สวัสดีครับ

    ทริปใหญ่แห่งปีกลับมาอีกครั้งครับ ครั้งนี้เราจะไปเที่ยวโตเกียวหน้าหนาวกันครับ ไปกันเลยยยย...


DAY 1                                                                                                                     25/12/19 ออกเดินทาง                                                                                                 BKK-HND                                                                                                                     ANA Flight NH850

เริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิครับ ครั้งนี้เราเลือกเดินทางด้วยสายการบิน ANA ครับ เช็คอินที่ ROW L ครับ

เราทำ Online Check-in มาแล้ว ไปต่อที่แถว Baggage Drop ครับ

แต่วันนี้แถว Economy ก็ไม่ยาวมากครับ แถมคนข้างหน้ามีปัญหานิดหน่อยเลยต่อนานกว่าแถวปกติครับ 

สายการบิน ANA เป็นสมาชิกของ Star Alliance สามารถสะสม ROP ได้ด้วยครับ ได้ Boarding Pass แล้ว ก่อนไปผ่าน Securityขอแวะไปเอา Pocket Wifi กับ ซิมก่อนครับ ลงไปชั้น B เลย สำหรับตัวไวไฟ เช่าเป็นของ 4WIFI ครับ   ได้มาในราคาวันละ 150 บาท ตัวเครื่องแบตใช้ได้ถึง 13 ชม.เลยทีเดียว

หน้าตาตัวเครื่องพร้อมกระเป๋าครับ

สำหรับซิม ซื้อผ่าน Klook เป็นของ Dtac Go Inter ได้มาในราคา 299 บาทครับ จาก 399 บาท

เมื่อรับทุกอย่างเรียบร้อยก็เข้าไปข้างในกันครับ ผ่าน Security และ ตม.เรียบร้อย เกทอขงเราคือ D7  ไฟลท์ NH850 Boarding ตอน 4 ทุ่ม 50 ครับ รอวนกันไป

เมื่อถึงเวลาแล้วไปขึ้นเครื่องกันครับ เป็นเครื่องรุ่น B787-800 ที่นั่ง 38K ริมหน้าต่างด้านขวาครับ มีจอ PTV ทุกที่นั่ง มีหมอน ผ้าห่ม และหูฟังวางไว้ทุกที่นั่งครับ

เมื่อเครื่อง Take off ไปซักพัก แอร์จะเริ่มเดินแจก Snack ยามดึกครับ

หลังจากนั้นจะปิดไฟในห้องโดยสารให้ผู้โดยสารพักผ่อนครับ ผ่านไปประมาณ 3 ชม.นิดๆ จะเปิดไฟปลุกมาทานอาหารครับ มี 2 เมนูให้เลือกตามภาพเลยครับ ซึ่งเมนูจะเปลี่ยนไปทุกเดือน สามารถเช็คเมนูได้ในเว็บของสายการบินเลยครับ

เมนูแรก ไข่เจียวเห็ดและข้าวโพด เนื้อไก่หมัก

อีกเมนูคือปลาทอดราดซอสเห็ดครับ

หลังจากนั้นก็พักผ่อน ประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าก็เริ่มลดระดับครับ ลงจอดที่สนามบินฮาเนดะ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 3 ในปัจจุบัน)

เดินตามป้าย Arrival ไปเลยครับ

ผ่านตม.อย่างง่ายดาย รับกระเป๋าไปผ่านศุลกากร แล้วไปขึ้้นรถไฟเข้าเมืองกันครับ โดยเราจะเข้าเมืองโดยรถไฟสาย Keikyu line นั่งตรงไปถึงสถานี Asakusa แล้วเปลี่ยนเป็น Ginza line ไปลงสถานี Tawaramachi ที่พักของเราครับ

เราซื้อเป็นตั๋วWelcome ticket ไป-กลับสนามบิน+Tokyo Subway 24hr.ครับ คนละ1500เยน

มารอฝั่งที่เขียนว่า for Asakusa ครับ

บรรยากาศในขบวนรถตอนเช้าครับ จะไปแน่นช่วงในเมือง

นั่งมาประมาณ 40 นาที ถึงสถานี Asakusa แล้วมองหาป้าย Ginza line ครับ

นั่งต่อไปอีก 1 สถานี ลงสถานี Tawaramachi ครับ

เมื่อถึงแล้วให้ออกทางออกที่เป็นลิฟต์นะครับ ขึ้นมาจะอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมเราเลย โรงแรมที่เราพักคือ APA Asakusa-Tawaramachi Ekimae ครับ

เรามาถึงเช้ายัง Check-in ไม่ได้ จึงฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วออกไปเที่ยวกันเลยครับ

อันนี้เป็นทางลงสถานีข้างๆโรงแรมเลยครับ เดี๋ยวเราจะไปวัดเซนโซจิกัน

นั่งกลับมาอีก 1 สถานี แล้วมองหาทางออก 1-3 ไปวัดเซนโซจิครับ

ออกมาจะเจอกับถนนเส้นนี้ ให้เดินตรงไปอีกหน่อยจะเจอทางเข้าวัดครับ

จะเจอกับ คามินาริมง (Kaminarimon Gate) โคมไฟสีแดงเด่นสะดุดตา และถนนนากามิเสะ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่และผู้คนมากมาย

ถนนนากามิเสะ เต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่

ยังมีใบไม้เปลี่ยนสีหลงเหลืออยู่ต้นนึงครับ

ด้านหน้าทางขึ้นศาลเจ้าครับ

เดินผ่านเข้ามาจะเจอกระถางธูปขนาดใหญ่ ที่ผู้คนมาปัดควันธูปใส่ตัวเอง เชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป

และจะมีที่ที่จะชำระร่างกายก่อนเข้าไปสักการะ มีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำที่ไหลออกมาจากปากมังกรเพื่อล้างมือ เทผ่านกระบวย หรือบ้วนน้ำ

หลังจากนั้นจึงเข้าไปศักการะด้านในกันครับ สิ่งที่ขึ้นชื่อมากๆของที่นี่ก็คือ เครื่องรางครับ

มีเครื่องรางให้เช่าบูชามากมายครับ ทั้งด้านสุขภาพ การเงิน การเรียน ความรัก และอื่นๆมากมาย

เมื่อเดินเล่นไหว้พระ ถ่ายรูปกันประมาณนึง เวลาใกล้เที่ยงแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ ซึ่งเราได้เลือกร้านมาแล้ว เป็นร้านซูชิที่อยู่ใกล้ๆวัด เดินย้อนมานิดเดียวก็ถึงครับ นั่นคือ Sushi Zanmai

เป็นหนึ่งในร้านดังที่อร่อยและราคาไม่แพงครับ

เมื่อกินอิ่มแล้ว แวะไปที่ร้านพุดดิ้งกันครับ Asakusa silk pudding

no.1 ของร้าน Premium Silk pudding ราคา 580 เยนครับ

no.2 Asakusa Silk pudding ราคา 390 เยน ความรู้สึกจริงๆไม่ต่างกันมากครับ

เสร็จแล้วจะเดินไปถ่ายรูปกันที่ Azuma Bridge ครับ ฉากหลังจะเป็นตึกเบียร์อาซาฮี

ฟ้าครึ้มมาเลย รีบเดินกันต่อครับ ไปที่ Tokyo Skytree แต่เราจะเดินกันอยู่ข้างล่างครับ

มีเทนยะด้วยครับ

เดินเล่นกันถึงประมาณ 4โมงแล้ว กลับไป Check-in โรงแรมกันครับ

การเช็คอินที่นี่จะเป็นเครื่องนะครับ แต่จะมีพนักงานคอยช่วยเหลืออยู่ ทำตามขั้นตอนจนเสร็จ ได้คีย์การ์ดมา ขึ้นห้องกันครับ แตะการ์ดก่อนนะ ชั้น 14 จะมีออนเซ็นไว้ให้ใช้ฟรีด้วยครับ

เราได้ห้องชั้น 12 ครับ

บรรยากาศในห้องครับ เตียงDouble bed ครับ

มีชา กาแฟ ให้ทุกวันครับ

มีไดร์เป่าผม และ ชุดคลุมให้ในลิ้นชักครับ

ห้องน้ำครับ มีสบู่ แชมพู ครบถ้วน

เนื่องจากเมื่อคืนบนเครื่องนอนไม่ค่อยหลับ ตอนนี้จึงขอนอนพักก่อนครับ แล้วตอนเย็นออกไปเดินเล่นตลาดอะเมโยโกกันครับ นั่งจาก Tawaramachi ไปลง Ueno ครับ 

ทานอาหารเย็นกันที่ร้าน Isomaru Suisan ร้านสไตล์อิซากายะชื่อดัง

ร้านจะแจกผ้าร้อนต้อนรับครับ

จะมี tablet ไว้สั่งอาหารครับ

kani miso มันปูชื่อดังที่ทุกคนต้องสั่ง

สามารถรับชมคลิปรีวิวเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ

คืนนี้ลากันไปด้วยภาพนี้ แล้วติดตามชม Day 2 ได้เร็วๆนี้ครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

พบกันใหม่...สวัสดีครับ


DAY 2 : Tokyo Disneysea https://th.readme.me/p/31284

DAY 3 : Tokyo City View https://th.readme.me/p/31285

DAY 4 : Fujiko F Fujio museum https://th.readme.me/p/31470

DAY 5 : Tsukiji Miyagawa Honten https://th.readme.me/p/31502


ช่องทางการติดตาม

Facebook https://www.facebook.com/STP-CH-417304958667324/

Instagram https://www.instagram.com/shop_travel_photograph/

Youtube https://www.youtube.com/channel/UCm8-O4JYK-Q3cdC6taSbl7g?

STP CHannel

 วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.09 น.

ความคิดเห็น