ไว้รอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี ่ เค้าว่าทะเลหมอกสวยมาก ติดต่อเข้าพักตามบ้านที่เค้าจัดไว้ให้

ตรงนี้คือแลนด์มาร์คของที่น ี่ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ดูหมอกไปกินก๋วยเตี๋ยวไป ไม่ต้องสงสัยเรื่องเวลา ร้านนี้ต้มน้ำตั้งหม้อตั้งแต่ตี3 กาแฟก็มีนะ หากคิดว่า ก๋วยเตี๋ยวตอนเช้าตรู่มันโหดไป

บรรยากาศจุดชุมวิว ยามเย็น อากาศเย็นๆ มันช่างสงบมาก


เก็บของ ล้างหน้า กินข้าวเย็นที่ทางบ้านที่เราเข้าพัก จัดไว้ไห้ เรียบร้อย ทางชุมชนก็เชิญให้เราเข้าร่วมกิจกรรม "การเต้นจะคึ" เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของหม ู่บ้าน เป็นการเต้นเพื่ออวยพรให้กับผู้ที่ไม่สบาย ให้หายป่วยไข้ (เป็นความเชื่อของเผ่านี้ค่ะ) ต้องขอโทษจริงๆที่จำรายละเอียดและข้อมูลตรงนี้ได้ไม่ดีพอ เลยขอข้ามไปดีกว่า แต่เก็บภาพบรรยกาศมาฝากค่ะ มีนักท่องเที่ยวที่มาค้างคืน คืนนี้เข้ามาร่วมกิจกรรมกันหลายคนค่ะ

หลังจากเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับมานอนค่ะ พรุ่งนี้เช้าจะได้ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้ามืด


การเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นนั้น ใช้เวลาสักพักหนึ่งเลยแหละค่ะ เพราะควรจะมาก่อนเวลา ก็ได้แต่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ รูปก็ซ้ำๆ วิวซ้ำๆ ต่างกันตรงแสงนิดหน่อย (กลับมาดูทีหลัง คือรูปซ้ำๆเดิมๆเยอะเลย)

ถ้าหมอกเต็ม หมอกจะมาเกือบถึงระเบียงไม้ เลย แล้วดูวันนี้ T T โชคไม่เข้าข้างเราค่ะ


มาแล้ว พระอาทิตย์ ที่รอคอย



เราเล็งชุดชาวเขา ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวใส่ถ่ายรูปไว้ตั้งแต่มาถึง แต่ก็มีนักท่องเที่ยวคนอื่นที่คิดเหมือนกัน กว่าจะจังหวะไม่มีคนใช้ชุด แดดเกือบจะแรงอยู่แล้ว ต้องรีบทำเวลากันแล้ว

แล้วก็ไปถ่ายรูปกันค่ะ ชุดทำให้เราดูเข้ากับบรรยากาศเพิ่มขึ้นไปอีก



พอแดดเริ่มแรงก็เดินกลับที่พักค่ะ เดินดูบรรกาศยามเช้าภายในชุมชน

เห็นแมวในรูปบนมั๊ยคะ มีแมวซ๋อนอยู่ นางมานั่งอาบแดดอยู่ตรงรั้ว

บ้านทางขวาคือบ้านที่เรามาพักค่ะ

ทุกครั้งที่เห็นชาวเขาหรือค นต่างจังหวัด จับเด็กน้อยมาหัดยืนในตะกร้า เรารู้สึกว่า ช่างน่าเอ็นดูมากๆ มันเป็นสิ่งที่มีทุกบ้าน และพร้อมใช้ ต่างกับเด็กๆในกรุงเทพ ที่ออฟชั่นมากมาย เด็กคนนึงกว่าจะโต พ่อแม่ก็หาของเล่นมาให้เป็นร้อยเป็นพันอย่าง เสริมนั่นสร้างนี่มากมาย(ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร) แต่เด็กบ้านนอก แค่ตะกร้าใบนึง กับมือของแม่ที่คอยกดไว้ พร้อมที่จะระวังลูกน้อยอยู่ข้างๆ ก็เพียงพอแล้ว (รูปนี้ขออนุญาติก่อนถ่ายแล้วค่ะ)

เก็บข้าวของ อาบน้ำ แล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ พวกเราลองขับรถเลยหมู่บ้านเข้าไปด้านใน ไปดูวิวและบรรยากาศข้างทางแล้วก็ขับย้อนออกมา ทางนี้ขับเข้าไปเรื่อยๆจะออกพม่าค่ะ ถนนไม่ดีมาก แต่วิวสวยจริงๆค่ะ

แล้วก็ย้อนกลับออกมาผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว


เลี้ยวซ้าย ไปตัวอำเภอเมืองปางมะผ้า และมุ่งสู่ อ.ปาย ต่อไปค่ะ


ที่หมู่บ้านนี้ เป็นจุดหมายในการเดินทางในการมาค้างคืนที่ 5 เราคาดหวังมากๆว่าจะได้เจอ ทะเลหมอก สักที เราฟาล์ว มา 5วันแล้ว เจอแต่หมอกกรุบกริบ แต่ไม่เป็นทะเล เห็นจากรูปภาพ หรือรีวิว บอกว่าที่นี่หมอกเยอะมาก และขึ้นมาจนแทบจะถึงจุดชมวิว

แต่.....เราก็ฟาล์ว อีกจนได้ ไม่มีทะเลหมอกเนื่องจากอากา ศวันนี้เย็นลงอย่างรวดเร็วเกินไปในตอนกลางคืน เช้ามาจึงไม่มีทะเลหมอก เสียใจ กระซิกๆๆ

เท่าที่เราเห็นนี้ก็สวยมากแ ล้วนะ (ไม่ร้องๆ) มันก็สวยไปอีกแบบหนึ่ง ความประทับใจคือ การที่เรามาพักกับชาวบ้าน การดื่มด่ำกับธรรมชาติ ความเรียบง่าย การเฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้น มันก็ทำให้ใจเราสงบดี

ดังนั้น หากคุณมีโอกาสขึ้นเขาเพื่อด ูหมอกที่ไหน อย่าขี้เกียจตื่นเช้าเด็ดขาด ภูมิประเทศแต่ละที่ หมอกก็จะสวยแตกต่างกัน จงตื่นนนนน อยากนอนเอาไว้นอนตอนอยู่บ้านก็ได้ค่ะ


ตามดูรีวิววันอื่นได้ที่

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day1::::::::เชียงใหม่ สวนสน อุทยานแห่งชาติแม่โถ

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day2::::::::บ้านห้วยห้อม

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day3:::::::: ทุ่งดอกบัวตอง-ภูชี้เพ้อ

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day4:::::::: เมืองแม่ฮ่องสอน วัดพระธาตุดอยกองมู สะพานซูตองเป้ สถานีวิจัยทดสอบพันธุ์สัตว์หน่วยปางตอง ปางอุ๋ง บ้านรักไทย


ฝากติดตามเพจน้อยๆ เป็นเพจท่องเที่ยวและเม้าท์กันแบบสบายๆ เหมือนนั่งเล่าให้เพื่อนฟัง

https://www.facebook.com/sandysohappy/

"แสนดีแฮปปี้ คนอ่านก็แฮปปี้"

SandyHappy

 วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.51 น.

ความคิดเห็น