
----------- เดินป่าเนปลา บนเส้นทาง Langtang Valley Trek ฉบับเดินเอง แบกของเอง โนไกด์ ---------
สามารถติดตามอ่านรีวิวอื่นๆบนเส้นทางนี้ จิ้มใต้ลิ้งค์ได้เลยค๊าาา
EP.0 การเดินทางมายังจุดเริ่มเดิน https://th.readme.me/p/75089
EP.1
EP.2
EP.3
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Day 4 มอนิ่งงง เช้านี้ที่เมือง Syabru besi
7โมงเราตื่น เก็บของ เช็คเอ็าท์จากโรงแรมแล้วก็เริ่มออกเดิน

สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเริ่มออกเดินคือ ไปcheckpoint กับเจ้าหน้าที่

เราจะต้องมาcheckpoint กับเจ้าหน้าที่ ที่ tourist police ก่อน
"""" ข้อควรรู้(น่าจะถูกต้องนะ ตามความเข้าใจเรา) """""
ตามกฎหมายแล้ว ถ้าไม่มีไกด์หรือลูกหาบที่พอจะเป็นไกด์ติดตามเราไปด้วย เราจะไม่สามารถเดินtrek solo ได้ ซึ่งก็ครอบคลุมไปยังหลายๆรูทเกือบทั้งหมดของประเทศเนปาล เว้นอยู่ที่หนึ่งก็คือ Everest ซึ่งยังสามารถsolo trek ได้อยู่แบบไม่ต้องกังวลใจอะไร
"""" แล้วทำไมคุณถึงเดินเองได้ล่ะ """"
ใช่ค่ะ เรามาเดินเองแบบ solo ไม่มีไกด์ ไม่มีลูกหาบ ซึ่งตอนแรกเราจองตั๋วเครื่องบินมาเพื่อจะไปเดินtrekบนเส้นทาง EBC แต่เกิดแผนล่มเพราะฝนตกหนัก น้ำท่วม(เกิดแต่กับกู) ทำให้เส้นทางรถและบางสนามบินปิดตัวลง ท้อใจมาก ตอนแรกว่าจะแคนเซิลไฟลท์ แต่ก็เสียดายเงิน เลยบินมาลุ้นเอาดาบหน้าว่าช่วงที่เรามาถึง ถนนจะกลับมาเปิดเป็นปกติไหม แต่ก็นั้นแหละน้ำท่วมใหญ่ในรอบ40-50 ปีของประเทศเลยมั้ง แผนเลยไม่เป็นไปตามที่หวัง เราเลยปรึกษากันว่า ไปเดินเส้นทางอื่นแทนไหม ที่รถสามารถเดินทางไป แล้วก็มาจบที่ Langtang Trek เพราะ ABC และ Mardi himal เราเคยเดินมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ......
หลังจากตัดสินใจกันแล้วเราก็เริ่มหาข้อมูลเส้นทาง และข้อมูลว่า พอจะมีโอกาศให้เดินแบบsolo บนเส้นทางนี้ได้ไหม ไปเจอในกลุ่มฝรั่งเดินป่าที่ langtangมา หลายๆคนเค้าบอกว่า ยังสามารถเดินsoloที่นี่ได้อยู่ เราจึงตัดสินใจมาที่นี่กัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ใช้เวลา1วัน ที่ทาเมลในการหาข้อมูลต่างๆ เส้นทางเดิน การนั่งรถ การเตรียมตัว ..
เจ้าหน้าที่ถามหาไกด์ !!!!
ใช่!! เมื่อเราเดินไปที่จุดตรวจ สิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่ถามคือ ใครคือไกด์ของคุณ ซึ่งเราก็แจ้งว่าเราไม่มีไกด์มาด้วย แล้วก็ตรวจ permitกับpassport ลงบันทึกในสมุดการเดินทางเข้าอุทยาน ทีแรกนึกว่าจะไม่ไห้ผ่านแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เห็นว่าเราเคยมาเดินป่าABCกับMardi มาก่อน เราให้ whatappกับเจ้าหน้าที่ไว้ติดต่อเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แล้วพี่ๆฝรั่งและไกด์คนอื่นๆก็ช่วยพูดว่า เค้าจะดูแลเราระหว่างทางให้ เจ้าหน้าที่จึงให้เราผ่านได้ แต่ต้องเดินอย่างระมัดระวังและเกาะกลุ่มกับคนอื่นๆตลอด แล้วถ้ากรณีที่ไม่ผ่านละ ก็สามารถจ้างหาจ้างไกด์ที่หมู่บ้านได้ เล่ามาสะยาว เคร!! เริ่มเดินได้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เส้นทางเดินในช่วงแรก จะเป็นทางถนน ขึ้นลงเนินสลับกันไป




อย่างที่เห็น สายไฟ ใช่ไหมคะ ใช่ค่ะคุณจะเห็นยาวๆไปจนถึงหมู่บ้านข้างบนสุด 555
บังวิวหมด แต่นั้นแหละห่ะ ทำให้คุณมีไฟฟ้าใช้ในทุกๆหมู่บ้าน บนเส้นทางนี้ ไม่ต้องพกเพาเวอร์แบงค์มาเด้อ หนักซิปหาย เอามาตั้ง2 อัน


แดดดีจริงๆ


ตื่นเต้นมาก ได้มาเห็นยอดขาวๆนั้น หลังจากไม่ได้เจอกันมาเป็นปี




เดินมาประมาณ 40 นาที ก็จะมาถึงจุดสิ้นสุดของถนน ตรงนี้น่าจะกำลังดำเนินการสร้างเขื่อนอยู่ หลังจากตรงนี้ สำหรับคนที่อยากจะskipตรงจุดนี้ก็สามารถหาเช่ารถแชร์รถ นั่งรถมาจากหมู่บ้านมาลงที่จุดสิ้นสุดของถนนได้ หลายพวกกรุ๊บทัวร์ที่ลงรถมาเริ่มเดินกันที่จุดนี้ก็เยอะพอสมควร ส่วนเรื่องราคาไม่ทราบห่ะ



ถึงแล้วจุดพักแรก หรือเรียกอีกอย่างว่า Teahouse เป็นร้านค้าร้านอาหารและมีห้องหักเล็กๆประมาณ 6 ห้อง ชื่อว่า " Domen river view guest house " ตั้งอยู่เหนือเขื่อนมีน้ำตกอยู่ข้างๆวิวดีเวอร์

ตั้งอยู่ที่ความสูง 1565 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล





ลืมบอกไป ตั้งแต่เริ่มออกเดินจากหมู่บ้าน syabru besi ก็ไม่มีเนื้อสัตว์ให้กินอีกแล้ว เส้นนี้มังล้วนๆ


นั่งพักทานโค้ก ทานสปิงโรว เป็นอาหารเช้าเสร็จ เราก็ออกเดินกันต่อ เส้นทางหลังจากนี้จะเป็นป่าดิบชื้น มีต้นใม้ใหญ่คอยบังเป็นร่มเงา และมีลำน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างเสียงน้ำไหลคือดังมาก

เส้นทางชัดเจน ไม่มีหลง แต่มีเหงา เดินกันอยู่2คนในป่า เพราะเราออกช้ามัวแต่รอสปิงโรว 555

แล้วก็เดินมาถึงทาง3แยก ถ้าเดินเลี้ยวซ้ายลงไปจะเป็นเส้นทางtrekking langtang แต่ถ้าเลี้ยวขวาขึ้นเขาจะไปอีกหมู่บ้าน ซึ่งจะเข้าสู่เส้นทางtrekking gosaikunda
ใจมันได้
วันพฤหัสที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 15.32 น.