Zao Onsen Town เป็นเมืองออนเซน และสถานที่เล่นสกรีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ในจังหวัดยามากาตะ

จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ไม่ใช่มาเล่นสกรี หรือมาออนเชน แต่เรามาเพื่อชม "snow monster"

จากสถานียามากาตะ ทางออก East Exit ลงบันไดเลื่อนแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆจะพบกับห้องจำหน่ายตั๋วรถบัสครับ

เข้าไปภายในห้องจำหน่ายตั๋ว ขอซื้อตั๋วรถบัสไป Zao Onsen เจ้าหน้าที่แจ้งราคา 1,000 เยน ชำระเงินแล้วจะได้รับตั๋วนี้

สอบถาม ตั๋วขากลับ เจ้าหน้าที่ให้ไปซื้อได้ที่สถานีปลายทางครับ

ระหว่างนั่งรอในห้องจำหน่ายตั๋ว (ข้างนอกหนาวมาก) มีนักท่องเที่ยวมาซื้อตั๋วรวม เราได้ยิน จึงขอเปลี่ยนตั๋วมาเป็นตั๋วรวมบ้าง

ตั๋วรวมนี้จะรวมค่ารถบัสไปกลับ Zao onsen และค่ากะเช้าไปกลับ Zao Ropeway ครับ ราคาถูกกว่าซื้อแยก 1,000 เยน

เมื่อซื้อตั๋วรวม เจ้าหน้าที่จะให้แผนที่มาฉบับหนึ่ง ตามรูปครับ

เจ้าหน้าจะอธิบายว่าถึงสถานีปลายทางให้เดินไปตามเส้นทางในแนที่เพื่อขึ้นกะเช้าอีกทอด

ด้านหลังแผนที่มีตารางรถบัสไปกลับด้วยครับ

เดินออกจากห้องจำหน่ายตั๋วไปห้องน้ำที่อยู่ติดกัน จะมีตู้ locker ให้ฝากกระเป๋าด้วย

เดินไปรอที่ป้ายรถเมล์ ป้ายที่ 1 กัน เนื่องจากตั๋วไม่มีที่นั่ง คนไปรอก่อนได้ขึ้นไปเลือกที่นั่งก่อนครับ

ที่ป้ายรถเมล์ จะมีตารางเวลารถไป Zao Onsen ด้วย

ตารางรถบัสครับ

ผมเดินทางรอบ 08:40 น. รถมาก่อนเวลาประมาณ 5 นาที ขึ้นไปบนรถกันเลย

วิวระหว่างทางไป Zao Onsen

ถึงสถานี Zao Onsen แล้ว

ภายในสถานีมีที่จำหน่ายตั๋วขากลับ ใครซื้อตั๋วเป็นเที่ยวมา ซื้อขากลับไว้ได้เลย

สำหรับผู้ที่จะฝากกระเป๋าสามารถฝากเข้า Locker ได้ครับ มีให้บริการพอสมควร

ดูตารางรถบัสขากลับกันไว้ก่อน ผมไม่รีบจึงยังไม่กำหนดเวลากลับครับ กะเที่ยวให้ทั่วๆ

เดินออกประตูเลี้ยวขวา ไปตามถนนเส้นนี้เลย ระยะทางไกลพอควร มากกว่า 500 เมตรนะ

เดินผ่าน Zao Chuo Ropeway

ถึง Zao Rope Way แล้วครับ เดินเข้าไปกันเลย

สำหรับคนที่ไม่มีตั๋ว สามารถซื้อตั๋วได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วครับ

ผมมีตั๋วแล้วเดินขึ้นไปรอขึ้น Rope way ได้เลย

ระหว่างแสดงบัตร เจ้าหน้าที่ให้นั่งรอที่เก้าอี้เหลือง คนอื่นๆไปต่อคิวขึ้น rope way งง ?

สักพักเจ้าหน้าที่ก็นำบัตรตัวจริงมาเปลี่ยนให้ครับ บัตรไปกลับ Rope Way จะเป็นตามรูปนี้นะครับ

ไปต่อคิวขึ้น Rope Way กันเลย

ขาขึ้นมีคนขึ้นเต็มพอดี ไม่แน่น เราสามารถถ่ายรูปได้บางส่วน

ลงกะเช้าช่วงที่หนึ่ง ผมรอให้คนอื่นไปก่อน จะได้ไปว่างๆหน่อย เวลา 09:50 น. ทำไมหนาวจัง

รอขึ้นกะเช้าช่วงที่ 2 ครับ มีบางคนลงมาแล้วด้วย

วิวระหว่างทางกะเช้าช่วงที่ 2 มีช่องว่างให้ถ่ายรูปหน่อย

ถึงจุดหมายแล้วครับ JIZO SANCNO STATION ใส่ถุงมือหมวก แล้วออกไปสัมผัสอากาศหนาวกันเลย

เก็บบรรยากาศมาฝาก

มีระฆังให้ตีด้วย

ป้ายแสดงทางไปเล่นสกรี

พระพุทธรูป มาถึงจุดนี้อย่าลืมออกมาถ่ายรูปกันด้วยครับ เก็บไว้เทียบกับคนอื่นๆว่าช่วงที่มา ใครหิมะสูงกว่ากัน

ไปคนเดียวต้องหน้าหนา ขอให้คนอื่นถ่ายรูปให้หน่อย ใช้ iphone 6S คนถ่ายใจดีมาก ทนหนาวมือถ่ายให้

เส้นทางที่จะไปถ่ายรูป Snow Monster ครับ

ผมทนหนาวไม่ไหว ขอกลับเข้ามาในอาคารก่อนครับ มือแข็งหมดแล้ว Zao หนาวกว่ามาก

อุณหภูมิ ตอนี้แค่ -6.1 องศาเอง

สำหรับคที่จะเช่าเครื่องลางสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ครับ 600 เยน

นั่งด้านในสักพัก มือหายแข็งแล้วออกไปถ่ายรูป Snow Monster กันต่อ

เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพิ่งสังเกตว่าเรายืนอยู่บนยอดไม้ หิมะบางช่วงอ่อนเหยียบยุบไปเยอะ เดินกลับดีกว่าครับ

หันกลับไปดูสถานีที่เราเดินมา เก็บภาพไว้หน่อย อิอิ

กลับเข้ามานั่งทำใจก่อน รอให้คลายหนาวลงบ้างก็ขึ้นไปบนระเบียงด้านบนเพื่อถ่ายรูป ด้านบนมีลมแรงด้วย หนาวมาก

หนาวทนไม่ไหวขอเข้าไปหาที่อุ่นๆก่อน เดินอ้อมไปอีกด้านเพิ่งเห็นว่ามีร้านอาหารด้วย เข้าไปสั่งอาหารนั่งพักกันก่อน

ภายในห้องอาหารมีเก้าอี้เยอะนะครับ สั่งอาหารที่เคาร์เตอร์ แล้วเข้าไปหาที่นั่งกินได้เลย

เมนูอาหารวันนี้ ราคาสูงกว่าปกติเล็กน้อย

ผมเลือกรายการแรกเลยครับ ชี้ที่รูปอย่างเดียว อ่านไม่ออก 555

ระหว่างรออาหาร นั่งถ่ายรูปวิวไปพลางๆ ครับ วิวสวยดี ชอบจัง อิอิ

ได้เวลากลับแล้ว ผมไปรอขึ้นกะเช้ากลับคนเดียวเลย เดินถ่ายรูปได้รอบเลยครับ

วิวที่ถ่ายลงไปด้านล่าง ครับ

วิวที่ถ่ายย้อนกลับมาด้านบน

นั่งถ่ายรูปมาเรื่อยๆจนจะถึงกะเช้าช่วงที่ 1

เดินออกไปสำรวจด้านนอกของจุดเปลี่ยนกะเช้ากันครับ ระดับความสูง 1,340 เมตร

มีลานสกรีให้เล่นด้วยครับ

เดินเลี้ยวขวาไปจะเห็นอาคาร หลังคาทรงสามเหลี่ยมแบบนี้ ออกแบบเพื่อลดการรับน้ำหนักหิมะ

เดินถัดไปก็มีลานสกรีอีกจุดหนึ่ง ไม่รู้ว่าสกีลงมาจากด้านบนเลยหรือเปล่า

สำหรับคนที่ไม่ต้องการนั่งกระเช้าลงไปด้านล่าง สกีลงไปทางนี้ได้เลยครับ ผมไม่กล้าไปถ่ายใกล้ๆ เสียว

กลับมาขึ้นกะเช้าลงไปด้านล่างแล้วครับ ระหว่างนั่งถ่ายรูปวิวไปพลางๆ

วันนี้อากาศดีจัง ฟ้าใส เห็นได้ไกลมาก

ใกล้ถึงแล้ว ด้านล่างมีคนมาหัดเล่นสกีกันด้วย มีเวลาว่างมาพักที่นี่ หักเล่นสกีน่าจะดี

ลงมาด้านล่าง ดูแผนที่แล้วผมตั้งใจจะเดินไป Pond Shigi no yachi

โดยมองป้ายโรงแรม ZAO SHIKINO HOTEL แล้วเดินตามทางไปครับ

เดินมาถึง Kinosato ก็พบว่า ถนนมีหิมะเยอะ ถ้าเดินไป แล้วมีรถสวนมาคงไม่สนุกแน่ๆ จึงเดินกลับทางเดิม

ใกล้ๆมีห้องสำหรับแช่เท้าด้วย ไม่รู้ว่าเข้าไปแช่ได้ฟรีหรือเปล่าครับ

เดินย้อนกลับไปที่ ZAO CHUO ROPEWAY

ยืนรอถ่ายรูปนี้อยู่นาน กว่า Ropeway จะออกมา

เดินย้อนกลับใกล้ถึงสถานี มีเวลาเหลือ ขึ้นไปที่ศาลเจ้ากันก่อน ทางขึ้นศาลเจ้าทางนี้ครับ

แวะแช่เท้ากันก่อนได้ครับ

ข้อมูลระบุว่า Zao Onsen เป็นแห่งน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยครับ

ที่อาบน้ำอีกที่ก่อนถึงทางขึ้นศาลเจ้าครับ

เดินผ่านที่อาบน้ำสาธารณะ ก็ถึงทางขึ้นศาลเจ้า

เสาโทอิ ตรงทางขึ้นศาลเจ้า

เดินขึ้นไปด้านบน หิมะเต็มเลย ขึ้นไปไก้ไหมนี่

พยายามเต็มที่แล้ว กลัวลื่นมากเลย ไปได้แค่นี้ขอกลับละ เดี๋ยวไปไม่ทันรถ

กลับไปต่อแถวรอรถออกที่ประตู้ 1 นี้เลยครับ มาก่อนขึ้นก่อน จองที่นั่งก่อน อิอิ

จบการรีวิวแล้วครับ ลากันด้วยภาพนี้

เย็นวันนี้ยังมีเวลาเหลือ เราจะพาไปเดินขึ้นบันไดพันขั้นที่ Yamadera กันต่อ อิอ
https://th.readme.me/p/2980

รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปตะลุยแดนหิมะ ซึ่งผิดหวังจากเส้นทางบินไป Saporo ของ Airaisa ที่ถูกยกเลิกไป เราจึงเปลี่ยนมาลงที่สนามบินนาริตะ แล้วหาที่เที่ยวที่มีหิมะแทน โดยทริปนี้เราเดินทางกันดังนี้

วันที่1 หลังจากลงเครื่องตอนเช้า เราไป Taishakuten Daikyoji Temple กัน แล้วนั่งรถไฟไปนอนที่ Yamagata
วันที่ 2 ช่วงเช้าเราไปเที่ยวและแช่เท้าที่ Ginzan Onsen กัน ช่วงเย็นไปเดินเล่นที่ปราสาท Kaminoyama Castle
วันที่ 3 ช่วงเช้าไปขึ้นกระเช้าดูปิศาจหิมะที่ Zao Onsen Town ช่วงบ่ายไปออกกำลังขา ปีนบันไดพันขั้นที่ Yamadera
วันที่ 4 เราเดินทางไป Kanazawa เก็บของเข้าที่พักแล้วไปเที่ยว พระใหญ่ปรางนั่งสมาธิอันดับที่ 3 Takaoka Daibutsu
วันที่ 5 ช่วงเช้าเราไปเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลก Shirakawako ช่วงบ่ายกลับมาเดินชมสวนสวยหนึงใน 3 ที่ Kenrokuen
วันที่ 6 เรานั่ง Shizansen กลับไปสถานีโตเกียวแล้วไปต่อที่ Echigo-Yuzawa เพื่อเที่ยว NASPA กับ YUZAWA-KOGEN
วันที่ 7 เราเที่ยว GALA-YUZAWA ก่อนเดินทางกลับในคืนนี้