วันที่ 3 มกราคม 2568
สำหรับนักท่องเที่ยวสายกางเต้นท์ ที่ขึ้นมาเที่ยวที่อ่างขางแล้ว รู้สึกเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายที่ ลานกางเต้นท์ม่อนสน
ผมก็ขอแนะนำจุดกางเต้นท์ ที่ห่างจากม่อนสนประมาณ 20 นาที ที่มีชื่อว่า "ลานกางเต้นท์ซุยถัง"
ซึ่งที่นี่ก็เป็นลานกางเต้นท์ของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกเหมือนกัน (แต่ดูแลโดยทหารน๊ะ) เพราะจุดกางเต้นท์แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ของฐานที่มั่นของทหารครับ
ดังนั้น ถ้านักท่องเที่ยวคนไหนจะเลือกมานอนกางเต้นท์ที่นี่ เพื่อไปเที่ยวอ่างขาง เช่น ศูนย์เกษตร หรือ ไร่ชา 2000 ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากครับ ก็แค่จะต้องใช้เวลาเพิ่มในการเดินทางประมาณ 20 นาที
หมายเหตุ: และถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีป้ายห้ามบินโดรน แต่ผมก็ขอแนะนำว่า อย่าบินดีกว่าครับ เพราะด้านหลังของแนวเขาฝั่งพม่านั้น เป็นพื้นที่ของกองกำลังติดอาวุธว้าแดงครับ เคยมีโดรนของนักท่องเที่ยวถูกยิงตกมาแล้วครับ
ลานกางเต้นท์แห่งนี้ จะอยู่ติดถนนในเส้นทางที่จะเดินทางไปอรุโณทัย หรือเส้นเชียงดาว ที่เป็นถนนสายเก่าครับ
เรียกว่า ถ้าวิ่งผ่าน ยังงัยก็ต้องเห็นครับ
สำหรับลานกางเต้นท์ก็จะอยู่ติดถนนเช่นกันครับ การขนของ ก็จะไม่ได้ไกลมากเท่าไหร่นัก
ผมก็เลือกหันหน้าเต้นท์ไปทางทิศตะวันออก ที่เป็นวิวตัวเมืองฝางครับ
สำหรับวิวพระอาทิตย์ตกนั้น ก็จะไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ เพราะมันตกหลังเขาที่ค่อนข้างสูง
วิวตัวเมืองฝางยามค่ำคืนครับ
และสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบการชมดวงดาวนั้น ผมก็ขอแนะนำเลยครับ ที่นี่นั้น จะเป็นจุดที่สามารถชมดาวได้ชัดเจนมากๆ เพราะตรงจุดชมวิว เค้าจะปิดไฟทั้งหมดครับ
และก็อย่างที่บอกว่า สำหรับทะเลหมอกที่นี่นั้น ทางเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่า มันจะมีตั้งแต่ 4 ทุ่มแล้วครับ
แต่เนื่องจากวันที่ผมไปนอนนั้น มันเป็นวันที่ 3 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่จะมีฝนดาวตกหลังเที่ยงคืนครับ ผมก้เลยเลือกที่จะมุดออกมาจากเต้นท์ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในช่วงเที่ยงคืนครับ
ซึ่งจากรูปนี้นั้น นอกจากภาพของดวงดาวแล้ว ก็จะมีทะเลหมอกฟู ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วครับ
ปล. แต่สำหรับดาวตกนั้น ผมขอบอกว่า ผมเห็นแค่ 2 ดวงครับ และก็ถ่ายไม่ได้เลยซักดวง (หลังจากรอชมประมาณ 1 ชั่วโมงน๊ะครับ)
ตัดภาพมาตอนช่วงเช้าเลยครับ ทะเลหมอกยังคงฟูแน่นเหมือนเมื่อคืนเลยครับ
แล้วผมก็เดินไปถ่ายรูปที่ฝั่งลานกางเต้นท์ เพื่อรอพระอาทิตย์ขึ้นครับ
ขึ้นแล้วครับ
แล้วหลังจากนั้น ผมก็เดินข้ามถนน เพื่อไปชมทะเลหมอกต่อครับ
และหลังจากที่ชมทะเลหมอก และถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ผมก็เดินกลับไปเก็บเต้นท์ครับ
และในขณะที่ผมเก็บเต้นท์อยู่ ผมก็หันไปมองทะเลหมอกอยู่เป็นระยะๆ ว่ามันยังอยู่มั๊ย
ซึ่งจากรูปนี้ถ่ายตอน 8:30 มันก็ยังอยู่ครับ
ถ่ายตอน 9:00 ก็ยังไม่หายไปไหนครับ
แต่พอ 9:30 ผลก็เป็นตามภาพครับ หายไปหมดแล้ว
และสำหรับนักท่องเที่ยว สายเก็บตราประทับอุทยาน
ที่นี่จะมีลายเซ็นท์ตัวซาลาเมนเดอร์ ให้สะสมด้วยน๊ะครับ
ปล. และในระหว่างที่ผมขับรถออกไป ผมก็คิดเล่นๆในใจว่า
"อืมมม ถ้าพวกว้าแดงเค้าเลิกรบกันแล้ว เค้ามาเปิด ว้าแดงโฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวได้มาพัก และชมทะเลหมอกในมุมพระอาทิตย์ขึ้นนี่ คงสวยน่าดูเลยน๊ะ เห่ะๆ"
แบกกล้อง
วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 21.08 น.