มันส์ดีต่อใจ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทาง กลุ่มนกขมิ้น ไม่มีอะไรมากแค่อยากไป

หากเราไม่มีสายตาที่มอง ท้องฟ้าและท้องทะเลจะเป็นเช่นไร เมื่อท้องฟ้าที่เรามองเป็นสีคราม แต่ครามจะเป็นสีของมันจริงๆไหม หรือเกิดจากเพียงระยะทางที่มันแสนไกล แล้วเรามองจากตรงนี้ด้วยสายตา แล้วฉันก็มอง มันอย่างนั้น


จุดเริ่มต้นของทริปนี้ไม่มีอะไรมากเลย ทุกครั้งที่เราขับรถผ่านถนนเส้นนี้เเราจะต้องมองภูเขาลูกนี้ จนลับสายตาทุกครั้งไป แล้วก็นึกสงสัยว่า เมื่อไปยืนบนยอดของเขาลูกนี้ แล้วมองมาข้างล่างวิวมันจะเป็นเช่นไร แต่ก็แค่ได้คิดเบาๆอยู่ในใจ และก็มาอีกครั้งในตอนนั้นขณะขับรถกลับบ้านหลังจากไปเดินเขาช้างเผือก ก็ขับรภผ่านเขาพิศดงธ์อีกและบอกกับแงซายว่าเฮ้ย เขาลูกนี้น่ามาเดินกันเนอะ ก็คุยกันไปแล้วก็ยังไม่ได้เริ่มหาข้อมูลใดๆ อีกเช่นเคย

จนมาวันหนึ่ง ลุงธง สีฟ้า คุณใหม่และกลุ่มเพื่อนเพลินไพร ได้ขึ้นไปบนเขาลูกนี้ เช เลยขอข้อมูลมาจากลุงธง สีฟ้า และก็คุยกันในกลุ่มนกขมิ้นว่า เฮ้ย สัปดาห์นี้ไปเดินป่ากัน เขาลูกที่เราเคยคุยกัน ทุกคนเออออ แล้วก็ไปประกาศหาแนวร่วมอีกตอนแรกกะไว้ที่ 12 คน แต่ไปๆ มาๆ ไปกัน 20 คน ประกอบด้วย ถุน พี่ที พี่ซัน จินนี่ ทีม มิ้ว อั๋น แอน พี่เชษ นนท์ ออย หมู พี่แก๋ม พี่เคี้ยง พี่วุฒิ พี่ต๋อง พี่โก้ เช แซน แทน ทริปนี้จึงเป็นทริปฉุกระหุกอีกเช่นเคย ส่วนเรื่องราวระหว่างการเดินทางนั้นสนุกมาก ใรทริปนี้คนนำทางของเราชื่อลุงนู เป็นชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางบนเขาลูกนี้ แต่แกอายุมากแล้ว และมีงานที่ไร่เยอะ อาจไม่มีเวลาพาใครขึ้นไปแต่ลุงคงหาคนที่เจนทางได้แหละ ถ้าจะมีคนไปอีก


มาติดตามเรื่องราวการเดินทางของพวงเรากันคะ เอาภาพไปดูกันแน่นๆ เลย

14.01.2017 - 15.01.2017 อู้ววววววว หู้ววววววว เราจะได้ขึ้นไปบนยอดเขานั้นกันจริงๆ แล้วใช่ไหม

เ ข า พิ ศ ด ง ธ์ หรือ เ ข า สิ ง ห ์ โ ต ตำบล วังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี เขาลูกนี้ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปทาง อ.ไทรโยค ประมาณ 30 ก.ม. เขาจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ มีทิวทัศน์สวยงามมาก เขาลูกนี้ทอดตัวยาวเหยียดขนานไปกับถนนสาย 323 (กาญจนบุรี-ไทรโยค) โดยที่ภูเขาอยู่ห่างจากถนนประมาณ 1 ก.ม. ด้านหน้าเป็นไร่อ้อยของและไร่มันสำปะหลัง เมื่อมองจากถนนจะเห็นเขาลูกนี้เด่นมากๆ เขาลูกนี้มีความสูง 474 เมตร จากระดับน้ำทะเล

1.เส้นทางการเดินเท้าไปยังภูเขาลูกนี้ มีหลายเส้นทาง แต่ทางที่เช ไปมีระยะทางไปกลับ ราว 6.5 กิโลเมตร

2.ด้านบนไม่มีแหล่งน้ำ

3.กางได้ทั้งเปลและเต๊นท์

4.ยอดเขาทางด้านทิศตะวันออกเป็นยอดสูงสุดของภูเขาลูกนี้เมื่อเราไปยืนจะเห็ววิวถนน ส่วนอีกยอดด้านทิศตะวันตกสูงแตกต่างกันไม่กี่เมตร

5.การก่อไฟต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากใบไม้แห้งเยอะ อาจลุกลามเกิดไฟป่าได้

6.ไม่ควรขึ้นไปเองโดยไม่มีคนนำทาง

7.ไม่ควรจอดรถทิ้งไว้บริเวณตีนเขา

13.01.2017

บรรยากาศที่ไร่สวยมาก

พวกเรานัดรวมตัวกันที่ไร่ของของเพื่อนเช ชื่อบอม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเดินมากนัก ขับรถต่อไปเพียง 15 นาที ก็ถึงจุดเดิน ที่ไร่ของบอมอยู่บริเวณแพล๊นยางเขมราช ต่อไปจะเปิดเป็นร้านอุปกรณ์การเกษตรและร้านอาหาร กาแฟ แวะไปอุดหนุนกันได้นะ

บรรยากาศในตอนเช้า ไม่รีบอะไรมากมาย

14.01.2017

ทานอาหาร ร้านอาหารใต้ร้านนี้อร่อยมาก ทานที่ร้านนี้ในมื้อเช้า และห่อสำหรับมื้อกลางวัน


แวะถ่ายรูปเมืองมัลลิกา

ได้ถ่ายรูปฟรี แถมม้ามาอีก 3 ตัว คนที่เมืองให้มา ใจดีมากๆ

ลุงนูโทรหาพวกเราตั้งแต่ 7.00 น. แต่พวกเราก็เอ้อ ระเหย จนเกือบ 10.00 น. ลุงนูนัดให้มาเจอตรงปากทางเข้า เก้าแสนมาลีคามรีสอร์ท(Kao Saen Maleekam) ลุงจะพาพวกเราไปจอดรถที่บ้านเพื่อนแก (จอดรถจะจอดมั่วซั่วไม่ได้ เด้วมีการล้อหาย รถหายกันบ้าง) ทางดาวอังคารมาก รถควรยกสูง ไม่เหมาะสำหรับรถโหลดเตี้ย

ไปถึงก็ไม่รีรอ สอยมะขามเทศกินกัน แทบจะหมดต้น ถ้ากินใบกับรากได้ก็คงกินไปด้วยแล้ว หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็เตรียมตัวเดินทางไปยังจุดเดินซึ่งลุงจะขับรถไปส่ง (ทางไม่ไกลหรอกกกกกก) ลุงนูได้กล่าวไว้ แต่ความจริงไกลมาก

ด้านหลังเขาพิศดงธ์ มีลักษณะเหมือนเขียดตะปาดเลยเนอะ



ลุงจะพาพวกเราขึ้นทางด้านหลังเขา ลุงบอกว่าเดินจากด้านหลังทางจะไม่ไกลมากและชันนิดหน่อย ระยะทางจากบ้านเพื่อนลุงมายังจุดเดินไกลพอสมควร ขับรถประมานครึ่งชั่วโมง ทางก็สภาพใกล้เคียงพื้นผิวของดาวอังคารอีกเช่นเคย ตับและไส้พันกันตามระเบียบ

(รถไม่ควรนำไปจอดตามเชิงเขาทุกกรณี รถอาจหายได้)

พวกเราเริ่มเดินกันในตอนเที่ยงครึ่ง ด้านบนไม่มีแหล่งน้ำ ทริปนี้แบกน้ำกันทุกคน คนละ 4-5 ลิตร รวมถึงเสบียงกองกลาง ที่ช่วยกันแบกขึ้นไป

ทางเดินช่วงแรกเป็นทางรถ แค่เริ่มเดินก็ชันเลย แดดก็แรงมากกกกกกกก ระยะทาง 2.5 กิโลเมตรกว่าๆ จากจุดเดิน ไปยังแค้มป์

เดินช่วงนี้ทรมาณมาก อากาศร้อน และทางก็ลื่น

เดินพอได้เหนื่อย ภาพสุดท้านเชถ่ายภาพกับพี่ต้อง

ยังไม่หยุดชันอีกกกกก ไหนลุกบอกว่าไม่ชันงั้ยยยยย

พ้นทางชันมาเริ่มเดินสบาย และมีร่มเงา

เดินทางรถสบายๆ เสียอย่างเดียวมีขยะ จากคนที่ขึ้นมาตัดไม้ลวก

พักบ้างอะไรบ้าง

บางช่วงก็แห้งแล้ง

ระหว่างที่นั่งพักตัดมาที่ภาพนกขมิ้นมันส์ๆ



ชาวบ้านเขาเดินกันทางดีๆ นังออย ไม่เดินไม่รู้เข้าไปมุดในดงหา.... อะไร สงสัยขาดยา

เม้าท์ เจ้าออยหน่อย ฉายาเขาตาชัตเตอร์ทองคำ ลั่นชัตเตอร์ทีนี่เป็นบุญวาสนาของร่างกายเจ้าของภาพยิ่งนัก ถ้าได้รูปยิ่งเป็นสิริมงคลต่อชีวิต คือกว่าจะได้รูปจากกล้องเค้านะ รอไปเถอะ บางทริปเป็นปี!!! บางทริปสาบสูญ บางทริปแบกกล้องไปมีรูป 4- 5 ใบ เฮ้ออออออ!!!! แต่ข้อดีก็มีนะ นอนกรนเสียงดัง ส่วนเรื่องกินยังกะไดโว่สามเครื่องอย่าเผลอหันไปกินน้ำกลับมาหมูย่างหาย!!! นอนตื่นสาย เดินช้า เดินในป่าชอบตะโกนเรียก พี่วุฒิๆๆๆๆ พี่เชๆๆๆๆ พี่นนท์ๆๆๆ เดินห่างกันไม่กี่เมตรเนี่ย เรียกทำม้ายยย ไอ้บร้าาาาา

ป่าที่นี่ส่วนมากจะเป็นป่าไผ่ ส่วนแคมป์ที่เราจะไปนอนชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า ดงไม้นวล

เราย้ายจุดตั้งแค้มป์กันสามรอบ รอบแรกลุงให้นอนในดงไผ่ ซึ่งอับลม จุดที่สองก็ไม่ชอบ จุดที่สามนอนเลยลานฮอร์ไปจะติดหน้าผา มองเห็นดาวบนดินยามค่ำคืนได้

ไปถึงก็ไม่รีรอวิ่งไปถ่ายภาพวิว แล้วกลับมาจัดแจงที่นอนกัน

ภาพเสบียงอาหาร และบรรยากาศที่กางเต้นท์ เต้นท์ฟาโรของแทน กางขวางทางการจราจรมาก สุดท้ายต้องย้าย

ตรงลานฮอ ข้างที่พักกลางคืนจะใช้ถ่ายดาว

บนยอดกางได้ทั้งเต๊นท์และเปล สัญญาณโทรศัพท์ก็มี เน็ตก็มี ร้านkfc ก็มี เซเว่นก็มี เย้ยยยย สองอันหลังนี้ไม่มี

ช่วยกันก่อไฟหุงหาอาหาร

มีอะไรก็ทำๆ ไป 6-7 อย่าง กินเล่นๆ

บรรยากาศในการเตรียมอาหาร

วิวตรงบริเวณแค้มป์


ภาพการเดินทางของกลุ่มเรา

.

วิวบนยอดด้านทิศตะวันตก วัดความสูงโดยคุณ chet ได้ 470 เมตร

ดึกๆ ก็ออกมาชมดาวบนดิน

แล้วก็เดินมาดูดาวบนฟ้าทำงานก่อน เย็นมาต่อนาจา

ภาพแรก ทานอาหารเย็น อากาศไม่ร้อนไม่หนาว มดไม่มี ยุงไม่มี ดีจริงๆ


ภาพที่สอง เช้าวันรุ่งขึ้น

ตื่นเช้ามายังไม่ทำอาหาร เดินไปชมวิวบนยอดสูงสุดกันก่อน

จากจุดที่ตั้งแค้มป์ไปยังยอดสูงสุดไม่ไกลกันมากเท่าไร แต่ทางเดินรก และมีหินคมตลอดทาง

ระหว่างทางมีหินรูปทรงแปลกๆ เยอะเลย

ระหว่างเดินทางไปยอดสูงสุด มีมุมย่อยๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ

เมื่อเดินมาถึงยอดสูงสุด ที่ยืนมีไม่มากนัก แต่ก็ไม่น้อยไปสำหรับคน ทั้ง 20 คน บนยอดหัวสิงห์โต วัดความสูงได้ 472 เมตร จากระดับน้ำทะเล บริเวณนี้หินคมมาก

ถ่ายภาพเล่นไปเรื่อยเปื่อย

ขอรูปตัวเองบ้าง ช่างภาพ คุณ AUN

ตามด้วยภาพสวยๆ

หลังจากถ่ายภาพเสร็จก็ลงไปที่แค้มป์ ทานข้าว เก็บของ เดินกลับทางเก่า ขาลงใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง



ทริปนี้เช ขอขอบคุณทุกๆ คนมากนะคะ ที่มาร่วมทริปแบบไม่รู้อะไรเลย คือสมัครมาด้วยใจล้วนๆ ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง ได้ร่วมแบ่งปันช่วงเวลาที่มีความสุข แม้ว่าทุกคนส่วนมากจะมาจากต่างที่ ต่างทาง แต่ทุกคนก็คอยช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี เพราะทุกคนทริปนี้จึงสมบูรณ์แบบ



ทริปนี้ค่าใช้จ่ายต่อคนไม่แพง ค่านำทางคุณลุงคิด สองวัน 1,500 บาท

ก่อนกลับกลุ่มเราได้ช่วยกันนำธงชาติไทย ไปติดตั้งไปที่ยอดหัวสิงห์โต ใครไปชุดต่อไปก็ช่วยดูแลต่อด่วยหากธงล้มหรือขาด

I'm Che

 วันพฤหัสที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.49 น.

ความคิดเห็น