ดอยหลวงตาก ไม่ลำบาก เราไม่มา เปิดฤดูกาลเดินป่าหน้าฝน ด้วยอารมณ์ที่อยากจะเดินป่าหน้าฝน และไม่อยากไปดอยที่คนไปกันเยอะ และใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ลงเอยที่นี่ ดอยหลวงตาก แต่ทำไมต้องเจอ Concept นี้ เมฆหมอก สายฝน ผู้คน และถุงดำ ตามพวกเราไปชุ่มฉ่ำกันเนอะ


*** ดอยหลวงตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก ในเขตวนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข ที่กำลังสำรวจพื้นที่ขอขึ้นเป็นอุทยาน จุดที่สูงสุด สูงจากระดับน้ำทะเล 1,175 เมตร



ฟอร์มทีมได้ 24 ชีวิต จะเยอะไปไหนเนี่ย ตามๆ กันไป จากกรุงเทพ 2 รถตู้ 20 คน จากลำปางมาสมทบ 4 คน ไปถึงเทศบาลตำบลทุ่งกะเซาะ ถึงเร็วก็หาที่นอนตามสภาพ จะนอนในรถ จะปูผ้าใบ หรือจะผูกแปล เพื่อนอนรอให้สว่าง เรานัดแนะผู้นำทางและลูกหาบมาประมาณ 7 โมงเช้า อุปกรณ์แค้มปิ้งทุกสิ่งอย่างเราต้องเตรียมกันไปเอง เต็นท์ ถุงนอน ผ้าใบ ฟลายชีท ถุงดำ ชุดกันฝน เครื่องครัวทำกิน และอาหารที่ต้องขึ้นไปปรุงและทำกินกันบนดอยให้พอ 24 ชีวิตและเผื่อให้ลูกหาบและเจ้าหน้าที่ด้วย ของกินง่ายๆ ของพวกเราคือ หมูย่าง ต้องแบกหมูขึ้นไปย่างข้างบน ฟิน ซินะ อิอิ


และนี่คือโฉมหน้าพวกเราทั้ง 24 คน สดใสร่าเริง ถึงแม้จะนอนน้อย ไม่หวั่นที่ระยะทาง 11 กิโลเมตร



จากนั้นจัดแพคของเพื่อกระจายให้ลูกหาบและพวกเราแบ่งกันแบกขึ้นไป ส่วนข้าวมื้อเที่ยงระหว่างทางก็สั่งให้เจ้าหน้าที่สั่งร้านอาหารที่หน้าเทศบาล เน้นเลยต้องมีไข่ต้ม ไข่ดาว ของให้พลังงาน ส่วนของกินอื่นที่ไว้กินระหว่างเดิน เราก็เน้นที่มีน้ำตาลให้พลังงาน อย่าให้ร่างกายขาดหวานเชียวนะ ของกินที่เราจัดแจงแบ่งเป็นชุดเซตให้ทุกคนถือ ได้แก่ ข้าวราดกะเพราหมูและไก่ตามด้วยไข่ดาวหรือไข่ต้มแล้วแต่ชอบ กล้วยตาก ข้าวต้มมัดไส้กล้วย ช็อคโกแลต ลูกอม เจเล่บิวติดริ๊ง และขนมอีกนิดหน่อย แค่นี้ก็มีพลังงานเหลือเฟือแล้วค่ะ ลุยยยยยยย !!!!!!


*** แต่ก่อนจะเริ่มเดิน ต้องมีการอบอุ่นร่างกายก่อน (warm up) มาสายวิ่งกันแล้วนิ ต้องนำวิธีการมาใช้กับการเดินป่าด้วย ... ต้องให้ร่างกายได้มีโอกาสเตรียมพร้อม จึงต้องเพิ่มอุณหภูมิให้กับร่างกาย เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ยืดเหยียดมัดกล้ามเนื้อ เส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นที่ดี และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน ซึ่งการวอร์มอัพเป็นหัวใจหลักในการป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย และทำให้เราออกกำลังกายได้ง่ายขึ้นด้วย ... ครูดินกล่าวไว้ (ครูดิน คือ อ.สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองแดงเหรียญแรกให้กับประเทศไทย ในกีฬาซีเกมส์ ปี 2528)

พร้อมแล้วออกเดินทางได้ค่ะ ให้รถตู้ไปส่งจุดเริ่มเดิน


ต้องมีป้ายถึงจะเรียกว่าจุดเริ่มต้น เค้าเรียกว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ดอยหลวงตาก ระยะทาง 11 กิโลเมตร เริ่มเดินกัน 10 โมงกว่าได้อ่ะ แล้วจะถึงกี่โมง ?

แรกเริ่มชิล


พักจุดแรก ยังสดใส ลั๊ลล๊ากันอยู่ ปกติถ้าฝนตกจะมีน้ำเป็นลำธารนี้ สำหรับทริปนี้มีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กอายุ 18 ถึง ผู้ใหญ่วัย 50 ปีนิดๆ แต่หัวใจไม่ชรานะคะ ยังไหวๆ

สภาพป่าเป็นแบบนี้ ราบบ้าง เนินบ้าง


พักบ้าง

ได้ข้าวต้มมัดไส้กล้วย ช่วยเพิ่มพลังงาน

เดินศึกษาธรรมชาติ ลัดเลาะตามป่า สันเขาแคบ ส่วนมากทางขึ้นชัน ฝนตกตลอดทาง เบาสลับหนักบ้าง

แล้วสายฝนก็มาทักทาย ตกหนักเลยนะ แต่พวกเราทุกคนเตรียมพร้อมกับชุดกันฝนมาเต็มที่ เสื้อกันฝน เป้กันน้ำ และถุงดำ ก็ช่วยได้เยอะ

ผสมกับลมแรง จุดที่โล่งไม่มีต้นไม้ช่วยบัง ฝน ก็ตกสลับหยุดพอได้เปียก เย็นสบาย


ใช้เวลาเดิน 6 ชั่วโมง มาถึงจุดลานกางเต็นท์ จะเรียกลานก็คงไม่ใช่ซินะ มันแบบว่า หญ้ารก และเป็นเนินราบ ขรุขระบ้าง เราก็หาที่ราบที่สุดกางเต็นท์ และต้องปักสมอให้แข็งแรงเตรียมรับลม ฝนตกคืนนี้ด้วย

ตัดแปลงที่ตากเสื้อผ้า ^^


และแล้วคืนนี้ก็ฝนตกหนัก ทำหมูย่างกินชุ่มฉ่ำ ดินเนอร์ท่ามกลางสายฝน เม้าท์มอย สลับกับการไปซ่อมเต็นท์ที่จะล้มพังเพราะลมแรง หนุกหนาน ๆ และแถมน้ำยังเจิ่งนองซึมเข้าใต้เต็นท์บางหลัง ก็ต้องใส่ถุงนอน ตามด้วยถุงดำ แล้วใส่เสื้อกันฝนนอน นึกสภาพตามไปด้วยนะคะ ตอนนั้นไม่สามารถจะหยิบกล้องมาถ่ายเก็บไว้ได้ ฮาๆ หลับๆตื่นๆ จากความเพลีย


... จากนั้นตัดภาพมาตอนเช้า แบ่งหน้าที่กันทำกับข้าว หน้าตาคนไม่ค่อยได้นอน แต่ก็ยังยิ้มได้ :)



เช้าสดใส ฝนยังไม่ตก


เดินจากจุดกางเต็นท์ไปอีกหน่อย ตามสันเขา ไปชมวิว ที่ไม่รู้ว่าจะเห็นอะไรนะ เพราะหมอกมันขาววววววไปหมดเลย

ความหวังเริ่มเห็นชัดเจน นั่นๆ ยอดเขา

จุดที่มีป้ายบอกชื่อดอย เรามาถูกดอยแล้วค่ะ ฮาๆๆ

แต่ว่า ... ก่อนนั้นป้ายนี้มันหล่น เราก็ต้องส่งทีมซ่อมแซมติดป้ายแล้วก็ถ่ายรูปกับป้ายตามระเบียบ เด๋วจะหาว่ามาไม่ถึง ^_^

เดินไปต่อ ตามหาวิวในจินตนาการ ขอบอกว่าลมแรงมากกกก ต้องเดินระวังและช่วยเหลือดูแลกันด้วยนะ


มาถึงแล้วววววว มันขาวม๊ากกกกกกก แต่ก็ลั๊ลล๊าถ่ายรูปเล่นประหนึ่งว่าพิชิตยอดดอยหลวงตากได้แล้ว ถึงแม้จะไม่เห็นวิวเหมือนคนอื่นก็ตาม 555+

Keen Gang

รูปที่ได้ทริปนี้ Gopro ซะส่วนมาก เปียกได้ขนาดนี้

โฉมหน้าผู้พิชิตดอยหลวงตาก แบบขาวๆ

ได้เวลาลงไปเก็บของกลับ

ช่วยๆ กัน ถึงแม้จะสร้างภาพบ้าง อิอิ ขยะเก็บใส่ถุงดำให้เรียบร้อย แล้วถือกลับด้วยนะฮะ รักจะเที่ยวธรรมชาติก็ต้องรัษาธรรมชาติด้วย

ขากลับ ฝนก็ตกลงมาประปราย

ขาลงจากที่พัก ซัก 500เมตร ก็จะเป็นจุดชมวิว

เลือกมุมตามใจชอบ

หล่อคนเดียว เดี่ยวๆ

ฟินคนเดียว

สวยคู่

ไม่ควรพลาดกับขาโดด

มีอิสระ

ว้าาาาา จะกลับแล้วเหรอเนี่ย

ยิ้มแป้นรอ ไม่อยากนึกถึงขาลงทางชันเลยอ่า

กลับๆๆ

จุดนี้ถือว่าชันและลื่นมาก ใครฐานไม่มั่นคงก็คงต้องยองๆ ค่อยๆ คลานลงนะ

ต้องเดินตามกันเป็นกลุ่มนะ เพราะบางจุดเราอาจจะสับสนและหลงทางได้ พวกเราก็เกือบหลงทางด้วยดิ ดีที่ยังจำทางมาได้บ้าง

ขาลงก็จะเร็วกว่าขาขึ้นนะ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ ถ้าชีวิตขาลงผ่านไปรวดเร็วแบบนี้ก็ดีซิเนอะ ^_^


*** ข้อมูลการติดต่อ

คุณวี หัวหน้าวนอุทยานน้ำตกห้วยแม่ไข 0848178549

คุณกิตติ เจ้าหน้าที่วนอุทยาน 0848225812

ค่าลูกหาบและเจ้าหน้าที่ วันละ 500 บาท แต่พวกเราก็ให้เพิ่มไปด้วย


จบทริปแบบว่า สนุก ฮา อิ่ม เปียก เมื่อย คัน (ตัวคุ่นมีอยู่บ้างพกยาทาไปป้องกันด้วยนะ) เฮฮาหน้าฝน อาจจะมีงอแงร้องกลับบ้านไปบ้าง แต่ก็ได้อีกรสชาติของชีวิต ... อีกหนึ่งประสบการณ์เดินป่าที่น่าจดจำ สนุกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ความฮา หัวเราะหนักมาก และได้พบกับมิตรภาพดีดีในการเดินทาง


... ฝนตกขี้หมูไหลคนอะไรมาพบกัน :) สำหรับขาเดินป่าต้องได้ลองที่นี่นะ กระจายรายได้ให้กับชาวบ้าน ลูกหาบ และเจ้าหน้าที่ด้วย


ดอยหลวงตาก ไม่ลำบากเราไม่มา


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ตามไปพูดคุยกันได้ที่ Fanpage เที่ยวแล้วยัง กับ มิตรภาพ : www.facebook.com/welikejourney

ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ https://th.readme.me/id/lingple

#welikejourney #เที่ยวแล้วยัง #เที่ยวแล้วyoung

Email : [email protected]

IG : lingple


เที่ยวแล้วยัง

 วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.38 น.

ความคิดเห็น