ซีทรู (Sea Thru Restaurant) ห้องอาหารหรู ริมหาด ประกาศเมนูของดีเมืองจันทน์ @ โรงแรม เจ้าหลาวทอแสงบีช

กว่าจะออกเดินทางจากชุมชนริมแม่น้ำจันทบูรก็ปาไปกว่าสี่โมงเย็นแล้ว เราขับรถหลงไปเรื่อยเปื่อย ทั้ง ๆ ที่มีป้ายบอกทางไปหาดเจ้าหลาว อ้อ !!! ลืมบอกไปว่าวันนี้เราจะพักกันที่ "โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช" หาดเจ้าหลาว

ทีนี่เส้นทางที่จะมาหาดเจ้าหลาวที่เราขับมานั้น มันทั้งเล็ก และทำทาง มีการราดยางมะตอยใหม่ ๆ เป็นระยะ (สงสารรถจังเลย) แถมยังต้องข้ามเขาอีก 2 ลูก บนถนนสองเลนที่มีไว้ให้รถสวนทางกันเท่านั้น แต่ดีหน่อย ไม่มีรถตาม ไม่มีรถสวน สักเท่าไหร่ รอดมาได้อีกมื้อนึง

กว่าเราจะถึงเจ้าหลาวทอแสงบีชฯ ก็พระอาทิตย์จะตกเสียแล้ว เข้าห้องเอาของไปเก็บ ออกมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ แล้วเตรียมตัวไปกินข้าวเย็น ดังนั้น รีวิวโรงแรมเดี๋ยวเอาไว้ก่อนนะคะ ขอรีวิวร้านอาหารก่อน แบบว่าประทับใจมาก

ด้วยความที่เราออกจากห้องก็ค่อนข้างมืดแล้ว เพิ่งขับรถมา ขี้เกียจขับรถออกไปข้างนอกแล้ว เพราะวันนี้คนเข้าพักของโรงแรมก็แยะ ถ้าออกไปแล้วไม่มีที่จอดอีกคงลำบาก อย่ากระนั้นเลย โรงแรมมีห้องอาหาร กินมันที่นี่หละ เรียกว่า จำยอมกันเลยทีเดียว เพราะจากประสบการณ์ของเรา ร้านอาหารในโรงแรม โดยเฉพาะที่วิวดี ๆ แบบนี้ มักจะแพง และไม่อร่อย แต่ก็นะ ไม่ไหวละ ไม่ไปไหนทั้งสิ้น

ห้องอาหารของโรงแรมแห่งนี้ มีชื่อสุดเซ็กซี่ว่า "ซีทรู Sea Thru" ทำให้นึกถึงชุดบาง ๆ แนบเนื้อ แต่ซีทรูที่นี่ ถ้าจะแนบเนื้อก็คงแนบเนื้อกับชายหาด เพราะอยู่ริมหาดเจ้าหลาวเลยทีเดียว ด้วยความที่วันนี้แขกเยอะ และมีการจัดอาหารแบบบุฟเฟ่ห์ เราก็นึกว่าเขามีบุฟเฟ่ห์ด้วย กะว่าจะได้ทุ่นกันหละทีนี้ ที่ไหนได้ แขกที่มาเป็นหมู่คณะ เขาเหมาจัดบุฟเฟ่ห์กันเอง ก็เลยลองถามดู พนักงานว่า ราคาหัวละประมาณ 350 บาท ถามไปงั้นหละ จะมากับใครหละเยอะแยะ

เราได้ที่นั่งตรงกลางร้าน ไม่ติดหาด ไม่ติดทางเดิน แต่มีต้นมะพร้าวที่ไม่สูงนักอยู่ด้านบนนั่งกันสองคนกำลังดี บริกรเอาเมนูมาให้ เฮ้ย !!! ราคาก็ไม่แพง ต้องไม่อร่อยแน่เลย หรือมันจะน้อย พยายามยื่นคอดูโต๊ะอื่น ๆ จานมันก็ไม่เล็กนะ อะลองสั่งอาหารกันดีกว่า

(ซ้ายบน) สีเขียวสดใส Chaolao Fantaci 179.- / (ขวาบน) สีม่วงสวย Tosang dream 179.-
(ซ้ายล่าง) สีน้ำตาลอ่อน เป็นเมนูแนะนำ จำชื่อไม่ได้ 179.- /
(ขวาล่าง) พั๊นซ์ เป็น Welcome Drink หมายความว่า ฟรี !!! นั่นเอง

ในเมนูเห็นมีอาหารชื่อแปลก ๆ หลายรายการ เลยสอบถามบริกร ให้ช่วยแนะนำอาหารเพราะเรายากกินอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน หรือ อาหารพื้นเมืองที่มีขายที่นี่ หรือใช้ของดีเมืองจันทน์ น้องแนะนำให้สองเมนู นั่นคือ พลาปลาเมืองจันทน์ สอบถามรสชาติน่าจะเหมือนยำ เอาเลยกำลังอยากกิน อีกจานคือ ยำเสน่ห์จันทน์ อันนี้ต้องลอง เพราะเขาจะเอาเส้นจันทน์ ที่เป็นของดีเมืองจันทน์มายำคลุกกับเครื่องให้กิน ซึ่งก็ดีเพราะเอาจริง ๆ เราก็ไม่อยากกินอาหารจานหนัก ๆ ซักเท่าไหร่

พล่าปลาเมืองจันทน์ น้ำจิ้มถั่ว 150.-

อีกเมนูที่เราสั่งกันเองเพราะความอยากกินของเพื่อนร่วมทริป คือ ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน เรียบร้อยแล้วก็ลองหาเครื่องดื่มมาดื่มระหว่างรออาหารเป็นการเรียกน้ำย่อย แต่น้ำย่อยพวกเราคงน้อยไปหน่อย เลยต้องเรียกกันหนักมาก ได้มาทั้งหมด 4 ชนิด เพราะความรักพี่เสียดายน้องจริง ๆ เชียว

ใช้เนื้อปลาน้ำดอกไม้คลุกเคล้ากับเครื่องพล่า เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มถั่ว (ตัด)

เครื่องดื่มถูกนำมาเสิร์ฟก่อนเลยเป็นอันดับแรก แต่เอ๊ะไม่ได้สั่ง นั่นคือ พัันซ์ บริกรบอกว่าเป็น Welcome drink มิหน้ามีกันทุกโต๊ะ บอกเลยค่ะว่าซู๊ดดดดดดดดดดดด แรกนั่น อร่อยสดชื่นมาก นั่นเป็นที่มาของซู๊ดดดดดดดด ต่อ ๆ ไป รสชาติเปรี้ยว หวาน ของผลไม้นานาชนิด และที่เด็ดสุดคือ ใส่น้ำทับทิมด้วยค่ะ เพราะบริกรบอกว่า นอกจากจะได้สีแล้วยังได้กลิ่นด้วย มิหน้าหละหอมคุ้น ๆ

เสิร์ฟเป็นคำ ๆ ในช้อนกระเบื้อง ก่อนกินราดน้ำจิ้มถั่ว

แก้วที่ 2 และ 3 มาพร้อมกันนั่นคือ Chaolao Fantacia สีเขียวสดใส รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กินง่าย เมาง่าย เพราะมีส่วนผสมหลักเป็น เตกีล่า กับสไปร์ทค่อ อ้อ สองแก้วนี้เป็นค๊อกเทลนะคะ ส่วนพั๊นซ์เป็นม๊อกเทล คือ ไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ ส่วนเจ้าสีม่วงสวยนี่ชื่อ Tosang dream มีความหวานหอมละมุน นุ่มนวล กว่า Chaolao Fantacia เพราะมีส่วนผสมของเหล้ารัม ดื่มเพลินดีค่ะ ทั้งสองแก้วราคาเดียวกันที่ 179.-

ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน 200.-

เรานั่งจิบค๊อกเทลกันอยู่ไม่นานนัก บริกรก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ นั่นแน่ "พล่าปลาเมืองจันทน์ น้ำจิ้มถั่ว" ถูกเสิร์ฟมาเป็นคำ ๆ ในช้อนกระเบื้อง สีขาว เนื้อปลาน้ำดอกไม้ยีคลุกมากับเครื่องพล่า หอมซอย ตะไคร้ซอย กลิ่นมะนาวหอมกรุ่น แต่ที่เด็ดสุด เห็นจะเป็นน้ำจิ้มถั่วที่ใช้ราดพล่าปลา เพราะนอกจากจะมีความหอมหวาน เค็มกลมกล่อมแล้ว ยังมีเกล็ดเล็ก ๆ ของถั่วและน้ำตาล เพราะเชฟบุบถั่วตัดใส่ลงมาในน้ำจิ้มถั่วด้วย พอราดกับตัวพล่า จึงได้รสชาติที่ เปรี้ยว เค็ม หวาน หอม ลงตัว แถมเคี้ยวเพลินเพราะจะได้รสสัมผัสกรุบกรอบของถั่วตัดอีกด้วย จานนี้กิ๊บเก๋ ยูเรก้า ให้คะแนนไปเลย 4 ดาว

เครื่องเคราครบ

จานต่อมาเป็นของใหญ่ของโตค่ะ ของตามรีเควส "ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน" ที่เสิร์ฟกันมาเป็นลูก ๆ ใส่มาในมะพร้าวอ่อน ที่ไม่อ่อนจนไม่มีเนื้อ และไม่แก่จนแข็งปาหัวหมาแตก อยากบอกว่าไม่เคยกินห่อหมกที่อร่อยขนาดนี้ (ปกติไม่ค่อยโปรด) ความหอมของน้ำพริกเครื่องแกงคลุกเคล้ามากับมะพร้าวอ่อนให้รสชาติหวานหอมกลมกล่อมที่แรกงง ๆ เพราะนึกว่าใส่ถั่วบดมาแบบน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ เพราะให้รสชาติที่คล้ายกัน แต่เผ็ดร้อนและหอมเครื่องแกงมากกว่ามาก เลยถามบริกร ๆ บอกว่า ไม่ได้ใส่ถั่วค่ะ น่าจะเป็นรสชาติที่เข้มข้นของเครื่องแกง ทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง ปลา และปลาหมึกเป็นของสด ชิ้นใหญ่ ผักที่ใส่มาในห่อหมก ก็ดูไม่สลด แต่ดูสดและยังให้รสสัมผัสที่กรอบของผักสด ว่าจะไม่กินข้าว ถึงกับต้องเรียกหาข้าวสวยกันเลยทีเดียว แน่นอนค่ะ จานนี้สำหรับตัวเองแล้วให้ 4 ดาวเช่นเคย ยิ่งมาเห็นราคาอยากจะให้ดาวเพิ่ม (แต่เกรงใจเนื้อฮอกไกโดที่ให้ 5 ดาวไปแล้ว) เอาไปอีกครึ่งดวง 200 บาท ส่วนตัวแล้วถือว่าถูกค่ะ

เข้มข้น เต็มลูก เกือบล้น

บรรจงผักจัดผักประดับจานสวยเก๋

ยำเสน่ห์จันทน์ 180.-

และแล้วจานที่รอคอยก็มา ยำชื่อเก๋ "ยำเสน่ห์จันทน์" คือ การนำเอาเส้นจันทน์ ของขึ้นชื่อของเมืองจันทน์มายำกับกุ้ง และปลาหมึก ปรุงรสด้วยน้ำยำรสชาติจัดจ้าน แต่กลัวไม่สะใจคนกิน ผ่ามะนาว วางถั่วตัดมาให้อีกเผื่ออยากได้เปรี้ยวหวานมากกว่านี้ แต่สำหรับเราแล้ว รสชาติที่ทางเชฟปรุงมา ถือว่า พอดีแล้ว เปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานเจือ เผ็ดไม่มากกำลังดี เอาไป 4 ดาวเช่นกัน

นั่นเป็นที่มาของค๊อกเทลแก้วที่สาม สีน้ำตาลอำพัน ด้วยบริกรเห็นว่าชอบกินค๊อกเทล เลยแนะนำแก้วนี้ให้ ถึงตอนนี้ลืมไปแล้วว่าชื่ออะไร แต่จำได้ว่าเป็นการนำวิสกี้หลากหลายยี่ห้อ มาผสมกับโค๊ก แล้วเสิร์ฟกับน้ำแข็ง รสชาติเหมือนกินเหล้าผสมโค๊ก แต่หอมและหวานกว่า ถือว่าเป็นกลิ่นรสที่ควรจดจำ

ใช้เส้นจันทน์ ของขึ้นชื่อเมืองจันทน์ คลุกเคล้ากับเครื่องยำ
และน้ำยำรสจัดจ้าน เปรี้ยว หวาน เค็มกำลังดี

เสิร์ฟมาพร้อมกับถั่วตัด และมะนาวสด เพื่อปรุงรสตามชอบ

เอาเข้าจริง ๆ ไม่ได้ปรุง รสชาติถูกปากอยู่แล้ว เลยได้ถั่วตัดมากินเล่นซะงั้น

กว่าที่ข้าวสวยจะมา ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อนก็พร่องไปเกือบหมด นี่ไม่ต้องพูดถึงพล่าปลาเมืองจันทน์ที่เหลือแต่ช้อนกับถ้วยน้ำจิ้มไปก่อนแล้ว เพื่อมิให้เสียสมดุลย์ เราจึงสั่งไข่เจียวปูมากินกับข้าวอีกจานหนึ่ง เพื่อเป็นการรักษาสมดุลย์

เรียกได้ว่าเฉพาะค่าอาหารคืนนี้ ไม่ถึงหนึ่งพันบาท กับบรรยากาศนั่งชิว ๆ ริมทะเล อาหารอร่อย ค๊อกเทลดี ๆ ฟังเพลงเพราะ ๆ ถือว่าคุ้มค่ะ ส่วนตัวโดยรวมแล้ว ทั้งห้องอาหารซีทรู อาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้คะแนนอยู่ที่ 4.5 จาก 5 ค่ะ

กว่าจะเสร็จสิ้นอาหารมื้อค่ำที่แสนอร่อย และสนุกสนานกับการพูดคุยกันเอง และกับบริกร ทั้งวิจารณ์กันเอง ขำขันกับการเดินทาง วิจารณ์อาหาร ฟังการแนะนำเรื่องอาหาร และที่เที่ยวต่าง ๆ โดยรอบ ปาเข้าไปเกือบครึ่งคืน เห็นที่คืนนี้ต้องนอนเอาแรงกันก่อนหละค่ะ พบกันพรุ่งนี้ค่ะ