หมู่บ้านอีต่อง เดิมมีชื่อว่า “หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง” ซึ่งแปลว่า บ้านเทพเจ้าแห่งขุนเขา ต่อมาได้เรียกกันเพี้ยนไปจนเป็นชื่อ “หมู่บ้านอีต่อง” มาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
หมู่บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาปิล๊อก อยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นเมืองเหมืองแร่วุลแฟรม และดีบุก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีตจนมาถึงปี พ.ศ. 2528 เหมืองแร่ต่างๆ เริ่มทยอยปิดตัวลงเหลือไว้แต่เพียงตำนาน แต่ก็ยังคงหมู่บ้านแห่งนี้ไว้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบสุข ความงดงามของธรรมชาติ สายหมอกที่มีตลอดทั้งปี ไอฝน กลิ่นดิน และยังคงวิถีชีวิตของชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาร์ อย่างมีมิตรไมตรีต่อกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ผมขอบอกเลยว่าถ้าใครได้มาเยือน มาสัมผัสที่แห่งนี้ จำเป็นต้องหลงรักผม จนหัวปักหัวปำเลย อะแฮร่ เดี๋ยวๆ ไม่ใช่สิ ฮ่าๆๆ ต้องหลงรักหมู่บ้านในภวังค์หมอกแห่งนี้แน่นอน งงละสิ ไปเที่ยวแค่นี้ทำไมถึงจะทำให้หลงรักได้ อย่าพึ่งงง ลองตามผมมา ว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจ ถึงทำให้หลงรัก
ป่ะๆๆ ตามผมเข้ามาเล้ย ว่า 3 วัน 2 คืน ณ ที่แห่งนี้ ทำไม ทำไม ทำไม ถึงทำให้ผมหลงรักหมู่บ้านแห่งนี้ได้ มาดูกันว่าผมไปเจออะไรมาบ้าง ป่ะๆๆ ตามเก๊ามาเลย.....

Day01
30.07.2560
06.50 น. เดินทางจากบขส.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ไปลงที่ บขส.กาญจนบุรี (ทีแรกตั้งใจจะขึ้นรถรอบ 06.00 เราก็ว่าเรามาทันรถรอบแรกนะ แต่ แต่ แต่ รถมันดันออกก่อน ซวยนั่งรอยาวไป)
09.35 น. ถึงบขส.กาญจนบุรี
10.00 น. นั่งรถตู้จาก บขส.กาญจนบุรี ไปลงตลาดทองผาภูมิ ราคาตั๋ว 115 บาท (อันนี้ใครจะเลือกนั่งรถเมล์สาย กาญจนบุรี สังขละบุรี ไปก็ได้นะครับ)
12.00 น. ถึงตลาดทองผาภูมิ (คิดว่าตกรถซะแล้ว เกือบไป)
12.30 น. นั่งรถสองแถวสีเหลือง สายทองผาภูมิ บ้านอีต่อง (รอบรถจะมีตั้งแต่ 10.30,11.30,12.30 และ13.30 น.) ราคาตั้ว 70 บาทครับผม
15.00 น. ถึงหมู่บ้านอีต่อง
บอกเลยว่าตอนขับรถขึ้นมา ฝนก็เริ่มตกลงมาเรื่อยๆ หมอกเริ่มลง สวยงามตามแบบของธรรมชาติมากๆ บอกเลยครับ สวยสุดๆ เหมือนเราเข้าไปอยู่ในโลกของภวังค์หมอกที่แท้จริง ลองไปสัมผัสดูครับ ว่ามันดีจริงๆ
ปล.ทางขึ้นไปจะมีเป็นหลุม เป็นบ่อบ้างนะครับ ขับรถระมัดระวังด้วยนะครับ เรื่องโค้งไม่ต้องพูดถึง เจอแน่นอนกับ 300 กว่าโค้ง ชิวๆๆ 5555 แต่เกือบแย่เหมือนกัน

และแล้วเราก็มาถึง หมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านในภวังค์หมอก สวยมากๆ
ได้เวลาเก็บข้าว เก็บของ เข้าห้องพัก อยากรู้ใช่เปล่าว่าผมพักที่ไหนถึงเห็นวิวแบบนี้ แล้วท้ายๆจะมาบอกนะครับ
เก็บของเสร็จแล้ว ได้เวลาเดินสำรวจพื้นที่ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แต่แต่ แต่ ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากหมอก ไปดูกันเลยดี

โอ้โห่ หมอกลงหนักมาก ไอหมอก มาสัมผัสกับผิวของเราโคตรดีเลย


มืดแล้วก็ยังหนาอยู่ แต่สวยไปอีกแบบเนาะว่ามะ
เดินอยู่สักะัก เริ่มหิว เริ่มง่วง ไปหารายกินก่อนน้า แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ

Day02
31.07.2560

สวีดัส สวัสดีตอนเช้าครับ
หมอกลงหนักมาก
ตื่นมารอบแรก หมอกยังหนา กลับไปเดินต่อ
ตื่นมารอบที่สอง หมอกก็ยังหนา กลับไปนอนต่อ
ตื่นมาหลายรอบมาก แต่หมอกก็ยังหนาอยู่ ถ้าลงไปก็ยังถ่ายอะไรไม่ได้อยู่ดี

ประมาณสิบโมง หมอกเริ่มบาง ท้องเริ่มร้อง อาบน้ำ อาบท่า เดินลงไปถ่ายรูปชิวๆ หาอะไรกินกันเพลินๆดีกว่า



แห่งโรงแรมร้างนี้หรือเปล่า ถ้าใครได้อ่านรีวิว หลายๆอันจะมีจุดนี้ แสดงอยู่ทุกรีวิวแน่นอน เพราะบรรยากาศหมอกลงเบาๆ ฝนปรอยนิดๆ บรรยากาศเหมือนอยู่สวีตซ์เลยจริงๆ เหมือนมาก
ถ่ายรูปเสร็จแล้วเราเดินเข้าเหมืองปิล๊อกกันดีฟ่า

เหมืองปิล๊อก เป็นคำที่เพี้ยนมาเรื่อยๆ ซึ่งแต่ก่อนในอดีตได้มีการสู่รบกันระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติ และได้มีผู้ล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เกิดความเงียบเหงา จึงถูกเรียกว่า เหมืองผีหลอก และก็เพี้ยนมาเป็น เหมืองปิล๊อก มาจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง


บรรยากาศภายในเหมือง จะมีทั้งซากรถ ซากเครื่องมือทำเหมือง ตั้งแต่อดีตโชว์ไว้ให้เราได้ถ่ายรูปกัน และที่สำคัญ น้ำบริเวณในเหมืองใสมาก ดูจากรูปสิ ใสมากจริงๆ


มีน้ำตกด้วยน้า น่าเล่นจริงๆ



หลังจากที่เดินออกจากเหมืองมา เราก็มาจุดเด่นที่ทุกคนต้องถ่ายรูปกัน อากาศดีมาก สวย สดชื่น ไปดูกันเลยดีกว่า ว่าดียังไง


มาแอบอ่านซะหน่อย เค้าเขียนอะไรกันน้า


แล้วอันนี้อ่านว่ารายอะ อ่านม่ายออก 5555







เดินถ่ายรูปไปสักพักละ เริ่มหิว
อันนี้ข้าวสายนะครับ ไม่ใช่ข้าวเช้า 555 ตื่นมาไม่ทันกินข้าวเช้า
เมนูแนะนำ ยำก็รสเด็ด ไข่กระทะ ก็อร่อย ต้องไปลองนะครับ
ร้าน ครัวเจ๊ณี

มื้อนี้อิ่มมากบอกเลย
ถามว่าทำไมถึงกินอิ่มขนาดนั้น ก็เพราะว่าเราจะเดินขึ้นเขาไปพิชิตเนินช้างศึกกัน มันสูงมากจริงๆนะ

ป่ะๆ ไปพิชิตเนินช้างศึกกัน กับระยะทาง 1.2 กม บอกเลยว่าเหนื่อยมาก แต่พอเห็นวิวแล้ว โคตรสวยเลย สวยยังไง ไปดูกันดีกว่า

วิวแรกเห็นหมู่บ้านที่อยู่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา

มองซ้ายก็หมอก


มองหลังก็หมอก

มองขวาก็หมอก



มองหน้าก็ เห้ยๆๆ ถึงเนินช้างศึกแล้ว
ขอบคุณที่ฟ้าเปิดให้ดูวิวน้าา นึกว่าจะไม่เห็นซะแล้ว

เห็นเขาลูกนั้นเปล่า นั่นก็คือ เขาช้างเผือกนั่นเอง ที่ใครๆก็อยากไปพิชิต รวมถีงเก๊าด้วย อยากไป อยากไป


ยิ่งมองยิ่งหลง





แล้วในที่สุดหมอกก็มาปิด เพื่อบอกเราว่า ให้เดินลงไปได้แล้วนะ

ขณะที่ผมเดินลง ให้เดาว่าเกิดรายขึ้น
ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก
ลื่นจ้า ใช่ๆ ลื่นแบบตื่นกระแทกอย่างจัง ดีนะกล้องไม่พัง อ้าวๆๆ ไม่ห่วงตัวเองเลย 555 ตอนนั้นห่วงกล้องมากจริงๆ 555
พอตั้งตัวได้
บรรจงเดินอย่างมีสติ ทันที
แล้วก็ถึงด้านล่างอย่างปลอดภัย พร้อมที่ดูดเลอะขี้โคลนมากๆ ฮ่าๆ

ผม : เจ้าหมา ขอถ่ายรูปหน่อยสิ
เจ้าหมา : ได้ครับ พี่มานุด
ผม : มองกล้องหน่อย
เจ้าหมา : มองแล้ว จิกกล้องด้วยนะ พอได้เปล่ามานุด
ผม : หล่อเลย (เดี๋ยวๆ ตัวผู้ตัวเมียฟ่ะ ลืมดูเบย ฮ่าๆ)

กลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
เดินถ่ายรูปต่อ ทีแรกกะว่าจะเดินไปเนินเสาธง แต่ดูจากสภาพตัวเองแล้วไปไม่ไหวแน่ๆ เดินเล่นอยู่บริเวณกางเต็นท์ก็แล้วกัน

วิว ที่นี่หลักล้านจริงๆ เดินถ่ายรูปเพลินเลย

วิถีชีวิต ที่ควบคู่ไปกับธรรมชาติ

เริ่มเย็น หมอกเริ่มมา บรรยากาศโคตรดี




ขวาซ้าย หน้าหลัง ปกคลุมไปด้วยหมอก



Day03
01.08.2560

ยังไม่อยากกลับเลย แต่ก็ต้องกลับ เสียใจทุกครั้งที่ต้องจาก จากที่ที่เราอยากไปมากที่สุด เพียงแค่เก็บไว้ในความทรงจำ แล้วจะกลับมาหาใหม่นะ

บรรยากาศช่วง 06.30 น. พระมาบิณฑบาตร พร้อมเสียงเณรที่ร้องตลอดทา

บรรยากาศช่วง 06.30 น. พระมาบิณฑบาตร พร้อมเสียงเณรที่ร้องตลอดทา



ภาพความทรงจำที่เก็บไว้ในหัวใจ ของ วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว แล้วผมจะกลับไปหาใหม่นะครับ

ตอนกลับนั่งรถสองแถวสีเหลือง สายทองผาภูมิบ้านอีต่อง เหมือนเดิมนะครับ
รถรอบสุดท้ายที่ลงจากบ้านอีต่อง คือ รอบ 07.30 น. นะครับ ย้ำว้า 07.30 น.คือรอบสุดท้ายที่ลงจากบ้านอีต่องนะครับ จดไว้เลย เดี๋ยวตกรถนะจะบอกให้ครับผม

ที่พักสำหรับ 2 คืนที่ผ่านมา
ผมพักที่ ที่พักบ้านอีต่อง บ้านปิล๊อก อีต่องโฮมสเตย์ 0922491915 นะครับ ราคาแต่ละช่วงจะไม่เหมือนกัน ลองติดต่อสอบถามกับทางที่พักได้เลยนะครับ
แนะนำห้องที่ 6 ด้านบนนะครับ เห็นวิวสวยมาก

รอยยิ้ม
จากหัวใจ
จากระหว่าง

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงหน้าสุดท้ายนี้นะครับ
ผมอยากให้คุณลองไปสัมผัสหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ดูนะครับ แล้วคุณจะหลงรัก หลงมนต์เสน่ห์แห่งนี้ คุณลองไปสัมผัสดู แล้วคุณจะรู้สึกว่า มันดีต่อใจมากจริงๆ

ฝากติดตาม ฝากกดไลค์ กดแชร์ ด้วยนะครับ
ขอบคุณมากจริงๆ
แล้วเจอกันใหม่ในทริปหน้านะครับ
วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

สรุปค่าใช้จ่าย
-ค่ารถเมล์จากด่านช้างไปบขส.กาญจนบุรี 75 บาท รวมไปกลับ 150 บาท
-ค่ารถตู้จากบขส.กาญจนบุรี ไปตลาดทองผาภูมิ 115 บาท รวมไปกลับ 230 บาท
-ค่ารถสองแถวจากตลาดทองผาภูมิ ไปบ้านอีต่อง 70 บาท รวมไปกลับ 140 บาท
-ค่าห้องพัก คืนละ 600 บาท 2 คืน รวม 1200 บาท
ปล.ราคาห้องพักอาจจะเปลี่ยนไปตามวัน และช่วงเทศกาลนะครับ ราคาจะไม่เหมือนกัน
-ค่าอาหารการกินรวมทั้งหมด ประมาณ 400 บาท

สรุปรวมค่าใช้จ่ายตลอดทริปทั้งหมดประมาณ 2,120 บาท ครับผม













วิ ศ ว ะ พ า เ ที่ ย ว

 วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.58 น.

ความคิดเห็น