ทริปส์นี้ขอเปิดด้วยภาพนี้ ครับ กลุ่มควาญช้างรุ่นเยาว์ชาวปกาเกอญอกับสาวๆ พีอาร์โรบินสันแม่สอด ในงานช้างไทย

วันที่13 เดือนมีนาคมต้นปีที่ผ่านมา

เด็กหญิงชาวปกาเกอญอในชุดสีสันสดใส กำลังถ่ายภาพช้างตัวใหญ่ ในงานวันช้างไทย ณ. บ้านปูเต้อ


อะแฮ่ม ... งวดนี้ ขอเสนอซ้ำ ครั้งเคยมาเที่ยวงานช้างไทย ณ. บ้านปูเต้อ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก นะครับ

13 มีนาคม ของทุกปี คือ วันช้างไทย

.

บ้านปูเต้อเป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงคาเรนนี หรือ แบกลา เป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้างที่มีอายุมากกว่า 200 ปี

วิธีการเดินทาง ออกจากแม่สอดไปทางทิศใต้ประมาณ 17 กิโลเมตรจะพบประตูทางเข้่า จุดที่น่าสังเกต คือ ซุ้มประตูเป็นรูปช้าง ทางเข้าเป็นถนนคอนกรีต เข้าได้สะดวก

.

ในทุกๆ ปี อบต.แม่กุ จะจัดงานวันช้างไทย พร้อมกับจุดอื่นๆ ทั่วประเทศ

ควาญช้างบังคับช้างให้ย่อตัวลงเพื่อให้น้องๆ พีอาร์โรบินสันแม่สอดขึ้นขี่หลัง

เด็กหนุ่มๆ ชาวกะเหรี่ยงที่นี่ เป็นควาญช้างที่เก่งฉกาจอย่างหาตัวจับได้ยาก


เมื่อถึงเวลาบรรดาช้างเคลื่อนทัพเข้ามายังปะรำพิธี ผมคิดว่าตัวเองย้อนเวลากลับไปยังยุคโบราณ

เมื่อบรรดาควาญช้างนำช้างเข้ามายังลานพิธี

แขกทุกคนที่มาเที่ยวได้โอกาสขึ้นขี่หลังช้างหรือนั่งบนกูบหรือที่เรียกว่า แกล่ะ ในภาษาชาวกะเหรี่ยง

นิทานเรื่องหนึ่งของชาวปกาเกอญอ เล่าถึง ตำนานช้าง

ว่า ..

ก่อนที่ช้างจะเป็นช้างอย่างทุกวันนี้ ช้างเคยเป็นคนมาก่อน แถมยังเป็นเจ้าของไร่ข้าวนับพันไร่แต่ต่อมาได้ทำผิดกฏหมู่บ้านด้วยการไปดื่มน้ำยังจุดต้นน้ำ กลางป่า ทำให้จมูกยื่นยาวออกมา จนต้องถูกขับออกจากหมู่บ้าน

เพราะฉะนั้น ในความคิดเห็นของชาวปกาเกอญอ ช้าง คือ คน นั่นแหละคร้าบ ...


ช้างและควาญ ยิ้ม


สำหรับความเป็นมาของหมู่บ้านปูเต้อ นั้น เล่ากันว่า

ผู้ที่เข้ามาบุกเบิก ตั้งถิ่นฐานคนแรกที่หมู่บ้าน มีชื่อว่า ปู่ปูเต้อ จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านในปัจจุบัน

อันว่า ปู่ปูเต้อนั้นเป็นควาญช้าง เขามีอาชีพคล้องช้าง จับช้างมาใช้ในการทำมาหากิน ทำไร่ไถนา สร้างบ้าน ลากจูง คิดดูสิว่า เมื่อก่อนนี้ไม่มีรถ ไม่มีไฟฟ้าใช้ จะต้องนำช้างมาช่วยในการดำรงชีวิต

ด้วยความที่ปู่แกเลี้ยงช้างเอาไว้หลายเชือก ช้างจึงกลายเป็นมรดกตกทอดให้กับลูกหลานต่อมา รุ่นแล้วรุ่นเล่าจนถึงปัจจุบัน


บ้านปูเต้อ พอศอ นี้ จึงกลายเป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้าง จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวอีกจุดที่สำคัญ


ครั้งหน้าจะมารีวิวเรื่องอาหารและที่พักในหมู่บ้าน ครับ

00000

ภาพบน ลูกช้างสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแบบครอบครัวได้ขี่หลัง
ภาพล่าง ในหนึ่งโขลงจะมีช้างน้อยหรือลูกช้างเกิดใหม่ให้แม่และจ่าฝูงคอยปกป้องดูแล


00000

สำหรับคนปกาเกอญอแล้ว ช้างไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่เอาไว้ใช้งาน เท่านั้น

คนปกาเกอญอ เชื่อว่า ช้างเป็นมรดกสำหรับให้ลูกชายได้ทำมาหากิน ส่วนที่ดินจะเก็บเอาไว้ให้ลูกสาว ครับ

.

.

.

.

ครอบครัวที่เลี้ยงช้างจะทำผิดประเวณีความเชื่อไม่ได้ เช่น หากผิดประเวณีช้างล้มป่วย

รุ่นน้องเล่าว่า มีครอบครัวเลี้ยงช้างครอบครัวหนึ่งส่งลูกมาเรียนหนังสือในเมืองแต่ไปทำผิดประเวณี ช้างบ้านที่เลี้ยงเอาไว้เสียชีวิตทันที พ่อซึ่งเลี้ยงช้างอยู่ที่บ้านรับรู้ได้ทันทีว่าลูกชายตนต้องไปทำอะไรไม่ดีเข้าแล้ว

**(เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วโปรดใช้วิจารณญาณ)**


ในภาพควาญช้างพาช้างไปอาบน้ำที่เตรียมเอาไว้เนื่องจากว่าอากาศเดือนมีนาคมค่อนข้างร้อนครับ

.

.

เย็นฉ่ำ ทั้ง ช้างน้อยและควาญน้อย

.

.

ควาญของเรากำลังกินติมคลายร้อนก่อนจะนำช้างไปกินโต๊ะจีนเป็นลำดับต่อไป


โต๊ะจีนช้างที่นี่ประกอบไปด้วยผลไม้นานาชนิด อ้อย กล้วย แตงโม แตงไทย หยวก ส้มโอ พืชผักนานาชนิด

ไฮไลต์ คือ น้ำตาลอ้อย ช้างชอบมากครับ


ช่างภาพ นักข่าว นักท่องเที่ยว หลายหน้าค่าตา มาเที่ยวงานช้างบ้านปูเต้อ

.

.


ช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า ชาวกะเหรี่ยงปกาเกอญอบ้านปูเต้อเลี้ยงช้างมากกว่า 200 ปีแล้วและสืบทอดมาหลายรุ่น หลากหลายกลุ่ม ปัจจุบันช้างบ้านปูเต้อ มีเหลือไม่มากนัก (จำนวนยังไม่แน่ชัดต้องลงไปอีกครั้งแล้วจะมารีวิว) ด้วยสภาพปัญหาทางสิ่งแวดล้อมและจำนวนป่าไม้ที่ลดลง ช้างหลายเชือกถูกขายไปให้ปางช้างแหล่งต่างๆ

ชาวปกาเกอญอบ้านปูเต้อ ไม่ได้คิดจะเลี้ยงช้างในเชิงธุรกิจท่องเที่ยวเพราะช้างถือเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว

ชาวปกาเกอญอบ้านปูเต้อพร้อมจะต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่านด้วยความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง


00000

00000

300859

ginnagan

 วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.07 น.

ความคิดเห็น