รีวิวก่อนหน้านะคะ
จากคลิปก่อนหน้า เมื่อถึงที่พักแล้ว ยังมีเวลาเหลือกว่าจะค่ำมืด พวกเราก็ไปเดินเล่นชมบรรยากาศของ Mestia กันค่ะ แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และเงียบสงบมากค่ะ
Day 6 เมื่อคืนพักที่โรงแรม Hotel Savanti ทานอาหารเช้า ก่อนออกเดินทางโดยรถ4WD ไปยังหมู่บ้านอุชกูลลี่ (Ushguli) เป็นชุมชนโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1996 หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในเขต Svaneti ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา Shkhara สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,100 เมตร ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่สูงที่สุดในยุโรปและเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย
Ushguli แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 หมู่บ้าน ได้แก่ Zhibiani, Chvibiani, Chazhashi และ Murqmeli ประกอบไปด้วยบ้านเรือน โรงเรียน โบสถ์ ร้านอาหาร ร้านค้า และโรงแรม หมู่บ้านเหล่านี้มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ ก่อนจะมีการซ่อมแซมและพัฒนาเรื่อยมาค่ะ ซึ่งอาคารแต่ละหลังนั้นจะสร้างด้วยอิฐ หิน และวัสดุที่หาได้จากพื้นเมือง อีกทั้งยังมีหอคอยแทบทุกหลัง เพราะในอดีตจะเอาไว้เพื่อสอดส่องเผื่อมีคนบุกรุกหมู่บ้านนั่นเอง ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่ 70 ครัวเรือนหรือประมาณ 300 คน ถึงแม้ประชากรจะไม่มากและตัวหมู่บ้านจะอยู่ในหุบเขาก็ยังมีทั้งโรงเรียน โบสถ์ ร้านอาหาร ร้านค้า และโรงแรมที่พักพร้อมเลยค่ะ
การมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ จะต้องมาพักที่ Mestia ก่อน ฤดูการท่องเที่ยวนั้นสามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดปีค่ะ แต่ละช่วงเวลาก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป หากไม่ชอบอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว แนะนำให้มาเที่ยวในฤดูร้อนช่วงกลางปี บรรยากาศจะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้สลับกับสีของท้องฟ้า
ระหว่างทางที่อยู่บนรถ 4WD ตลอดสองข้างทางวิวสวยงาม สลับหวาดเสียวนิดหน่อยค่ะ ทางแคบ ด้านหนึ่งติดเขา อีกด้านติดเหว เป็นระยะๆ นะคะ
จากจุดจอดรถ มีร้านอาหารที่พัก มีวิวสวยๆด้านหลังร้านอาหารค่ะ
สั่งอาหารเอาไว้ และเดินขึ้นเนินที่มีความชันพอสมควร ระยะทางประมาณ 150 เมตร เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวค่ะ
ไปตรงไหนก็จะเจอแต่น้องหมาค่ะ
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็นั่งรถกลับ และแวะอีกจุดไฮไลท์ Tower of love
สามารถเดินขึ้นไปด้านบนได้ค่ะ แต่ทางจะแคบมากๆ
ออกจาก Tower Of Love คนขับ 4WD พาไปชมวิวทะเลสาบที่บ้านของเค้าด้วยค่ะ วิวดีมาก
มีดอกไม้หอมๆชื่อ Honey sucker
กลับถึงที่พัก ก็เดินหาร้านอาหารใน Mestia ทานกันค่ะ อาหารที่นี่เมนูจะคล้ายๆกันทุกร้าน (ลืมถ่ายไว้ค่ะ)
Day 7 เช้ามาไปซื้อของเสบียง น้ำดื่ม เตรียมไปเที่ยวจุดไฮไลท์ของ Mestia (เมืองแห่งหอคอยนับพัน) แต่เนื่องจากฝนตกและรถบัสที่จะนั่งไปยางแตก ทำให้พวกเราเปลี่ยนโปรแกรมเป็นจัดปาร์ตี้บาบิคิวแทน ฝีมือไกด์และคนขับรถค่ะ
ไม่อิ่มพอค่ะ วันนี้เราจะทานอาหารไทย (ข้าวจอร์เจีย) ฝีมือพวกเราเองด้วย เมื่อเช้าไปตลาดซื้อผัก ข้าวสาร ไข่ ไว้แล้ว (เครื่องปรุงมีแล้วแมคกี้จากไทยขวดเดียวเอาอยู่ทุกเมนู)
หน้าตาข้าวจอร์เจีย (ดิบค่ะ)
ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ครัวที่นี่เขาสะอาดมาก ตอนแรกจำกัดคนเข้าไปในครัวไม่เกิน 2 คน แต่คงเห็นแล้วว่าพวกเรา ก็รักความสะอาดค่ะ ก็เลยไปกันเต็มครัวเลย 55
เมนูแสนอร่อยในต่างแดน
หลังจากนั้น เมื่อฝนหยุด พวกเราก็ไปเดินเล่นชมวิถีชีวิต และธรรชาติ อีกด้านหนึ่งของหมู่บ้านค่ะ
จะเห็นได้ว่า Mestia เป็นเมืองที่เงียบสงบ ชาวบ้านอยู่กันเรียบง่ายมากค่ะ ใครเดินทางมาเที่ยวที่นี่และอยากจะเดินทางต่อไปยังเมือง ushguli ก็มีรถเช่าพร้อมคนขับให้บริการอยู่นะคะ
ส่วนร้านขายของชำแบบบ้านเราจะมีร้านเล็กร้านน้อยอยู่ติดๆกัน เยอะมากเช่นกันค่ะ
และที่เห็นอยู่ลิบๆ โน่น เราจะเดินไปกันค่ะ เป็นโบสถ์ที่อยู่ภายในหมู่บ้าน Matskhovari Church in mestia ชาวบ้านเรียก Mestiis sakatedro tazar
เส้นทางเดินผ่านไปโบสถ์ค่ะ
ทางขึ้นโบสถ์ที่ค่อนข้างลาดชัน
ภาพมุมสูงจากโบสถ์ค่ะ
เดินกันจนเย็นค่ะ กลับมาหาอาหารทานแกล้มเบียร์กันที่โรงแรม พักผ่อนกันตามอัธยาศัย อากาศเย็นสบายมากๆค่ะ
Day 8 เช้าแห่งการเดินทางอีกแล้ว(Mestia to Tbilisi) อากาศวันนี้ 11 องศา เย็นสบายค่อนไปทางหนาวสำหรับพวกเราเลยล่ะ
หลังอาหารเช้า ก่อนออกเดินทาง มีน้องหมาประจำโรงแรมคอยส่งด้วย
ระหว่างทางมีแวะในหมู่บ้าน Svaneti
ผ่านอ่างเก็บน้ำ Enguri
มื้อกลางวันก็แวะซื้อแมคโดนัลที่ Zugdidi ทานกันค่ะ พนักงานที่นี่ตื่นเต้นมากที่เห็นคนไทยไม่ทราบว่าชอบคนไทยแน่ๆเลย
ถึงที่พัก Tbilisi ค่ำ วันนี้ไม่พลาดค่ะ ไปทานอาหารไทยกันที่เดิม ร้าน CHARM THAI ขอบอกว่าอาหารร้านนี้รสชาติเหมือนกับทานที่ไทยมากๆ
วันนี้พักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้จะพาไปเก็บสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆทบิลิซีที่ยังตกค้างอยู่ค่ะ
รีวิวถัดไปค่ะ
ขอบคุณที่ติดตาม กดไลค์ กดแชร์นะคะ
KeRoDiaryy
KeRoDiaryy
วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 20.20 น.