ถ้าการเที่ยวของเรา ได้ให้อะไรกับใครหลายๆคน.... (Full Blog)

ชีวิตนี้เราเกิดมาเพื่ออะไร? เราถามตัวเองหลายครั้ง หลายช่วงเวลามากๆ คำตอบแต่ละครั้งเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม.. เพราะมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

และคำตอบที่คงที่มานานแล้วก็คือ เราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือแบ่งปันให้คนอื่นๆ ฟังแล้วอาจจะดูนางเอกไปอ่ะเนอะ เข้าใจแหละ แต่ที่ผ่านมาเราเคยลองทำสิ่งต่างๆเพื่อคนอื่นๆโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร .. เชื่อมั๊ยว่ามันคือ ความสุขแบบยิ้มหวาน ชาไข่มุกหวาน100% อ่ะ !!!!! เรามีความสุขกับสิ่งเหล่านั้นมากๆ เช่น เราไปสอนหนังสือเด็กๆบนดอย สอนร้อนร้องเพลง สอนเดินแบบ (จริงๆเราก็ไม่เป็นแต่รู้จัก Youtube 555+) เราพาเด็กๆที่ไม่เคยเจอน้ำทะเลไปเล่นน้ำทะเลเค็มๆที่หัวหิน เราสอนเด็กๆปั๊มหัวใจ เราสอนให้เค้ารู้จักตั้งเป้าหมายในชีวิต เปิดโลกที่กว้างขึ้น พบเจอกับประสบการณ์ครั้งใหญ่

เราทำมันทุกๆอย่าง เราถือว่าสิ่งนี้ดีต่อใจเรา เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นแล้วทำไมจะต้องไม่ทำหละ ^^

เกริ่นมานานแล้ว เข้าเรื่องเลยแล้วกัน... เราเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันโครงการ Thailand Village academy 2019 เพื่อนเราแนะนำมา ปกติเราไม่ใช่สายท่องเที่ยวเลย แต่ที่เราสนใจสมัครเพราะ โครงการนี้เค้าสนับสนุนการสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ชุมชน จากสิ่งเดิมๆที่มีไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม วิถีวีชิวต เอกลักษณ์ ภูมิปัญญา และอื่นๆอีกมากมาย คือเค้าอยากให้เรามาต่อยอด พัฒนาและสร้างคุณค่าใหม่ๆ เพื่อสร้างความความภาคภูมิใจ หรือนำร่องให้คนในชุมชน เค้าจะได้เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองมี (ปกติคนเราไม่ค่อยเห็นคุณค่าสิ่งที่เรามีเท่าไหร่ จริงๆแล้วมันโคตรมีคุณค่า) นั่นแหละ ... พวกเราเลยต้องมา! มาเพื่อทำสิ่งนี้! ทำยังไงก็ได้ ให้เค้าเห็นว่าชุมชนเค้ามีดีอะไร มีคุณค่าแค่ไหน เพื่อเป็นแรงและกำลังใจให้เค้าอนุรักษณ์สิ่งล้ำค่าเหล่านั้นไว้ตลอดกาล ^^ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรามาเขียน content อะไรแบบนี้ เราจะรีวิวในสิ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ถ้าใครอ่านแล้วคิดว่าดี อย่าลืมแชร์ให้คนอื่นๆอ่านกันด้วยนะ เพราะบทความนี้ เราเขียนขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเห็นสิ่งดีๆ สิ่งสวยงามที่มีคุณค่าของชาวอาข่า ชุมชนหล่อโย จังหวัดเชียงราย


ทริปนี้เรามีเพื่อนร่วมทริปอีกคนเค้าชื่อว่าแดเนียล มาจาก UK อาจจะเห็นเค้าบ่อยๆในรูป เค้าเป็นค่าน่ารักมากๆ เราเพิ่งมารู้จักกัน และได้เป็นเพื่อนกันในทริปนี้ :)

Day 1 : Let's go to ชุมชนหล่อโย

บ้านดิน ชาวอาข่า

เราเดินทางด้วยรถยนตร์ส่วนตัวของพี่โยฮัน ไกด์ชาวอาข่าและเป็นเจ้าของที่พัก ที่เรามาพักด้วย ระหว่างทางเราชื่นชมความงามของธรรมชาติภูเขาที่สีเขียวขยี สวยสุดลูกหูลูกตา เปิดหน้าต่างแง้มๆให้ลมพัดเข้ามา พร้อมสูดดมอากาศสุดแสนจะบริสุทธิ์ จากในเมืองชุมชนสู่ชุมชนอาข่าใช้เวลา 1 ชม. ในการเดินทาง

เมื่อมาถึง ชาวบ้านชุมขนอาข่ามายืนรอต้อนรับที่หน้าโฮมสเตย์ ยิ้มแย้มให้เราและแดเนียลอย่างอบอุ่น ชาวบ้านและเด็กๆ ช่วยกันยกกระเป๋าของเราเข้าไปเก็บที่ห้องพัก

ห้องพักของเราน่าอยู่มากๆ เพราะว่าสามารถเปิดหลังคาดูดาวได้ด้วย ที่สำคัญเลยคือบ้านนี้จะเย็นตลอดเวลา เพราะว่าเป็นบ้านดิน

เวลายังพอเหลือเราเดินมาเล่นรอบๆที่พัก สูดอากาศอีกที มันช่างดีอะไรขนาดนี้ เด็กๆที่นี่ก็น่ารัก ชวนเราเล่นของเล่นด้วย แต่เราไม่กล้าเล่นเพราะว่ากลัวหัก เด็กๆเลยบอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะคนอ้วนๆยังเล่นได้เลยครับ.. เราเลยลองเล่น ปรากฎว่าหักจ้าาาาา 555 เขินเด็กๆเลย .. จริงๆเราไม่อ้วนนะแค่อวบเอง TT


อาหารเย็นอาข่าสไตล์

เสิร์ฟด้วยความพิถีพิถัน ในถ้วยชามที่ทำจากไม้ไผ่ ส่วนรสชาติอาหารก็อร่อยมากๆ ทั้งหมดเป็นอาหารของชาวอาข่า ที่ถูกทำขึ้นมาโดยพี่กาละแม แม่ครัวคนเก่งของเรา เค้าจะเป็นคนทำอาหารให้เราทั้ง 6 วันที่เรามาอยู่ที่นี่เลย

หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ ก็มีการแสดงชาวอาข่าจากคุณตาคุณยาย ทุกๆคนแต่งตัวแบบชาวอาข่ามา สวยงามมากๆ คุณตาคุณยายสนุกกันใหญ่ เราและแดเนียลเลยขอเข้าไปแจม เต้นไม่ค่อยตรงจังหวะเค้าเท่าไหร่ แต่ก็สนุกดี


Day 2 : เมื่อเราต้องใส่ชุดชาวอาข่า

เช้านี้อากาศดีฝนตกเบาๆ จนเราไม่อยากตื่น รู้สึกหนาวนิดๆ ปลายเท้าเย็นๆ ถึงแม้จะไม่ได้เปิดพัดลมก็ตาม เรารีบอาบน้ำออกมาเพื่อจะรอกินอาหารเช้าฝีมือพี่กาละแม พร้อมกับวิวดีๆในยามเช้า

ใส่ชุดชาวอาข่า หนักหัวจนปวดไปถึงหลัง

วิธีการใส่นั้นบอกเลยว่าเราไม่สามารถใส่คนเดียวได้แน่ๆ เพราะว่ามันโคตรซับซ้อน หลายขั้นตอนสุดๆวันนี้คุณยายและพี่ๆช่วยใส่ให้เรา ใช้เวลานานประมาณครึ่งชม. ได้เลย

สำหรับเรา เราว่ามันตลกอ่ะ โดนรัดหน้าแน่นมาก จนแก้มกับตาไหลกองมารวมกัน แต่ทุกคนก็บอกว่าเราสวย... เค้าคงกลัวเราเสียใจ เพราะแดเนียลเค้าใส่แล้วสวยมากกกก เมื่อเทียบกับเรา5555+


เราไปเดินเล่นที่หมูบ้าน เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิต การเป็นอยู่พร้อมกับไปเก็บผักในสวนเพื่อกลับมาทำอาหารเย็นวันนี้ ระหว่างทางเจอร้านให้ช้อปปิ้งเต็มไปหมด เลยแวะช้อปอุดหนุนคุณยาย ของพวกนี้คุณยายเป็นคนทำเองหมดเลย ราคา 20 - 50 บาท ถูกมากๆ ถ้ามาต้องมาอุดหนุนกันน้าาา .. เออ! อย่าลืมนะถ้าจะช้อปกัน ให้ช้อปร้านละนิดละหน่อย เพราะว่าจะได้กระจายรายได้ให้ทุกครอบครัว^^


เก็บผักบนเขานี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งลื่นทั้งชันหัวเกือบทิ่ม แล้วประเด็นคือ หัวหนักมากจ้า 5555 ทำไมเราต้องทรมานตัวเองขนาดนี้นะ

ฝึกทำตำน้ำพริกอาข่า น้ำพริกที่นี่เด็ดโคตรรรรรร ไม่มีผงนัวแน่นอนเพราะเราปรุงเอง แต่รสชาติเหมือนสาดผงนัวลงไปอ่ะ เด็ดจนต้องยอมกินไปซดน้ำไปเป็นชวดๆ พวกวัตถุดิบจากท้องถิ่นเค้าคือเด็ดจริง ซึ่งที่ กทม. ไม่มีแน่ๆ เศร้าจังเลย TT ถ้าอยากกินอีกทำไงเนี้ย

ทำเสร็จก็ยกมากินกันที่วิวหลักล้าน ลมเย็นสบายสุดๆ

เรียนทำกำไลชาวอาข่า

งง มากที่คุณยายเค้าตาดีเหลือเกิน ดีจน งง เพราะเราเองยังมองไม่เห็นเลย แต่คุณยายใช้เข็มได้คล่องแคล่วมากๆ เค้าใช้ธัญพืชมาทำเป็นกำไลโคตรเจ๋งอ่ะ


Day 3 : ทำบ้านดินง่ายๆ แค่ไม่กี่สเตป

เรานัดกันแต่เช้าเพื่อที่จะออกไปหาวัสดุ อุปกรณ์มาทำบ้านดิน การเรียนครั้งนี้ไม่ใช่ง่ายๆเลย เพราะเราต้องขึ้นรถไปหาแกรบ หาดิน หาขวด เพื่อมาตกแต่งเอง อากาศวันนี้ฝนตกตลอดทาง แต่รู้ปะโคตรแฮปปี้ เราอยู่บนท้ายกะบะกัน เกาะรถโหนแบบกล้าขึ้น พี่โยฮันก็เครื่องแรงเหลือเกิน ขึ้นเขา ลงเขา เอาซะเราเสียวไส้ 5555+ จริงๆรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมส์รถแข่งอยู่เลยอ่ะ อากาศหนาวเย็น แบบปากสั่น แต่ก็นะพวกเราเป็นนักสู้ทำได้หมด!!!

เราได้ดิน แกรบ และขวดแก้วมาแล้วก็นำไปผสมในเครื่อง (ยกเว้นขวดไม่ต้องผสมเด้อ) พร้อมที่จะตกแต่งกันแล้วววว

ก่อนอื่นต้องออกแบบก่อน แดเนียลจะทำ LONDON EYE ส่วนเราจะทำ ดอกไม้แห่งความสุข พวกเราช่วยกันทำสนุกมากๆ เอาดินโปะๆ แต่ต้องแข็งแรงหน่อยนะ เพราะมันต้องใช้แรงกด แล้วดินก็หนักอยู่ จากนั้นตกแต่งด้วยขวดแก้วที่เหลือ ที่หมู่บ้านนี้เค้าจะแยกขวดแก้วไว้ไม่รวมกับขยะอื่นๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อ

เล็บนี่เหลืองหมดเลย ล้างจนปวดใจ จนยอมใจเหลืองก็เหลือง

วันนี้พวกเราหมดแรงไปกับการทำบ้านดิน พอกินข้าวย็นเสร็จนั่งคุยกับพี่ๆชาวบ้านกันซักแปบ เราก็เข้านอน ฝนตกเบาๆทำให้เราหลับสบายมาก



Day 4 : เดินป่า ทำอาหารกินเองด้วยไม้ไผ่ จับปลา เล่นน้ำ

วันนี้คือวันนี้เราชอบมากที่สุด มันคือแบบมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวบ้าไปแล้ว นี่มัน Local ที่แท้ทรูเราทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำ เดินป่าแบบยุงกัด เกาจนเมื่อนิ้วอ่ะคิดดู

ตัดไม้มาทำฝืนเห็นเค้าฟันๆ ตัดๆกันเนี้ยที่ดูเหมือนง่าย.. แต่เราทำมันไม่ง่ายเลยอ่า เราฟันจนเจ็บมือ ไม้ยังไม่ขาดเลย

อาหารแสนอร่อยของเราาาาาา

และเราก็เดินทางมาถึงลำธาร เพื่อมาจับปลา โอ้วแม่จ้าววว เย็นแบบโคตรคูล เชื่อมะว่าเรามันทำให้อาการเดินเหนื่อยๆ ร้อนๆของเรา หายเป็นปลิดทิ้งเลยอ่ะ เราเอาตัวลงไปแช่ แหวกว่ายลงไปในนั้นเหมือนเด็กไม่เคยเจอน้ำ พวกเราเล่นเพลินจนลืมเวลาฮ่าๆ (อยากดูสเตปการเหวี่ยงแหของสาว UK ดูที่คลิปด้านล่างได้เล้ยยย)

ก่อนกลับตัวเปียกแวะชิมกาแฟร้านที่ดังในย่านนี้ซักหน่อยรสชาติโอเค เค้ามีสาธิตการทำให้ดูด้วยน้าที่ร้านเลย ใครที่กำลังสนใจศึกษาอยู่ไปหาเค้าได้ เค้าพร้อมให้ข้อมูลเลย ... แต่ที่น่าสนใจก็คือวิวดีมาก เราเดินขึ้นมาดื่มกาแฟที่ชั้นบนเพื่อที่จะได้ดูวิวสวยๆ มองออกไปมีแต่เขา ต้นไม้

ร้านพานาคอฟฟี่


Day 5 : ดอยแม่สลอง หรือ เมืองจีนนะ?

นี่เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวที่นี่ได้ฟีลแบบ เหมือนไปเมืองจีน เข้าเซเว่นก็มีแต่เสียงคนจีนพูด วันนี้เรามีไกด์สุดเท่ประจำดอยแม่สลองมาให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของที่นี่ หูยยย มันสนุกมาก ฟังแล้วก็เพลิน ไกด์เค้าเก่งนะพูดได้หลายภาษาเลย อารมณ์ดีตลอดเวลา ดีจนเราเอากลับมานึกถึงแล้วขำกันจนท้องแข็งชื่อ เค้าชื่อลุงเจมส์ บุคลลิกอย่างเท่ เท่ไม่เท่ก็ดูเอา 555

พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ

เป็นที่รวมรวบข้อมูลในประวัติศาสตร์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ จริงๆเราก็เพิ่งเรื่องราวในอดีตตอนมาที่นี่เลย ข้อมูลมันเยอะมากๆ ใครชอบสายนี้ น่าจะมันส์

หลังจากที่ได้รับข้อมูลขชองวีรชนแล้ว เราก็มาที่บ้านลุงเจมส์ ภรรยาลุงเจมส์ชงชาให้เราดื่มด้วย

และเราก็เพิ่งรู้ว่า โอ้วววววววว นี่หรือคือการชงชา นานมากๆ กว่าจะได้กินอ่า ดมก็แล้ว คลำก็แล้ว 55 เยอะจ้า แต่เพลินดี รู้สึกว่าชานี้ช่างอร่อย หอมหวนเหลือเกิน เราซื้อชากลับมาเยอะมากกกกก เพราะติดใจ ราคาไม่แพงด้วย ไปซื้อยันถิ่น

จากนั้นเจนและแดเนียล เราก็หัดทำอาหารพื้นบ้านกัน เมนูวันนี้คือผัดหมี่ยูนนานจ้าาา

วิธี : ผัดง่ายๆ ใส่แค่เกลือ เส้น ผัก (รสดีนิดๆ)

จากนั้นพวกเรานั่งพักกันซักแป๊บบบบ พอให้อาหารย่อย แล้วก็ไปขี่ม้ากันต่อ เจ้าม้าน่ารักมากๆ ตัวไม่ใหญ่มากขึ้นไม่ยาก แต่จริงๆก็แอบกลัวม้าจะเหนื่อย เพราะดูดีๆ พวกเราเหมือนจะตัวพอๆกับม้ากันทุกคนเลย 555

นี่คือไร่ชาที่ปลูกเรียงรายกันอย่างสวยงาม

ร้านวังพุดตาล

ขอปิดท้ายวันนี้ด้วยอาหารร้านเด็ด หม้อไฟยูนนาน ต้มๆลวกๆ กินไปคุยไป เพลินดีจริงๆ กินไป 2 ชม. แบบไม่รู้ตัวกันเลย มารู้อีกทีตอนที่ต้องมาปลดซิบกางเกง...

  • น้ำซุปที่กลมกล่ม หอมกำลังดี
  • น้ำจิ้ม เผ็ดหวาน หอมกระเทียม กินเสร็จแล้วอย่าเพิ่งไปคุยกับใคร ถ้ายังไม่ได้แปรงฟัน


ก่อนจะกลับบ้าน พี่โยฮันชวนเรามาปลูกต้นไม่ด้วย เค้าบอกว่าเค้าจะให้ลูกค้าทุกคนที่มาพัก ทำกิจกรรมปลูกป่ากัน น่ารักที่สุดเลย ตอนนี้มี 1,000 กว่าต้นแล้วน้าาา



สุดท้ายนี้ เรามีความใจในจะมารีวิว เกี่ยวกับทริปนี้ !

เราได้เพื่อนใหม่ที่น่ารักมาก แดเนียลชาว UK เค้าพูดเร็วมาก เราฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่เค้าก็จะคอยอธิบายให้เราฟังจนเข้าใจเสมอ พวกเราช่วยเหลือกันตลอด แดเนียลบางทีก็ดูเป็นคนโก๊ะๆ ทำอะไรตลกๆ มันดูน่ารักดี รู้สึกรักแดเนียลจังเลย :)

แดเนียลชอบหมาตัวนี้มาก มันชื่อ "แลมโบ้" ก่อนพวกเรากลับ แลมโบ้ยิ้มให้ด้วยเห็นมั๊ยยยย

คุณโจ มันเป็นทริปที่ดีที่สุดที่เราเคยเที่ยวมาเลย ทุกอย่างมันเพอเฟก เรามีไกด์คือคุณโจ จาก Localalike ดูแลเราเป็นอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่อง บางเวลาที่เรารู้ว่าเค้าก็เหนื่อย แต่ไม่เคยเลยที่จะละเลยให้ข้อมูลต่างๆกับเรา คุณโจนิสัยดี น่ารัก เป็นกันเอง เวลาเค้าบอกข้อมูลอะไรเรา มันมักจะเป็นข้อมูลที่ถูกกลั่นกรองแล้ว ฟังแล้วจำง่าย เข้าใจได้ ที่สำคัญคุณโจคือผู้เปิดโลกใบใหม่ของเรา 555555 ใครสนใจทัวร์เราอยากให้ลองเจอคุณโจอ่ะ ติดต่อบริษัทนี้ หาคุณโจได้เลย รับรองจะไม่ผิดหวัง^^

พี่กาละแม พี่โยฮัน และทุกๆคนในชุมชนหล่อโยที่น่ารัก ทุกคนเป็นกันเอง ดูแลเราเหมือนเป็นคนในครอบครัว ขอบคุณจริงๆ ถึงแม้จะเจอกันแค่ไม่กี่วัน ทุกคนต่างสรรหาสิ่งแปลกใหม่มาให้เราลอง เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ และนั่นแหละ เราได้เรียนรู้อะไรจากทริปนี้เยอะมากๆ

ดีใจที่ได้เจอพี่โยฮัน เค้าคือคนที่พัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง ถ้าเราไปเห็นชุมชนเค้าแล้ว และเคยไปเที่ยวชุมชนบนเขาอื่นๆ มันมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน อย่างเรื่องง่ายๆคือ คนที่นี่เค้าแยกขยะกันอย่างชัดเจน ไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะ

จริงๆแล้วเราไม่เคยมาเชียงรายเลย เราเพิ่งรู้ว่าเชียงรายสวยงาม และน่าอยู่ขนาดนี้ อยากให้ทุกๆคนลองมาสัมผัสกันน้า มันดีมากๆจริงๆ วันนี้ชุมชนหล่อโยเตรียมพร้อมให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นอย่างดีแล้ว เราอยากให้ทุกคนมาเที่ยวกัน อุดหนุนคนไทย ช่วยกันพัฒนาจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ไทย เที่ยว ไทย เพื่อเป็นแรงใจให้คนในชุมชนหล่อโยมีกำลังใจในการพัฒนาชุมชนต่อไปน้า ^^

และขอบคุณสปอนเซอร์ Thailand Village Academy 2019 ทุกๆท่านที่ทำให้พวกเราทุกคนได้รับประสบการณ์ดีๆๆครั้งนี้ ได้แบ่งปันรอยยิ้มให้เด็กๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างร้ายได้ให้ชุมชน

มาดูคลิปบรรยากาศรวมๆได้ที่นี่เล้ยยย

ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะค้า ^^

luckana santiyanont

 วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.37 น.

ความคิดเห็น