
----------- เดินป่าเนปาล บนเส้นทาง Langtang Valley Trek ฉบับเดินเอง แบกของเอง โนไกด์ ---------
สามารถติดตามอ่านรีวิวอื่นๆบนเส้นทางนี้ จิ้มใต้ลิ้งค์ได้เลยค๊าาา
EP.0| Langtang Velley trek | การเดินทางมายังจุดเริ่มเดิน | https://th.readme.me/p/75089
EP.1 | Langtang Velley trek | ได้ออกแรงเดินสะที | https://th.readme.me/p/75158
EP.2 | Langtang Velley trek | จะเดินถึงหมู่บ้านลันตังไหมนะ? | https://th.readme.me/p/75227
EP.3 | Langtang Velley trek | กว่าจะถึงหมู่บ้าน Kyanjin | https://th.readme.me/p/75237
EP.4 | Langtang Velley trek | พาขึ้น Kyanjin Ri Peak | https://th.readme.me/p/75279
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Day 8 มอนิ่งงงง วันนี้จะพาเดินขึ้นไปชมวิวที่ Kyanjin Ri Peak

ตื่นสายอีกเช่นเคย แต่งตัว ทานอาหารเช้า
9.00 น ก็เริ่ม ออกstart เส้นทางจุดเดินเริ่มแรกสามารถเดินไปได้หลายทาง แล้วแต่ว่าเราพักอยู่แถวไหน

เดินไปสักพักจะบันจบตรงทางขึ้นตีนเขา ไม่ต้องกลัวหลง เพราะใครๆก็เดินขึ้นทางเดียวกันทั้งนั้น หรือถ้ากลัวหลงจริงๆก็ถามทางชาวบ้านได้

ช่วงเดือนนี้ อากาศดี แดดจ้า หิมะยังไม่ตกนะ (แต่หลังจากเรากลับมา มีคนไทยไปเดิน เจอหิมะตกแล้วด้วย)

วันนี้เราจะเดินไต่ความสูงที่ 3800 M ไปเรื่อยๆจนถึงยอดจุดชมวิวที่ความสูง 4773 M

จริงๆใน 1 วัน เราไม่ควรขึ้นไต่ระดับความสูงแบบรวดเดียว ถึง1000 เมตร จะทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน เกิดAMS ได้

สังเกตเห็นอะไรในรูปไหม มีสะพานอยู่ตรงนู้น ไกลๆ ซึ่งมันจะพาขึ้นไปยังอีกหนึ่งของจุดชมวิว ของเส้นทางนี้ (ไม่รู้ชื่อเหมือนกัน) แต่ไม่สูงมาก บอกไว้เผื่อมีใครจะอยากลองเดินขึ้นไปดู เพราะไม่เห็นมีใครรีวิว และพวกทัวร์ก็ไม่ค่อยพาไป เลยไม่มีข้อมูลเลย

แดดร้อน เหนื่อยก็พัก ไหวก็เดินต่อ ค่อยๆเดิน เด๋วก้ถึง(มั้งนะ)


แดดร้อนจัด การแต่งตัวควรมิดชิด สิ่งที่ควรพกติดตัวไปด้วยระหว่างเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวคือ กระเป๋าไว้ใส่น้ำดื่มเยอะๆ เพราะไม่มีที่ให้เติม ขนมปัง โปรตีนบาร์ และที่สำคัญที่สุดไม้เท้าเทรคกิ้ง เพราะทางลาดชันมาก



เดินเลาะเขา ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ ซ้ายๆขวาๆ สลับฟันปลา แต่ขึ้นอย่างเดียวนะ ไม่มีลง



อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน จนลืมชมวิวภูเขาสวยๆที่อยู่ด้านหลัง



พักถ่ายรูปกันเสร็จก็เริ่มเดินกันต่อ

กลุ่มแล้ว กลุ่มเล่า เดินผ่านแซงเราไป ไม่เป็นไรห่ะ หนูไม่รีบ พี่ไปกันก่อนเลย
แต่ละกลุ่มก็จะมีไกด์คอยดูแลความปลอดภัย บางกลุ่มมีผู้สูงอายุด้วย ก็จะมีไกด์นี้แหละ ค่อยพยุงเป็นไม้ค้ำให้เวลาเดิน

สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้มาก หรือจะว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ รองเท้า ..
ควรเลือกรองเท้าเดินป่าดีๆซักคู่ ของเราใช้ Salomon คู่นี้ใช้มาทุกทริปการเดินป่า ทั้งไทยและเทศ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ใช้มากว่า 2 ปีแล้ว น้ำหนักเบา เกาะหินเกาะหิมะดีมาก เดินแล้วมั่นใจไม่ต้องกลัวลื่น หรือจะเดินแล้วขาพลิก มันจะพลิกดึงไปทั้งตัวแทน ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุของข้อเท้าได้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินป่าระยะไกล มีแผ่นรองซับที่นุ่ม ข้อสูง กันน้ำได้จนถึงข้อ เดินลุยน้ำนิดๆหน่อยๆจะไม่เข้าแต่ถ้าน้ำสูงเลยข้อขึ้นมา ไม่รอดเหมือนกัน และอีกอย่างที่สำคัญสำหรับรองเท้ารุ่นนี้คือ รองรับสายตีนบาน ใส่แล้วไม่เบียดไม่เจ็บนิ้วก้อย ไปลองแล้วจะทำให้การเดินป่าของคุณสุขสบายขึ้น...

มันชันตามรูปที่เห็นเลยค่ะ เดินไต่ขึ้นไปยาวๆ ไม่มีที่พัก หรือบริการขายน้ำขายขนมนะคะ อย่าลืมเตรียมกันขึ้นมาด้วย

แรกๆห้าว หลังๆหอบ





10.50 น ใช้เวลาไปเกือบ2ชั่วโมง เราก็มาถึงจุด checkpoint แรก คือ Kyanjin Ri Lower Peak หรือเรียกได้ว่า kyanjin ri น้อย(ตั้งเอง) 555 ที่ระดับความสูง 4,400 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สูงกว่าตอนที่เดิน ABC หรือ Annapurna base camp สถิติเก่าที่ตัวเองทำไว้ที่ความสูง 4,130 เมตร

จะมีเนินหิน ให้ไปถ่ายรูป ชมวิวภูเขารอบๆ ซึ่งสำหรับคนเดินแล้วคิดว่าไปต่อไม่ไหว เค้าก็จะมาหยุดกันที่ตรงนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกรุ๊ปทัวร์ สว ที่ไม่ได้ไปต่อ

ที่ความสูงในระดับ 4400เมตร นี้ ทำให้สาวเริ่มมีอาการปวดหัว เพราะร่างกายปรับตัวไม่ทัน แต่ใจยังสู้อยู่..


จ้องมองไปยังเส้นทางข้างหน้า ปลายยอดเนินเขาน้ำตาลๆนั้น คือจุดหมายของเรา ช่างอีกแสนไกลเหลือเกิน


โลกใบนี้มันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ อยากมีตังสักร้อยล้าน จะออกไปสำรวจให้หมดเลย

โอเค เดินกันต่อ นั่งมองไปก็ไม่ทำให้มันไกล้ขึ้นมา

ซ้ายมือเห็นยอดเขา ที่มีหิมะปกคลุมนั้นไหม ถ้าซูมเข้าไปดูถึงจะรู้ว่า นั้นคือจุดชมวิวที่สูงที่สุดบนเส้นทางนี้
" Tserko ri นั้นเอง ที่ความสูง 4985เมตร โอ้วแม่เจ้าาาา สูงเกือบสองเท่าของยอดดอยอินทนนท์บ้านเรา
ถ้าจะไปเดินชมวิว ต้องขึ้นอีกทางนะ มันขึ้นคนละทางกับ Kyanjin Ri



เลยจุดKyanjin Ri Lower Peak ขึ้นมานิดหน่อย จะเจอกับเนินเขาโล้นๆ ไม่ลาดชันมาก สามารถนอนพัก นั่งพักผ่อน ทานข้าวตรงจุดนี้ได้ ชิวมาๆ ลมดี อากาศดี วิวดี

วิวดี ถ่ายรูปเล่น ฉ่ำๆ








โอเค นั่งพัก นอนพักกันมาพอละ ได้เวลาออกเดินกันต่อ


พยายามเกาะกับกลุ่มอื่นเอาไว้ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา จะได้มีคนเห็น คนช่วยเหลือเราได้

มาเดินเองก็ต้องระวังตัวในระดับหนึ่ง แต่การเกาะกลุ่มกับคนอื่นไว้ หรืออยู่ในระดับสายตาที่ไกด์กลุ่มอื่นสามารถมองเห็นเราได้ ถือว่าเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับเราในระดับนึง

ทุกก้าวที่เดินบนระดับความสูง 4400 เมตร ไม่ใช่อะไรที่ง่ายเลย ทั้งอากาศที่เบาบางขึ้น ทำให้หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายขึ้น เริ่มปวดหัว แดดจ้าๆร้อนๆ อาจทำให้เกิดอาการ AMS หนักได้ ต้องค่อยๆก้าวขึ้นไป

ชันนะ ไม่ใช่ขึ้นเนินเนิบๆ บางช่วงฝั่งซ้ายเป็นเหว ต้องระวัง หน้ามืดเป็นลม หรือลมพัดมาแรงๆ อาจจะร่วงได้


ผลัดกันแซงกันไปกันมา มาเดินกันเยอะ เวลาพักก็จะใช้เวลานานหน่อย

ไกล้จะถึงแล้ว อีกไม่กี่อึดใจ สู้ๆ




ไกล้แล้ว อีกนิด

ถึงแล้วจ้า มาถึงพร้อมๆกับกรุ๊ปทัวร์แก๊งนี้

กว่าจะมาถึงได้ ไม่ใช่ง่ายๆเลย ใช้เวลาไปครึ่งวัน กับยอด Kyangjin Ri Peak ที่ความสูง 4770 เมตร (แต่ในป้ายบอกว่า 4700m) นับว่าเป็นความสูงที่สุดเท่าที่เคยไปเดินมาบนโลกนี้ สร้างสถิติใหม่ไปอีก

อันนี้ เด๋วจะถ่ายวิวรอบๆ จากด้านบนนี้ให้ชม ว่าถ้าขึ้นมาแล้วจะได้เห็นความสวยแบบใด





















ถึงแล้วโว้ยยยยย.... Kyangjin Ri Peak โครตภูมิใจในตัวเอง ที่สามารถพาร่างกายขึ้นยังข้างบนนี้ได้




ขาลงสามารถเลือกได้ว่าจะเดินกลับเส้นทางเดิม หรือจะลงไปอีกทางตามรูปด้านบนได้ ส่วนเราเลือกที่จะกลับทางเดิม เพราะเราเหนื่อยมากแล้ว ไม่รู้ว่าเดินกลับอีกทางจะอ้อมไปไกลแค่ไหน เลือกเอาชัวร์กลับทางเดิมดีกว่า..



ขาลง เดินไว เดินสับมาก ถ่ายตามแทบไม่ทันเลย ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงในการเดินลงไป..

เดินลงมาถึงหมู่บ้าน เราก็แวะเข้าไปทานเค้ก นั่งพัก อัพรูปบลาๆ อยู่กับตัวเองไปเกือบครึ่งวัน ก็เข้าห้องพักอาบน้ำ นอนพักผ่อน


อันนี้ชื่อที่พักเรา ที่พักกันตลอด3 วัน 2 คืน วิวดี สงบดีนะ



อาหาร ในเส้นทางเทรคกิ้งลันตังนี้ คงต้องบอกได้เลยว่า ทำใจแบบหนักๆ รสชาติคือกันเพื่ออยู่จริงๆ ไม่ได้น้ำพริกที่พกมาด้วยคง......ไม่ไหว ไม่ค่อยจอยกับอาหารเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้ ส่วนใหญ่ก็เมนูเดิมๆ วนๆอยู่ไม่กี่อย่าง ดัลบัด ผัดหมี่ สะปาเกตตี้ เส้นทางนี้ไม่มีเนื้อให้กินจ้าาาา

สิ้นสุดไปอีกวัน ... พรุ่งนี้เราตัดสินใจไม่ขึ้นไปที่จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งบนเส้นทางนี้ ที่เรียกว่า Tserko ri เนื่องจากเราเริ่มมีอาการ AMS ที่หนักขึ้นกันทั้งคู่ ทั้งปวดหัว รู้สึกไม่ค่อยสบาย ก่อนนอนกินยาไดย์ม๊อก
เส้นทาง Tserko ri นั่น จะใช้เวลามากว่า Kyangjin Ri พอสมควร เห็นเค้าว่าแค่ขึ้นอยู่เดียวใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ขนาดออกเริ่มเดินกันตอนตีห้า แต่วิวที่ได้มานั่น เค้าว่า สวยกว่าKyangjin Ri มาก ยังไงใครที่คิดว่าตัวเองไหว ก็ไปเดินกันได้นะ ส่วนเราเอาที่ตัวเองไหว ...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชมวีดีโอการเดินทาง EP.4 ของเราได้เลยห่ะ ฝากSupportกันด้วยน๊าาาา :)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รายละเอียดต่างๆ
DAY8
- เริ่มเดิน 08.00 น - 13.00 น ถึงที่พัก
- ระยะทาง 7.3 KM
- เค้ก 2 ชิ้น ,น้ำ2 อย่าง 1280 npr
- ค่าที่พักฟรี
- ค่าอาหารทั้งหมด 3 วัน มื้อเที่ยง,กับมื้อค่ำ 8250 npr
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไว้เจอกันใหม่ EP หน้าาาาาา เราจะเดินทางกลับกันแล้ว
ฝากติดตามด้วยนะ ถ้าว่างจะรีบมาเขียนรีวิวไห้อ่านนนนะคะ
ใจมันได้
วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.40 น.