เที่ยวจีน19วันโดยไม่ใช้ทัวร์และไม่รู้ภาษาจีน Ep7 จากย่าติง เต้าเฉิง ซินตูเฉียว ภูเขาสี่ดรุณี หรือซื่อกู่เหนียงซาน เฉิงตู

Ep7 จะออกเดินทางจากย่าติง เต้าเฉิงไปพักที่ซินตูเฉียว 1 คืน พักใกล้ภูเขาสี่ดรุณี หรือซื่อกู่เหนียงซาน1 คืนก่อนจะเดินทางไปเฉิงตู

ค่าใช้จ่ายเดินทาง ค่าที่พักและค่าเข้าอุทยานใน Ep นี้ 3 วัน 2 คืน ประมาณ 3,900 บาทค่ะ

ค่ารถเหมาจากโรงแรมที่รือวา เต้าเฉิง – ชินตูเฉียว 200 หยวนต่อคนใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง

ค่าที่พักชินตูเฉียว รร Muyage homestay 180 หยวนต่อห้องต่อคืน รวมอาหารเช้า

ค่ารถเหมาจากชินตูเฉียวไปซื่อกู่เหนียงซาน 1900 หยวน หาร7 คน

ค่าที่พักหน้าอุทยานซื่อกู่เหนียงซาน 120 หยวนต่อห้องต่อคืน (ไม่รวมอาหารเช้า)

ค่าตั๋วเข้าอุทยานพร้อมรถบัสในอุทยานซื่อกู่เหนียงซาน 150 หยวน

ภูเขาสี่ดรุณี/ซื่อกู่เหนียงซาน

四姑娘山:siguniangshan

ราชินีแห่งดินแดนเสฉวน ภูเขาแอลป์แห่งตะวันออก

ภูเขาสี่ดรุณีตั้งอยู่ในพื้นที่ปกครองตนเองอาป้าของชาวเชียงและชาวทิเบต（阿坝藏族羌族自治州）ในมณฑลเสฉวน บนเส้นทางระหว่าง “เมืองเสี่ยวจิน-小金县” กับ “เมืองเหวินชวน-汶川县”

ภูเขาสี่ดรุณีมียอดเขาสี่ลูกที่เรียงติดกันเหมือนต่อแถว ตั้งแต่ทิศเหนือถึงทิศใต้เป็นระยะ 3.5 กม.มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตามลำดับจาก 6250 เมตร, 5664 เมตร, 5454 เมตร และ 5355 เมตร

ชื่อสี่ดรุณีมีที่มาจากตำนานของสี่สาวพี่น้องคือ ต้ากู่เหนียงซาน, เออร์กู่เหนียงซาน, ซานกู่เหนียงซาน และซื่อกู่เหนียงซาน และตั้งชื่อจากการที่บนยอดเขาทั้ง 4 มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ดูเหมือนส่วนหัวของหญิงสาวที่คลุมผ้าสีขาวสดใส ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่าง ธารน้ำ “ฉางผิงโกว-长坪沟” Changpinggou กับ “ไห่จื่อโกว-海子沟”. Haizigou

อุทยาน Siguniang shan มีพื้นที่ 450 ตร.กม. ประกอบด้วย Sigunuangshan, Shuangqiaogou, Changpinggou และ Haizigou

แบ่งจุดท่องเที่ยวเป็น 3 เส้นทาง

1. Shuangpiaogou ภาษาจีน=双桥沟 พินอิน=shuāngqiáogōu ออกเสียงภาษาไทย=ซวงเฉียวโกว หรือหุบเขาซวงเฉียวโกว ลำน้ำสองสะพาน เป็นหุบเขาที่ยาวที่สุด 30 กม และถนนเดินทางง่ายจะมีรถบัสไปจอดส่งในแต่ละจุด

2.. Changpinggou ภาษาจีน=长坪沟 พินอิน=zhǎngpínggōu ออกเสียงภาษาไทย=ฉ่างผิงโกว หรือหุบเขาฉ่างผิง นั่งรถไปประมาณ 5 กม. แล้วเดินเท้าหรือโดยสารม้า

3. Haizigou ภาษาจีน=海子沟 พินอิน=Hǎizǐgōu ออกเสียงภาษาไทย=ไห่ซื่อโกว หรือหุบเขาไห่ซื่อ ระยะทางสั้นสุด แต่ไม่มีถนนให้รถวิ่ง ต้องเดินหรือโดยสารม้าแทน

ทริปของพวกเราเริ่มเดินทางออกจากที่พักในรือวา Riwa (เต้าเฉิง Daocheng) โดยการนั่งรถเหมา (ทางโรงแรมเป็นคนติดต่อให้ แต่กว่าจะได้มีการติดต่อคนขับหลายคนเลย ติดต่อกันเองบ้าง โรงแรมหาให้บ้าง ซึ่งจะติดปัญหาทั้งจำนวนคน และระยะทางที่ไกล) รถเหมาที่ได้เป็นรถบัสคันใหญ่(ทราบตอนอยู่บนรถว่ารถคันนี้ไปเฉินตู) เป็นรถว่างๆมีแต่พวกเรา โดยเราจะนั่งแท็กซี่ 2 คันจากโรงแรมมายังจุดขึ้นรถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (ค่าแท็กซี่รวมในค่ารถบัสแล้ว) ในระหว่างนั่งรถ ก็สอบถามคนขับว่าถ้าหากเราไปถึงเฉินตูคิดราคาเท่าไหร่ สรุปเขาจะคิดเพิ่มคนละ 150 หยวนซึ่งราคาสูงไป พวกเราก็เลยลงตามแผนเดิมคือ ชินตูเฉียว

เช้าแห่งการเดินทางไกลเริ่มต้นอีกครั้ง วันที่ 17 ตุลาคม เราออกจากโรงแรม 6โมง ได้ขึ้นรถบัสเกือบ 8 โมง อากาศหนาวประมาณ 2 องศา เลย

ประมาณ 8 โมงกว่าๆ แวะจุดพักแรก/คนขับสูบบุหรี่ มีห้องน้ำแบบเป็นตู้ๆคล้ายๆกับห้องน้ำเคลื่อนที่บ้านเรา ดูแล้วกลิ่นน่าจะแรงพอดูล่ะ เราไม่ได้เข้าไป และตรงจุดนี้อยู่ที่ระดับความสูง 4612 เมตรเลยทีเดียว

ตลอดเส้นทาง วิวข้างทางจะเป็นภูเขาคล้ายๆภูเขาหิน ที่ไม่มีต้นไม้

เดินทางต่อไปประมาณ 4 ชม.กว่า รถแวะให้ทานกลางวัน เข้าห้องน้ำ มีร้านขายอาหารประเภทมันต้ม ข้าวโพดต้ม เราเจอร้านขายก๋วยเตี่ยวน้ำซุปหมาล่าแต่เราบอกไม่เอาน้ำซุปแบบนี้ พอรู้ว่าเป็นคนไทยมีลดแลกแจกแถมให้ด้วย ใจดีจัง มื้อนี้อร่อยนะ เราเอามาทานในรถเพราะไม่ทันเวลา โดนคนรถมองหน้า ต้องรีบๆทาน555

ผ่านไปอีก 4 ชมเป็นเวลา 5 โมงเย็น ถึงชินตูเฉียว รถส่งให้เราลงหน้ารร.ซึ่งอยู่ริมถนน (หาข้อมูลไว้ทาง trip.com ระหว่างอยู่บนรถ) และนี่คือโรงแรมที่พักคืนนี้ค่ะ

** รอเจ้าของโรงแรมนานนิดหนึ่งนะคะ ไม่มีคนเฝ้าหน้าเคาเตอร์เลย แต่สะดวกสบายดี มีเครื่องซักผ้าให้บริการด้วยค่ะ

เมืองซินตูเฉียว สรวงสวรรค์ของช่าง ภาพ แห่งมณฑลเสฉวน

ชื่อนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราแวะพักที่นี่ (แต่ก็ไม่ทราบเขาถ่ายภาพกันมุมไหน555) หลังจากเก็บสัมภาระเข้าที่พักเสร็จ ก็ไปเดินเล่นในตลาดกัน ที่นี่มีร้านค้าคล้ายๆตลาดนัด มีวางขายริมถนน สามารถนั่งทานได้ เราติดใจร้านหมาล่าแบบจิ้มจุ่ม คือมีผัก มีเนื้อสัตว์ เสียบไม้ แล้วนำไปลวกให้สุก ก่อนราดน้ำจิ้มลงไป เจอหนุ่มเจ้าของร้านใจดีอีกแล้ว พอรู้ว่าเป็นไทยกั้ว ลดแถมอีก

อิ่มหนำสำราญ ก็กลับเข้าที่พัก เตรียมตัวสำหรับเดินทางต่ออีกหนึ่งวันหนึ่งค่ะ

วันที่ 18 ตุลาคม หลังทานอาหารเช้าเสร็จประมาณ 9 โมงเช้าก็ออกเดินทางโดยรถตู้เหมา (รถตู้พี่ในกลุ่มเจอที่ตลาดตอนเย็น ในชินตูเฉียว แล้วติดต่อไว้) เส้นทางรถวิ่งผ่านถนนเอุโมงค์ต้นไม้สวยงาม

เดินทางมุ่งสู่เมืองก่ากง ประมาณ 9.30 น. คนขับรถพาแวะวัดลาคัง (Lhagang Monastery) ซึ่งเป็นวัดโบราณที่ตั้งอยู่ในเมืองซินตูเฉียว มีบัตรผ่านเข้าวัดด้วย จำราคาไม่ได้ น่าจะสัก 15-20 หยวน ถ่ายภาพกันสักพักหนึ่ง เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อย

เดินทางต่อประมาณ 20 นาที ก็ถึงวัดก่ากง

วัดถ่ากง (Lhagang Gompa or Tagong Monastery) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองคังติ้ง วัดถ่ากงมีความสำคัญอย่างมากในศาสนาทิเบต ภายในวัดมีองค์พระศรีศากยมุนี และมีเจดีย์ทอง ที่สร้างจากทองคำหนักกว่า 100 กิโลกรัม นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีทุ่งหญ้าถ่ากงที่มีความสวยงาม และเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจ

เราขึ้นไปตรงจุดชมวิวมีค่าผ่านทาง 15 หยวน(ถ้าจำไม่ผิด) ใครใคร่ขี่ม้าถ่ายรูปหรือขี่ขึ้นไปด้านบนก็มีให้บริการค่ะ ภาพถ่ายกันอยู่สักพัก ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อค่ะ 10 โมงครึ่งแดดร้อนมากๆ

คนขับรถพามาแวะที่สวนสาธารณะ Moshi ซึ่งเป็นจุดชมวิวหลักของถนนหมายเลข 318 ที่มีภูมิทัศน์สวยงามที่สุดในจีน ป่าหินที่นี่มีสีเข้ม มียอดเขาภายในรวมตัวกันอย่างงดงาม

ดูจากแผนที่แล้ว น่าจะใช้เวลาเข้าชมไม่น้อยกว่า3-4 ชม. พวกเราไม่ได้เข้าไปด้านในกันค่ะ (ไม่มีรายละเอียดสถานที่ด้วยค่ะ)

ถึงเวลากลางวันแล้ว ตั้งใจว่าจะหาอะไรอร่อยๆ ทานในเมืองคังติ้งกัน แต่ในเมืองหาที่จอดรถยากมาก ถนนเป็นเนินเขา ไม่มีไหล่ทางให้จอดรถ เราก็แวะซื้อเป็ดย่าง และทานก๋วยเตี๋ยวกัน

บ่าย 3 แล้ว ก็ต้องเดินทางต่อไปยังโรงแรมที่ใกล้ภูเขาสี่ดรุณี (ยังไม่ได้จอง) แต่หาโรงแรมทาง Trip.com เอาไว้ ให้รถพาไปส่งที่นั่นก่อน

ประมาณ 6 โมงครึ่งถึงหน้าโรงแรม ซึ่งเราก็นอนโรงแรมนี้แหละ อยู่ใกล้กับทางเข้าภูเขาสี่ดรุณี เพียง 200-300 เมตร

บริเวณที่พัก มีร้านอาหาร มีซุปเปอร์มาเก็ต ที่โรงแรมก็มีอาหารขาย มีแอปเปิ้ล ลูกไหนแบบบ้านเรา ขายราคาถูกๆด้วย

วันนี้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เพื่อเดิน Trekking ต่อไปวันพรุ่งนี้กันค่ะ

วันที่ 19 ตุลาคม ทานมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จก็ออกเดินทางเข้าอุทยานกันเลย ซื้อตั๋วเข้าอุทยานด้วยเงินสด 150 หยวน รวมค่ารถบัสในอุทยานแล้ว มาเช้าคนก็เยอะตั้งแต่ตอนเช้าเลย

เราเลือกเส้นทางที่เดินทางง่ายที่สุด Shuangpiaogou ซวงเฉียวโกว หรือหุบเขาซวงเฉียวโกว เป็นหุบเขาที่ยาวที่สุด 30 กม มีรถบัสจอดส่งตามป้าย โดยส่งที่ป้ายไกลสุดก่อน ใช้เวลานั่งจากหน้าอุทยานประมาณ 40 นาที เที่ยวเสร็จในแต่ละจุดก็เดินลงมาขึ้นรถ และลงตามจุดจอดรถ ขึ้นลงรถตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าลงมาแล้ว จะขึ้นรถไปด้านบนอีกไม่ได้นะคะ

จุดลงรถบัสจะมีของกิน ของใช้จำเป็นขายด้วย อาหารประเภทข้าวโพดต้ม ไข่ต้ม มันเผา เนื้อย่างซาลาเปา ใครยังไม่ได้ทานสามารถซื้อรองท้องกันได้เลยค่ะ

จุดเก็บภาพ จุดแรกเจอร่องรอยหิมะตกเมื่อวันก่อน และยังคงมีตกประปรายในเช้านี้ด้วย ได้บรรยากาศหิมะแรกของทริปค่ะ

แต่วันนี้เป็นฟ้าหลังฝน ที่ยังคงมีหมอกปกคลุมทั่วพื้นที่ ทำให้มองไม่เห็นยอดเขาสี่ดรุณี ก็ได้เดินถ่ายรูปไล่ระดับลงมาเรื่อยๆ วิวจุดนี้จะคล้ายๆกัน จะเป็นสวนสน เราก็มาขึ้นรถบัส ลงมาจุดถัดไป