ทริปนี้เป็นทริปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาครับ เพิ่งมีเวลานั่งทำรีวิวแบบจริงจังสักที เป้าหมายของทริปนี้คือการตะลุยหิมะในหมู่บ้านในฝันของใครหลายคนคือหมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นเอง แต่ด้วยตอนแรกจองตั๋วเครื่องบินแบบ No Plan ไป-กลับ โอซาก้า ก็ต้องหาวิธีไปเที่ยวชิราคาวาโกะให้ได้ หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลจากหลายๆ รีวิว จึงได้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass เป็นตัวตั้งต้นในการวางทริปเที่ยวครั้งนี้ ผมไปทั้งหมด 8 วัน รวมวันเดินทาง จึงออกมาเป็น Plan ดังนี้

Trip Agenda

  • Day1: Bangkok > Osaka
  • Day2: Osaka > Kyoto (Pass)
  • Day3: Osaka > Kanazawa (Pass)
  • Day4: Kanazawa>Shirakawago> Takayama (Pass)
  • Day5: Takayama > Nagoya (Pass)
  • Day6: Nagoya >Osaka (Pass)
  • Day7: 22 ก.พ Osaka
  • Day8: 23 ก.พ. Osaka > Bangkok

Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass เป็นตั๋วแบบเหมาจ่ายแบบ5 วันต่อเนื่อง ในการนั่งรถไฟสาย JR ในเส้นทางระหว่างเมือง Osaka, Kyoto, Fukui, Kanazawa, Takayama และ Nagoya และยังรวมบัสไปยัง Takayama – Shirakawago – Kanazawa ได้อีกด้วย คุ้มมากๆ

การเดินทางและค่าใช้จ่ายคร่าวๆ

  • เครื่องบินแอร์เอเชียลงโอซาก้า ไป-กลับ ได้ตั๋วโปรมาในราคา 9,000 บาท
  • Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass (5 Day) ซื้อจาก Klook ที่ไทย ราคา 3,854 บาท จะได้เป็นใบจองแล้วนำไปแลก pass ที่เคาร์เตอร์ JR ที่สนามบิน
  • The Hokutetsu One Day Pass ในราคา 500 เยน
  • Willer Bus จาก Nagoya กลับ Osaka ราคา 2500 เยน จองบนหน้าเว็บจากไทย
  • บัตร Osaka 2 Day Pass สำหรับ Metro ซื้อจากงานเที่ยวทั่วโลก ราคา 320 บาท ได้เป็นตั๋วมาเลย
  • ตัวช่วยการเดินทางโดยรถไฟในญี่ปุ่นคือ www.hyperdia.com ใส่สถานีต้นทางและปลายทาง บอกหมดเลยครับว่าเวลาเท่าไหร่ ขบวนไหน ชานชาลาอะไร รับรองว่าไม่มีหลงครับ

กระทู้ถัดไป

Day1: Bangkok > Osaka

วันแรกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย XJ610 เวลา 14.15 ถึง Osaka ไวกว่ากำหนดประมาณ 21.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น ก็จัดการแลกตั๋ว pass ต่างๆ ที่เคาน์เตอร์ JR


และรีบซื้อตั๋วให้ทันรถไฟธรรมดาเข้าเมืองเที่ยวสุดท้ายเพื่อเดินทางไปยังที่พัก Gate80 Nagai Park เป็นโฮสเทลที่อยู่ใกล้ JR Tsurugaoka Station แบบว่าลงสถานีเดินข้ามถนนแล้วถึงเลย ถือว่าดีมาก


Day2: Osaka > Kyoto

วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดใช้ Pass เพื่อไปเที่ยวที่เกียวโตแบบหนึ่งวัน โดยสามารถขึ้นจากสถานี JR Tsurugaoka มาเปลี่ยนขบวนที่ Tennoji


เดินทางต่อด้วยขบวน Express ไปสถานี Kyoto ใช้เวลาเดินประมาณ 50 นาที



มาถึงสถานี Kyoto โดยช่วงเช้าวันนี้ผมจะเที่ยวย่าน Arashiyama ก่อน ซึ่งต้องต่อรถไฟอีกขบวนเพื่อไปยังสถานี JR Saga-Arashiyama (อันนี้ไม่รวมอยู่ในพาสนะครับ ต้องเสียเพิ่มอีกคนละ 240 เยน/เที่ยว)



ใช้เวลา 15 นาทีมาถึง สถานี JR Saga-Arashiyama


หลังจากนั้นเป็นการเดินเที่ยวแบบชิวๆ ไปตามเส้นทาง


จุดมุ่งหมายที่แรกจะไปป่าไผ่กันก่อนครับ


เดินมาสักระยะก็เจอ NONOMIYA JINJA ศาลเจ้าที่คนมาเนื้อคู่กัน



เลยศาลเจ้าก็จะพบกับป่าไผ่ชื่อดังของเกียวโต

คนก็จะเยอะเป็นพิเศษ

หามุมถ่ายรูปได้ตามสบายเลยครับ


เดินออกมาจากป่าไผ่ ลัดออกตรงสวนป่าจะเจอกับแม่น้ำคาสึระ KATSURAGAWA

เป็นทางเดินเลียบแม่น้ำ


มีเรือล่องแม่น้ำพานักท่องเที่ยวชมวิวสวยๆ

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คคือ สะพานโทเกสึเคียว TOGETSUKYO ที่ข้ามแม่น้ำคาสึระ

แถวๆ สะพานจะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย รวมทั้งคนด้วย

เดินเที่ยวได้สักระยะก็เดินกลับไปที่สถานีรถไฟ JR Saga-Arashiyama เพื่อกลับไปสถานีเกียวโต

ที่ต่อไปจะไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือศาลเจ้าจิ้งจอกกันต่อ ถึงสถานีเกียวโต แล้วต่อรถไฟสายสีน้ำตาลไปลงสถานี Inari


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีก็มาถึง เดินออกจากสถานี Inari จะเจอรูปปั้นจิ้งจอกคือทางเข้าศาลเจ้านั่นเอง



เดินเข้าไปไปตามทางข้างในจะพบกับเสาแดงเรียงรายกันไปตามทางขึ้นเขา ซึ่งถ้ามีเวลามากพอก็สามารถเดินรอบๆ ขึ้นไปยอดเขาได้

สำหรับผมมีเวลาไม่มากพอเลยเดินแค่ครึ่งทางแล้วย้อนออกมา



จากนั้นกลับไปที่สถานีเกียวโตอีกครั้ง เพื่อไปอีกหนึ่งสถานที่ปิดท้ายสำหรับเกียวโต คือย่านวัดน้ำใส Kiyomizudera โดยนั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 จากสถานีเกียวโต ลงป้าย Kiyomizumichi

จะพบกับทางไปยังเจดีย์ยาซากะ (วัดโฮคันจิ)


เป็นแลนมาร์คของเกียวโต ด้วยเป็นเจดีย์โบราณดูสวยงามมาก



เมื่อเดินไปอีกฝั่งจะเจอกับมุมยอดนิยมสำหรับถ่ายภาพ

ย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่า สามารถที่จะเดินได้เรื่อยๆ สองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านค้าและคนมากมาย

เดินมาสักพักก็จะมาถึงวัดน้ำใส คิโยมิซุ


ช่วงที่ไปสำหรับปิดซ่อมเพื่อบูรณะอยู่ เลยไม่ไ้ด้เข้าไปด้านใน เป็นการจบทริปของวันนี้ครับ หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟกลับไปนอนที่โอซาก้า

Day3: Osaka > Kanazawa

สำหรับวันนี้เราจะย้ายเมืองครับ โดยตั้งแต่วันนี้ไปอีก 3 คืน ผมจะไปพักเมืองละ 1 คืน เพื่อเที่ยวตามแพลนที่วางไว้ โดยกระเป๋าใบใหญ่จะฝากไว้กับที่พักแรกคืนแรก แล้ว 2 คืนสุดท้ายจะกลับมาพักที่นี่เหมือนเดิม วันนี้เราออกแต่เช้าครับ จะไปชมแลนด์มาร์คของโอซาก้ากันก่อน นั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Osakajokoen

ระหว่างทางไปตัวปราสาทก็แวะทาน Starbucks ก่อนได้นะครับ

เดินมาเรื่อยๆ ก็แอบไกลอยู่ เห็นตัวปราสาทอยู่ไกลๆ

เดินขึ้นมา ก็ขอถ่ายกับปราสาทซะหน่อย ให้รู้ว่ามาแล้วโอซาก้าา

หลังจากที่เดินเล่นที่ปราสาทสักระยะหนึ่งก็นั่งรถไฟเพื่อไปเมือง Kanazawa

นั่งสบายๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

มาถึงเมือง Kanazawa ก็เตรียมเที่ยวต่อได้เลย โดยการเดินทางจะใช้รถบัส ซื้อ The Hokutetsu One Day Pass ในราคา 500 เยน ได้ที่บริเวณ Tourist Information ที่สถานี JR Kanazawa ได้เลย

Higashi Chaya Machi โรงน้ำชาเก่าแก่ของ Kanazawa ลงรถบัสที่ป้าย RL04

หลังจากนั้นก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะพบกับทางเข้าที่เป็นหมู่บ้านเก่าๆ

แล้วก็มาถึงจุดถ่ายรูปที่เป็นอาคารเก่าสองข้างทาง ซึ่งเป็นเขตร้านน้ำชาเก่าสมัยโบราณ

มีคนใส่ชุดกิโมโนมาเดินด้วยครับ เข้ากับบรรยากาศย่านนี้มาก สามารถขอเขาถ่ายรูปได้

เดินเล่นสักพักแล้วไปที่ต่อไปกันได้เลย

ปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa Castle) ลงป้ายรถบัส RL07


ประตู lshikawa-mon ทางเข้าปราสาท อยู่ตรงข้ามกับสวน Kenrokuen Garden

ด้านในจะเป็น Sannomaru Park จะเห็นปราสาทที่เป็นหอคอย 2 อาคาร แล้วมีอาคารเชื่อมระหว่างสองหอคอย เรียกว่า Gojikken Nagaya (โกดังยาว 90 หลา) ซึ่งผมมาถึงก็มืดแล้วเลยไม่ได้เข้าไปตัวอาคาร

นั่งรถบัสกลับมาที่สถานี Kanazawa เหมือนเดิมครับ มาถ่ายกับแลนด์มาร์คประตู Tsuzumi-mon

เป็นการออกแบบที่สวยงามแบบมีศิลปะในตัว

ภายในสถานี Kanazawa

หลังจากที่หาอะไรกินใน Kanazawa Station แล้วก็เดินกลับที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆ จบทริปสำหรับ Kanazawa วันนี้ติดตามต่อได้ที่กระทู้ถัดไปครับ

กระทู้ถัดไป

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ อย่าลืมกดแชร์ กดไลท์ ให้ด้วยนะครับ

------------------------------------------- ------------
📌ฝากกดติดตามกันด้วยครับ

Instagram : instagram.com/hairoowamalaew
Facebook : facebook.com/hiroowamalaew
Youtube : youtube.com/c/hairoowamalaew
Twitter : twitter.com/hairoowamalaew

#ให้รู้ว่ามาแล้ว

ให้รู้ว่ามาแล้ว

 วันพฤหัสที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 14.44 น.

ความคิดเห็น