สายน้ำสีขุ่นคลั่ก ทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาเบื้องบน กระทบกับโขดหินเบื้องล่าง เป็นเสียงดังก้องกังวาลซ่าๆไม่ขาดหาย ตามโขดหินมีตะไคร่น้ำจับจนบางครั้ง ก็อาจทำให้ลื่นล้มเอาได้ง่ายๆ เราค่อยๆเดินเหยียบย่างไปบนก้อนหินเหล่านั้น เพื่อไปยืนชื่นชมความงามของน้ำตกแห่งนี้ให้เต็มตา.....
และนี่คือเรื่องราวของการเดินทาง สู่น้ำตก ที่ซ่อนตัว อยู่ในกลางอำเภอวังน้ำเขียว แต่น้อยคนนัก ที่จะเคยไปสัมผัสและรู้จัก...... น้ำตก ม่านฟ้า
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตั้งแต่เช้า ผลพวงจากพายุที่เข้าซัดกระหน่ำใส่ภาคอีสาน ทำให้ฝนตกทั่วทั้งภาคอีสาน เราสองคน ผมและรุ้ง นึกสนุก อยากจะออกเดินทางไปท่ามกลางสายฝน เพื่อตามหาอะไรบางอย่าง ค้นหาบางอย่าง บางสถานที่ ที่แปลกใหม่ แปลกประหลาด ผมคิดถึงน้ำตกแห่งหนึ่ง ที่เคยออกเดินทางดั้นด้นไปสัมผัสเมื่อก่อนฤดูฝนเมื่อปีที่แล้ว และพบว่า น้ำตกแห่งนี้ได้แห้งผากลงไป เพราะฝนฟ้ายังไม่ตกต้องลงมา ตามฤดูกาล
ไม่รอช้า เราออกเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์คันเก่ง ไปบนถนนสาย 304 มุ่งตรงไปยังอำเภอวังน้ำเขียว ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายไม่หยุดบนถนน การขับขี่จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด ไม่นานนักเราก็มาถึงอำเภอวังน้ำเขียว เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังถนนเล็กๆ ที่มีป้ายเขียนไว้ด้านหน้าว่า น้ำตกม่านฟ้า ขับเข้าไปได้ไม่นานนักก็เจอกับป้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เราชำระเงินค่าบำรุงป่าให้แก่เจ้าหน้าที่เป็นค่าผ่านทาง เข้าไปสู่ยังน้ำตกที่เราต้องการไปสัมผัส น้ำตกแห่งนี้อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติทับลาน
เส้นทางที่รถเข้าไป เป็นเส้นทางลูกรัง ยิ่งในช่วงเวลาที่ฝนตก ยิ่งทำให้ถนนแฉะและมีโคลน สนุกสนาน ท้าทายขาลุยอย่างพวกเรา เส้นทางวิบากนั้นพาเราไปสุดยังปลายเส้นทาง ที่นับแต่นี้ต้องเดินเท้าต่อเข้าไป
เสียงสายน้ำถาถั่งโถมทลั่งของน้ำตกห้วยใหญ่ เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆกันนั้นเอง ดังกระหึ่มอยู่ไม่ไกล สายน้ำข้นขุ่นคลั่กราวกับน้ำป่าถาโถมลงมา
อันที่จริงแล้ว แม่น้ำและน้ำตกที่นี่ มีสีแดงข้นขุ่นอย่างนี้เป็นธรรมชาติทุกฤดูอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องตกใจ ว่าจะมีน้ำป่าไหลหลาก
เราเดินเข้าไปยังเส้นทางเดิน 300 เมตร เส้นทางลื่น และบางช่วงต้องมุดก้ม เพื่อหลบต้นไม้ที่ล้มขวางทางเราอยู่ ระหว่างเดินไปก็พบเจอกับธรรมชาติหลายอย่างที่ยังอุดมสมบูรณ์ ทั้งเห็ดแชมเปญ ที่ชูช่ออวดเราให้ได้ถ่ายรูป รวมทั้งดอกไม้ป่าสีแดง
ไม่นานนัก เราก็มาถึงจุดหมายของเรา น้ำตกม่านฟ้า......
น้ำตกม่านฟ้าในฤดูฝนนี้สวยงามจับจิตจับใจ โดยเฉพาะในวันที่ฝนตก สายน้ำจะถาโถมลงมาไม่ขาดสาย จากปลายหน้าผา เกิดเป็นริ้วม่านน้ำ สมดังชื่อน้ำตกม่านฟ้า
น้ำตกที่นี่จะมีเอกลักษณ์คือ สีที่ขุ่นข้น จากตะกอนดินที่พัดพามา ตลอดทั้งปี และที่นี่จะแล้ง ไม่มีน้ำตกให้เราได้ชมกันในหน้าแล้ง คงเหลือไว้เพียงแค่หน้าผาโดดเดี่ยวอ้างว้าง จึงเป็นเหตุผลที่ใครหลายคน เข้ามาและไม่พบเจอกับความงดงามของน้ำตกม่านฟ้า จนสถานที่แห่งนี้ กลายเป็นน้ำตกลึกลับ ที่น้อยคนนักจะเข้ามาเยือน ดังนั้นหากจะชื่นชมความงามแล้ว ควรจะมาในฤดูฝน ที่ฝนตกอย่างเพียงพอ....
บางทีความงาม ความลึกลับที่ถูกซ่อนตัวเอาไว้ ก็รอให้เราได้ค้นพบ และออกไปหา ขึ้นอยู่กับเรา จะก้าวออกไปหรือไม่ เท่านั้นเอง
ลากันไปด้วยภาพเหล่านี้ สวัสดีครับ อย่าลืมนะครับ คิดจะเที่ยว เที่ยวก่อนแก่.....
เที่ยวก่อนแก่
วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 16.47 น.