แท่งล้มพับสลบคาเตียง หลังจากที่มิวมิวพากลับมาส่งที่โรงแรม แต่สำหรับผมจัดแจงหยิบแผนที่เมืองมัณฑะเลย์ พับใส่กระเป๋า แล้วออกจากโรงแรมอีกครั้งหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่า นั่นคือชั่วโมงสุดท้าย ของการเดินทางในพม่า ที่ความแข็งแรงยังคงอยู่กับตัวผม

ผมกางแผนที่เมืองมัณฑะเลย์ออกอีกครั้งหนึ่ง ผังเมืองมัณฑะเลย์ถูกวางไว้เป็นดังตารางหมากรุก เพราะถนนแต่ละสายถูกตัดเป็นเส้นตรง มีชื่อเป็นหมายเลข นั่นคือสิ่งที่ประเทศผู้ล่าอาณานิคม นามว่า อังกฤษ มอบไว้เป็นของขวัญให้ดูต่างหน้าก่อนที่อิสรภาพจึงคืนกลับสู่ประชาชนเจ้าของประเทศอีกครั้งหนึ่ง

โรงแรมอีทีตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 83 ใกล้ๆกับจุดตัดของถนนหมายเลข 24 ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวังมัณฑะเลย์ ดูจากเวลาที่เหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนถึงเวลา 8 นาฬิกาที่นัดแท่งไว้ในการรับประทานอาหารเช้าของโรงแรม ผมจึงน่าจะเดินสัมผัสชีวิตยามเช้าของชาวเมืองมัณฑะเลย์ที่ตลาดเช้าได้ จึงไม่รอช้าที่จะเดินไปตามถนนหมายเลข 83 สู่หอนาฬิกา ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดียวกับที่เมื่อคืนผมกับแท่งเดินมากินข้าวหมกไก่ แต่ในเวลาเช้าที่ความสว่างมาเยือน จึงพบว่าสองข้างทางนั้นมากไปด้วยตึกเก่าๆในช่วงที่พม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ส่วนบนท้องถนนก็มีรถรุ่นสงครามโลกครั้งที่สอง วิ่งผ่านมาให้ได้เห็นเป็นระยะๆ

หอนาฬิกาที่บนยอดสร้างเหมือนยอดปราสาทของพระราชวังมัณฑะเลย์ตั้งอยู่กลางถนน ผมเลือกที่จะเลี้ยวขวาสู่ตลาด Kaing Dan จากท้องถนนที่ผู้คนบางตา จึงเปลี่ยนมาเป็นตลาดเช้าที่คึกคักไปด้วยผู้คน ที่ออกจ่ายตลาดเพื่อซื้อหาสารพัดผักและผลไม้สดๆ ที่กองขายบนพื้นถนน และทอดยาวลึกเข้าไปเกินกว่าที่สายตาจะมองถึง

แต่สายตาผมก็หยุดลงเมื่อมองเห็นสตรอเบอร์รี่ลูกแดงสด ที่ใส่อยู่ในตะกร้าสารใบน้อย ดูแล้วกระจุ๋มกระจิ๋ม น่ารัก น่ากินจนอดใจไม่ไหวที่จะลิ้มลอง

สุดตลาดเป็นที่ตั้งของวัดทัคยาทีหะ (Thakya Thiha) สังเกตจากหน้าวัดมีพวงมาลัยดอกมะลิสดสำหรับนำไปบูชาวางขายเป็นจำนวนมาก จึงเชื่อว่าวัดแห่งนี้น่าจะเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวมัณฑะเลย์น้องๆวัดมหามัยมุนี

ผมเดินเข้าไปภายในวิหารหลังใหญ่ ที่สร้างในปีพ.ศ.2498 แม้จะเป็นปีที่พม่าได้รับอิสรภาพจากอังกฤษแล้ว แต่ก็ยังคงกลิ่นอายในยุคล่าอาณานิคม จึงทำให้วิหารแห่งนี้มีรูปทรงที่แปลกตา เนื่องจากเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะพม่ากับสถาปัตยกรรมอังกฤษ โดยภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานซึ่งมีพระพักตร์งดงามผุดผ่อง มองดูคล้ายพระมหามัยมุนี แต่ต่างกันตรงที่ไม่ได้ทรงเครื่องกษัตริย์ และพระวรกายนั้นไม่ได้มีทองคำเปลวปิดจนทำให้รูปร่างใหญ่โตขึ้น แล้วพวงมาลัยดอกมะลิสด ที่ผมซื้อมาก็ถูกวางไว้หน้าพระพุทธรูปองค์นี้

กระทิงเปลี่ยวเที่ยวโลกกว้าง

 วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.48 น.

ความคิดเห็น