ทำไมใครๆ ถึงชอบไปทะเล

ทำไม เวลามีความสุขต้องไปทะเล

ทำไม เวลามีความทุกข์ต้องไปทะเล

แต่จะทำไมก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าเรามีความสุขทุกครั้งที่เจอเธอ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน... Let's start

ร้อนๆ แบบนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทะเล คือที่ที่เหมาะแก่การเที่ยวที่สุดในตอนนี้ แต่อย่างเรานานๆ จะมีวันหยุดหลายวัน อยากออกไปเที่ยวชาร์จแบตให้เต็มที่ ทะเลที่ไหนที่ว่าสวยเราจะตามไปเก็บให้ทุกที่เลย แต่จะให้เที่ยวใกล้บ้านก็คงไม่ใช่ และจากหลายๆ รีวิวที่ทำให้อยากหยิบกล้อง หน้ากากดำน้ำ แล้วลุกไปตอนนั้นเลยคงหนีไม่พ้นทะเลพม่า ที่ว่ากันว่าทั้งสวย ทั้งสมบูรณ์ และที่สำคัญขับรถไม่ไกล ปลายทางของทริปนี้คือ "ระนอง เมืองฝนแปดแดดสี่" นั่นเอง เก็บกระเป๋าแล้วตามมาเลยฮะ

ปล.ภาพมีเยอะมาก อาจจะมีทั้งสวยและไม่สวยแตกต่างกันไป ยกมือขอโทษจากหลังกล้องไว้ก่อนนะฮะ

4 วัน 3 คืนกับการเดินทางในวันธรรมดาที่แสนพิเศษ

เสม็ดนางชี

สำหรับเสม็ดนางชีคือจุดแรกที่อยู่ระหว่างทางไประนอง ทริปนี้เราเริ่มเดินทางออกจากภูเก็ตตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะแวะดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ขับรถประมาณ 1 ชม. ก็ถึงแล้ว ^^ ความเงียบสงบของวันธรรมดา คือเสน่ห์ของการเดินทางในครั้งนี้

ท้องต้องเดินด้วยกองทัพ เอ้ย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

จุดหมายต่อไปของเราคือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา แวะดื่มขนมกับกาแฟสักนิด แล้วไปดูน้องเต่ากับน้องโม่กัน

อันนี้ภาษาใต้เรียก "เหนียวกล้วย" นะคุณนาย

บางครั่ง ฟาร์มสเตย์

สืบเนื่องมาจากคุณนายอยากกินปูมาก เพราะได้เสพความอยากมากจาก https://th.readme.me/p/5918 ทำให้บางครั่งฟาร์มสเตย์กลายเป็นหนึ่งในแพลนของทริปนี้ด้วยเช่นกัน ที่นี่เค้าคิดค่าบริการ 350 บาท/คน รวมค่าเรือ ค่าอาหาร ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะ (ต้องโทรไปจองและมัดจำก่อนนะครับ รายละเอียดดูตามลิ้งรีวิวได้เลย) เราโทรไปจองก่อนเดินทาง 1 วันเพราะวันหยุดส่วนใหญ่จะเต็ม แต่เราไปวันธรรมดามีแค่กรุ๊ปเรากรุ๊ปเดียว ฟินไป๊ !! หลังจากเราไปถึงตามเวลานัดแล้วจะมีเรือหางยาวมารับ ค่อยๆ แล่นออกไป สองข้างทางช่างเป็นอะไรที่ทำให้เราวางกล้องไม่ลงเลยจริงๆ

เราชอบเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบ ค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศตรงนั้นเข้าไป แล้วมันจะเกิดเป็นความสุขแบบที่เราไม่รู้ตัวเลยแหละ

เราจะเน้นปูเหนือสิ่งอื่นใด 55555

ปลากะพงแดงต้มยำ แซ่บมากก

กินอิ่มนอนหลับ ลมพัดเย็นสบาย ได้เวลากลับแล้วแต่ก่อนกลับก็มาดูปูนิ่มสักหน่อยเนอะ

จากบางครั่งไประนองใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ขับไปยาวๆ แล้วเจอกันที่ระนองนะ

ถึงสักที เมืองระนอง เมืองฝนแปดแดดสี่

ชอบที่สุดตอนมาระนอง คือตอนพระอาทิตย์ตก เป็นอะไรที่ไม่ต้องลุ้นเลย ก่อนเข้าที่พักต้องแวะมาถ่ายรูปสักหน่อย

คืนแรกเราเลือกพักที่ The Blue Sky @Ranong

ทางเข้าจะเป็นถนนลูกรังประมาณ 600 เมตร จากถนนหลัก

สงบ เงียบ ส่วนตัวสุดๆ

ในส่วนของห้องพัก ของเราจะเป็น Deluxe Seaview ห้องไม่กว้างมากติดเห็นวิวทะเลเลย ที่สำคัญเตียงนอนนุ่มมากกก

วิวสวยๆ จากระเบียง

ดูวิวหน้าห้องไปแล้ว เดินมาดูวิวพระอาทิตย์ตกหลังห้องกันบ้างดีกว่า

นอนแช่น้ำเย็นๆ ดูพระอาทิตย์ลับภูเขา ฟินอะไรเบอร์นี้

พรุ่งนี้เราไปตามหาหัวใจที่เกาะหัวใจมรกตกันต่อนะ คืนนี้ฝันดีฮะ ^^

วันนี้เราตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปท่าเรือแกรนด์อันดามัน ต้องถึงท่าเรือก่อน 8 โมงเช้า (เนื่องจากโรงแรมเราอยู่นอกเส้นทางที่รถตู้ของทัวร์จะมารับ)

เก็บบรรยากาศดีๆ กับข้าวต้มร้อนๆ ในตอนเช้ามาฝากฮะ

ขับมาเพียง 10 นาที ก็ถึงท่าเรือแกรนด์อันดามันแล้ว แอบงงนิดๆ ว่าทำไมไม่มีคน คงเป็นเพราะวันธรรมดาด้วยมั้ง

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้เอกสารเรามา 2 ชุดใช้สำหรับทำการผ่านแดน

หลักฐานที่ใช้ในการผ่านแดนใช้แค่ บัตรประชาชน เท่านั้น พาสปอร์ตไม่ต้องนะฮะ

สำหรับคนที่ทานอาหารเช้าที่โรงแรมไม่ทัน ที่นี่เค้ามีบริการให้ในส่วนของอาหารเช้า มีพวกข้าวต้ม ขนม ชา กาแฟนะ

ไกด์ทำการอินฟอร์มข้อมูลให้เรา ที่สำคัญทริปวันนี้มีแค่ 9 คน ย้ำว่า 9 คนเท่านั้น

นั่นละฮะ ที่เห็นคือเพื่อนรวมทริปของเราในวันนี้ แอบอึ้งแต่ก็ดีใจนะ ข้อดีของเที่ยววันธรรมดามันอยู่ตรงนี้แหละ

ตีนกบหรือฟิน ต้องเช่าคู่ 100 บาทจ้า ถ้าใครมีแนะนำให้เอามาเองเพราะมีจำนวนน้อยมากๆ แต่ควรเป็นแบบสั้นๆ ดีกว่า เพื่อป้องกันไปทำลายปะการังโดยไม่รู้ตัว

รถของทางทัวร์มารับไปทำเรื่องผ่านแดนก่อนลงเรือ

เนื่องจากเกาะหัวใจมรกตอยู่ในเขตของประเทศเมียนมาร์ จึงต้องทำเรื่องผ่านแดนเหมือนการออกนอกประเทศเพียงแต่ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต เอกสารทุกอย่างทางทัวร์ดำเนินการให้ เราแค่ส่งรูปบัตรประชาชนให้ทางทัวร์ก่อนเดินทางเพื่อทำเรื่องผ่านแดน เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ถือบัตรประชาชนตัวจริงไปยื่นวันเดินทางแค่นั้นเอง ห้ามลืมบัตรประชาชนโดยเด็ดขาด ไม่งั้นอดเที่ยวนะจ๊ะ[/b

จุดนี้เราต้องทำการยื่นเอกสารด้วยตัวเอง แปบเดียวก็เรียบร้อย

ระหว่างรอเรือข้ามฟาก ฟ้าโปร่งมาก เป็นสัญญาณว่าวันนี้อากาศจะดีสุด (ภาวนาไว้)

เรือต่อแรกนั่งจากฝั่งระนองไปฝั่งพม่า แค่ 5 นาทีก็ถึงแล้ว ^^

หลังจากทำเรื่องผ่านแดนเรียบร้อยหมดแล้ว นั่งรอเรือจุดนี้เกือบชั่วโมง (แอบเซ็ง)

เดี๋ยวมาต่อฮะ ขอทำงานก่อนเกาะสอง

เกาะหัวใจมรกต

เพียง 1 ชม. ก็นั่งเรือมาถึงเกาะหัวใจมรกตแล้ว แต่... คลื่นค่อนข้างแรง เรือจอดเฉยๆ ยังโยกไปโยกมา ถ้าจะลงคงไม่ไหวแน่ๆ

ได้แค่ถ่ายรูปแล้วไกด์ก็พาไปจุดต่อไปคือ เกาะฮอร์สูหรือเกาะเกือกม้า นั่นเอง

เกาะฮอร์สูหรือเกาะเกือกม้า

เป็นเกาะแรกที่เราแวะในวันนี้ ด้านหน้าเหมือนหาดส่วนตัวเลย เราว่าคล้ายๆ อ่าวมาหยานะ 555

อากาศดี+ทะเลสวย+อาหารอร่อย = ความสุข

คุณมีเวลาพอที่จะไปดูโลกใต้ทะเลกับเราสัก 5 นาทีมั้ย รับรองจะไม่มีคำว่า... ผิดหวัง

เกาะตาฟุ๊ก

จุดแรกที่ไกด์พามาดำน้ำเป็นจุดแรกของทริปคือหน้าเกาะตาฟุ๊กนี่เอง ไฮไลต์ของเกาะพม่าคือ "ปะการัง" ใครๆ ก็บอกว่าที่นี่ยังสมบูรณ์มากเหมือนร้อยปีที่แล้ว หยิบแว่นดำน้ำแล้วตามมาดูกันเลย !!

น้ำกำลังลง ทำให้เราเห็นปะการังได้ชัดขึ้น ต้องลอยตัวอย่างเดียวไม่งั้นเท้าจะโดนปะการัง น้ำตื้นมากๆ แค่เมตรกว่าๆ ใครใส่ฟินต้องระวังเท้าโดนปะการังด้วยนะ ความสวยงามสมบูรณ์ของปะการังน้ำตื้นที่ถือว่ายังสมบูรณ์ เต็มไปด้วยปลาเล็กปลาน้อยที่เราไม่เคยเจอในทะเลที่ไหน โอ้โห เยอะอะไรเบอร์นี้ !!

บอกเลยว่าเวลาแค่ 30 นาทีในการดำน้ำ สำหรับเรามันไม่พอจริงๆ บอกไว้เผื่อแกรนด์อันดามันจะผ่านมาเห็น 5555

อยู่ต่อเลยได้มั้ย... หลังจากดำน้ำกันเสร็จแล้ว เรือก็พาเรามาขึ้นเกาะ (จริงๆ เราว่ายขึ้นมาเองก็ได้ โถ่ว)

แค่จุดแรกยังฟินขนาดนี้จุดต่อไปเล่นใหญ่กว่านี้เยอะ เดี๋ยวมาต่อจ้า

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามน้า <3เกาะย่านเชือก

เชื่อว่าใครที่ชอบดำน้ำตื้นจะไม่ผิดหวังกับทริปนี้แน่นอน และขอยกให้เกาะย่านเชือกเป็นพระเอกของทริปนี้เลย

ตื่นเต้นกับความอลังการโลกใต้ทะเล ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้

ในภาพแค่น้ำจิ้ม ของจริงสิสวยมาก !!!

[/center

สำหรับเราแค่นี้เราถือว่าคุ้มมากแล้ว เพราะความสวย ความสมบูรณ์ของปะการัง ทำให้เราบอกเลยว่า 40 นาทีมันไม่พอจริงๆ !!!

เกาะค๊อกคอมหรือเกาะหัวใจมรกต

จุดสุดท้ายที่เราจะแวะดำน้ำของวันนี้คือ เกาะหัวใจมรกต เพราะเมื่อเช้าคลื่นสูงเข้าไม่ได้ ไกด์พาเราวนกลับไปอีกครั้งเพื่อดูว่าเข้าได้ไหม >> ได้เว้ยยย

น้ำลง คลื่นลมสงบทำให้ดำน้ำง่ายขึ้นเยอะเลย ต่างจากเมื่อตอนเช้ามากกระแสน้ำปากถ้ำไหลแรง ค่อนข้างอันตราย แต่เราว่าทริปวันนี้เราโชคดี ทะเลใจดี ทะเลเป็นใจสุดๆ

จุดที่สวยที่สุดน่าจะเป็นปากทางเข้า มีทั้งกัลปังหา ปะการังสีแดง ขอบคุณภาพสวยๆ จากไกด์ด้วยฮะ

อะ มาลองดูที่เราถ่ายมั่ง 555555

ด้านในน้ำใสมากก หอยเม่นก็เยอะมากเช่นกัน เรามีเวลาอยู่ที่นี่แค่ 20 นาที อ่ะ เซลฟี่กันไป

ทริปวันนี้ผ่านไปด้วยดี ใครอยากมาดำน้ำดูปะการังเราว่าที่นี่เกินความคาดหวังมาก ประทับใจมากจริงๆ เก็บไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกเถอะ คุ้มสุด

กลับขึ้นเรือเพื่อเดินทางกลับไปยังเกาะสน นั่งแปบๆ ก็ถีงแล้ว พอไปถึงก็นั่งรถขึ้นไปที่โรงแรมแกรนด์อันดามันเพื่อทานอาหารเย็น ดินเนอร์ที่นี่จัดเต็มจริงๆ ใครจะกลับเลยก็ได้มีเรือกลับฝั่งระนองถึง 5 ทุ่ม หรือจะเล่นน้ำ คาสิโน Duty Free ก็มีนะเออ

แล้วพรุ่งนี้เจอกันทริปเกาะมังกรนะฮะ zZ

หลังจากเมื่อวานได้ตื่นเต้นไปกับเกาะหัวใจมรกตแล้ว วันนี้เรามีนัดกันที่เกาะมังกร แค่คิดถึงกลิ่นลมทะเลก็มีแรงแล้ว ป่ะ ไปเที่ยวกัน

หมู่เกาะมังกร

Lord Loughborough หรือ เกาะลอร์ดลอบอโร่ อีกหนึ่งเกาะที่กระแสมาแรงมาก ว่ากันว่าน้ำใส ทรายละเอียด เหมือนเกาะตาชัย การเดินทางทริปนี้ รถตู้มารับจากโรงแรมไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือศุลกากรระนอง (ประภาคาร) ใกล้ๆ กับท่าเรือแกรนด์อันดามัน ทริปใช้บัตรประชาชนใบเดียวเหมือนไปเกาะหัวใจมรกตเลย โดยรวมๆ แล้วเราว่าเกาะนี้เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปสวยๆ มีเวลาเดินถ่ายรูปบนเกาะเก๋ๆ ใครมีแพลนจะไปเกาะนี้เตรียมพร๊อพไปได้เลย แต่ละจุดของเค้าสวยจริงๆ อ้อ ส่วนที่ดำน้ำก็โอนะ ดำง่าย ปลาเยอะ ปะการังสมบูรณ์ และมันตื้นมาก

ทริปนี้ไม่มีตีนกบให้เช่านะฮะ ไกด์บอกว่าทางพม่าเค้าเข้มงวด ถ้าจะใช้ต้องเตรียมไปเอง

หลังจากทำเรื่องผ่านแดนเสร็จแล้ว ใช้เวลาเดินทางจากระนองประมาณ 1.40 ชม. (สภาพอากาศปกติ) ระหว่างทางผ่านเกาะมากมาย มีคนอาศัยด้วยต่างจากฝั่งทิศที่ไปเกาะหัวใจมรกตฝั่งนั้น อ้อ หมู่เกาะมังกรอยู่ทางทิศเหนือ เกาะหัวใจมรกตอยู่ทิศใต้นะครับ จึงเห็นความแตกต่างของสีน้ำทะเล ความละเอียดของทรายค่อนข้างชัด นั่งเรือมาสักพักก็ใกล้ถึงแล้ว

เกาะลอร์ด เฮเว่น Lord Heaven

จุดแรกของวันนี้ เราแวะถ่ายรูปเฉยๆ เอาพร๊อพที่เตรียมมาถ่ายที่เกาะนี้ได้เลยครับ ที่นี่มีหาดสองฝั่งนะสวยทั้งสองฝั่งเลย

เดินไปเพียง 5 นาทีจะเจออ่าวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหินเล็กหินใหญ่ ปล.ทรายนุ่มมากก

ได้เวลาไปต่อแล้ว นั่นๆ Jelly Fish

อ่าวมังกรนิทรา Sleeping Dragon

เดินขึ้นไปประมาณ 50 เมตร จะได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลพม่าเกือบ 360 องศา อีกจุดนึงที่สวยงามมาก

เกาะดราก้อนเนส (Dragon Nest)

เราทานอาหารเที่ยงบนเกาะนี้ อาหารเป็นข้าวกล่องซีฟู้ดอร่อยๆ นั่งกินข้าวดูน้ำทะเลใสๆ มันดีจริงๆ นะ

หลังจากผ่านช่วงเช้าที่เป็นทริปขึ้นเกาะ เดินถ่ายรูปสวยๆ ไปแล้ว ช่วงบ่ายจะได้ดำน้ำแล้วจ้า ทริปนี้ดำน้ำสองจุดนั่นก็คือ Tomato Point ที่เกาะลอร์ดลอบอโร่และ สวนปะการัง High Garden ป่ะ ไปดำน้ำกัน ขออนุญาตลงรูปใต้ทะเลรวมกันทั้งสองที่เลยนะฮะ ทั้งสองจุดห่างกันไม่ถึง 5 นาที

เนื่องจากทริปวันนี้เราไม่มีตีนกบใส่ ว่ายน้ำไม่ถนัดกลายเป็นลอยตัวอย่างเดียวและกลัวเท้าจะไปโดนปะการังด้วย คุณนายเลยรับหน้าที่ถ่ายรูปใต้น้ำทั้งทริปเลย

ทะเลวันนี้ต่างจากเมื่อวานมาก วันนี้เจอทั้งแมงกระพรุน ทั้งแตนทะเลเยอะมาก คันไปตามๆ กัน

นีโม่ที่นี่ตัวใหญ่กว่ามืออีกอ่ะ และเจอได้ง่ายมาก ยืนบนเรือมองลงไปยังเจอเลยอ่ะ

หอยเม่นเยอะมาก ตัวโตๆ ทั้งนั้น ทั้งแหลมทั้งใหญ่

แมงกะพรุนก็เช่นกัน 555

ทะเลอะไรแค่ยืนบนเรือก็เห็นนีโม่แล้ว ใครชอบดำน้ำตื้นต้องที่นี่เลย มันตื้นมากกก มีไรให้ดูเยอะเลยครับ โดยรวมถือว่าดีเลย

เพราะทะเลพม่าธรรมชาติยังสมบูรณ์มาก

หลังจากจบทริปวันนี้ เรือกลับมาถึงท่าเรือศุลกากรระนอง (ประภาคาร) ประมาณ 17.00 น. รถตู้มารอรับเพื่อขึ้นรถกลับโรงแรมแล้ว

สรุป

จบไปอีกหนึ่งทริปสำหรับทะเลพม่า หากถามถึงความสวยงามของเกาะมังกรและเกาะหัวใจมรกตเราว่าสวยคนละแบบนะ ถ้าเน้นดำน้ำไปเกาะหัวใจมรกตเราว่าทริปนี้อลังการกว่าแต่ก็ต้องเสี่ยงกับสภาพอากาศด้วย ทริปเกาะหัวใจมรกตเราโชคดีมาก ไม่เจอแตนทะเล ไม่เจอแมงกระพรุน คลื่นลมปกติ อากาศดีสุด แต่ถ้าอยากได้ฟิลลิ่งเดียวกับเกาะตาชัยไปเกาะมังกรก็โอเคนะ เอาพร๊อพไปเยอะๆ มุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลย สำหรับเราคุ้มทั้งสองที่เพราะความสดใหม่ ความสมบูรณ์ของท้องทะเล เราอยากให้เค้าอยู่อย่างนี้ไปนานๆ อีกสิบปีข้างหน้ากลับมาก็ยังอยากให้เป็นเหมือนเดิม

ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะฮะ

ขอโทษที่ลงช้าด้วย รูปเยอะมากจริงๆ นี่คัดแล้วคัดอีกอ่ะ

ข้อมูลที่ลงไปอาจผิดหรือไม่ครบถ้วน ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะค้าบ

สุดท้ายนี้. . . กลับไปทำงานกันต่อครับ แบตเต็มแล้ว

สุดท้ายจริงๆ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปนะ ที่อดทนอยู่ด้วยกัน 4 วัน 3 คืน