สวนยาหลวง บ้านสันเจริญ อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยศึกษาการอนุรักษ์ต้นน้ำดอยกาด อ.ปง จ.พะเยา มีความสูง 1600 เมตร จากระดับน้ำทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 77 กิโลเมตร

เดิมทีสวนยาหลวงเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวเขาเผ่าเมี่ยนที่ใหญ่มากๆ แห่งหนึ่งในประเทศไทย แต่ด้วยน้ำพระทัยของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ชาวบ้านหันมาปลูกพืชไร่ และพืชเศรษฐกิจอย่างเมล็ดกาแฟพันธ์อะราบิก้า ทดแทนฝิ่น ปัจจุบันกาแฟจึงกลายเป็นรายได้หลักของชาวบ้าน

ข้อมูลจาก  : Travel Mthai.com

นั่งรถขึ้นดอยตูดระบม บนไร่กาแฟ ดอยสวนยาหลวง จ.น่าน=================================

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางกับเพื่อนสนิทเราเอง ที่ชวนพวกมันแล้วส่งรีวิวสวยๆไปให้มันอ่าน มันก็ใจง่าย รับคำว่าจะไปด้วยทันที แต่พวกเราก็ไม่รู้ว่าระหว่างทางที่ขึ้นนั้น นั่งรถตูดระบมมาก ทางเป็นหลุม หักศอก กลับมานี่ยังนั่งปวดตูดเลย 5555555

ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง ติดต่อเพจ : ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ
จะไปควรจองไปก่อนนะจ๊ะ
#1-5 คน ราคาเหมาทริป 5,000 บาท
#5-10 คน ราคา 1,000 บาท/คน
#ราคารวมที่พัก รถจาก"หมู่บ้าน"ขึ้น/ลงดอยสวนยาหลวง อาหารเย็น/เช้า
#ถ้าไม่มีรถสามารถจองรถให้มารับที่ตลาดสดท่าวังผา ไปกลับ 2000 บาท
#หน้าฝนรถอาจขึ้นไม่ได้ ต้องเดินเท้าร่วมด้วย
#สอบถามเส้นทางโทร 09-6952-2223 / 08-6390-7737
#สอบถามตารางวันว่างโทร 08-5150-5269
#พิกัดโรงเรียนบ้านสันเจริญ 7M42+9P ตำบล ผาทอง อำเภอ ท่าวังผา น่าน
เราและเพื่อนเดินทางโดยรถทัวร์ของสมบัติทัวร์ ขาละ  538 บาท ลงตลาดสดท่าวังผา แล้วติดต่อพี่กริตให้ลงมารับ 
พี่กริตเป็นไกด์พาเที่ยว คนขับรถและคอยดูแลพวกเราระหว่างที่ไปพักบนบ้านสวนกาแฟ แต่ครั้งนี้พี่กริตยังพาไปเที่ยวอำเภอปัว อำเภอที่อยู่ใกล้ๆท่าวังผา แล้วพี่เค้าก็แวะมาส่งกาแฟด้วย

ระหว่างทางไป พี่เค้าพาแวะ วัดศรีมงคล” หรือวัดบ้านก๋ง

ต้นข้าวกำลังเขียวขจีที่กำลังเติบโต เรามีจุดชมวิวนาข้าวที่สดชื่นสวยงาม ชมดอยภูคาสูงใหญ่งามสง่า

เห็นไกลๆนั่น ดอยภูคา เดินลงสะพานไปจะมีคาเฟ่ ราคาไม่แพง อร่อยด้วย

จุดชมวิวตรงนี้ ควรมาถ่ายกันน้า

สดชื่นมากๆ

หลังจากชมวิวตรงนี้ พี่กริตยังพาไปอำเภอปัว จุดเช็คอินที่คนอื่นมา คือกาแฟบ้านไทลื้อ แต่พอไปถึงเรากับต้องร้องเห้ยยยยยยยยย

มันมีอะไรให้เราดูอ่ะ ฮ่าๆ แต่ไหนก็ไปแล้ว เช็คอินหน่อยจ้า

จุดชมวิวกาแฟบ้านไทลื้อ อำเภอปัว จังหวัดน่าน

ไม่รู้จะรีวิวอะไรเลย ณ จุดๆนี้ งง ฮ่าๆ

หลังจากพี่กริตพาเราไปแวะเที่ยวที่อำเภอปัว ก็กลับมาซื้อของในตลาดสดท่าวังผา แล้วขึ้นไปบนหมู่บ้านสันเจริญ 

หมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา ที่มีการปลูกกาแฟและแปรรูป เพื่อเป็นรายได้หลักของชาวบ้าน

ภายในหมู่บ้านยังคงมีเอกลักษณ์ของที่นั่น สงบ ผู้คนยังพูดภาษาท้องถิ่น เป็นภาษาเมี่ยน

จากในหมู่บ้านพี่กริตพาพวกเราขึ้นไปที่ร้านกาแฟ ลาเปี้ยน คอฟฟี่ เป็นร้านกาแฟของพี่เค้า พร้อมกับชงกาแฟให้พวกเรา แต่เราแอบไปเห็นเหล้าลูกพรัมของพี่แก เลยลองชิมมา ใช้ได้ แสบบบ

พี่คนนี้ คือพี่กริต ไกด์พวกเราเอง 

หลังจากกินกาแฟเรียบร้อย ก็รอพี่ๆ ที่มาแจมกับพวกเราอีกสองคน พอพร้อมกันแล้วก็นั่งรถกะบะ ขึ้นดอยกัน การขึ้นดอยจะต้องใช้กระบะ  4x4 ขึ้น ถ้าช่วงหน้าฝนอาจจะต้องใช้โซ่ล่ามล้อขึ้นไป 

จะบอกว่าระหว่างทางขึ้น ทางโหดนะคะ เป็นหลุม เป็นโคลน หักศอก นั่งกันนี่ตูดระบมกันไปเลยจ้า แถมยังต้องคอยหลบกิ่งไม้ข้างทางกันด้วยนะ

นั่งรถจากหมุ่บ้านสันเจริญ ขึ้นยไปพักบนบ้านสวนกาแฟใช้เวลาประมาณ  40-60  แต่เป็นเวลาที่นั่งเกร็งไปตลอดทางเลย 

บ้านพักของเรา ดูคลาสสิค

มุมระเบียงบ้านก็เก็บให้หมดจ่ะ

ถนนหน้าบ้านก็สวยนะแก

ข้างบนไม่ค่อยมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตนะ เรียกว่าไม่มีเลย 555555 มีห้องน้ำ 2 ห้อง มีไฟฟ้าจากโซล่าเซล แต่จะชาร์ตแบตโทรศัพย์ พกพาวเวอร์แบงค์ไปเด้อ

ระเบียงหน้าบ้าน

มองจากหน้าบ้านก็จะเจอวิวแบบนี้ ส่วนที่นอนก็จะเป็นแบบนี้จ่ะ นุ่มๆ หมอนก็นุ่ม

หลักจากทัวร์หน้าบ้านก็มาทัวร์ในบ้านบ้าง ยังคงอนุรักษ์ความคลาสสิคของความเป็นชนเผ่า

น้องพีหรือน้องยุ่น ผู้ช่วยพี่กริต น้องช่วยดูแลพวกเรา อาหารและอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทำให้พวกป้าๆแซวน้องไม่หยุด

ห้องน้ำข้างบนมีสองห้อง อาบน้ำได้สะดวกสบาย ใครลืม สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ข้างบนมีเพียบ มีคนลืมไว้เยอะมากกกกกก 55555

ทัวร์ชมบ้านกันเสร็จก็เตรียมทำอาหาร ผัดฟักแม้วที่เด็ดสดๆจากต้น มาช่วยกันปอก 

เตรียมอาหารเย็นไว้ พี่กริตก็พาขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดิน บนยอดดอย

กับวิวแบบนี้ 


วิว 360 องศา


ถ่ายรูปเยอะมากแก สวยทุกมุม

กับป้ายก็ขาดไม่ได้นะจ๊ะ อย่าลืมถ่าย

ลงจากดูพระอาทิตย์ตก กลับมานั่งกินข้าวเย็นที่โคตรอร่อย ผัดฟักแม้วที่เด็ดจาดต้นสดๆ กับข้าวบ้านๆลองด้วยใบตอง โคตรดีย์เลย

กินข้าวเย็นเสร็จนั่งป๊อกเหล้า เหล้าต้มพี่กริตอร่อย ใครไปบอกให้พี่แกเตรียมไว้ให้ได้เลย อย่าลืมมะนาวกับเกลือด้วยนะ

พี่ๆสองคนเจอกันข้างบน พี่ๆน่ารักมาก ขออนุญาตเอารูปลงนะคะ แล้วเหมือนเป็นคนบาปสอนพี่ๆเค้าป๊อกเหล้า 

กินข้าวเสร็จ จบด้วยการป๊อกเหล้า แล้วเข้านอน

เช้ามาด้วยเสียงเรียกของพี่กริตแต่เช้า ว่า ตื่นกันได้แล้วววว หมอกมาแล้ว ทุกคนยังนิ่ง มีแอนเดินไปคนแรก ตามด้วยเพื่อนๆ ส่วนเราทีหลังจ่ะ ไม่ลุกกก 

พี่กริตมาดิฟกาแฟท่ามกลางสายหมอกแต่เช้า เมื่อคืนกินเหล้า ตอนเช้ามาดิฟกาแฟจ่ะ 

เบื้องหลังการดิฟกาแฟและการถ่ายรูปจ่ะ 

หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็ได้เวลาอาหารเช้า ข้าวผัดไข่ และผัดฟักแม้ว โคตรอร่อย

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็อาบน้ำเก็บของลงมาจากบนดอย ประมาณ 9 โมง ยังพอมีเวลาเหลือรถกลับไป กทม ก็เข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองน่าน โดยให้พี่กริตมาส่งที่สถานีตำรวจท่าวังผา  รอรถสองแถวเข้าเมืองตรงศาลาริมทาง ราคา คนละ 35 บาท 

ที่แรกที่เดินเล่นในตัวเมืองน่าน 

วัดภูมินทร์ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง 

ภาพเด่น คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบสนทนากัน ผู้ชายสักหมึก ผู้หญิงแต่งกายไทลื้ออย่างเต็มยศ ภาพวาดของหนุ่มสาวคู่นี้มีความประณีตมาก ภาพนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์

ซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทม บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน เดินออกจากหน้าวัดภูมินทร์ ก็ถึงเลยค่ะ อยู่ตรงข้ามกัน

ตอนเย็นเดินเล่นถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์แล้วกลับไปขึ้นรถที่ บขส น่าน ค่ะ

สรุปค่าใช้จ่าย

รถทัวร์ กทม - ท่าวังผา 1076 บาท

ค่าที่พักบนดอย คนละ 1000 บาท

ค่ารถรับส่งจากตลาดไปท่าวังผา คนละ  400 บาท

ค่ารถสองแถว  35 บาท

ค่าของกิน แล้วแต่บุคคล  500 บาท

ฝากติดตามเพจ กาลครั้งหนึ่ง - one upon a time 

https://web.facebook.com/Oneup...

สำหรับรีวิวอื่นๆด้วยนะคะ

#น่าน

#ท่าวังผา

#ปัว

#กาแฟบ้านไทลื้อ

#ดอยสวนยาหลวง

กาลครั้งหนึ่ง

 วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.22 น.

ความคิดเห็น