เที่ยวจอร์เจีย 

ตุรัดตุเรงตะเรงกันไป...จอร์เจีย EP. 3

  

ก่อนอื่นอีหล้าขอกำลังใจซักนิดนะคะ  ชอบอีหล้ากดสับตะไคร้และกดไชร์กดแชร์ได้เลยนะ ที่

       www.youtube.com/elahpalui 

       www.facebook.com/elahpalui

       

       เพียงหนึ่งกำลังใจอีหล้าก็พาไปไกลถึงจอร์เจีย  

        อีหล้าพาลุย เมืองหลวงเก่าจอร์เจีย แล้วแวะไปลุยต่อที่เมืองถ้ำ 3,000 ปี

        ออกจากทบิลิซี แวะเที่ยว Jvari Monastery - Mtskheta -Svetitskhoveli Cathedral -Uplistsikhe Cave Town - Gori คืนนี้นอน Nukri                     guesthouse 

                                     

หากเพื่อนๆต้องการที่จะไปเมือง Batumi (ทะเลดำ)  เมือง คูทายสิ  หรือเมือง Borjomi ก็สามารถวางแผนเพิ่มลงไปในตาราง กับบริษัททัวร์หรือสารถี

ได้เลย เพราะจะสะดวกกว่าไม่ต้องนั่งรถย้อนไปมาจากทบิลิซี  ประหยัดเวลาและเงินดีค่ะ

จาก ep 2 อีหล้ากลับมานอนในเมืองทบิลิซี ปรับแผนการเดินทางใหม่ ยกเลิกการไปอาร์มาเนียก่อน

อย่าเพิ่งกรี๊ดค่ะเพื่อนๆ เพราะเราเปลี่ยนแผนจะไปหมู่บ้านที่สูงที่สุดในยุโรป  ระหว่างทางที่จะไป ตามอีหล้ามากับ ep.3 กันก่อนค่ะ

                                

                                                     EP.2  อีหล้าพาลุย จอร์เจียภาคเหนือ ขี่ม้าเมือง  Juta 

รุ่งเช้าก่อนเดินทางพวกเราก็เติมพลังจากอาหารเช้าแบบจอร์เจี๊ยนบุฟเฟต์ที่โรงแรมได้จัดไว้ให้ กินไป มองดูวิวตึกรามบ้านช่องของทบิลิซีที่เก่า ดูมีเสน่ห์และอบอุ่นแถมโรแมนติกมั๊ก..มาก นี่ถ้ามากับหลัว คงจะมีความสุขมิใช่น้อย ทริปนี้อีหล้ามากับผองเพื่อน มีแต่เรื่องเมาส์มอยหอยสังข์ กับเรื่องมันส์ๆฮาๆ

เลือกได้เลยทุกสิ่งอย่าง

                

ชีสก็มาน้ำผึ้งก็มี

เอาตึกเอามาปรับปรุงใหม่ให้เป็นโรงแรมน่ารัก

แค่นี้ไม่พอหรอกคะป้าเติมอีกซักจานสิคะ

มุมหน้าห้องพัก ถนน Rustaveli 

มุมเสยของ Rustaveli Hotel 

ถนน Rustaveli มีทั้งโรงละคร แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร จะแลกเงินก็มีนะคะ

พอ 10 โมงเช้า เดวิด สารถีและผู้พิทักษ์ที่คอยดูแลพวกเราก็มารับ อีหล้าและผองเพื่อนจึงเคลื่อนขบวนไปยัง Jvari Monastry วิหารจวารี หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ สร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียให้ความเคารพและนับถือเป็นอย่างยิ่ง 

Jvari Monastry  ตั้งอยู่บนภูเขา 

อีกมุมของ Jvari Monastry

อีกมุม Jvari Monastry เรามาเที่ยวจริงๆนะ 

Jvari Monastry ตั้งอยู่บนเขาสูงตระหง่าน 

 

มุมนี้ก็สวยนะ Jvari Monastry

แม่น้ำ kura และแม่น้ำ Aragvi ไหลผ่าน ว่าแต่รอใครเปล่าคะ 

Jvari Monastry  ตั้งอยู่บนภูเขา วิวเก้าล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน 

โบสถ์ก็เก่าคนก็แก่  อิอิอิอิ (แต่แรงนะ)

นางแบบมาแล้ว เตรียมพรมแดงเลยค่าาาา

มาสั่นกระดิ่งกัน 

นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาสักการะขอพร 

ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ให้ผู้มาเยือนได้เคารพสักการะ ขอพร และสวดมนต์

                                                 

อย่าให้รู้นะว่าแอบขออย่างอื่น จะบิดให้แขนเขียวเลยโทษฐานไม่บอก

มาจอร์เจียต้องแวะมาที่  Jvari Monastry 

ด้านนอกโบสถ์อันเก่าแก่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงาม

ส่วนวิวด้านนอกของโบสถ์จวารี จะมองเห็นวิวเมืองทั้งเมืองของ Mtskheta ที่มีแม่น้ำ kura และแม่น้ำ Aragvi ไหลมาบรรจบกัน วิวอลังการล้านเจ็ด นางแบบก็จัดมาเต็มไม่แพ้วิวเหมือนกัน ...

วิวเริ่ดหรูหูฉลามมากคะ มองเห็นเมืองเก่า Mtskheta

เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจอร์เจียแล้วสิ  

มุมมหาชนต้องมาแสดงตัวตนซักหน่อย... โอ๊ย!!!  จอร์เจียฉันรักเธอ

หอมปากหอมคอกับการรัวชัตเตอร์ยามสาย  อีหล้าและผองเพื่อนก็เดินทางกันต่อ ประมาณ 20 นาที ก็ถึงเมืองหลวงเก่าของจอร์เจีย Mtskheta

ว๊าว... สวยงามสมเป็นเมืองหลวงเก่าจอร์เจีย 

ถนนหนทางยังเป็นอิฐโบราณ 

คนโบราณนี้ขยันทำขยันงานสร้างจริงๆ 

Mtskheta เมืองหลวงเก่าของจอร์เจีย ก่อนจะย้ายไปทบิลิซี ช่วงศริสต์ศตวรรษที่ 4-5

เมืองนี้สายอาร์ตที่รักงานศิลป์และงานสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และความงามของธรรมชาติต้องแวะมาชมกันสักหน่อย เพราะที่นี่สวยหมดจด จน UNESCO ต้องขึ้นทะเบียนมรดกโลก เอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม 

พรมราคาไม่แพงซื้อกลับบ้านได้ อีหล้าไม่ซื้อเพราะขี้เกียจถือคะ  

สวยทุกมุม

เมืองหลวงเก่ามีเสน่ห์

มุมไหนๆก็น่ามอง

ตามต่อได้เลยคะ ยังไม่จบ  ขอพักไปกินข้าวแปร็บนะ หิวมากจะเป็นลม 

ตะลุยจอร์เจียกันต่อคะ

อีหล้าและผองเพื่อนไม่ได้ชมอย่างเดียวนะคะ ที่นี่มีสินค้าที่ระทึก อุ๊ย! ที่ระลึกหลากหลายอย่าง ตั้งแต่ เสื้อผ้า อาหาร เครื่องเทศ หมวก พรม และของกิ๊บเก๋มากมาย จนลายตา


มีครบทุกอย่างแบบสไตล์จอร์เจีย

เครื่องเงินก็น่าซื้อหัวใจคนขายก็น่าสน

น้ำผลไม้สด ส๊ด สด คั่นดื่มให้ชื่นใจ

ทุกจุดที่จอดเราจะซื้อและซื้ออย่างคนเสียสติ

จับกระเป๋าตังค์ให้มั่น...ไม่ใช่ขโมยขโจรที่ไหนหรอกค่า ตัวเราเองนี่แหละ ก็ของแต่ละอย่างน่าช้อปทั้งนั้น ราคาสบายกระเป๋าจนเผลอตัวปล่อยใจไปเต็มๆ รู้ตัวอีกทีก็หิ้วของพะรุงพะรังเต็มสองมือ


น้ำผลไม้สด กับขนมขบเคี้ยวจอร์เจียในตำนาน

                                 Churchkheka คูซเซล่า รสเปรี้ยวอมหวานทำจากองุ่น

สวรรค์นักช้อป เดินหาร้านเร็ว

ดริปกาแฟโดยใช้ทรายร้อนๆ โดนใจเต็มๆ

ชุดพื้นเมืองชาวจอร์เจีย บอกเลยว่าหนาวววววมาก

หลากหลายอย่าง งานดี ราคางาม ของต้องมี

ดอกไม้ก็มีขาย กำละ 1 ลารี

พรมก็มา

งานไวน์โคตรดี

เดินสักพักก็จะเจอโบสถ์ขนาดใหญ่เป็นที่ 2 ของจอร์เจียรองจาก Holy Trinity Cathedral ตั้งอยู่ทางภาคเหนือที่อีหล้าและผองเพื่อนพาลุย EP.1



        

Svetitskhoveli Cathedral โบสถ์สร้างเมื่อศริส์ศตวรรษที่ 4 ตัวโบสถ์เดิมถูกทำร้ายจากสงครามอันหนักหน่วงและแผ่นดินไหวที่สะท้านถึงศาสนสถาน ทำให้โบสถ์เดิมถูกทำลายลง

ที่เราเห็นเป็นโบสถ์ใหม่ ถึงจะใหม่แต่ก็มีอายุถึง 900 ปี ภายในใหญ่โตมโหฬาร อลังการงานสร้างมา  

Mtskheta ต้องแวะมาชื่นชมโบสถ์แห่งนี้เลยนะคะ


          

เพลินจากการช้อปการชมจนหนำใจ ลานตากับแรงศรัทธาของศาสนิกชน พวกเราก็ตุรัดตุเรงไปต่อที่ … Uplistsikhe
แปลงร่างเป็นมนุษย์ถ้ำ ย้อนหลังกันไปอีก 3,000 ปี
  

Uplistsikhe หรือเมืองมนุษย์ถ้ำ จะเข้าชมต้องเสียค่าเข้าคนละ 3 ลารี ตามอีหล้ามาชมความงามของถ้ำหิน ที่จัดมิกซ์แอนด์แมทช์กับงานสร้างสรรของมนุษย์ที่สกัดและสลักหินผาให้เป็นช่องเป็นหลืบ มีทั้งห้องพักอาศัย โรงละคร ห้องเก็บไวน์ สารพัดที่คนสมัยนั้นบรรจงสร้าง


ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบรรยายบอกเล่าประวัติของแต่ละห้อง เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุดยังมองเห็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง gori อีกด้วย วิวสวยมองไปทางไหนก็แปลกตา แต่สดชื่นในหัวใจ
          

          

Uplistsikhe เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแวะชมอีกแห่งในจอร์เจีย อาจจะด้วยความคิดของคนสมัยเก่าที่น่าทึ่งในการเอาถ้ำมาเป็นที่อยู่อาศัย  แต่พีคในพีคของอีหล้าคงจะเป็นโบสถ์บน uplistsikhe ที่เห็นแล้วบอกเลยว่าคนสมัยก่อนขยันสร้างจริงๆ


ชื่นชมงานถ้ำเสร็จแล้ว งานถ่ายแบบขึ้นสันปก ก็ตามมาติดๆตามช่องตามรูของถ้ำพวกอีหล้าก็ไปยืนไกลๆให้ตากล้องได้ถ่ายเปรียบเทียบว่า Uplistsikhe นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน (ตามติดชีวิตตัวประกอบก็จะไม่ค่อยมีสาระอะไรมากนักค่า...)
มา Uplistsikhe อย่าลืม หมวก  น้ำ และครีมกันแดดแบบสตรองมาด้วยนะ เพราะแดดที่นี่ร้อนแรงได้ใจจริงๆ 


ยามนี้ก็เกือบหกโมงเย็น นกน้อยบินกลับรังฉันใด เหล่าแร้งกาแก็งค์อีหล้าต้องมองหาที่นอนฉันนั้น...
พวกเรามาพักกันที่เมือง Gori ตอนเดวิทเลี้ยวรถไปจอดหน้าที่พัก Nukri guesthouse นี่ก็เกือบจะหนึ่งทุ่ม แต่แดดยังสว่างจ้าอยู่เลย

ถนนหนทางเงียบจนน่าใจหาย สิ่งมีชีวิตไปอยู่ไหนกันหมด มองไปทางไหนมีแต่พวกเรา ในใจคิดไปถึงหนังฝรั่งโรคจิตที่ชอบจับคนไปซ่อนตามชนบทขึ้นมาจับใจ เอางัยดี..มาถึงที่แล้ว พวกเราเยอะอย่าได้กลัว พูดปลอบใจตัวเองและเพื่อนๆค่ะ

            

          

เจ้าของ guesthouse ออกมาต้อนรับทักทาย ตัวแกสูงใหญ่ชำเหลืองมองมาที่พวกเรา นี่มันเข้าสูตรหนังโรคจิตชัดมาก พวกเราเปิดประตูบ้านที่เป็นกำแพงสูงกั้นไว้มิดชิด ถ้ามีอะไรจากด้านใน ด้านนอกไม่รู้แน่ๆ อีหล้าและผองเพื่อนเริ่มทยอยเดินเข้ามาในบ้านอย่างเงียบๆ

            

ทันใดนั้น… อีหล้าได้ยินเสียงเพื่อนร้องอย่างเสียสติ โอ๊ยแม่…ดูสวนองุ่นสิ มีลูกองุ่นตรึม เต็มบ้านไปหมดเลย ดอกไม้นานาพันธุ์แข่งกันออกดอกบานสะพรั่งสีสันสดใส
เท่านั้นแหละค่ะ ไอ้ที่กลัวๆกันแทบเยี่ยวเล็ดหายเป็นปลิดทิ้ง  ทำไมพวกเราเลือกห้องพักได้เริ่ดขนาดนี้ แน่ใจนะว่าคนละ 250 บาทแถมมีอาหารเช้าให้อีกด้วย


Nukri guesthouse ใช้ห้องพักเก่ามาตกแต่งแบบคลาสสิก ทั้งโต๊ะ ตู้ เตียง งานเพ้นท์ก็มา แถมมีห้องครัวให้เราทำอาหารอีกด้วย ที่สำคัญลุง Nukri แกมีสวนไวน์แกก็เอาไวน์หลายรสชาติมาให้เราชิม ถ้าเราชอบก็สั่งดื่มได้ราคาก็ประมาณ 15-20 ลารี wine lover จอดป้ายนี้ยาวๆไปเลยคะ  ห้องพักล้ำค่าราคาน่าร๊ากกกกกกก

ห้องพักล้ำค่าราคาน่าร๊าก..ก..  พักที่นี่ ถ้าใครตื่นเช้าก็ทำภาระกิจชักรูปในสวนองุ่นกับ เหล่าผีเสื้อที่คอยบินวนไปมา หรือจะแอ๊บเก็บองุ่นบ้าง แอ๊บชื่นชมดอกไม้บ้างเรียกว่างาน fake รุ่นใหญ่อย่างพวกเราก็ทำได้

Elahpalui

 วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 12.43 น.

ความคิดเห็น