ความเดิมจากตอนที่แล้ว
หนูเล็กไม่ได้โชว์ภาพมุมกว้างให้ได้เห็นกันว่าบริเวณโดยรอบที่เราไปจอดรถเพื่อรับประทานอาหารนั้นเป็นอย่างไร
ลองไปชมภาพด้านนอกรถพอเป็นน้ำจิ้มกันดูค่ะ
แล้วจะรู้ว่าเพราะอะไรอุณหภูมิภายนอกรถจึงหล่นตุ้บลงมาเหลือเพียงแค่ 2 องศาเซลเซียสเท่านั้น
เมื่อจอดรถทุกคนดูจะตื่นเต้นต่างอยากจะลงไปซึมซับบรรยากาศที่ได้มาเจอกับ "หิมะ"
แม้จะโพทนาบอกใครต่อใครว่ามาเที่ยวฝรั่งเศสในฤดูใบไม้ผลิ แต่พอแค่ได้เยื้องกรายออกไปเพียงไม่เกิน 10 นาที
ทั้งฝนที่ตกพรำๆ กับอากาศภายนอกที่เย็นจับจิต ทุกคนต่างพากันกระโดดกลับเข้ามาในรถตามเดิม
ชายหนุ่มทั้งคุณปาและคุณพี่ออที่พากันเข้าป่าไปล่ากระต่ายก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งรีบเร่งฝีเท้าตามกันออกมาติดๆ
ทุกคนต่างอยากกลับมาอุดอู้เอาอากาศอุ่นๆ ในรถกันมากกว่า
สิ่งนี้นับเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของพี่ใหญ่และหนูเล็กเป็นอย่างมาก
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ได้ประสบการณ์ที่เกินคาดหมาย แต่สิ่งนี้ก็นำมาซึ่งความน่าวิตกกังวลต่อไปว่า
หนทางข้างหน้าจะมีอะไรที่เกินความคาดหมายหนักหนาไปกว่านี้อีกหรือไม่
เราสองคนได้แต่หวังว่าทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี มีแต่เพียงคำภาวนาและอธิษฐานในใจแค่นี้จริงๆ
เพราะยังมีอีกสามชีวิตที่เรายังต้องดูแลอีก
หลังจากอิ่มท้อง พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อลองชมบรรยากาศสองข้างทางของพวกเราดูค่ะ
บางทีนี่อาจจะไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางธรรมดาๆ
แต่อาจเป็นบททดสอบเบื้องต้นที่ใครบางคนกำลังทดสอบความกล้าหาญในจิตใจ
ความมั่นคงทางอารมณ์ของพวกเราอยู่ ก็เป็นได้ ใครจะรู้
ตั้งแต่คุณพี่ออขับรถออกจากจุดพักรถมา หนทางที่มองตรงไปข้างหน้าฟ้ายังคงฉ่ำฝนและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
และยิ่งวิ่งรถต่อมาเรื่อยๆ ทางข้างหน้าที่มองเห็นมิได้โรยกลีบกุหลาบไว้อย่างที่คิดจริงๆ
เพราะมันเต็มไปด้วยความขาวโพลนของหิมะที่ไม่ใช่แค่พร่างพรมโปรยปรายธรรมดาๆ แค่พอให้เรารู้สึกตื่นเต้น สนุกสนาน
ยิ่งมองไกลออกไป และออกไป ยิ่งเห็นว่ามันมีความหนามากขึ้นและมากขึ้น
จากเดิมที่สองข้างทางยังพอมีใบไม้ต้นไม้สีเขียวๆ ให้มองเห็น
แต่ ณ เวลานี้พวกมันถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจึงยืนต้นขาวโพลนไปด้วยกันทั้งหมด
บรรยากาศในรถเริ่มตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย ไม่มีใครหลับไหล สิ่งที่พี่ใหญ่และหนูเล็กกังวลมากที่สุดก็คือ
เราไม่มีทางรู้เลยว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หิมะจะตกหนามากน้อยกว่านี้เพียงใดหรือไม่
รถเรากำลังวิ่งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา อยู่กลางป่า
อุปกรณ์จำเป็นอย่าง "โซ่" ที่ใช้พันล้อเพื่อการขับรถบนถนนที่เต็มไปด้วยหิมะเราก็ไม่มี
เพราะไม่คาดคิดเลยว่าจะมาเจอสถานการณ์เช่นตรงหน้านี้
และหากสิ่งที่คิดเล่นๆ ดันเกิดขึ้นมาจริงๆ เราจะทำอย่างไรกันต่อไปดี เป็นคำถามที่ตอบได้ยากเหลือเกิน
แต่ไหนๆ ก็สู้อุตส่าห์พาลูกทัวร์มาเซอร์ไพร์ส ได้เจอหิมะหนาๆ ราวกับบรรยากาศในช่วงวันคริสต์มาส
ที่ต้นสนสีเขียวถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวให้ความรู้สึกถึงการเฉลิมฉลองขึ้นมาแล้ว
อย่าให้ลูกทัวร์ต้องมาเป็นกังวลร่วมไปกับเราเลย พี่ใหญ่ก็เลยให้พี่ออเอารถเข้าจอด ณ จุดพักรถข้างทาง
เพื่อให้ลูกทัวร์ทุกคนรวมทั้งพี่ใหญ่และหนูเล็กได้ถือโอกาสออกไปอินกับอารมณ์แบบนี้กันสักนิด
เมื่อทุกคนได้เก็บภาพเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งได้มาเจอหิมะแบบไม่ได้ตั้งใจกันเป็นที่เรียบร้อย
คุณพี่ออก็พาพวกเราออกเดินทางต่อ
จริงๆ แล้วก่อนที่เราจะเลือกที่พักที่ Gex ในคืนนี้ มีตัวเลือกอยู่อีก 2 เมืองที่พี่ใหญ่และหนูเล็กเล็งๆ กันไว้
นั่นคือ Les Rousses และ Pre'manon เมืองแรกเราหาที่พักที่ถูกใจและเหมาะสมกับพวกเราทั้งห้าชีวิตไม่ได้
จึงเปลี่ยนมาเป็นเมืองที่ 2 คือ Pre'manon ซึ่งไม่ไกลจากกันมากนัก และเราก็ได้ที่พักที่เหมาะกับพวกเรามาก
นั่นคือ ราคาย่อมเยา และมีห้องครัวให้เราทำกับข้าวได้ด้วย แต่ปัญหาดันเกิดก่อนที่เราจะเดินทางมา
หนูเล็กติดต่อหนุ่มชื่อ Vincent เจ้าของที่พักที่ Pre'manon ไม่ได้แม้จะพยายามทุกวิถีทางแล้ว
ทำให้หนูเล็กต้องหาที่พักใหม่ก่อนวันเดินทางแค่สามสี่วัน
และหวยก็มาออกตรงเมือง Gex ที่ก็ไม่ห่างจาก Pre'manon มากนัก
ยอมรับเลยว่า ณ วันนั้นรู้สึกเสียดาย เพราะที่พักที่จองได้ ราคาไม่แพงเท่าใดนัก
พอจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของพวกเราลงได้บ้าง
แต่วันนี้เมื่อพวกเราวิ่งรถมาผ่านสองเมืองนี้ หนูเล็กกับพี่ใหญ่ได้แต่ดีอกดีใจกันยกใหญ่
เพราะหากเราจองที่พักไม่ว่าเมืองใดเมืองหนึ่งในสองเมืองนี้ นั่นหมายความว่าเราจะเจอสภาพหิมะขาวโพลน
อากาศหนาวยะเยือก ในสภาพที่พวกเราไม่ได้เตรียมพร้อมมาเพื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เราคงได้แข็งตายกันเป็นแน่
แต่จะว่าไป...เราก็ยังไม่รู้เลยว่าเมืองที่เราเลือกอย่าง Gex จะมีสภาพไม่ต่างกันเช่นนี้หรือไม่
ระหว่างการเดินทางหนูเล็กคอยเตือนพี่ออให้ขับรถรักษาระยะ อย่าชิดเข้าไปในไหล่ทางมากนัก
เพราะจะทำให้ล้อลื่นไถลได้ ถนนที่เรากำลังวิ่งอยู่ก็เหลือพื้นที่ถนนน้อยลงเรื่อยๆ
ไหล่ทางโดนหิมะแย่งพื้นที่ไปเสียเกือบค่อน จากอารมณ์ตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับความหนาของหิมะ
และความขาวของต้นสนที่ขาวโพลนไปทั่วตลอดสองข้างทางเหมือนในนิทานของวอลท์ ดิสนีย์
บัดนี้ได้กลายเป็นความวิตกกังวลและความเครียดที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ขึ้นมาทุกขณะที่ล้อกำลังหมุนไป
ชมภาพบรรยากาศระหว่างการขับรถของคุณพี่ออ ท่ามกลางการลุ้นของสมาชิกที่เหลือ
ในขณะที่อุณหภูมิ ณ ขณะนั้นลดลงไปที่ -2 องศาเซลเซียสเป็นที่เรียบร้อย ชีวิตพวกเราจะมีเรื่องตื่นเต้นกันมากเกินไปรึเปล่า
หลังจากสมาชิกทุกคนประสาทตื่นกับสถานการณ์ตรงหน้าจนถึงจุดพีคสุดๆ ให้น่าประหลาดใจอย่างที่สุด
เมื่อพี่ออขับวนไปมาสักพัก ภาพที่ปรากฎตรงหน้ากระจกรถค่อยๆ เปลี่ยนไป
ต้นไม้ใบไม้เริ่มเป็นสีเขียวให้เห็นบ้าง และค่อยๆ มีสีสันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเหลือเชื่ออย่างที่สุด
จนดูเหมือนกับว่าเราเดินออกมาจากทวิภพอะไรประมาณนั้น เมื่อสักครู่ยังวิ่งฝ่าดงหิมะที่ขาวโพลน
แต่ตอนนี้ต้นไม้ใบไม้ก็เขียวขจีตามปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็น่าประหลาดใจดี
แต่จะว่าไปก็นับเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว เพราะหากว่าเจอสภาพอากาศที่เลวร้ายกว่านี้ตามที่พวกเราวิตกกังวลกัน
ต้องมีอันหมดสนุกและมีเรื่องยุ่งยากอื่นๆ ตามมาอีกเป็นขบวนแน่นอน
สักพักเราก็ถึงตัวเมือง Gex ตามที่ตั้ง GPS ไว้ ที่พักที่จองไว้ล่วงหน้าเป็นการจองผ่าน Airbnb
ตัวที่พักเป็นอพาร์ทเมนท์สำหรับ 5 คน หนูเล็กติดต่อไว้กับหนุ่มหน้ามล Gregory Coulomb
โดยการพูดคุยกันผ่านโปรแกรมแชทของ Airbnb ซึ่งเป็นอพาร์ทเมนท์ไว้ให้เช่าในราคาไม่แพงนัก
คิดแล้วตกคนละประมาณหนึ่งพันบาทเท่านั้น Gregory ไม่ได้มาเจอกับหนูเล็กด้วยตัวเอง
แต่ส่งคนดูแลสาวที่ชื่อ Bruna มารอต้อนรับและส่งมอบกุญแจบ้านให้ Bruna พูดภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องนัก
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะมิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยไม่มีข้อจำกัดไม่ว่าสิ่งใดๆ
เธอพาเราเข้าที่พัก แนะนำการใช้งานสิ่งต่างๆ ในภาษาอิตาเลี่ยนปนอังกฤษ
หนูเล็กมองเห็นถึงความพยายามอย่างเต็มที่ของเธอที่จะพยายามสื่อสารทุกสิ่งให้เราเข้าใจ
เมื่อสอบถามว่าเราสามารถหาซื้ออะไรเพื่อทำกับข้าวได้บ้างไหม เราก็ได้คำตอบที่แสนผิดหวังเช่นเดิมว่า
วันนี้เป็นวันแรงงาน ดังนั้น ร้านรวงต่างๆ จึงพากันปิดหมด
พวกเราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการรื้อค้นเสบียงที่พกพามาทั้งหมดมาประยุกต์เป็นเมนูต่างๆ อย่างตามมีตามเกิด
ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างที่สุดเพราะครัวชุดของ Gregory เป็นครัวชุดใหญ่ที่มีเครื่องใช้ไม้สอยครบครันที่สุด
ทำให้คุณปา ยอดเชฟมือทองของเราบ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยทีเดียว
อาจเป็นเพราะความเครียดระหว่างการเดินทางมาตลอดวัน และได้ใช้เวลาร่วมกันในรถมามากมายจนเกินพอ
พวกเราทุกคนต่างพากันแยกย้ายไปพักผ่อนอย่างรวดเร็วหลังมื้ออาหาร ไม่ได้มารวมตัวสังสรรค์ เฮฮา บ้าบอกันอย่างเคย
ต่างพักเอาแรงเพื่อลุยต่อในวันพรุ่งนี้ และก็เช่นเคยอีกเหมือนกัน คงเหลือหนูเล็กที่ยังคงเปิดไฟหัวเตียงไม่หลับไม่นอน
เพราะมัวแต่ตรวจสอบสภาพอากาศและตรวจแผนเดินทางของพรุ่งนี้ ซึ่งค่อยทำให้ยิ้มออกได้หน่อย
เพราะพรุ่งนี้ฟ้าเปิด รับรองว่าลูกทัวร์ของเราได้มีภาพสวยๆ ฟินๆ กันแน่นอน
และที่หมายของพรุ่งนี้ก็งดงาม หนูเล็กไม่อยากพลาดวันเวลาดีๆ แบบนี้
ค่อยหลับได้อย่างสบายใจหน่อย มาตามกันต่อค่ะว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างที่หนูเล็กหวังไว้แค่ไหน
แวะไปเยี่ยมชมภาพถ่ายจากการเดินทางและทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่
https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/
Piyai&Noolek
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.40 น.