เขาช้างเผือกอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเขาในฝันของหลายๆคนและเป็นเขาที่ขึ้นชื่อว่าจองยากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยลองจากเขาโมโกจู โดยเขาช้างเผือกจะเปิดให้เดินป่าท่องเที่ยวได้เพียงประมาณ 2 เดือนเท่านั้นคือช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน ถึง มกราคมของปีถัดไป ซึ่งอาจจะปิดก่อนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของปีนั้นๆด้วย
การจองไปเดินเขาช้างเผือกนั้น จะต้องโทรไปจองล่วงหน้าก่อนวันที่จะขึ้นเขา 7 วัน ที่เบอร์ 089-252-0359 และ 034-510-979 เรามีทริกในการโทรแนะนำเล็กน้อยคือเราจะเน้นโทรเบอร์ สำนักงาน 034-510-979 และกดเป็นจังหวะไม่กดรัวๆค่ะ แต่จำนวนสายที่เรากดโทรไปก็ไม่น้อยเลยนะคะ 123 สาย เราว่าการที่จะจองเขาช้างเผือกได้นอกจากจะใช้ความเร็วคงต้องอาศัยแต้มบุญเราด้วยค่ะ
การเตรียมตัวเมื่อจองได้แล้ว
-ฉีดวัคซีนครบโดสและตรวจ ATK พร้อมใบรับรองแพทย์ ภายใน 48 ชั่วโมง
-เตรียมร่างกายและเงิน
-เตรียมเต็นท์และเครื่องนอน หากไม่มีสามารถเช่าที่อุทยานได้
-เตรียมอาหารและน้ำดื่มขึ้นไปให้เพียงพอ
-หากไม่มีรถส่วนตัวต้องวางแผนการเดินทางดีๆนะ
มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดช่วงท้ายนะ งบไม่เยอะไม่เกิน 2000 บาทจ้า
มาเริ่มเดินทางกันเลยค่ะ เราไม่มีรถส่วนตัวเลยต้องตื่นไปขึ้นรถตู้รอบเช้าสุดที่หมอชิตค่ะ เดินไปตรงคิวรถตู้อาคาร D เลยนะ เราได้รอบตี 5 ไปถึงกาญจนบุรีประมาณ 7.30 น. เราเดินมาขึ้นรถตู้ไปตลาดทองผาภูมิต่อ เราได้รอบ 8.20 น. ระหว่างนี้เราก็ไปหาข้าวกินรอ คิวรถตู้อยู่ข้างๆ บขส. ป้ายแดงเด่นอยู่ตรงนี้เด้อ
นั่งรถจากกาญจบุรีมาทองผาภูมิประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง พอถึงคิวรถตู้ก็ต้องต่อวินมอโซค์ไปตลาดทองผาภูมิอีก 20 บาท มารอขึ้นรถเหลืองไปบ้านอิต่องรอบสุดท้ายหมด 12.30 นะ นี่ขนาดเรามาจาก กทม.รอบเช้าสุด มาทันรถเหลืองขึ้นบ้านอิต่องรอบสุดท้ายพอดี ค่ารถ 70 บาทนะ
คำนวนเวลากันดีๆน๊าเดี๋ยวตกรถเด้อ
เดินทางขึ้นไปบ้านอิต่องกันต่อเลยค่ะ ระหว่างทางก็จะโค้งเยอะๆ ถนนหนทางนี่คือชำรุดขลุขละมากนะคะ ทำใจไว้ด้วย เก็บผมหาหมวกคลุมให้เรียบร้อยเพราะฝุ่นตลบอบอวลมาก ดูสภาพเลยค่ะ (ขออนุญาติทุกท่านที่อยู่ในภาพด้วยนะคะ)
เราขอลงต้องอุทยานทองผาภูมินะ เพราะเราจะค้างที่นี่พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้ามาลงทะเบียนขึ้นเขาตอน 6 โมงเช้าค่ะ
ติดต่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยเราก็ไปหาพื้นที่กางเต็นท์ได้เลยค่ะ ที่อุทยานมีร้านสวัสดิการและร้านอาหารนะคะสามารถสั่งทานได้ ลานกางเต็นท์บรรยากาศดี จุดชมวิวสวยมากนะ
เราตื่นตี 5 ล้างหน้าแปลงฟันเสร็จมารอลงทะเบียนตอน 6 โมง เรามาถึงก็มีคนมารอลงเบียนเยอะแล้วค่ะ ลงทะเบียนเสร็จ ต้องเดินทางไปจุดเริ่มเดินขึ้นเขาที่หมู่บ้านอิต่องและติดต่อลูกหาบตรงนั้นได้เลยค่ะ เราไปแบบไม่มีรถ พี่ จนท. อุทยานฝากให้เราติดรถพี่นักท่องเที่ยวที่จะไปขึ้นเขาเหมือนกันให้ค่ะ ต้องขอบคุณมากๆเลยค่ะ
เราลงตรงตลาดบ้านอิต่อง เพื่อหาสเบียงไว้ไปกินที่บนเขาช้างเผือก 3 มื้อ เราได้หมูทอดและน้ำพริกไปเป็นมื้อกลางวันง่ายดี ส่วนอาหารเย็นและเช้าพรุ่งนี้เราเตรียมอาหารแห้งมากแล้วค่ะ
เราจะเริ่มเดินไปที่ป้ายทางขึ้นเขาช้างเผือกจากจุดนี้นะ เริ่มเลยย
ทางขึ้นเขาจริงๆ คือจุดนี้นะคะ กว่าจะถึงจุดนี้ก็เดินขึ้นหอบเหมือนกันนะ
นี่ระหว่างทางเดินก็จะเป็นป่าสลับกับหญ้าไปแบบนี้เรื่อยๆ แนะนำใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดเนื้อหนังเราดีๆนะคะ ไม่งั้นแสบไปทั้งตัวแน่ค่ะ พยายามลงทะเบียนเดินขึ้นเช้าๆหน่อยนะคะจะได้ไม่ร้อนมาก
พวกเราแบกของกันเองไม่ได้จ้างลูกหาบค่ะ งบเราน้อย ก็ไหวอยู่นะ
ถึงตรงนี้ก็ใกล้ถึงลานกางเต็นท์แล้วเด้อ ลงเนินไปอีกนิดเดียว ฮึบๆ
นั่นไง ข้างล่างนั่นลานกางเต็นท์เรา ว้าววว สวยงามคุ้มค่าเหนื่อยมากเลย เราลงไปถึงจุดกางเต็นท์ประมาณเที่ยงนิดๆ กางเต็นท์เสร็จเราก็กินข้าวและนอนพักค่ะ เพราะประมาณบ่ายสามโมง จนท.จะพาเราเดินขึ้นยอดเขาช้างเผือกเด้อ นอนเอาแรงไปก่อนนนนน
15.00 น. จนท. ก็เรียกรวมพลชี้แจงกฏระเบียบต่างๆ ให้เราปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและมีสติตลอดเวลานะคะ
นี่คือยอดเขาช้างเผือกที่อยากให้มาสักครั้งในชีวิต มันสวยมากกกก ยิ่งใหญ่มากกก
สักประมาณ 17.00 น. จนท. ก็ให้ทยอยลงจากเขาแล้วค่ะ เดี๋ยวฟ้ามืดจะเกิดอันตรายได้ ระหว่างเดินลงก็เก็บภาพเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ ครั้งนึงในชีวิตเนอะไม่รู้ว่าจะมีครั้งต่อไปรึป่าวต้องเก็บภาพไว้เยอะๆค่ะ
ขาเดินลงจากยอดเขากับสันคมมีดที่ร่ำลือกัน ตอนขึ้นไม่กล้าหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเลยถ่ายตอนขาลงค่ะ ช่วงรอต่อคิวลงจากสันคมมีด เสียวมาก จริงๆคือขาสั่นกลัว
พอลงมาถึงลานกางเต็นท์แสงพระอาทิตย์กำลังจะตกสวยมากเลย
อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตาตัวเองจริงๆเลยค่ะ
พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดวงดาวก็ออกมาทักทายพวกเราเยอะมากและสวยมาก แต่ดูดาวได้แค่แปบเดียวก็เข้าเต็นท์แล้วค่ะ หนาวลมแรงมากแทบจะไม่ได้นอนเลยทีเดียว
นี่เป็นรางวัลของคนตื่นเช้าค่ะ จับใจเหลือเกิน
เราเก็บเต็นท์และเริ่มเดินลงตอนแปดโมงเช้าค่ะ ก่อนกลับก็เลยถ่ายภาพห้องน้ำในตำนานมาให้ดูกัน อิอิ
พอเราลงไปถึงบ้านอิต่องรถเหลืองรอบสุดท้ายออกไปแล้วนะคะ รอบสุดท้ายคือ 8.30 น. ซึ่งเราไม่มีทางลงมาทันแน่นอน (หากใครพอจะมีเวลาเราแนะนำเที่ยวบ้านอิต่องอีกสักคืนนะคะบรรยากาศดีเหลือเกิน) เราอาศัยโบกรถนักท่องเที่ยวกลับลงไปทองผาภูมิค่ะ ซึ่งพี่ๆนักท่องเที่ยวใจดีมากต้องกราบขอบคุณไว้นะโอกาสนี้ด้วย
สุรปค่าใช้จ่ายทั้งหมดนะคะ
ค่ารถตู้ ไป/กลับ กทม.-กาญ 240 บาท
ค่ารถตู้ไป/กลับ กาญฯ-ทองผาภูมิ 235 บาท
ค่ามอโซค์ไป/กลับวินรถตู้ทองผาภูมิ 40 บาท
ค่ารถสองแถวไปอิต่อง 70 บาท
ค่าธรรมเนียมและค่ากางเต็นท์ที่อุทยานคืนแรก 70 บาท
ค่าธรรมเนียม/จนท.นำทาง/ค่ากางเต็นท์ 340 บาท
ค่าอาหารประมาณ 400 บาท
รวม 1395 บาท
***เราไม่ได้จ้างลูกหาบจ้า***
จบแล้วค่ะทริปเขาช้างเผือกประทับใจมาก ปีหน้าอยากจะมาซ้ำอีกแต่ไม่รู้แต้มบุญเราจะมีมั้ย!
ไว้เจอกันทริปหน้านะ
แค่ทิ้งความกลัวไปบ้างก็ใช้ชีวิตสุดขึ้นเยอะ
#ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข :)
ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.18 น.