สระบุรีเลี้ยวขวา แต่ไม่ต้องเลี้ยวไปไกลถึงโคราช หรือภาคอีสานหรอกนะ เพราะเลี้ยวไปใกล้ๆ แค่อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก ก็มีอะไรนับไม่ถ้วนให้ต้องร้องโอ้โหกันแล้ว และสำหรับคนรักธรรมชาติที่อาจไม่รู้ จะบอกให้ว่าสระบุรีเป็นป่าภาคกลางที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยังไงล่ะ

ดังนั้น นึกถึงธรรมชาติใกล้กรุง นึกถึงแก่งคอย มวกเหล็ก ได้เลย

ต้นฤดูฝนที่ผ่านมา มีโอกาสชวนเพื่อนพกเต็นท์คนละหลัง ขับรถไปลุยทริปแก่งคอย มวกเหล็ก สามวันสองคืน มาครับ ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น รู้จักอะไรที่ไม่เคยรู้จักเพียบเลย แถมยังได้หมุดหมายใหม่ที่คราวหน้าอยากจะกลับมาแก้มืออีกเพียบ

เส้นทางง่ายๆ โรงสี กาแฟ > ผาเสด็จ > วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ > เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า > น้ำตกเจ็ดคต > สวนรุกขชาติมวกเหล็ก > น้ำตกเจ็ดสาวน้อย > น้ำตกดงพญาเย็น > น้ำตกผาแดงซับพลู > Cafe ‘33

สามวันสองคืนใกล้แค่นี้ ได้เห็นได้เจออะไรมาบ้าง ตามมาเที่ยวกันครับ

รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์เที่ยวภาคกลาง www.tiewpakklang.com หรือ www.facebook.com/tatcentralregion



ปักหมุด 1 : โรงสี กาแฟ

ขับรถออกจาก กทม. สายๆ ถึงสระบุรีเลี้ยวขวาท้องเริ่มหิวพอดี แวะตัวอำเภอแก่งคอยสักหน่อยที่ โรงสี กาแฟ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม บรรยากาศเข้าท่า โล่งโปร่งสบาย ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงสีข้าวเก่าริมแม่น้ำป่าสัก พอเหลือบรรยากาศวันวานให้เป็นกลิ่นอายเล็กๆ

อาหารเด่นเป็นพวกเมนูยุโรป สเต็ก ไส้กรอก ขาหมู สปาเก็ตตี้ แต่อาหารไทยจานเดียวก็มีเหมือนกัน เมนูน่าลองพวกข้าวผัดต้มยำ ข้าวผัดน้ำพริก เครื่องดื่มแก้วละ 60-80 บาท อาหารจานเดียว 80-120 บาท เมนูแบบยุโรปก็แพงขึ้นอีกหน่อย

โดยรวมแวะพักแวะทานข้าวสบายๆ ไม่เสียหาย เป็นร้านยอดนิยมของคนในพื้นที่เหมือนกัน

อยู่สุดถนนเทศวิวัฒน์ ตัวอำเภอแก่งคอย
เปิด 10.00-18.00 น. ปิดทุกวันที่ 10 และ 25 ของเดือน
www.facebook.com/RongSiCoffee
โทร. 0864403285


ปักหมุด 2 : ผาเสด็จ

ผ่านไปผ่านมาก็นาน ได้ยินชื่อมาก็ตลอด หากไม่แวะคราวนี้ก็ไม่รู้จะแวะคราวไหนแล้ว

ผาเสด็จเป็นชะง่อนหินใหญ่ริมทางรถไฟซึ่งได้รับการสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร และ สผ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จประพาสเส้นทางรถไฟสายอีสานซึ่งกำลังก่อสร้างและทรงประทับแรมบริเวณนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2439

นอกจากชะง่อนหินดังกล่าว ยังมีศาลาหลวงพ่อผาเสด็จ และพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 เป็นจุดที่ทางรถไฟวิวสวยทีเดียว โอบล้อมด้วยต้นไม้เขียวๆ ไม่ได้เป็นทางรถไฟบนทุ่งโล่งเหมือนที่มักเห็นกัน เหมาะให้สายชิคสายฮิปมาเดินถ่ายภาพเล่นทั้งที่ผาเสด็จและสถานีรถไฟผาเสด็จซึ่งอยู่ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร

อยู่ระหว่างอำเภอแก่งคอยไปอำเภอมวกเหล็ก
จากถนนมิตรภาพขาออก มีป้ายบอกทางเลี้ยวเข้าผาเสด็จและสถานีรถไฟ


ปักหมุด 3 : ถ้ำพระโพธิสัตว์

เปิดหาที่เที่ยวในอากู๋เห็นว่าน่าสนใจเลยขอยลสักหน่อย พอไปถึงแล้วถึงกับร้องโอ้เพราะในถ้ำมีไฮไลท์สำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา คือภาพสลักนูนต่ำสมัยทวารวดีแสดงเรื่องราวพระพุทธเจ้าเทศนาโปรดพระเจ้าสองพระองค์คือพระศิวะ พระวิษณุ เก่าแก่ สวยงาม และมีนัยยะทางศาสนามากๆ

การเที่ยวชมถ้ำให้เราขับรถไปจอดที่วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ได้เลย จากนั้นติดต่อพระภิกษุผู้ดูแลเพื่อขอกุญแจเปิดประตู (ล็อคไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ขอเข้าชมได้ตลอด) ออกแรงเหนื่อยเดินขึ้นเขาอีกสักสิบนาทีก็จะถึงปากถ้ำ

ถ้ำพระโพธิสัตว์ขนาดไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างโปร่ง ติดไฟส่องสว่างอย่างดี นอกจากภาพสลักบนผนังหินก็ยังมีพระเจดีย์ และพระพุทธรูปอื่นๆ รวมถึงหินงอกหินย้อยพอหอมปากหอมคอให้เที่ยวชมครับ

อยู่ที่ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย
จากถนนมิตรภาพขาออก มีป้ายบอกทางสู่วัดถ้ำพระโพธิสัตว์
ขับรถเข้ามาอีกประมาณ 10 กิโลเมตร
ไม่มีกำหนดเวลาเปิดปิดเพราะอยู่ในเขตวัด เที่ยวชมตามความเหมาะสม


ปักหมุด 4 : ถ้ำธรรมทัศน์

อยู่ภายในวัดถ้ำพระโพธิสัตว์เช่นกัน เส้นทางเดินผ่านปากถ้ำต่อเนื่องกันด้วย แต่ต่างกันตรงถ้ำธรรมทัศน์เป็นถ้ำขนาดใหญ่กว่า ลึกราว 400 เมตร ไฮไลท์เด่นคือความสวยงามทางธรรมชาติ มีหินงอกหินย้อยสวยๆ หลายจุด

เที่ยวชมถ้ำนี้ต้องพกไฟฉาย ติดต่อคนนำทาง รวมทั้งขอกุญแจเปิดประตูจากทางวัด วันที่เราไปเที่ยวหลวงพ่อผู้ดูแลเดินนำด้วยตัวเองเลยเชียวล่ะ ข้างในสวยเลยครับโดยเฉพาะถ้าใครไม่ได้เที่ยวถ้ำบ่อยๆ และยังเป็นถ้ำที่ปลอดภัยด้วย เส้นทางเดินต้องผจญภัยเล็กน้อยกำลังสนุกแบบหอมปากหอมคอ ไม่ยากเกินกำลัง คุ้มค่าต่อการออกแรง

อยู่ภายในวัดถ้ำพระโพธิสัตว์


ปักหมุด 5 : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า

เจ็ดคดที่นี่สะกดด้วยตัว ด.

ยอมรับเลยว่าตอนเห็นภาพสถานที่กางเต็นท์เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ช่วงหน้าหนาวหรือตอนเทศกาลที่เพื่อนๆ เคยมากันก็รู้สึกว่าที่นี่พลุกพล่าน อึดอัด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลี่ยง แต่พอมาเที่ยวเองโดยเลือกวันธรรมดากลางฤดูฝน ทุกอย่างก็เหมือนกับคนละโลก ที่นี่… สุดยอด

ลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำซับป่าว่านบรรยากาศดีมาก มาก มาก มาก… วันที่ไปรวมเราแล้วมีนักท่องเที่ยวแค่สามกลุ่มไม่ถึงสิบคน สงบเงียบ อากาศสดชื่น ดีต่อใจ ดีต่อกาย มองไปทางไหนก็เขียวขจีดีต่อสายตาสุดๆ

ค่ากางเต็นท์บำรุงสถานที่ไม่กำหนด ให้ได้ตามสะดวก ไม่มีเต็นท์และอุปกรณ์ให้เช่าต้องเตรียมมาเอง มีร้านสวัสดิการขายของเล็กๆ น้อยๆ และวันธรรมดาก็ปิดเร็ว ดังนั้นอาหารมื้อหลักควรนำมาเอง ห้ามก่อกองไฟบนพื้นหญ้าแต่สามารถจุดเตาและเตาแก๊ส ห้องน้ำห้องอาบน้ำสะอาดและดีมาก ทางศูนย์มีบ้านพักให้บริการหลายหลังด้วยนะครับ

ที่นี่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินและจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย แต่ก่อนไปควรติดต่อสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เพราะบางช่วงอาจปิดเส้นทางหากสภาพอากาศไม่เหมาะสมหรือมีอุปสรรคในการเที่ยวชม

เข้าจากถนนมิตรภาพฝั่งขาออกที่ตำบลทับกวางมาประมาณ 19 กิโลเมตร
มีป้ายบอกด้านหน้าทางเข้า และป้ายบอกตลอดทาง
เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปติดต่อพักแรมถึง 20.00 น.
โทร. 0892378659, 0800192762


ปักหมุด 6 : น้ำตกเจ็ดคต

เจ็ดคตที่นี่สะกดด้วยตัว ต.

ใจจริงอยากเดินป่าลุยน้ำตกโกรกอีดก แต่บังเอิญตอนนี้โกรกอีดกยังปิดเส้นทางอย่างไม่มีกำหนด (เป็นเรื่องภายในรอจัดการให้เสร็จค่อยเปิดใหม่) เลยเบี่ยงเป้าไปน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ไม่ไกลกัน น้ำตกเจ็ดคต หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.18

ทางเดินจากสำนักงานถึงน้ำตกราวสองกิโลเมตร ทางราบตลอดไม่ยากมาก ข้ามลำธารไปมาสองรอบ เจ้าหน้าที่บอกว่าเห็ดแชมเปญกำลังเริ่มออก ถือว่าเรามาถูกเวลาเหมือนกันนี่ และเพราะอะไรต่อมิอะไรรายทางให้ดูเยอะไปหมด ทำให้ทางสั้นๆ เราใช้เวลาไปกลับรวมกันสี่ชั่วโมงกว่าๆ (ฮา…)

เจ็ดคตเป็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่ครับแต่ก็เล่นน้ำแช่น้ำได้สบายใจ โดยเฉพาะวันธรรมดาซึ่งนักท่องเที่ยวบางตามาก นอกจากผมกับเพื่อนก็มีอีกเพียงสองคนที่เดินเข้ามาเที่ยวน้ำตกตามหลังพวกเราสักพัก

สรุปแล้วเส้นทางเดินน้ำตกเจ็ดคตเป็นอะไรที่เหมาะกับคนอยากลองเที่ยวเดินป่าแบบไม่ยากมากครับ

อยู่ห่างจากศูนย์ฯ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ประมาณ 7 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางตลอด
เปิดให้เที่ยวชม 8.00-16.30 น


ปักหมุด 7 : น้ำตกมวกเหล็ก

เดินต่อจากแก่งคอยมาถึงอำเภอมวกเหล็กกันบ้าง มาถึงนี่แล้วก็ต้องแวะสักหน่อย สวนรุกขชาติมวกเหล็ก ชื่อบอกแล้วว่าอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งลักษณะของสวนรุกชาติก็จะเป็นพื้นที่ธรรมชาติขนาดเล็กใกล้แหล่งชุมชน จัดทำเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และที่มวกเหล็กก็ฮอตฮิตคนมาเล่นน้ำนานนมหลายสิบปีแล้วล่ะ

ที่นี่เป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ ในลำห้วยมวกเหล็กซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตอำเภอมวกเหล็ก สระบุรี กับอำเภอปากช่อง นครราชสีมา เดินข้ามสะพานไปมาระหว่างสองจังหวัดเล่นๆ สนุกสนานดีนะ (ฮา…) น้ำตกลงเล่นได้หลายจุด และยังมีบ้านพักบริการด้วย (แต่ไม่มีสถานที่กางเต็นท์) ไม่เสียค่าเข้าครับ คิดค่าพื้นที่จอดรถ 10 บาท

อยู่ในตัวอำเภอมวกเหล็ก ใกล้กับตลาดมวกเหล็ก
เปิด 8.00-17.30 น.
โทร. 036344100


ปักหมุด 8 : น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

หลังจากรอมานาน ในที่สุดที่นี่ก็ประกาศตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการสักที เพราะฉะนั้น… เสียค่าเข้าแล้วล่ะนะ แต่แบบเบาๆ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท เท่านั้นเอง

เหมือนกับน้ำตกเกือบทุกแห่งของมวกเหล็กคืออยู่ในลำห้วยมวกเหล็กนั่นแหละ จากน้ำตกมวกเหล็กต่อมาก็ถึงน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ที่มาของชื่อคือเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ ทั้งหมดเจ็ดชั้น แน่นอนว่าเป็นเขตมวกเหล็ก-ปากช่อง เช่นกัน เพราะฉะนั้นเที่ยวที่เดียวข้ามไปข้ามมาสองจังหวัดครับ

ว่ากันตามตรงกับการเป็นอุทยานแห่งชาติ น้ำตกที่นี่ไม่สวยมากเพราะกว่าจะไหลผ่านมาถึงตรงนี้ต้องผ่านทั้งชุมชนและพื้นที่เกษตรมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนยอดนิยม ถ้ามาเสาร์-อาทิตย์ ขอบอกว่าคนอย่างเยอะ ดังนั้นหาโอกาสมาวันธรรมดาจะชิลกว่าเยอะ

เรามาถึงที่นี่บ่ายแก่ๆ นักท่องเที่ยวบางตา เดินเที่ยวน้ำตกและเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขียวๆ สักพักฝนก็ตั้งเค้า ดังนั้นรีบกางเต็นท์ดีกว่า ลานกางเต็นท์ชื่อว่าลานนับดาว เพิ่งปรับปรุงพื้นที่เสร็จไม่นาน ลานอย่างเรียบและดีมาก ปลอดภัยเพราะอยู่ด้านหลังบ้านพักเจ้าหน้าที่ ห้องน้ำสะอาด มีไฟฟ้าให้ชาร์ตแบตที่ศาลาบริการนักท่องเที่ยว สำคัญที่สุดที่นี่ให้บริการฟรีไม่เสียสตางค์ครับ

แค่เราสองเต็นท์ในคืนนี้ ฟินๆ นอนฟังเสียงฝนพรำกันไป

อยู่ริมทางหลวง ทล.2224 ห่างจากตัวอำเภอมวกเหล็กประมาณ 18 กิโลเมตร
เปิด 8.00-17.00 น.
โทร. 036346586


ปักหมุด 9 : น้ำตกดงพญาเย็น

พูดแบบไม่โป้ปด สวยหรือไม่ อยู่ที่มาเมื่อไหร่ เพราะอะไรที่เข้าถึงง่ายๆ คนย่อมเยอะเป็นธรรมดา

น้ำตกดงพญาเย็นคือน้ำตกเล็กๆ ในห้วยมวกเหล็กนั่นแหละ อยู่ถัดลงมาจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยสักสองกิโลเมตร ความแตกต่างคือตรงนี้มีร้านอาหารริมน้ำ (ได้รับอนุญาตจากสถานีควบคุมไฟป่าผู้ดูแลพื้นที่แล้ว) ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม มีแคร่ไม้ไผ่ให้นั่งเล่นนั่งกินนั่งชิล มีห่วงยางและชูชีพให้เช่าเล่นน้ำด้วย

ใครชอบความคึกคักให้มาเสาร์-อาทิตย์ รับรองวี้ดว้ายสมใจ หากมาวันธรรมดาตอนเช้าๆ แบบเราก็จะได้เจอกับความสงบสบาย

เราแวะมาที่นี่หลังตื่นเช้าเก็บเต็นท์เสร็จสรรพจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อย มาทานเบรกฟาสต์แบบอีสานๆ จ้วงข้าวเหนียวส้มตำกันตั้งแต่มื้อแรก (ฮา…) ราคาอาหารออกจะสูงกว่าทั่วไปสักหน่อยตามสไตล์ร้านอาหารริมน้ำตก แต่รสชาติและความสะอาดโอเคอยู่นะ นั่งเล่น ทานอาหาร พักผ่อน อยู่ได้เรื่อยๆ

อยู่ริมทางหลวง ทล.2224 เลยจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยไปเล็กน้อย
เปิดประมาณ 8.00-18.00 น.


ปักหมุด 10 : น้ำตกผาแดงซับพลู

“น้ำตกอะไรนะ” เพื่อนถามตอนที่ผมบอกว่าน้ำตกสุดท้ายของทริปครั้งนี้คือน้ำตกผาแดงซับพลู หรือน้ำตกซับเหว เพราะตั้งอยู่ที่บ้านซับเหว นั่นแหละครับที่ที่เราไม่รู้ไม่เคยเห็นเนี่ยไปทีไรก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเสมอ

เปิดจีพีเอสโลด หลงทางเสียเวลาไปหนึ่งดอกตามฟอร์ม (ฮา…) แต่สุดท้ายก็ไปถึงศูนย์ธุดงค์ธรรมสถานถ้ำน้ำตกผาแดงซับพลู ถามพระท่านว่าน้ำตกไปทางไหนแล้วเดินเข้าไปเลย (ทางเข้าอยู่ข้างโรงครัว) ระยะทางไม่ไกลสัก 400-500 เมตร ทางรกไปหน่อยแต่ชัดเจนดีมาก พอถึงที่หมายแล้วก็อย่างที่เห็นครับ… ร้องโอ้วเลยทีเดียว

น้ำตกผาแดงซับพลูเป็นน้ำตกสูงชั้นเดียวแต่สวยมาก อารมณ์เหมือนน้ำตกหินปูนยุคดึกดำบรรพ์ ถึงน้ำจะไม่เหมาะแก่การเล่น และสถานที่ก็ไม่เหมาะจะเล่นเพราะอยู่ในเขตสงฆ์ แต่ก็คุ้มค่ามากกับการได้มาชมความสวย เป็นน้ำตกชื่อไม่ดังแต่ยกนิ้วให้เลยครับ

อยู่ที่ศูนย์ธุดงค์ธรรมสถานถ้ำน้ำตกผาแดงซับพลู บ้านซับเหว
ห่างจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยประมาณ 23 กิโลเมตร
ไม่มีกำหนดเวลาเปิดปิด เที่ยวชมตามความเหมาะสม


ปักหมุด 11 : Cafe’ 33

จบทริปสายลุยเรียบร้อยแล้ว ขาแข้งอ่อนแรงนิดหน่อย แบบนี้ต้องหาร้านนั่งชิลแอร์เย็นๆ พักสักนิดก่อนกลับ กทม. เลยขอแวะเข้าตัวอำเภอแก่งคอยอีกรอบ แนะนำร้านนี้ Cafe ’33 มาแล้วต้องกรี๊ด ร้านเล็กๆ แต่น่ารักถูกใจคนโซเชียลขาอัพรูปแน่นอน

นอกจากกิ๊บและเก๋ สิ่งสำคัญที่สุดของร้านกาแฟคือกาแฟอร่อย แถมมีเมนูซิกเนเจอร์แนะนำสาวๆ แบล็คโกโก้ ปกติโกโก้ธรรมดาก็ว่าเข้มแล้วเจอแบบนี้เข้มขึ้นอีก ผมสั่งเมนูนี้แหละอร่อยมากครับ ราคาก็ไม่แพง เครื่องดื่มเริ่มต้น 50 บาท แพงสุด 75 บาท เป็นร้านทางผ่านที่หลงรักและประทับใจมาก

อยู่ถนนสุดบรรทัด (ทล.3188) ห่างจากตัวอำเภอแก่งคอย 2 กิโลเมตร
เปิดทุกวัน 7.00-18.00 น.
www.facebook.com/mycafe33
โทร. 0840961713

นั่นแหละทริปสระบุรี สามวันสองคืน กางเต็นท์เที่ยวใกล้กรุงของผม เป็นทริปที่ต้องบอกเลยว่าติดใจมาก และแน่นอนว่ามีโอกาสจะไปสำรวจ แก่งคอย มวกเหล็ก อีกครั้ง เพราะจากสิ่งที่ได้เห็นมายังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยครับ


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง

http://www.facebook.com/alifeatraveller


นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller

 วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.13 น.

ความคิดเห็น