ทริปนี้เป็นการเดินทางไปที่อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ในช่วงปลายฤดูฝน โดยเริ่มจากอำเภอปัว ไปอำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข ปิดท้ายเที่ยวในตัวเมือง จุดแวะทั้งหมดของทริปตามนี้เลย
- กาแฟสดบ้านไทลื้อ
- ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
- สองเมืองรีสอร์ต
- หมู่บ้านสะปัน
- บ่อเกลือ
- โค้งพับผ้าและถนนเลข 3
- กาแฟดอยกว่าง
- ข้าวหลามปัาเพ็ญ
- Cocoa valley resort
- วัดภูมินทร์
- ถนนคนเดินน่าน
- ร้านอาหารบ้านบุ๋ม
- Swensen's สาขาน่าน
เริ่มเดินทาง
ก่อนที่จะเดินทางจากอำเภอปัวไปอำเภอบ่อเกลือ ต้องเตรียมเสบียงและน้ำมันรถให้พร้อม เพราะจะไม่เจอปั้มน้ำมันอีกแล้ว เมื่อออกจากปั้ม ปตท. ให้ใช้เส้นทาง 1081 เพื่อเดินทางไปยังร้านกาแฟสดบ้านไทลื้อและฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำเป็นจุดแรก
กาแฟสดบ้านไทลื้อ
ขับรถมาได้ไม่กี่นาทีก็จะพบกับร้านกาแฟสดบ้านไทลื้อ วิวสวยธรรมชาติมากๆ อารมณ์เหมือนเลี้ยงวัวตามทุ่งนา ลูกค้าเยอะเลยทีเดียว ที่นั่งมุมต่างๆก็ถูกจับจองหมดแล้ว เราจึงมาแวะชมและถ่ายรูปเท่านั้น เพราะร้านที่เราจะไปแวะพักนั่งกินอีกที่ คือ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
ห่างจากร้านกาแฟสดบ้านไทลื้อประมาณ 2 กิโลเมตร บรรยากาศร้านดีมากๆ วิวทุ่งนาเขียวขจี ร้านนี้ใครมาต้องสั่งพิซซ่าเห็ดกันทุกโต๊ะ
มื้อนี้อิ่มแบบจุกๆ พิซซ่าเหลือสามารถขอกล่องใส่กลับได้
มีทางลงไปวังศิลาแลงด้วย แต่ทางร้านบอกว่าตอนนี้น้ำป่ามา อันตราย ไม่ควรลงไป
ชอบทางเดินของร้าน รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในป่า
ชิงช้าที่นี่หวาดเสียวมาก ถ้าพลาดก็ไปเจอกันอีกทีข้างล่างเลยนะ ตรงนี้เป็นอีกมุมหนึ่งที่ต้องมาถ่ายรูปกัน
หลังจากพักกินข้าวที่ฟาร์มเห็ดจนอิ่มแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปสู่ที่พัก จะไม่แวะไหนแล้ว เพราะกว่าจะถึงที่พักฟ้าคงเริ่มจะมืดแล้ว ขับรถบนเขาตอนฟ้ามืดบวกกับฟิล์มกรองแสงดำ แถมฝนตกอีก ปัญหาใหญ่แน่ๆ ตลอดเส้นทางวิวสวยมาก แค่นี้ก็ฟินแล้ว ก่อนถึงบ่อเกลือเราจะผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
จุดชมวิว 1715
จุดชมวิว 1715 อยู่ทางขวามือ แต่ฝนตกหนักมาก แค่ลงรถยังไม่ได้เลย จะรอฝนหยุดก็ไม่รู้จะอีกนานไหม ตอนนี้ก็เกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว กว่าจะถึงที่พักฟ้าจะมืดพอดี จะขับรถลำบาก เอาไว้คราวหน้าค่อยมาแวะ
ขับรถมาอีกสักพัก จะพบเจอกับฝูงแพะตลอดทาง ถนนลอยฟ้าเวลาฝนตกมันสวยจริงๆ
ถนนจากปัวไปบ่อเกลือ จะพบเจอกับวิวป่าเขาเมฆหมอกตลอดเส้นทาง
สองเมืองแคมป์ปิ้ง
ถึงที่พักแล้ว เราเลือกพักที่สองเมืองแคมป์ปิ้ง ที่พักบนเนินเขา มองเห็นและใกล้ชิดธรรมชาติแบบ 180 องศา ที่นี่มีห้องพักเป็นแคปซูล บ้านพักไม้ เต็นท์กระโจม และลานกางเต็นท์
💸 ราคาพี่พัก
บ้านแคปซูล เป็นห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 1,200 บาท รวมอาหารเช้า พักได้ 2 คน
บ้านพักบ้านไม้ เป็นห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 2,500 บาท รวมอาหารเช้า พักได้ 4 คน
กระโจมแลละเต็นท์ เป็นห้องน้ำรวม มีเครื่องทำน้ำอุ่น ราคา 1,000 บาท รวมอาหารเช้า พักได้ 2 คน
ห้องพักเราเลือกแบบแคปซูล เลือกห้องที่อยู่สูงที่สุด เพราะชอบที่รูปทรงน่ารัก วิวสวย แต่จะลำบากตอนขนสัมภาระขึ้นไปที่ห้องพัก ใครเอากระเป๋าล้อลากมา บอกเลยว่าปวดแขนแน่ๆ
ภายในห้องพักมีแต่พัดลม ไม่มีแอร์ แต่ไม่ต้องกลัวร้อนเพราะช่วงกลางคืนจะหนาวนิดๆ และมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้
เมื่อฟ้าเริ่มจะมืด บรรยากาศดีมาก ฝนตกปรอยๆ แมลงต่างๆเริ่มส่งเสียงร้องกันแล้ว
ทางรีสอร์ตจะมีโต๊ะให้ไว้สำหรับกินหมูจุ่มได้ที่หน้าห้อง แต่ฝนตกไม่หยุด จึงเปลี่ยนไปกินที่ศาลาส่วนกลางแทน แต่วิวสวยเหมือนกัน หมอกฝนมีเยอะมาก ยิ่งดึกยิ่งเยอะ
เช้าวันใหม่ เปิดประตูห้องออกมาจะพบกับบรรยากาศแบบนี้เลย ฟินมาก อากาศเย็นสบาย นั่งชมวิวชมหมอกหน้าห้องสักพักแล้วค่อยอาบน้ำเก็บสัมภาระไปที่อิ่นกันต่อ
อาหารเช้าของวันนี้จะเป็นข้าวต้ม ไส้กรอกนึ่ง ขนมจีบ ขนมปังปิ้ง โอวัลติน น้ำชา กาแฟ น้ำส้มคั้น 100%
หมู่บ้านสะปัน
ที่หมู่บ้านสะปัน ฝนก็ยังตกตั้งแต่เมื่อวาน น้ำในแม่น้ำเริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีส้มขุ่นๆ ที่น้ำตกก็สั่งห้ามเข้าไปโดยเด็ดขาด
มุมสะพานที่ต้องมาแวะถ่ายรูป ไม่ถ่ายถือว่ามาไม่ถึงสะปัน
บ่อเกลือ
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เมื่อเดินเข้าไปในหมู่บ้าน บรรยากาศดูอบอุ่น บ่อเกลือภูเขาหนึ่งเดียวในโลก จะมีอยู่ด้วยกัน 2 บ่อ คือ บ่อเหนือและบ่อใต้ บ่อเหนือจะอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำมาง บ่อใต้จะอยู่ที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน เรามาในช่วงเข้าพรรษาจะไม่ได้พบเห็นวิธีการทำเกลือ (ทำเกลือจะหยุดทำในช่วงเช้าพรรษาและจะทำอีกครั้งในช่วงออกพรรษา) มีร้านขายของฝากอยู่ด้วยกันหลายร้าน มีทั้งเกลือถุง ดอกเกลือ เกลือสำหรับขัดหน้า-แช่เท้า
บ่อใต้
บ่อเหนือ
โค้งพับผ้า
ออกจากตัวอำเภอบ่อเกลือประมาณ 10 กิโล จะพบกับโค้งที่สวยอีกโค้ง คือ โค้งพับผ้า วิวภูเขาสุดสายตา
ถนนเลข 3
ถนนลอยฟ้า โค้งเลข 3 เส้นทางถนนหมายเลข 1081 เดินทางมาจาก อ.บ่อเกลือ ไป อ.สันติสุข เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถ้ามาในช่วงนักท่องเที่ยวเยอะ ต้องรอคิวกันนานหน่อย
กาแฟดอยกว่าง
ร้านกาแฟวิวดี ขับรถจากถนนเลข 3 มาได้สักพัก ร้านจะอยู่ริมถนนลอยฟ้า
เมนูแนะนำของร้านคือ ชามะนาวน้ำผึ้งป่า รสชาติเยี่ยมมาก
ด้านข้างกาแฟดอยกว่างจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาวขาลอย การนั่งกินจะเป็นแบบเดียวกับก๋วยเตี๋ยวห้อยขาพิษณุโลก
ข้าวหลามป้าเพ็ญ
ของดีอำเภอปัว ข้าวเหนียวนิ่ม ไส้ทะลักล้นกระบอก มีไส้ให้เลือกมากมาย
Cocoa Valley Resort
เป็นทั้งที่พักและคาเฟ่ สวรรค์ของคนรักช็อกโกแลต รับรองได้เลยว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวัง ฟินกันแน่นอน ที่นี่เขาปลูกโกโก้เอง และยังมีเวิร์คช็อปทำช็อกโกแลตด้วยตัวเอง จ่ายเพิ่มคนละ 350 บาท ใช้เวลา 1.30 - 2.00 ชั่วโมง กิจกรรมนี้มีวันละ 2 รอบเวลาเท่านั้น คือ รอบแรก 09:30 น. และรอบที่สองเวลา 13:30 น.
เมนูแนะนำของร้านนี้เป็นช็อกโกแลตโดม อร่อยมาก
วัดภูมินทร์
เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ได้มาถือว่ามาไม่ถึงน่าน จุดเด่นของวัดนี้คือ พระอุโบสถจตุรมุข สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะ ที่รวมเอาโบสถ์ วิหาร และเจดีย์ ไว้ในอาคารเดียวกัน ภาพเขียนสีโบราณยังอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ภาพวาดที่โด่งดังที่สุด จะเป็นภาพ ปู่ม่านย่าม่าน
ปู่ม่านย่าม่าน "กระซิบรักบันลือโลก" เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ เป็นผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรพื้นถิ่นเชื้อสายไทลื้อ
ถนนคนเดินน่าน
ก่อนเข้าไปภายในถนนคนเดิน จะต้องลงทะเบียนและวัดไข้ จุดเข้าจะมีอยู่ 2 ด้าน คือ บริเวณด้านหน้าและด้านหลังวัดภูมินทร์ ที่นี่ระยะถนนคนเดินจะสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยอาหาร เครื่องดื่ม ของฝากหลากหลายมาก
บรรยากาศการกินแบบนั่งขันโตกฟินๆ แบบชาวล้านนา
ระหว่างนั่งกินที่ลานหน้าวัดภูมินทร์ จะมีสองพ่อลูกเล่นดนตรีให้ฟัง เสียงลูกสาวแหลมบาดใจมาก
ร้านอาหารบ้านบุ๋ม
ร้านนี้บอกเลยว่าอาหารอร่อยมาก บริการดี แนะนำเลยหากเที่ยวในตัวเมืองน่าน ต้องลองมาแวะชิม ร้านอยู่เลยสนามบินน่านไปไม่กี่กิโลเมตร
Swensens สาขา กาดน่าน
สเวนเซ่นส์เพียงสาขาเดียวที่ตกแต่งสไตล์ล้านนา ที่นั่งในร้านมีมากมายหลายมุม ชั้น 2 จะเป็นแบบขันโตก รามาในช่วงเปิดใหม่ บอกเลยว่าคิวยาวมาก รอคิวประมาณครึ่งชั่วโมงเลยนะ ใครอยากได้บัตรสมาชิกที่มีลวดลายไม่เหมือนสาขาอื่น ต้องที่นี่สาขานี้เลย
ที่ชั้น 2 ได้บรรยากาศมากๆ
ก่อนกลับบ้าน แวะถ่ายรูปที่กำแพงเมืองเก่าน่านเป็นจุดสุดท้ายของทริปนี้
ไปกับพี่พูห์
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.03 น.