ตอนที่แล้วเราเตรียมตัวสำหรับการเดินทางต่อกันแล้ว แต่หนูเล็กแอบดอดไปใช้เวลากับมิลานอีกนิดหน่อยก่อนอำลา

https://th.readme.me/p/7609

และแล้วขบวนรถไฟ RE2560 ที่พวกเราจะเดินทางสู่ Varenna-Esino ก็จอดเทียบที่ชานชาลา 8 เป็นอีกครั้งที่หนูเล็กรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาได้อีก ก็การผจญภัยครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นอีกแล้ว หนูเล็กเด็กไฮเปอร์มักเป็นเช่นนี้เสมอ พวกเรารีบไปขึ้นขบวนรถไฟในทันทีเพราะเกรงว่าจะหาที่นั่งที่ที่เหมาะเจาะไม่ได้ ก็อย่างที่เล่าค่ะว่าขบวนนี้ไม่มีการสำรองที่นั่ง ใครขึ้นก่อนมีสิทธิ์ก่อน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี พอได้เวลารถไฟออกเคลื่อนตัวออก เรื่องเวลานี่เราสบายใจได้ ตรงตามกำหนดทุกครั้ง ไม่ต้องเสียอารมณ์กับเรื่องพวกนี้เอาเลย

RE2560 คือขบวนที่เราจะโดยสารค่ะ

ตั๋วเดินทางของเราค่ะ

ได้เวลาชีพจรลงเท้าอีกแล้ว

รถไฟชั้นสองยังน่านั่งขนาดนี้เลย

นั่งไปสักพักเริ่มได้เวลาสำรวจไปรอบๆ ทั้งนอกหน้าต่างที่มีดอกไม้เล็กๆ ริมรางรถไฟ สีแดงสดใสลักษณะคล้ายดอกป๊อปปี้ บรรยากาศดีๆ เริ่มมาก่อนแล้ว พอสำรวจตรวจตราในรถ ที่นั่งในขบวนรถแม้จะเป็นรถท้องถิ่นวิ่งระหว่างเมือง แต่คุณภาพล้นแก้ว สะอาดสะอ้านน่านั่ง ขนาดเป็นชั้นสองยังคุณภาพดีขนาดนี้เลยค่ะ ด้านบนเพดานมีจอคอมพิวเตอร์แจ้งให้เราทราบด้วยว่าจะผ่านสถานีใดบ้าง และเมื่อถึงแต่ละสถานีก็จะบอกให้ทราบอีกว่าเราจะต่อรถไฟขบวนอะไรได้บ้าง ไปที่ไหนได้บ้าง อะไรมันจะเลิศเลอเพอร์เฟคเสียขนาดนั้น ให้ข้อมูลไว้พร้อมสรรพ

ดอกไม้ริมทางสีสะดุดตา

เวลาจอดแต่ละสถานีจะมีบอกรถไฟที่วิ่งเชื่อมกับสถานีนี้ค่ะ

หลังจากสำรวจสรรพสิ่งรอบกายไปเรื่อยๆ สายตาก็เริ่มสะดุดกับบุคคลเข้าบ้างแล้ว เพราะให้บังเอิญเห็นหนุ่มอิตาลีนายหนึ่งลุกขึ้นเก็บสัมภาระตรงที่ไว้สัมภาระเหนือศีรษะ ทำให้เริ่มคิดพิจารณาว่า หนุ่มอิตาลีค่อนข้างหน้าตาดี ดูมีเสน่ห์ คงจริงอย่างที่เคยได้ยินได้ฟังมา ได้วิวแบบนี้ระหว่างการเดินทางก็ชุ่มชื่นหัวใจดีเหมือนกัน

วิวดีๆ บนรถไฟระหว่างการเดินทาง

ตลอดสองข้างทางสู่ Varenna เป็นทิวทัศน์ที่หนูเล็กขอบอกเลยว่าไม่ควรนอนหลับ วิวสองข้างทางชวนมองเป็นที่ยิ่ง ผ่านทุ่งหญ้าป่าเขา บ้านเรือนผู้คน วิวเขียวๆ สองข้างทางทำให้สดชื่นดี และแล้วเมื่อถึง Varenna นอกจากวิวสวยๆ ข้างทางจะหายไป วิวหล่อๆ บนรถก็ลาจากหนูเล็กไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน

ขบวนนี้วิ่งผ่าน Lecco ด้วยค่ะ

เมื่อมาถึงสถานีปลายทาง Varenna-Esino เราพากันเดินลากกระเป๋าและเปิด Maps.me แผนที่ตัวช่วยในการค้นหาที่พักที่หนูเล็กจัดการจองไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับที่นี่เราจะพักกัน 2 คืน เพราะเมืองนี้มีธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอยู่สัมผัสให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศมากกว่าการเที่ยวแบบล่กๆ อย่างที่เป็นมาในรอบหลายวันก่อน หนูเล็กจองที่พักชื่อ Varennahouse ผ่านเว็บ Booking.com ซึ่งนับได้ว่าเจ้าของที่พักดูแลเอาใจใส่พวกเราดีมาก เพราะเมื่อจองไว้ล่วงหน้าไว้เมื่อหลายเดือนก่อนเดินทาง เจ้าของก็ติดต่อกลับมาทันที บอกไว้เลยว่าหากต้องการสอบถามอะไรหรือความช่วยเหลืออะไรก็ตามให้ติดต่อได้เลย แต่ช่วงก่อนเดินทางเราก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย จนกระทั่งเมื่อเริ่มต้นการเดินทางได้ไม่กี่วัน หนูเล็กก็ได้รับเมล์ติดต่อจาก Vittorio เกี่ยวกับการเดินทางมายังที่พัก และการส่งมอบกุญแจกัน

ถึงที่หมายของเราแล้วค่ะ Varenna

ถ

แต่กาลกลับกลายเป็นว่า สองสามวันก่อนมาถึงนี้ Vittorio แจ้งว่าเขาติดภารกิจ ไม่สามารถมารอต้อนรับเราได้จะมาเจอได้ก็คงวันถัดไปตอนเช้า ดังนั้น จึงได้เขียนลายแทงให้เราไปเอากุญแจที่จุดหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปยังที่พักที่เขาจัดเตรียมไว้ให้

วิวสวยๆ ระหว่างการเดินไปยังที่พัก

เราทำตามที่ Vittorio บอกไว้ทุกประการ คือการไปยังบ้านหลังหนึ่ง เลือกรหัสกล่องที่ 3 แล้วกดรหัสผ่านตามที่กำหนด ฝากล่องจะเปิดออกให้เห็นกุญแจที่พักของเราที่ด้านในพร้อมลายแทงให้เดินไปยังที่พักดังกล่าว

กุญแจพร้อมลายแทงสู่ที่พักของเราอยู่ในกล่องที่ 3

เมื่อเดินไปตามลายแทงและใช้กุญแจไขห้องเข้าไป จึงพบว่าเป็นที่พักอีกแห่งที่ตัวที่พักอาจไม่สวยมากนัก แต่บรรยากาศด้านนอกที่พักเมื่อมองออกนอกหน้าต่างไปนั้นคุ้มค่าจริงๆ ก็วิวจากห้องนอนหนูเล็กเป็นทะเลสาบสีฟ้าใส สวยงามมาก

จัตุรัสกลางเมือง Varenna ก่อนเดินสู่ที่พัก สวยจับใจจริงๆ

ที่พักนี้มีครัวขนาดเล็กๆ พอที่จะทำกับข้าวได้บ้างและเราก็อยู่ที่นี่ถึง 2 คืน แต่ปัญหาของเราก็คือที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ มีร้าน grocery ขนาดกระเป๋าอยู่ร้านเดียว ทำไมรอบนี้อุปสรรคในการเป็นเชฟของคุณปาจะเยอะเอาการอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม พี่ใหญ่ก็คงจะดีไซน์เมนูต่างๆ ให้กินได้ตลอดล่ะน่ะ อีกทั้งบางมื้อเราก็คงจะกินอาหารแบบคนท้องถิ่นบ้าง จะได้เป็นประสบการณ์ชีวิต

พี่ใหญ่อนุญาตให้ทุกคนพักผ่อนกันตามอัธยาศัยสักพัก รอให้แดดร่มลงสักนิดเราค่อยออกไปทำความรู้จักกับ Varenna กันไว้บ้าง เพิ่งมาถึงแบบนี้ต้องฝากเนื้อฝากตัวกันเสียหน่อย รอพวกเราพักเหนื่อยกันก่อนนะคะไว้ออกไปเดินเล่นกัน...

แวะไปเยี่ยมชมภาพถ่ายจากการเดินทางและทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่

https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/