ดินแดนแห่งหนึ่ง ที่เคยคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่ต่างมาค้นหาความสุข ความหนาวเย็น ชื่นชมทะเลหมอกอันสวยงาม แสงจากพระอาทิตย์แรกของที่นี่นั้นเคยงดงามเพียงใด แต่ในปัจจุบัน ดินแดนแห่งนี้กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำรองจากที่อื่น ไม่โด่งดังเหมือนเก่า เป็นการผ่านทางมาท่องเที่ยว จากดอยอื่นๆ ในละแวกนั้น

ดอยผาตั้ง

ตั้งอยู่ที่บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย สูงจากระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร ห่างจาก"ภูชี้ฟ้า"ประมาณ 30 กิโลเมตร และในปัจจุบัน ก็มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเชียงรายเพิ่มขึ้นมาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากดอยผาตั้ง เป็นดอยพี่น้องของภูชี้ฟ้า คือ "ภูชี้ดาว" และ "ภูชี้เดือน" นั่นเอง

ดอยผาตั้ง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งแห่งนี้

ดอยผาตั้ง ดินแดนที่เกือบถูกลืมนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามของทะเลหมอกในยามเช้า และความสวยงามของดวงอาทิตย์กลมโตที่รอเวลาลับเหลี่ยมเขาในยามอัสดง เราสามารถมาชมความงดงามได้ทั้งสองเวลา ทะเลหมอกของที่นี่งดงามอลังการท่ามกลางทิวเขาสลับสับเปลี่ยนในฝั่งเขตประเทศลาว ในทุกๆปี ฉันจะเดินทางมาเพื่อชมทะเลหมอกของที่นี่ในทุกฤดูหนาว และในแต่ละครั้งฉันได้สัมผัสกับความงดงามของมันในแบบที่ไม่เคยเหมือนเดิมสักครั้งเลย มันงดงามแตกต่างกันไปตามกาลเวลา..

ฉันได้มีโอกาสพูดคุยและสัมผัสกับผู้คนของที่นี่ ที่อยู่อาศัยในดินแดนแห่งนี้ "ดอยผาตั้ง" ตามคำบอกเล่าของชายผู้หนึ่ง ที่เขาเติบโตจากที่นี่ อยู่อาศัยและสัมผัสกับมันมาเป็นเวลานับสิบปี ชายผู้นั้นได้เล่าขานตำนานแห่งสมรภูมิรบของหน่วยคอมมิวนิสต์ในดินแดนเขตนี้เมื่อหลายสิบปีก่อนให้ฟัง จนกาลเวลาผ่านล่วงเลย ทำให้ดอยผาตั้งกลับกลายจากสนามรบเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนงดงามและโด่งดังมาก เป็นที่ชื่นชอบแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ชาวเขาที่นี่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวมากมาย สถานที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน เศรฐกิจท่องเที่ยวบนดอยผาตั้งนี้ครึกครื้นมากทีเดียว รถราวิ่งเหมาขึ้นลงกันเป็นว่าเล่น รีสอร์ทและลานกางเต้นท์กำเนิดขึ้นอย่างมากมาย ร้านอาหารต่างๆถูกสร้างไว้รองรับนักท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น การจัดงานและเทศกาลรับลมหนาวเกิดขึ้นในทุกๆช่วงของเทศกาลปีใหม่ของทุกปี

แต่ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวบนดอยผาตั้งนี้กลับซบเซากว่าเมื่อก่อน ทั้งๆที่ธรรมชาติของที่นี่ยังสมบูรณ์ การเดินทางมาท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลำบาก อาหารการกินมีพร้อมรองรับมากมาย ผลไม้และของฝากจากโครงการหลวงของดอยผาตั้งก็ยังปลูกและผลิตออกมาได้ดี มีทั้งผลิตผลจากกาแฟดอยผาตั้ง ผลไม้อย่างสตอเบอร์รี่ เคพกูสเบอร์รี่ ฯลฯ จริงๆแล้วที่ดอยผาตั้งแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของ "ดอกซากุระ" มากๆ เนื่องจากมีต้นพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่ตามไหล่เขามากมายบนดอยแห่งนี้ และยังเป็นต้นที่เก่าแก่ มีขนาดใหญ่ ยิ่งตรงบริเวณโรงเรียนบรรพตวิทยานั้น เป็นหุบเขาสีชมพูที่งดงามมากๆ เด็กๆที่นั่นน่าอิจฉา ที่มีโรงเรียนของตัวเองที่สวยงามมากๆเลย ฉันเคยเห็นในเวลาที่ดอกพญาเสือโคร่งตรงโรงเรียนนั้นบานพร้อมกันทั้งหุบเขา ภาพของมันสวยงามคลาสสิคไม่แพ้ซากุระในดินแดนอาทิตย์อุทัยเสียเลย ต้นซากุระล้อมรอบสนามฟุตบอลเอาไว้ มีเสาธงชาติไทยเห็นสัญลักษณ์เด่นตรงอาคารเรียน เด็กๆวิ่งเล่นในเวลาพักกลางวัน ภาพเหล่านี้ยังติดในความทรงจำของฉัน

ชาวบ้านและชาวเขาเผ่าม้งของที่นี่กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ "ดอยผาตั้ง" น้อยลงไปมาก เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆเกิดขึ้น อย่าง ภูชี้ดาว และ ภูชี้เดือน หรือบางครั้ง ดอยผาตั้งก็เป็นเพียงทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่ไปชมความงดงามของทะเลหมอกจากภูชี้ฟ้ามาเท่านั้นเอง ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่ดอยผาตั้งบางเบาลงไป จนทำให้รีสอร์ทบางแห่งต้องปิดตัวลง ลานกางเต้นท์ที่เคยจัดทำเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต้องร้างลาจนต้องนำพื้นที่เหล่านั้นไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นไป ร้านกาแฟหลายแห่งก็เริ่มทรุดโทรมลดลงไปตามกาลเวลาและปริมาณผู้เยี่ยมเยือน

ฉันตั้งใจเดินทางไปเก็บภาพและกลับมาเล่าเรื่องราวของดินแดนแห่งนี้ให้ทุกคนได้กลับมาสัมผัสกับมันอีกครั้ง ภูเขาที่นี่ยังสวยงามพร้อมให้เรามาก้าวเดิน ทะเลหมอกของที่นี่ยังงดงามอลังการรอให้เรามาสัมผัส ดวงอาทิตย์แสนสวยที่ขึ้นมาจากฝั่งประเทศลาวยังกลมโตส่องแสงสีส้มให้พวกเรารีบเก็บบันทึกความสวยงามของมัน สิ่งเหล่านี้ยังคงมีอยู่ที่นี่..

ที่ดอยผาตั้ง มีดอกไม้ป่า ที่สวยงามหลากหลายสายพันธุ์ ที่ขึ้นอยู่บนดอยสูงตามไหล่เขาและทางเดิน ตามธรรมชาติ

หากเราจะสัมผัสความสวยงามของดอยผาตั้งที่นี่จริงๆ เราต้องอดทนเดินกันสักหน่อย เพราะสถานที่จุดชมวิวของดอยผาตั้งที่เราสามารถชมความงดงามของธรรมชาตินั้น มีให้เราสัมผัสถึงสามแห่งด้วยกัน มีทั้งเนิน101 ,เนิน102 และ เนิน103 ซึ่งแต่ละเนินก็มีจุดชมวิวที่สวยงามแตกต่างกันไป อย่างเนิน 101 นั้น จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ดวงอาทิตย์จะโผล่มาตรงกลางผาบ่อง ซึ่งเป็นหินผาที่สวยงาม ส่วนเนิน 102 เราสามารถชมทะเลหมอกจากฝั่งประเทศลาวในมุมมองกว้างๆ ได้ มีทิวเขาสลับสับเปลี่ยนสวยงามอร่ามตา สุดท้าย เนิน 103 จะมีหินผาและจุดพิชิตยอดดอยผาตั้งอยู่ มีทิวทัศน์สวยงาม พื้นที่ประดับประดาไปด้วยหินผาสูงใหญ่ หากนักท่องเที่ยวที่เดินไม่ไหว ที่นี่ก็มีบริการขี่ม้าไว้คอยบริการให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย

จริงๆแล้วฉันชอบนะ ที่ดอยผาตั้งแห่งนี้ไม่แน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เพราะไม่ต้องเบียดเสียดแย่งดูวิวสวยๆ ทะเลหมอกงามๆกับคนเยอะๆ แต่หากพวกเราหรือเพื่อนๆที่อยากจะชมความงามของวิวทิวเขา ทะเลหมอกยามเช้า พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกที่สวยงามนั้น ฉันก็อยากจะแนะนำที่นี่ ไว้ให้เป็นสถานที่ที่สวยงามติดตราตรึงใจไว้อีกสถานที่หนึ่ง รับรองว่าหากพวกคุณมาในช่วงที่ถูกที่ถูกเวลา บรรยากาศที่นี่จะทำให้คุณประทับใจไปกับความสวยงามเหล่านั้นของมัน จนทริปที่เดินทางสบายๆของคุณนั้นกลับกลายเป็นทริปที่ยิ่งใหญ่สวยงามประทับใจไปอีกนาน..

ฉันให้สัญญากับตัวเอง ว่าในทุกๆฤดูหนาวของทุกปี ฉันจะเดินทางขึ้นมาชมความงดงามจากแสงพระอาทิตย์แรก และทะเลหมอกในยามเช้า ของที่นี่ มันเหมือนกับว่า พวกเราต่างคนต่างมีความผูกพันกับสถานที่สถานที่หนึ่งแตกต่างกันไป ที่ที่เราเวลาได้มาเยือน มาสัมผัส เราจะรู้สึกดี รู้สึกสบายไปกับบรรยากาศของสถานที่แห่งนั้น สถานที่ที่อบอวลไปด้วยความทรงจำมากมาย และหากเป็นไปได้ ฉันก็จะนำพามิตรสหายที่ชื่นชอบและรักการเดินทางมาสัมผัสกับธรรมชาติของที่ "ดอยผาตั้ง" แห่งนี้ ฉันดีใจเวลาได้ยินและรับฟังความรู้สึกจากผู้มาเยือน ว่า "เรากำลังตกหลุมรักดอยผาตั้งอีกครั้ง" ดินแดนอันสวยงามที่ยังไม่ถูกลืมเลือน...

นักเดินทางทุ่งดอกไม้.

มกราคม ๒๕๖๐