ทะเลสาบ Toya (洞爺湖, Tōyako) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya การเดินทางของเราในครั้งนี้มีจุดหมายปลายทางที่ Toyako Onsen (洞爺湖温泉, Tōyako Onsen) ซึ่งเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ Toya เราใช้เวลาเดินทางอันยาวนานจาก Niseko มาต่อรถไฟที่สถานี Oshamambe แล้วมาลงที่สถานี Toya(JR-MURORAN)

เรามาถึงสถานี Toya(JR-MURORAN) เวลา 15:48 น. ผมเดินออกไปที่ป้ายรถบัส เพื่อดูตารางรถบัสไปที่พักกันก่อน รถบัสที่ผ่านที่พักของเราออกไปเวลา 15:40 น. ต้องคอยรถรอบ 17:00 น. ผมจึงตัดสินใจว่าจะนั่งรถบัสไปลง Toyako Onsen Bus Terminal แทนแล้วเดินเลาะทะเลสาปไป ขณะนั้นมีรถบัสมาจอด นักท่องเที่ยวชาวจีนสอบถามพนักงานขับรถว่าไป Bus Terminal ไหม พนักงานตอบ OK ผมก็ให้พวกเราขึ้นตามเลยครับ พอขึ้นรถแล้วค่อยมาเปิด map ดูพบว่ารถวิ่งไปในทิศทางไปทะเลสาป จึงสบายใจว่าขึ้นไม่ผิดคันแน่

ระหว่างขึ้นรถอย่าลืมหยิบหมายเลขป้ายที่ขึ้น และเช็คราคาค่าโดยสารจากตารางที่แสดงหน้ารถ ผู้โดยสารวันนี้มีชาวต่างชาติหนึ่งคน ชาวจีนสี่คน และพวกเราอีก 5 คนครับ มีชาวญี่ปุ่นขึ้นลงระหว่างป้ายไม่กี่คน รถวิ่งมาประมาณ 10 นาทีเราก็ได้เห็นทะเลสาปกันแล้ว ช่วงบ่ายวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เราเห็น Mt. Yotei หรือฟูจิน้อยกันอย่างชัดเจน

รถถึงสถานี Toyako Onsen Bus Terminal พวกเราลงกันหมด แต่ผู้โดยสารชาวจีนยังนั่งอยู่จนพนักงานขับรถต้องบอกว่า Last Stop ผมไม่ได้สนใจ จนเพื่อนมาบอกว่าผู้โดยสารชาวจีนโบกมือให้เขาระหว่างลง สงสัยคิดว่ารถบัสจะไปส่งถึงหน้าโรงแรม การศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทางนี่สำคัญมากนะครับ ผมดูมาเฉพาะรถที่มาถึง Toyako Onsen Bus Terminal แล้วลองใช้ google street เดินไปโรงแรม แต่แฟนผมดูมาว่ามีรถไปถึงหน้าโรงแรมเลยครับ

จากจุดนี้เพื่อนผมยังไม่รู้ว่าต้องเดินไปอีกไกล เพื่อให้เดินสบายดูวิวสวยสวยไป ผมจึงพาเดินตรงไปยังทะเลสาปเลยครับ ถ้าเดินตามถนนหลักจะใกล้กว่าประมาณ 100 เมตร (จาก Bus Terminal เดินไป 800 เมตร)

เดินตรงมาถึงทะเลสาปแวะถ่ายรูปกันก่อนเลย ริมทะเลสาปโทยะ มีปฎิมากรรมตั้งอยู่หลายชิ้น ชิ้นนี้ผมดูเป็นนกนะ พื้นที่รอบทะเลสาปฝั่งนี้เป็นทางเดินกว้าง มีคนพาสุนัขมาเดินเล่นกัน อยากพาทาโร่มาเดินเล่นบ้าง

บริเวณถัดออกไปเป็นท่าเรือที่เราจะล่องในวันพรุ่งนี้ วันนี้เรือรอบสุดท้ายออกไปแล้วเวลา 16:00 น. ผมเข้าไปดูตารางเวลาพรุ่งนี้เช้ารอบแรก 09:00 น. ค่าโดยสาร 1,420 เยน ถ้าเป็นหน้าร้อนเรือจะเริ่มรอบแรก 08:00 น. ครับ สามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์นี้ได้เลย : http://www.toyakokisen.com/price/price01.html

กรอบหรือเฟรมนี้น่าจะถูกนำมาติดตั้ง เพราะตอนหาข้อมูลรีวิวยังไม่เห็นมีอยู่ครับ ถ้าเรายืนกึ่งกลางกรอบจะเห็นฟูจิน้อยอยู่ตรงกลางพอดี ถือว่าเป็นจุดที่ถ่ายรูปแล้วได้วิวสวยสวยอีกมุมหนึ่งที่ไม่ควรพลาด

เราถือโอกาศถ่ายรูปกับเฟรมนี้เป็นที่ระลึกกันหลายภาพเลย โดยเฉพาะเมื่อเรือรอบสุดท้ายวิ่งกลับมาอยู่ระหว่างเฟรม เราต้องผลัดกันวิ่งเข้าออก เพื่อถ่ายรูปให้ทัน โชคดีที่มีเราแค่เพียงกลุ่มเดียว ทำให้ได้ภาพสวยสวยกันไปหลายภาพครับ

ผมรอเรือเข้ามาใกล้ใกล้เพื่อถ่ายรูป แต่ดูเหมือนรูปที่ถ่ายจะย้อนแสงจึงไม่ได้อยู่ต่อจนเรือจอดสนิท

เพื่อนเพื่อนลากกระเป๋าเดินนำไปก่อนแล้ว ทางเดินเลียบทะเลสาปนี้กว้าง สามารถเดินเล่นรอบรอบได้สบาย

บางช่วงพื้นมีหิมะและกลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง เพื่อนผมต้องถือกระเป๋าเดินผ่าน แต่ด้วยกระเป๋าของแฟนที่หนักเนื่องจากเดินทางมาก่อนหน้าหลายวัน ผมจึงต้องทนลากผ่านแผ่นน้ำแข็งไปอย่างช้าช้า ดีที่ผมได้ฝากกระเป๋าบางส่วนของผมไว้ที่โรงแรมแล้ว จึงไม่ต้องลากทั้งสองใบ ของผมจึงมีเพียงเป๋หลังใบเดียวก็พอ

ระหว่างทางมีจุดให้แช่เท้า แต่ด้วยเราต้องการไปให้ถึงโรงแรมก่อน จึงไม่ได้หยุดพักที่จุดนี้

ป้ายระบุว่า Shikotsu-Toya National Park , The Eight Views of Toyako , Lake Toya Spa Resort

วิวระหว่างทางเดินไปโรงแรมที่พักคืนนี้ครับ เพื่อนเพื่อนเดินไปไกลแล้ว ผมยังคงแวะถ่ายรูปและลากกระเป๋าตามไปห่างห่าง

ปฎิมากรรมรูปหญิงเปลือย เห็นมีอยู่หลายที่ตามแหล่งท่องเที่ยว ตอนถ่ายรูปมาไม่ได้คิดอะไร เพียงจัดให้ภาพมันมีอะไรให้ดูบ้าง ถ้ารูปปั้นนี้มาอยู่ที่สวนสาธารณะในเมืองไทย จะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีเรื่องถึงกระทรวงวัฒนธรรมไหมนี่

ป้ายแผนที่รอบทะเลสาป และข้อมูล Lake Toya และ Mt. Usu เป็นภาษาอังกถษครับ

เราเดินมาจนถึงรูปปั้นชายนั่งใส่หมวกเป่าแซกโซโพนที่มีนกมาเกาะที่ศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณหลังโรงแรมที่พัก ด้วยอากาศที่เย็นและเดินมาไกล เราจึงไม่ได้หยุดถ่ายรูป ขอเข้าไปหลบหนาวเช็คอินในโรงแรมก่อน

เราเดินขึ้นด้านหลังโรงแรม ผ่านสวนญี่ปุ่นขนาดเล็กเพื่อเข้าประตูด้านข้าง ตามที่น้องคนไทยที่มากับทัวร์และพักอยู่โรงแรมเดียวกันบอก แฟนผมซึ่งมาถึงก่อนเดินหาทางเข้าเองหาไม่เจอครับ เพราะประตูด้านข้างหนักมากต้องใช้แรงมากจึงจะเปิดออก

เราเดินผ่านห้องโถงของโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากโรงแรมนี้สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 900 คน ด้วยจำนวนห้องพัก 205 ห้อง ตามข้อมูลในเว็บ : http://en.toya-kohantei.com/room

วิวด้านทะเลสาปใน lobby โรงแรมปล่อยโล่ง สามารถนั่งชมทะเลสาปได้อย่างเต็มตา

เราเช็คอินแล้วแยกย้ายกันขึ้นห้องพัก ห้องที่เราได้เป็นห้อง Japanese Style w/ 8 Tatami mats size (Lake-side) ซึ่งแฟนผมได้เขียน recommend ไว้ระหว่างจองโรงแรมผ่าน Booking.com ซึ่งโรงแรมไม่ได้รับปากว่าจะได้ เนื่องจากช่วงเวลานี้มีทัวร์มาลงครับ

วิวทะเลสาปที่ห้องพักสวยมาก จนทุกครั้งที่ขึ้นมาบนห้องต้องมานั่งอยู่ริมหน้าต่าง

มื้อเย็นเรานัดกันจะไป dinner ที่ห้องอาหารบนชั้นสองของโรงแรม ด้วยความที่ Pocket WIFI ของเพื่อนแบตหมดจึงติดต่อไม่ได้ ผมไปเคาะประตูก็ไม่มีเสียงตอบ จึงลงไปที่ห้องอาหารเลย วันนี้มีทั้งทัวร์ไทย ทัวร์จีนมาลง ลูกค้าเต็มห้องอาหารเลย แต่การจัดการของที่นี่ดีตรงที่มีการกำหนดหมายเลขโต๊ะของแต่ละห้องพักไว้ และมีพนักงานเดินนำไปที่โต๊ะ ทำให้ไม่มีการแย่งโต๊ะที่นั่งกัน เมื่อได้เข้าไปในห้องอาหารได้พบว่าเพื่อนผมได้ลงมาก่อนหน้าแล้ว การเดินทางไปหลายคนต้องนัดหมายจุดนัดพบกันไว้ก่อน เผื่อติดต่อกันไม่ได้จะได้รูว่าต้องไปที่ไหนต่อ

อาหารที่นี่มีหลากหลาย และมีเติมตลอด ไม่ต้องกลัวหมดครับ เรารับรับประทานอาหารผ่่านไปหนึ่งชั่วโมง ห้องอาหารก็โล่ง เหมาะแก่การนั่งมากกว่า ใครมาพักที่นี่ไม่ต้องรีบเข้ามาพร้อมทัวร์นะครับ รออีกหน่อย

เราแยกย้ายกันพักผ่่อน แฟนผมไปดูออนเซนคนเยอะจึงไม่ได้ใช้บริการ อาศัยแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำที่ห้องพักแทน วันนี้นอนหลับสบายก่อนตื่นเช้ามาดูวิวฟูจิน้อยที่หน้าต่างห้องพัก รูปนี้ใช้ iphone ซูมสุดสุดเลยครับ

เรานัดกันตอนเช้าที่ห้องอาหาร ผมกับแฟนนำกระเป๋าใบใหญ่ลงมาด้านล่างก่อน วันนี้เธอจะฝากกระเป๋าใบนี้ไปที่พักที่โตเกียว พรุ่งนี้สบายแล้วเหลือแค่เป้คนละใบ เนื่องจากร้านที่รับฝากกระเป๋าเปิด 07:00 น. เราจึงถ่ายรูปและนั่งชมวิวคอยกันไปก่อน

อากาศเช้านี้มีเมฆมาก ทำให้ดูคลึ้ม ผมเช็คพยากรณ์อากาศพบว่าวันนี้มีเมฆในช่วงเช้า และหิมะตกในช่วงบ่าย โดยเฉพาะที่ Noboribesu ที่เราจะเดินทางไปในเที่ยงวันนี้ จึงต้องเตรียมชุดกันหนาวให้เต็มที่เลย

ระหว่างรอฝากกระเป๋าเพื่อนลงมากันแล้ว เราออกไปถ่ายรูปริมทะเลสาปกัน แต่ด้วยอากาศที่หนาวมาก และไม่ได้นำเสื้อกันหนาวลงมาด้วย ทำให้ต้องรีบกลับเข้ามาก่อน

เราฝากกระเป๋าแล้วขึ้นไปรับประทานอาหารเช้ากัน ตอนเช้านี้คนทยอยลงมากิน ไม่หนาแน่นเหมือนตอนเย็น โต๊ะก็ไม่ได้ระบุที่นั่งไว้ สามารถเลือกริมหน้าต่าง รับประทานอาหารและชมวิวพร้อมกันไปด้วย อาหารเช้าก็มีหลากหลาย เลือกตักกันมาได้อย่างเต็มที่กี่รอบก็ได้ ไม่ต้องตักมาเยอะนะครับเดี๋ยวเหลือพนักงานจะเคืองเอา

หลังจากเช็คเอ้าท์ฝากกระเป๋าที่โรงแรม เราออกเดินเลาะริมทะเลสาปไปที่ท่าเรือตั้งแต่ 08:15 น. แวะถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย แต่ด้วยอากาศที่ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆ ทำให้ภาพที่ได้ไม่สวยนัก

ตอนเช้ามีคนพาสุนัขมาเดินเล่น แต่ระหว่างที่เดินไม่เห็นมีของเสียของสุนัขให้เห็นเลย คนเมืองนี้เขารักษาความสะอาดและเคารพคนอื่นดีมากเลยครับ

ผมยังคงแวะเก็บภาพอยู่ ระหว่างที่คนอื่นเดินนำไปล่วงหน้าแล้ว นานนานได้มาครั้งหนึ่งขอเก็บภาพไว้หน่อย

เรามาถึงจุดจำหน่ายตั๋วก่อนเจ้าหน้าที่จะมาเปิด มีทัวร์จีนตามมาอีกคันรถหนึ่ง เราได้ซื้อตั๋วเป็นคิวแรกด้วยราคา 1,280 เยน จากปกติ 1,420 เยน เพราะก่อนจะเดินมาผมเห็นบัตรลดราคาที่โรงแรม เลยลองหยิบมาเผื่อใช้ได้ บัตรหนึ่งใบสามารถใช้ลดได้ทั้งกลุ่มครับ

ขึ้นไปบนเรือให้ขึ้นไปที่ชั้นสองเลือกที่นั่งกันก่อนเลย วันนี้คนมาเที่ยวน้อยมีแค่กลุ่มเรากับทัวร์จีนยี่สิบกว่าคนเท่านั้น ทำให้ที่นั่งเหลือเยอะ เลือกนั่งกันสบาย บนเรือมีร้านอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายด้วยนะครับ

เรือออกจากท่าได้สักพัก เราก็ขึ้นไปถ่ายรูปบนดาดฟ้าเรือกัน บนดาดฟ้าอากาศจะหนาวมากนะครับเพราะมีลมจากการที่เรือแล่น ใครเตรียมชุดมาไม่พร้อมอยู่ได้ไม่นานก็ต้องลงไปแล้ว

เมื่อเรือออกจะมีนกมาบินตาม เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาโยนอาหารให้ ไกด์กลุ่มทัวร์จีนคงเตรียมมา ทำให้เราได้ถ่ายรูปนกที่บินตามกันมากับเขาด้วย ไกด์จะโยนอาหารขึ้นท้องฟ้าบริเวณที่นกเกาะอยู่ ทำให้นกบินออกไปและบินตามกันมาหลายตัว

เราลงไปนั่งในเรือชมบรรยากาศกันไปเรื่อยเรื่อยจนเรือกลับมาถึงจุดที่เห็นฟูจิน้อย จึงขึ้นมาเก็บรูปกันหน่อย

ถ้าท้องฟ้าใสกว่านี้ วิวที่ได้คงสวย แต่กระนั้นเราก็ยังทนหนาว ยืนถ่ายรูปกันอยู่

ระหว่างที่หลายคนหลบหนาวเข้าไปในเรือ ผมยังคงอยู่เพื่อจะถ่ายรูปนกคู่กับฟูจิน้อยให้ได้ภาพตามที่ต้องการ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ว่าวันหนึ่งเราเคยผ่านมาทางนี้

เรือจอดเทียบท่า เราเดินกลับไปโรงแรมทางเดิมที่มา เส้นทางนี้เราเดินเป็นรอบที่สามแล้ว แต่ก็ยังตรึงตาอยู่

หันกลับเข้าไปที่กรอบเมื่อวาน วันนี้เรือมาจอดเทียบท่าแล้ว ได้เห็นวิวเรือมาส่วนหนึ่งด้วย ดูแปลกตาดี เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกหน่อย

ในขณะที่เพื่อนเดินนำหน้าไปก่อน ผมเรียกแฟนให้เดินกลับมาก่อน เพื่อที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะบางครั้งกลับมาแล้วจะเสียดายว่าทำไมไม่ได้ถ่ายรูปจุดนี้มาด้วย

ตอนเช้าถ่ายภาพมุมนี้ไม่ย้อนแสง ผมอยู่รอจนไม่มีคนแล้วเก็บรูปไว้อีกหน่อย

เดินกลับโรงแรมที่พัก ระหว่างทางเก็บภาพไปด้วย เช้าวันนี้มีคนพาสุนัขมาเดินกันเรื่อยเรื่อยครับ

เราเดินกลับไปโรงแรมรับกระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วเดินออกไปรอรถบัสที่ป้ายรถฝั่งตรงข้ามโรงแรม ไม่ต้องเดินลากกระเป๋ามาที่ ฺBus Terminal รถผ่านหน้าโรงแรมมีรอบ 10:46 น.ครับ

ขอจบรีวิวเพียแค่นี้ ก่อนเที่ยงวันนี้เราจะเดินทางไป Noboribesu รอติดตามชอบกันต่อครับ

ข้อมูลการเดินทางของเรา

12:42-14:19 Kutchan-Oshamambe 3,630 เยน non reserved

15:22-15:48 Oshamambe-Toya(JR-MURORAN) reserved

15:55 Toya(JR-MURORAN) - Toyako Onsen Bus Terminal

ตารางรถบัสที่ป้ายหน้าสถานี Toya(JR-MURORAN)

ตารางรถบัสป้ายฝั่งตรงข้ามโรงแรมที่พัก kohantei

ตารางเรือล่องทะเลสาปโทยะที่ท่าเรือ

ตู้รับฝากกระเป๋าที่สถานีรถไฟ Toya(JR-MURORAN)

บัตรส่วนลดค่าล่องเรือ ที่หยิบได้ที่โรงแรมครับ

แผนที่บริเวณโดยรอบทะเลสาปครับ

แผนที่เส้นทางที่เราเดินใกล้โรงแรมที่พัก โรงแรมหมายเลข 2 ครับ

เว็บไซต์โรงแรมที่พัก : http://en.toya-kohantei.com/

ข้อมูลการเดินทางไปที่พักที่อยู่ในเว็บของโรงแรมรับ

Take a local bus for Higashi-Machi-Sun Palace via Toyako-Onsen. Get off at Moto-machi. one-way Approx. 25 min.
→ Do-Nan Bus・Toyako Onsen⇔Toyako Eki-Mae・Toyoura line

แผนการเดินทางของทริปนี้ครับ

วันที่ 1 เวลา 13:15 น. เดินทางถึง CTS เที่ยว Sapporo และพักที่ Hokkaido Sapporo-eki Kita-guchi

แลกตั๋ว JR-Hokkaido 7 วัน 24,000 เยน เปิดใช้ วันถัดไป จ่ายค่าตั๋วรถไฟเข้าเมืองเพิ่ม 1,360 เยน

วันที่ 2 เวลา 08:43 นั่งรถไฟไป Otaru แล้วต่อรถไฟไป Kutchan แล้วนั่งนั่งรถบัสไป Grand Hirafu

วันนี้เที่ยวที่ Niseko พักที่ Moutin Jam/Niseko Prince Hotel Hirafutei

วันที่ 3 เวลา 11:50 น. นั่งรถบัสไปสถานี Kutchan ต่อรถไฟไป Oshamambe แล้วต่อรถไฟไป Toya(JR-MURORAN) แล้วต่อรถบัสไปทะเลสาปโทยะ (Toya Lake) คืนนี้พักที่ Kohan Tei

วันที่ 4 ล่องเรือทะเลสาปโทยะ แล้วนั่งรถบัสไปสถานี Toya(JR-MURORAN) ต่อรถไฟไป Noboribetsu แล้วต่อรถบัสไป Noboribetsu Onsen เที่ยวฟาร์มหมีกับบ่อนรก คืนนี้พักที่ Takimoto

วันที่ 5 นั่งรถบัสไปสถานี Noboribetsu ต่อรถไฟไป Sapporo(JR) วันนี้ไปเที่ยว Mt. Moiwa พักที่ Hokkaido Sapporo-eki Kita-guchi

วันที่ 6 นั่งรถไฟไป Otaru Chikou ต่อรถบัสไป Kiroro ตอนเย็นกลับมาเที่ยวที่ Otaru แล้วกับไปนอนที่ Sapporo

วันที่ 7 นั่งรถไฟไป Tomamu เที่ยวและพักที่ The Tower

วันที่ 8 เดินทางกลับไปเดินเที่ยวที่สนามบิน CTS ก่อนกลับกรุงเทพฯ