" Mingalaba " เป็นคำทักทายภาษาพม่า

อ่านว่า "มิงกะลาบา " หรือแปลไทยก็ "สวัสดี "

..

..

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เดินทางไปพม่าบ่อย แล้วเป็นคนชอบถ่ายรูป

หลังเสร็จธุระหากมีเวลา ก็จะแวะเก็บภาพวัดต่าง ๆ ในพม่า

บางครั้งพกกล้องถ่ายรูปไป บางครั้งก็ถ่ายดิบ ๆ จากกล้องจากมือถือเอา

เลยเป็นที่มาของบทความนี้ ที่อยากแชร์ประสบการณ์ภาพถ่ายในพม่า

เผื่อเป็นแนวทางให้ดู ว่าพม่ามีสถานที่น่าสนใจอีกมาก ... โดยเราได้ไปไหนบ้าง ก็ตามมาได้เลย : )



1. # ย่างกุ้ง … " เมืองศูนย์การทางเศรษฐกิจของพม่า "

แม้ปัจจุบันกรุงย่างกุ้ง จะไม่ใช่เมืองหลวงอย่างเป็นทางการของพม่าแล้ว

แต่ยังปฎิเสธไม่ได้ ว่าย่างกุ้งยังมีความสำคัญในฐานะเมืองหลวงทางเศรษฐกิจของประเทศพม่า

แล้วหากได้เดินทางมาย่างกุ้งแล้ว โปรแกรมที่จะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด

ก็คือ การแวะไหว้ "มหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) "

เรามาที่นี่ครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน และก็เป็นที่นี่เอง ทำให้เราชอบถ่ายรูปแนว Landscape

บริเวณรอบองค์มหาเจดีย์แทบทุกจุดจะถูกโปรยรายละเอียด เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไว้ทั่ว

แน่นอนหากเดินชมโดยลำพัง ปราศจากไกด์อธิบายก็อาจพลาดจุดสำคัญไปบางแห่ง

แต่เรามักทำอย่างนั้น เพราะการเดินรอบคนเดียว เราไม่ต้องแบ่งโสตประสาทไปรับฟังข้อมูลจากผู้ใด

ทำให้มุ่งถ่ายภาพ และตั้งจิตสักการะมหาพุทธศาสนสถานแห่งนี้ได้อย่างเต็มสมาธิ

แนะนำให้ลองมาตอนมืดหลังทุ่มสองทุ่ม หรือตอนเช้าตรู่ ที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะ

จะสัมผัสได้ถึงความสงบ และศรัทธาอันแรงกล้าของชาวพม่า ที่มีต่อมหาองค์มหาเจดีย์แห่งนี้

เราแวะมาถ่ายรูปที่เจดีย์ชเวดากองบ่อย รูปภาพเลยจะมีหลากหลายเวลา



รูปนี้เราเดินทางมาช่วงที่กำลังบูรณะซ่อมแซม แผ่นทองรอบองค์เจดีย์

มีการสร้างนั่งร้านอยู่บริเวณองค์เจดีย์ และวิหารโดยรอบ

ก็เป็นบรรยากาศที่ดูแปลกตาอีกช่วงนึงที่เคยได้เจอ



อันนี้เป็นอีกรูปหนึ่งที่เราชอบ

เป็นภาพขนาดพระภิกษุท่านกำลังสวดมนต์ตั้งสมาธิ

และฉากเบื้องหน้าสุดอลังการก็คือ ... มหาเจดีย์ชเวดากองนั่นเอง


มุมมองทะลุช่องเสาวิหารที่อยู่รายรอบองค์เจดีย์


หากมีโอกาสได้มาไหว้เจดีย์ชเวดากอง ก็อย่าลืมสังเกตุรายละเอียดอื่น ๆ ทั่วบริเวณด้วย

มีจุดน่าสนใจอีกมาก เช่น พระพุทธรูปองค์นี้ ตั้งประดิษฐานอยู่บริเวณรอบมหาเจดีย์ชเวดากอง

จุดน่าสนใจคือเหนือพระองค์นี้จะมีม่าน และเชือกผูกรอกกระตุกให้ม่านโบกพัด

ถามเพื่อนชาวพม่าจึงทราบว่า เราทำบุญโบกพัดให้พระพุทธรูปเย็นสบาย

เราก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เย็นสบายใจเข้ามาหา


ภาพสิงห์คู่ นายทวารเฝ้าประตูทางขึ้น ตัวรูปปั้นสิงห์จะใหญ่มาก

ให้สังเกตุเทียบกับสเกลคน และรถยนต์จะขนาดเล็กนิดเดียวเอง


วิธีทำบุญง่าย ๆ ด้วยกริยาบุญของชาวพม่า ไม่ต้องมีเงินแสน เงินล้าน

เพราะทุกรุ่งเช้าผู้คนนับร้อย จะแบ่งกลุ่มเดินเรียงหน้ากระดาน

เพื่อปัดกวาดฝุ่นบริเวณรอบองค์มหาเจดีย์ชเวดกอง


พระพุทธรูปหน้าท่านขณะทรงพระสรวลเล็กน้อย

เราว่าดูแล้วท่านมีเมตตามาก


องค์พระพุทธรูปอื่น ๆ ศิลปะแบบพม่า ที่อยู่รอบองค์เจดีย์

สรุปถ้าเดินทางมาย่างกุ้งแล้ว ไม่แวะมาเจดีย์ชเวดากอง

ให้คิดไว้เลย ต้องวางทริปพลาดอะไรไปแน่นอน

ถ้าเวลาเหลือ จัดตารางให้ดี แวะทั้งตอนเช้า ตอนเย็น ตอนค่ำเลยก็ได้

รับรองแต่ละช่วงเวลา สวยและงดงามมีเสน่ห์ต่างกันไป


ยังขอแนะนำสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่อยู่ในกรุงย่างกุ้งต่อ

เพราะในตัวย่างกุ้งเอง นอกจากเจดีย์ชเวดากอง ยังมีที่ที่ควรไปอีกมาก

..

..

แนะให้ทำการบ้านมา ว่าอยากเยี่ยมชมสถานที่ไหนบ้าง

แล้วติดต่อแท๊กซี่เช่าเหมาวัน (ส่วนใหญ่พูดอังกฤษได้) ขับพาเราเที่ยววน ๆ ไป

โดยในย่างกุ้งจะมีวัดและพระพุทธรูปศิลปะพม่า

ที่สร้างและตกแต่งแบบอลังการงานศิลป์ อยู่อีกหลายแห่งด้วยกัน

..

..

"เจาทัตยี หรือพระตาหวาน ... Kyauk Htat Gyi Reclining Buddha "

เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์ที่ว่ากันว่าสร้างได้สวยงดงามที่สุดในพม่า

ตัววัดตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณดาวน์ทาวน์ของเมืองย่างกุ้งเท่าไหร่

องค์พระนอนมีขนาดใหญ่มาก และก็มีเสาโครงสร้างอาคารบังไปหมด

กว่าจะใช้เลนส์ช่วง 17-50 mm ถ่ายหามุมหลบเสาได้ ถึงกับเหงื่อตก - -"



ภาพรูปไม้แกะสลักเป็นองค์พระนอน ที่ขายในร้านค้าบริเวณวัด



" วัดหงาฮัตจี พระทรงเครื่ององค์ใหญ่ ... Nga-htat-gyi Buddha Temple "

เป็นพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิขนาดมหึมา แล้วตัวองค์ประพุทธรูปจะทรงเครื่องประดับงดงามมาก

ขนาดองค์ท่านใหญ่มากจริง ลองเทียบกับพระพุทธรูปขนาดปกติมุมล่างซ้ายมือดู


" วัดพระเขี้ยวแก้ว ... The Great Tooth Relic Temple "

เป็นวัดที่ประดิษฐานพระเขี้ยวเเก้ว ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพม่า


โดยภายในวิหารนั้นตกแต่ง โดยใช้สีทองได้อร่ามมาก



ภาพมุมย้อนแสง ก่อนอาทิตย์ตกดิน จากประตูวิหารวัดพระเขี้ยวแก้ว


"เจดีย์โบดาทาวน์ ... Botatauang Paya "

ภายในเจดีย์ จะมีที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า

แล้วบริเวณใกล้เคียงกันก็มี นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ ซึ่งเป็นที่ขอพรยอดฮิตของคนไทย

ช่วงเย็นวันที่เราไปเจดีย์โบดาทาวน์ ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม ตัดกับสีทองของเจดีย์สวย


"ปางช้างเผือก ... Royal White Elephant Garden "

ไม่ต้องไปบุกป่าผ่าดง แค่มา Yangon ก็มีช้างเผือกให้เราดู

เราก็พึ่งเคยเห็นช้างเผือกตัวเป็น ๆ เหมือนกัน

ตัวจริงสีไม่ได้ออกขาวนะ บางตัวออกสีอมชมพูด้วยต่างหาก



..

..

ก็แนะนำพอประมาณ ที่จริงในย่างกุ้งยังมีสถานที่ควรแวะอีกหลายที่

เช่น พระพุทธหินอ่อน พระพุทธรูปเงิน ตลาดสก๊อต ย่านไชน่าทาวน์ ฯลฯ

หากใครเดินทางมา ก็ลองจัดตารางทัวร์เมืองย่างกุ้งดู : )



2 . # พระธาตุอินแขวน และพระธาตุมุเตา ... สองในห้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของชาวพม่า

ชาวพุทธในพม่านับถือเจดีย์ทั้งสองแห่งเป็นอย่างมาก

โดยนับว่าอยู่ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของประเทศ

ทั้งเจดีย์พระธาตุอินแขวน (Kyaiktiyo Pagoda) และ เจดีย์พระธาตุมุเตา (Shwemawdaw Pagoda)

ต้องเดินทางออกจากเมืองย่างกุ้ง แต่สามารถจัดทริปให้ไปพร้อมกันได้ในรอบเดียว

โดยเราเลือกเดินทางโดยใช้บริการรถเหมาแท๊กซี่พร้อมคนขับ

ออกจากย่างกุ้งใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้คนขับไปส่งเราต่อรถที่สถานีแค้มป์คิ่นปุ่น

เราต้องนั่งรถบรรทุกขึ้นเขาไปค้างคืนข้างบน พร้อมไหว้พระธาตุอินแขวน

พอตอนสายอีกวัน ก็นั่งรถโดยสารกลับลงมาที่ข้างล่าง

คนขับรถที่จ้างมาก็จะรับเรา เพื่อไปเมืองหงสาวดี ไหว้สักการะพระธาตุมุเตาต่อ

..

..

ข้อมูลข้างบนคือทริปเดินทางสูตรสำเร็จ ดูง่ายมาก ไม่มีอะไรยาก

แค่ช่วงที่ไป ... พายุดันเข้าพม่า แบบซัดเข้าเต็มข้อพอดีเลยจ้าาาา !!!

สรุปเริ่มฝนตกเป็นฟ้ารั่ว เฆมเริ่มตั้งเค้าหลังออกจากย่างกุ้งมา

สักพักก็ฟ้าก็โปรยฝนลงมา ตกกระหน่ำยันถึงแค้มป์คิ่นปุ่น


รอคิวรถบรรทุกผู้โดยสาร หรือที่เราเรียกกัน "รถขนหมู ... ณ แคมป์คิ่นปุ่น "

อย่างที่ทราบกัน เรียกว่ารถขนหมู ... เพราะผู้โดยสารไม่อัดเต็มกะบะหลังจริงรถไม่ออกวิ่ง

ก็รอสักพักนึงพอเต็มแล้ว ก็เริ่มขับขึ้นบนเขา

เราก็เริ่มเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำแล้ว เสื้อฝนก็กันได้บ้างไม่ได้บ้าง

ส่วนคนรถขับบรรทุกก็ซิ่งได้ใจมาก ... สาย 8 ในตำนานมาเจอต้องมีหวั่น

ส่วนนายท้าย (พ่อหนุ่มเสื้อสก๊อตดำแดงตามในรูป) ก็ห้อยท้ายรถเหมือนชื่อตำแหน่ง

คอยส่งสัญญาณสื่อสารกับพลขับ ประหนึ่งเล่นกายกรรม ... สมคำร่ำลือจริง ๆ


ถึงข้างบนฝนตกพายุเข้า แค่นั้นไม่พอ ... แถมหมอกมาด้วย

ลงหนามากขาวโพลนเลย จะไหว้พระธาตุต้องเดินระยะคลุกวงในนิดนึง

ถึงจะเห็น ... พระธาตุที่เป็นสีทองเปล่งประกายมาก


ไหว้พระธาตุรอบแรกได้สักพัก ก็ต้องกลับมาตั้งหลักที่โรงแรมหลบพายุฝนกันก่อน

ตกกลางคืนก็ไปลุยกันไหว้พระธาตุกันอีกรอบ โดยที่ฝนพระพิรุณก็โปรยตลอดไม่มีขาดสาย

ช่วงกลางคืนพอหมอก มาเจอไฟที่ส่องพระธาตุ

เลยกลายเป็นแสงสีทอง สะท้อนกระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณรอบองค์พระธาตุ


แต่ตอนไปไหว้พระธาตุรอบกลางคืนสถานการณ์ เร้าใจกว่ารอบเย็น

เพราะฝนกับหมอกก็อยู่คงเดิม ที่เพิ่มเติมคือ .. ลมกระชากพัดแรงมาก !!!

ถ้าเป็นฉากหนัง มันระทึกขวัญมาก เพราะมีลมพายุหอบพัดหลังคาสังกะสีปลิวให้เห็นกับตา

เห็นท่าไม่ดี ก็ถอนทัพไปตั้งหลักที่โรงแรมดีกว่า ไปรอลุ้นพรุ่งนี้เช้าอีกช่วง

..

..

แต่สรุปคือ ฝนตกทั้งคืน ยันสายอีกวันก็ไม่มีท่าทางจะหยุด

พวกเราเลยตัดสินใจไม่ไปไหว้พระธาตุตอนเช้า ลงเขาทั้งฝนตกอย่างนั้นเลย

ถึงด้านล่างก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ลุงคนขับรถมารับพาไปเมืองหงสาวดีไหว้พระธาตุมุเตากันต่อ

ส่วนฝนก็ตกตลอดไม่หยุดจริง ๆ จนเราไปถึงเมืองหงสาวดี

เราเลยบอกลุงคนขับคงไม่ลงจากรถแล้ว ให้ลุงขับรถวนรอบเมืองแทน

แล้วให้จอดแวะที่เจดีย์มุเตา และเจดีย์ไจ๊ปุ่นที่มีพระพุทธรูปรอบสี่ทิศ

ก็อาศัยดูจากในรถเอา ส่วนรูปถ่ายไม่ต้องพูดถึง ถ่ายไปหลบฝนไป

ทริปนี้ได้รูปมาน้อยมาก เอาเป็นว่ากลับมากล้องไม่พังก็ดีแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

สรุปทริปนี้เป็นการเดินทางที่ทุลักทุเลที่สุด ตั้งแต่เคยเดินทางมาพม่า หรือที่อื่น ๆ มาเลย

เลยคิดว่าฟ้าฝนท่าน คงอยากให้เรากลับไปซ่อมที่พระธาตุอินแขวนใหม่อีกสักรอบ

แล้วถ้ามีโอกาสเราคงได้ไปเดินทางไปสักการะพระธาตุทั้งสองแห่งอีกแน่นอน : )



3 . # ไหว้พระมหามัยมุนี ... พระพุทธรูปที่มีชีวิต


ทริป "พระมหามัยมุนี ... Mahamuni Buddha " เป็นอีกหนึ่งทริปวัดใจ

เพราะเราแพลนตื่นเช้าตรู่มาร่วม ... พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี

ต้องถึงวัดประมาณตีสี่มาจับจองที่แถวหน้า ตื่นเช้าตอนรุ่งสางยังลำบากไม่พอ

แต่ปัญหาหนักใจกว่า คือ เย็นวันนั้น พอเครื่องบินเรามาถึงเมืองมัณฑะเลย์

(รูปไฟท์เครื่องบินเรากำลังจอด ที่สนามบินมัณฑะเลย์)


คืนนั้นมีนัดคุยงาน ... แล้วลูกค้าไม่ยอมเลิก ไม่ให้กลับโรงแรม

ตามตรง คือ เจอจับชนแก้ว ชนแล้วชนอีก ชนจนประกันไม่รับเคลม ... มึน และ รั่วมาก ๆ

คืนนั้นกลับโรงแรมยังไง ... ทุกวันนี้ ยังจำความแทบไม่ได้

ดีที่ตอนมีสติ ตั้งมือถือเป็นนาฬิกาปลุกไว้เป็นชุดคอมโบมาก ... ตอนตีสามให้ตื่นให้ได้ !!!!

..

..

สรุปถามว่า ตื่นตามนาฬิกาที่ตั้งไว้ไหม ... ไม่ตื่น ฮ่าฮ่าฮ่า - -"

แต่พี่คนขับรถที่นัดไว้ ให้พนักงานล็อบบี้ที่โรงแรมโทรตามที่ห้อง

ลยตกใจตื่น ... เห็นนาฬิกาตีสามครึ่ง รีบคว้ากระเป๋ากล้อง

วิ่งไปข้างล่างหาคนขับรถ แล้วรีบเดินทางไปวัด ก็ถึงตอนตีสี่นิด ๆ

มีลุงชาวพม่านั่ง กุมลูกประคำสวดมนต์เป็นภาษาพม่า อยู่หน้าประตูเหล็กกั้น

เราไปถึงคนที่สอง วันนั้นเป็นวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะเท่าไร

ก็นั่งไปหนาวสั่นไป อากาศค่อนข้างเย็น จนประตูเหล็กกั้นเปิดออก

ผู้คนก็ทยอยเดินเข้า ไปจับจองพื้นที่บริเวณหน้าวิหารหลัก

บริเวณพื้นที่กั้นด้านหน้า จะเข้าไปนั่งได้เฉพาะผู้ชาย

เราก็ไปนั่งรอบริเวณนั้น สักพักประตูวิหารหลักเปิดออก

ก็มีเจ้าหน้าที่วัดผู้ชายแต่งตัวชุดขาว มาเตรียมโต๊ะบูชา น้ำอบ ผ้าเช็ด และพัด

เพื่อรอท่านเจ้าอาวาสมาเริ่มทำพิธีล้างพระพักตร์อันศักดิ์สิทธิ์

ท่านเจ้าอาวาสมาถึง ก็ทำการล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี


ท่ามกลางเสียงสวดมนต์เป็นภาษาพม่าดังกังวานก้อง ไปทั่วบริเวณวิหาร

เราไม่รู้ภาษาพม่า แต่เวลานั้นเราคิดว่า เราเข้าใจ เราสัมผัสได้ถึงศรัทธา

ของทุกคนที่มารวมกันได้ "ศรัทธาแรงกล้า...ต่อพุทธศาสนาของชาวพม่า "

..

..

เรารู้สึกดีที่บังคับตัวเอง ให้ตื่นมาร่วมพิธีอันศักดิ์สัทธิ์นี้ได้

คือ การเข้าวัดครั้งนี้แค่ไหว้พระครั้งเดียว ไม่ได้หมายถึงเราเป็นคนดีขึ้นได้

เพียงแต่เราชนะจิตใจตัวเอง และสังขารที่เพียบแปร้จากเมื่อคืน ให้ยอมลุกตื่นตอนตีสี่มาวัดได้

ก็คิดต่อไปถ้าจะทำดี ก็คงไม่ยากเกิน...ถ้าเราตั้งใจมุ่งมั่นอย่างจริงจัง

..

..

ประมาณหกโมงกว่า เจ้าอาวาสทำพิธีการล้างพระพักตร์องค์พระมหามัยมุนีเสร็จ

ก็เริ่มเปิดให้ประชาชนทั่วไป อย่างเราเข้าไป ปิดทองสักการะองค์พระมหามัยมุนีในตัววิหาร


องค์จริงของท่าน เป็นสีทองอร่ามทั้งองค์

ส่วนวิหารภายในเล็กมาก จะต้องทยอยกันเข้าไป ... ซึ่งก็เข้าได้เฉพาะผู้ชาย

ผู้หญิงจะต้องฝาก แผ่นทองคำให้ผู้ชายเข้าไปปิดที่ตัวองค์ท่านแทนเท่านั้น


หลังปิดทองสักการะเสร็จภายในวิหารหลัก เราเดินเก็บบรรยากาศยามเช้ารอบตัววัด

สังเกตุดูรูปภาพที่ทางวัดได้ถ่ายพระมหามุนีเก็บไว้ ในช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1900 - 2010

ที่ว่าท่านพระมหามุนีเป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิต ... ก็อาจจะจริงตามที่เค้าว่ากัน

เพราะรูปพระพักตร์ที่ตัวองค์ท่าน จากอดีตถึงปัจจุบัน ดูมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

จากพระพักตร์วัยเยาว์ (รูปแรกขาวดำ) และก็มีการพระพักตร์เปลี่ยนโฉมทุก ๆ ช่วงอายุยันปัจจุบัน


ภาพบริเวณทางเดินสู่วิหารหลัก จะเห็นประตูเข้าภายในวิหารขององค์พระมหามัยมุนีอยู่ไกล ๆ

ตามทางเดินจะมีชาวพม่า มานั่งสวดมนต์ทำสมาธิเป็นจำนวนมาก


ห่างจากประตูวิหารหลักมาสักระยะนึง จะมีรั้วกั้นไว้เป็นเขตที่ผู้หญิงเข้าใกล้สุดได้แค่ระยะนี้

ถ้าจะปิดทองที่องค์ท่าน ต้องฝากผู้ชายเข้าไปปิด

แนะนำเลยถ้าใครมามัณฑะเลย์ ... ถ้าคิดว่าตื่นไหว ก็ให้ตื่นมาร่วมพิธีล้างพระพักตร์นี้ให้ได้


นอกจากแล้วนี้ที่มัณฑะเลย์ มีสถานที่น่าสนใจอื่นอีกหลายที่

ที่เรามีโอกาสไปมา ก็เช่น "วัดกุโสดอร์ ... Kuthodaw Pagoda "

เป็นวัดที่มีเจดีย์ขาวนับร้อยองค์ และมีแผ่นหินอ่อนจารึกพระไตรปิฎกอยู่ในนั้น


"วัดชเวนันดอร์ ... Shwenandaw Kyaung "

เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้สักทองแกะสลักทั้งหลัง


"วัดอาตุมาชิ ... Atumashi Kyaung "

เป็นวัดที่อยู่ใกล้วัดชเวนันดอร์ สามารถเดินถึงกันได้



"มัณฑะเลย์ฮิลล์ ... Mandalay Hill "

เป็นวัดบนภูเขา และเป็นจุดชมวิวมองเห็นทิวทัศน์ได้รอบเมือง



4 . # เมืองเฮโล ... มหัศจรรย์ทุ่งหลากสี

Heho City เป็นเมืองเล็ก ใกล้เมือง Mandalay ถ้าเดินทางโดยเครื่องบินก็สักครึ่งชม.กว่า

เมืองนี้ที่จริงแค่เป็นเมืองทางผ่าน เพราะเราต้องลงเครื่องบิน ที่ Heho

แล้วนั่งรถต่ออีกประมาณชั่วโมง เพื่อไปหาลูกค้าที่เมือง Taunggyi

เมือง Taunggyi จะเป็นเมืองที่คนมีฐานะชาวพม่าชอบซื้อบ้านทิ้งไว้

เพราะเป็นเมืองบนภูเขา อากาศที่เมืองนี้จะเย็นสบายเกือบตลอดปี

ที่จริงเรื่องราวของทริปนี้ ไม่ควรมีอะไรมาก เพราะเป็นเมืองที่เราเดินทางมาทำธุระหาลูกค้า

ไม่ได้ไปแวะไหน แต่เรายกเป็นทริปที่ประทับใจที่สุด ... ที่เราได้มีโอกาสถ่ายรูปในพม่าเลยก็ว่าได้

..

..

คือในทริปนั้น โชคดีที่เราพกกล้องติดตัวมาด้วย

ระหว่างที่นั่งเครื่องบินมากำลังลดระดับลงจอดที่เมือง Heho

เรามองนอกหน้าต่างเครื่อง เราถึงกับอึ้งตกใจ

รีบคว้ากล้องจากกระเป๋า กดซัตเตอร์รัว ป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ

เช็คภาพ ปรับแสง แล้วรัวใหม่ แม้โฟกัสวืดไปมา เพราะเก่าทั้งกล้องทั้งเลนส์

แต่เราไม่สนใจ กดรัวไม่ยั้ง ... ฝรั่งข้างหลังเรา เริ่มงง มันถ่ายอะไรอยู่ได้

เราชี้ให้ดูบนพื้นดิน ... ฝรั่งร้อง OMG พร้อมควักมือถือมาถ่ายบ้าง

..

..

ภาพเบื้องล่าง ที่เราพยายาม กดถ่ายรัว รัว รัว

เราเคยเห็นภาพนี้ จากนิตยสารท่องเที่ยวในพม่า

เราพยายามอ่าน ข้อมูลของภาพในนิตยสาร แต่เสียดายในนิตยสารไม่บอกสถานที่

เราอยากไปเห็น อยากไปถ่ายรูป อยากไปมองด้วยตาตัวเองจริง ๆ สักครั้ง

แต่ไม่รู้มันอยู่ไหน เพราะในนิตยสารไม่ได้บอกรายละเอียดไว้

ว่าภาพที่เห็น ซึ่งเป็นภาพถ่ายทุ่งนาจากมุมสูง เป็นนาที่มีลักษณะเป็นบล็อค

ประมาณสิบกว่าบล็อค แล้วมีหลากสี แดง เขียว ม่วง เหลือง สลับกันไปมาดูสวยดี

..

..
ส่วนภาพจริงมุมสูงจากหน้าต่างเครื่องบิน ที่เราเห็นตอนนั้น

บล็อคทุ่งนา ไม่ใช่สิบ ไม่ใช่ร้อย ไม่ใช่พัน ... แต่เรากำลังเห็น ทุ่งนาสลับสีเป็นหมื่นช่อง


มันอลังการมาก เราพูดไม่ถูก มันคือสถานที่ ที่เราอยากไปมานาน

แต่เราได้พบโดยบังเอิญ แล้วมันยิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก

มากมายเหลือเกิน มากจนบรรยายไม่ถูกถึงความรู้สึกในตอนนั้น




เครื่องลงจอดที่ Heho เราเดินออกจากเครื่องตัวเบา เหมือนลอยได้

เพราะมันอิน มันฟินบอกไม่ถูก เหมือนความฝันที่อยากเจอ

แล้วพอได้เจอ มันยิ่งกว่าฝันที่คิดไว้มากจริง

พอเจอคนขับรถที่นัดให้มารับ ก็ขับรถจากสนามบิน Heho ไปเมือง Taunggyi

เพื่อคุยงานกับลูกค้าเสร็จ ตอนเย็นก็เข้าโรงแรม

เมือง Taunggyi วันนั้นอากาศประมาณยี่สิบองศา ไม่ต้องเปิดพัดลม

แค่ซุกตัวขอไออุ่นจากผ้าห่ม แค่นี้หลับฝันดีแล้ว


ตื่นเช้ามามองจากโรงแรมไป เจอคลื่นหมอกตอนเช้า

ตีโอบข้ามกำแพงภูเขา พยายามจะกลืนเมืองอีก

ก็เป็นทริปเดินทางที่ฟิน ๆ กันไป เพราะได้เจอทั้งทุ่งนาหลากสี และหมอกเช้าพร้อมกัน

ปอลิง. แนะนำทริคที่จะเจอทุ่งหลากสีที่เมือง Heho อย่างเรา

จริงสนามบินเมือง Heho เป็นสนามบินเล็ก แต่ปริมาณนักท่องเที่ยงจะเยอะ

เพราะว่าเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางไปทะเลสาบอินเล

ดังนั้นถ้าอยากมาทะเลสาบอินเล แถมวิวทุ่งหลากสีก่อนลงจอดที่ Heho

ต้องเป็นไฟท์ที่เดินทางประมาณตอนเดือน พ.ย.

สอบถามเพื่อนชาวพม่าเค้าบอก ที่เห็นเป็นทุ่งนาสารพัดสี

เกิดจากสีดินตามธรรมชาติ ที่เป็นสีแดงน้ำตาล

และบวกกับสีของพืชที่ชาวบ้านปลูกในช่วงฤดูกาลนั้น เช่น มันสำปะหลัง ถั่ว ฯลฯ

ส่วนช่วงเดือนอืน ๆ เราเคยเดินทางไปอีกสองสามครั้ง

ก็ไม่เจอเป็นภาพทุ่งหลากสีอย่างที่เห็น เจอเป็นดินสีแดง ๆ อย่างเดียว

ถ้าอยากเห็นก็แนะให้เลือกเดือนเดินทางให้ดีแล้วกัน


จบแล้วบทความของเรา ที่อยากแชร์ภาพความประทับใจในพม่าของเราแบบรวมมิตร

หากสงสัยต้องการสอบถามตรงไหน ก็ถามกันมาได้เลย

..

..

อยากให้บทความนี้เป็นแนวทาง หรือแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ

ลองเปิดใจไปเที่ยวที่ประเทศพม่าดู ยิ่งตอนนี้ไม่ต้องทำวีซ่า แล้วสะดวกกว่าเดิมเยอะ

สายการบิน low cost ไปลงทีสนามบินย่างกุ้ง หรือมัณฑะเลย์ ก็หลายสาย

คนพม่าที่เราได้พบเจอส่วนใหญ่ใจดีมาก ถ้าใครมีโอกาสได้ไปอาจตกหลุมรักพม่าเหมือนเรา

"Kyei-zu-tin-ba-de (เจซูติน บาแด) " ... ขอบคุณ ที่ติดตามจนจบ : )


ฝากเพจไว้สักหน่อย ถ้าชอบเดินทาง ชอบถ่ายภาพ

แวะไปพูดคุยกันได้ที่ FB: https://www.facebook.com/JoinMe2TheWorld

JoinMe2TheWorld : )

 วันพฤหัสที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.05 น.

ความคิดเห็น