หลังจากที่ห่างหายการรีวิวมานาน ซึ่งจริงๆ ช่วงปลายปี 2560 มีโอกาสได้ไปโตเกียวครับ
ยังไม่ได้ฤกษ์เขียนเลย จุดเริ่มต้นของทริปสิงคโปร์ เอาจริงๆ มันเริ่มจากที่ผมเจอโปรโมชั่นสายการบิน Nok Scoot ไปกลับจากหาดใหญ่ ราคาไม่ถึง 4000 บาท ทุกครั้งที่โปรโมชั่นมันจะแหลกสลายลงไปกับตา !! ไม่ใช่เพลงปราสาททราย คือการที่เราไปถามเพื่อนว่า ไปไหม เมิงว่างไปไหม สุดท้ายล่ม เลยเอา มีเงินเก็บอยู่น้อยนิด กดจองเลย !!!! เเล้วก็เริ่มหาโรงเเรม ซึ่งเราทราบดีว่าสิงคโปร์ เมืองน้ำดื่มเเพง ห้องพักก็เเพงมากด้วย ครั้งนี้เลยขอนอนโฮสเทลเเถว Chinatown เเล้วกันสุดท้าย ก็จองสำหรับ สำหรับทริปอโลนนนอินสิงคโปร์ !!!!!!!

จากที่เราเข้ามาทำการบ้านในรีวิวจากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Pantip Youtube จะเห็นว่ามี รี วิว เยอะ มากกกก ซึ่งเเน่นอนครับ คอนเซ็ปต์ผม คือ ไม่ห้าง เน้นถ่ายรูป เข้าไปเจอรูปจากรีวิวก็ เอิ่มมม สวยๆ ทั้งนั้น จะสู้ได้ไหม เลยตัดสินใจ หยิบกล้องฟิล์มไปเลยครับ 2 ตัว คือ NikonFM2 และ fuji cardia Travel mini Dual-p [PANORAMA] พร้อมติดฟิล์มไปอีก 10 ม้วน เพลินป๊ะ 555 ก็เก็บทุกอย่างใส่กระเป๋า 1 ใบพร้อมลุย สิงคโปร์

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ผมพลาดมากครับ พลาดที่มาสิงคโปร์หน้าฝนเนี้ยเหละ เเต่ก็นะ มีคนบอกผมตลอดว่า สิงคโปร์มันก็ตกตลอดอยู่เเล้ว ที่สำคัญ อา กาศ ร้อน มากกกกก มาที่นี้เเนะนำให้ติดเสื้อฝนหรือติดร่มมาเสมอครับ ที่สำคัญห้ามลืม ที่นี่น้ำดื่มเเพงมา อย่าลืมติดกระบอกน้ำมานะครับ จะ save เงินในบัญชีได้เยอะเลย ผมออกเดินทางจากหาดใหญ่วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2561 โดยกำหนดกลับวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 กับโปรแกรมไปหลายจุดมากกกกก ลุยๆๆ


เเด่คุณพ่ออารีย์ ชุมรักษา พ่อที่สร้างเเรงบันดาลใจดีๆ ให้ลูกคนนี้เสมอ
Contact
instagram Me @iddekfilm
https://www.facebook.com/Isarapabc-153377218149435/

Day 1 [Henderson Waves, Chinatown, Clarke Quay, Singapore River, Marina Bay, Helix Bridge]

ผมออกเดินทางจากหาดใหญ่ ด้วยสายการบิน NokScoot TR635 ซึ่งออกจากหาดใหญ่เวลาไทย 14.30 ซึ่งถึงสิงคโปร์ เวลา 17.10 ซึ่งเวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง วันเเรกจากการจัดตารางการเที่ยวตัวเองคือ จะมุ่งหน้าไป Gardens by the Bay ซึ่งเมื่อมาถึงสนามบิน ภาพสะพานไม้พร้อมฟ้าสวยๆ ของ Henderson Waves ลอยมาเลย ก็เลยเปลี่ยนตารางกันแบบทันทีทันใด ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมจะเป็น 1 คนที่ไม่ชอบหาซิมการ์ดที่ประเทศนั้นๆ ผมเลือกที่จะซื้อซิมการ์ดของค่ายหนึ่งที่สามารถเปิดโรมมิ่งที่ต่างประเทศได้เลย เมื่อเราลงจากเครื่องบิน เลยไม่มีปัญหาเรื่องเดินหาซิมการ์ด มาถึงก็รีบไปหา ez.link โดยเมื่อลงจากเครื่องเเล้ว ด่านสำคัญคือ ตม.สิงคโปร์ที่บอกว่ายากมาก ผมเจอ 2 คำถามเองครับ พักที่ไหน และอาชีพตัวเองทำอะไร สุดท้ายก็ผ่านฉลุย ก็รีบเดิน ตามป้าย Train to City นั่ง MRT มาสถานี HarbourFront ทางออก VivoCity จากนั้นเดินออกมาที่ป้ายรถเมล์หน้าห้าง ริมถนนใหญ่ จากนั้นขึ้นรถเมล์สาย 145 ไปประมาณ 15 นาที ไปถึง ป้าย B14051 ลงป้ายเราก็จะเห็นสะพานตรงหน้าเราเลยครับ จากนั้นเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม จะมีบันไดทางขึ้นเขาอยู่หน้าป้ายรถเมล์ที่ใช้นั่งขากลับ เดินขึ้นไปอีกนิด (บางคนอาจจะไม่นิด) ก็เจอความงดงามของสะพานดังรูปเลยครับ

ภาพถ่ายที่บริเวณป้ายรถเมล์เมื่อเงยหน้าขึ้นจะเห็นกระเช้าลอยฟ้า

ภาพชุดนี้ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นในม้วนมีเเค่ Kodak 200 ขาตั้งกล้องก็ไม่มีภาพเลยออกมายับๆ หน่อยเเต่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ผมใช้เวลาอยู่ที่ Henderson Waves เกือบ 1 ชั่วโมงครับ ก็กลับลงมาข้างล่างเพื่อนั่งรถเมล์สาย 145 กลับไป MRT HarbourFront ตามเดิม โดยในโปรแกรมผมคือไป Clarke Quay โดยจะเเวะไปที่พักที่ Chinatown ผมพักที่ Wink Capsule Hostel ก็นั่งมาลง MRT Chinatown ก็เดินขึ้นมาเจอ Market สวยๆ ก็เดินไปเก็บของที่โรงเเรม แล้วออกมาหาอะไรกินบริเวณ Chinatown Street Food โดยทานข้าวมันไก่ ก็โอเคมากๆ ครับ

เเล้วมุ่งหน้าต่อไปยัง Clarke Quay วิธีไป Clarke Quay ง่ายๆ ครับลงสถานี Clarke Quay เดินออกประตู G ครับ ซึ่งเนื่องจากเป็นวันเสาร์ก็จะเจอนักดื่มเยอะเลยครับ จริงๆ ตั้งใจว่าจะหาอะไรดื่มที่นั้น เเต่ดูจากราคาเเล้ว พักไว้ก่อนดีกว่าครับ 5555 เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันครับ

ถึงแล้วครับ Merlion

หลังจากนั้น ดูจากเวลาเเล้วผมก็เลือกที่จะเดินจากจุด Clarke Quay ไปยัง Merlion โดยเลือกที่จะเก็บบรรยากาศบริเวณ Singapore River แล้วไปจบที่ Marina Bay ดูบรรยากาศกันครับ บริเวณทางเดินระหว่าง Clarke Quay ถึง Merlion

เราปิดทริปวันเเรกที่ สะพานเกลียว ฮีลิกซ์(Helix Bridge) ซึ่งเค้าว่ากันว่า เป็นการใช้เหล็กที่มีลักษณะเป็นท่อ 2 อันที่จะหมุนพันกันไปเรื่อยๆตามความยาวของสะพานที่เอาแนวคิดมากจากรูปแบบของ DNA ก็เก็บบรรยากาศรอบๆ ไปให้ชมกันครับ ซึ่งวันเเรกก็เดินไปหลายกิโลเลย โดยวันที่ 2 โปรแกรมเเน่นมาก (ซึ่งวันเเรก ผมหมดไปกับการซื้อน้ำในช่วงเเรกที่ไปสะพาน Henderson Waves และข้าวมันไก่ การพกน้ำดื่มช่วยประหยัดเงินได้มากจริงๆ ครับ)

Day 2 [Fort Canning Park, Nanyang Technological University (NTU),Tian Tian Hainanese Chicken Rice, Little India, Haji Lane, Marina Barrage, Gardens by the Bay, Orchard Road, Mustafa Centre]

ด้วยความตื่นเต้นและกลัวจะไป Fort Canning Park เเล้วเจอคนเยอะ วันที่ 2 ผมตื่นอาบน้ำตั้งเเต่ 6 โมงเช้าเลยครับ (ตี 5 ที่ไทย) เเล้วเราก็เริ่มออกจากที่พักตั้งเเต่ 6.30 น. ด้วยโปรแกรมที่แน่นมาก ออกจากโรงเเรมฟ้ายังไม่เปิดเลยครับ เช็คสภาพอากาศก็จะมีฝนตั้งเเต่เช้า ก็รีบเก็บบรรยากาศยามเช้าบริเวณโรงเเรมที่พัก Chinatown ก่อนเลยครับ

หลังจากนั้น MRT มาลงสถานี Dhoby Ghaut MRT Station เท่านี้และเดินไปไม่ถึง 10 นาที โดยเมื่อเราโผล่จาก MRT จะเจอสวนสาธารณะด้านซ้ายมือ ให้หันซ้ายเเล้วเดินตรงทางสวนสาธารณะเเล้วจะเจอป้ายรถเมล์ ถนน Penang Rd เดินข้ามถนนเเล้วเดินซ้ายไปอีก 100 เมตร ก็จะเจออุโมงเพื่อไปยัง Fort Canning Park มุมที่ใครๆ ก็ต้องถ่ายรูป

ผมใช้เวลาอยู่ที่นี้ไม่นานครับ เพราะฟ้ามืดจริงๆ ฝนไล่มาทุกที เลยตัดสินใจไป Nanyang Technological University (NTU) เพื่อไปล่าตึก Art Design and Media Library (ADM) และตึกติ่มซำ ซึ่งที่มหาวิทยาลัยเค้าเรียกว่าตึกรังผึ้ง วิธีการเดินทาง นั่ง MRT มาลงสถานี Boon Lay ต่อบัสสาย 179 มาส่งถึงหน้าตึก ADM ลงรถเมล์มาก็ถึง ถึงพร้อมฝนเลยครับ เก็บภาพมัวๆ ฝนมาให้ดูกันครับ

หลังจากนั้นเราก็เดินต่อเพื่อไปยัง ตึกติ่มซำ ซึ่งเดินจาก ตึก ADM ไกลมาก ประมาณ 15 นาที โดยเส้นทางอาจจะงง ให้เดินย้อนกลับมาทางรถเมล์เเล้วเดินทะลุตึก Student Services Center เดินมาเรื่อยๆ ก็จะบังคับเลี้ยวขวาเพื่อลงมาถนนเส้นด้านล่าง เราก็จะเจอตึกติ่มซำอยู่ข้างหน้าเลยครับ ผมมาถึง Nanyang Technological University (NTU) ฟ้าค่อนข้างปิดเพราะฝนครับ เเสงที่ออกมาเลยดูมัวๆ

หลังจากนั้นก็นั่งรถเมล์ 179 กลับมายัง MRT เดิมเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Maxwell Food Centre กับเมนูที่ใครๆ ว่าต้องมาชิมให้ได้ Tian Tian Hainanese Chicken Rice ก่อนที่จะไปยัง Maxwell Food Centre ต้องบอกก่อนเลยว่าหลังจากฝนหยุดตก อาการเหนียวตัวทำเอาไม่อยากจะไปไหน ลุยกันต่อกับการนั่ง MRT มา Chinatown เพื่อข้าวมันไก่ เมื่อมาถึงตลาด Maxwell ภาพที่เห็นคือมีคิวต่อเเถวคุณสามารถต่อเเถวได้เลย นั้นคือเเถวของข้าวมันไก่เเน่ๆ ผมใช้เวลาต่อคิวไม่เกิน 30 นาที ก็ลุยเลยครับ ครึ่งตัวพร้อมข้าวอีก 2 จาน คนเดียว (ขอหน่อยนะ 555 ตอนเเรกคิดว่าไม่กินเพิ่มเเระ) ฟินไปครับ >>

สำหรับผม ผมมองว่าข้าวมันไก่ความพิเศษอาจจะอยู่ที่เนื้อมันเเน่นๆ เเต่ผมก็ไม่โดนเท่าไหร่ครับ
สองรูปภาพหลังต้องขอบคุณทาง เนชั่นครับ

หลังจากพิชิตข้าวมันไก่ ผมมีโอกาสเเวะ วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว Buddha Tooth Relic Temple ก็ไม่ไกลจาก Maxwell มาก ก็เเวะเข้าไปกดรูปบริเวณนั้น พร้อมทั้งเข้าไปในวัดเพื่อเก็บภาพเเรงศรัทธา เเหม่ พูดไป ก็เก็บภาพมาฝากกัน

ก่อนที่เราจะไปลุยต่อที่ Little India โดยนั่งไป MRT Little India เพื่อเก็บภาพสีสดๆ ของดอกไม้ เเละตึกสวยๆ บริเวณย่าน Little India กัน ออกที่ทางออก E จากนั้นให้เดินเข้าถนน Buffalo Road มาออกที่ถนน Serangoon Road ก็จะเจอถนนเดินและร้านค้าต่างๆตามซอยข้างๆทั้ง 2 ฝั่งของถนน Serangoon เก็บภาพมาฝากกันครับ

ผมเดินอยู่ Little India ประมาณ 45 นาทีเพราะเราต้องไปต่อ Haji Lane เพื่อไปยังถนนฮิปเตอร์ การเดินทางก็ไปสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Bugis Station มากที่สุด โดยจะมี 2 สายที่ผ่านคือ สายสีน้ำเงิน Downtown Line และสายสีเขียว East West Line ให้ออกทางออก B แล้วเดินไปทางโรงพยาบาล Raffles Hospital จนถึงทางแยกแล้วให้เลี้ยวขวาเดินเข้าถนน Ophir Road พอถึงแยกแรกที่ตัดกับถนน North Birdge Road ให้ข้ามถนนไปทางซ้าย แล้วเดินตรงข้ามไปอีกหน่อยจะเห็นตรอกฮาจิเลน อยู่ฝั่งตรงข้ามทางขวามือ จะบอกว่าเมื่อมาถึงที่นี่คือเเดดร้อนมากจริงๆ ครับ เก็บบรรยากาศมาให้ชมกันก่อนถึง Haji Lane

สำหรับ Haji Lane เป็นอีกย่านถ้ามีเวลาผมคิดว่า ร้านค้า น่าสนใจมากเลยครับ เพราะเอกลักษณ์เเต่ละร้านเเตกต่างกันไป เเต่ครั้งนี้เนื่องจากรีบมาเพื่อเก็บบรรยากาศสวยๆ จริงๆ เลยไม่ได้ใช้เวลาที่นี้เยอะมากเก็บบรรยากาศมาให้ดูกันครับ >> ขอบอกว่ามีมาซ่อมภาพอีกทีวันที่ 3 >> ก่อนจะขึ้นเครื่อง วันที่ผมมาคือวันอาทิตย์ คนเยอะมากเลยครับ

ยอมรับว่าลั่นชัตเตอร์ไปเยอะมากจริงๆ ครับ เพราะชอบบรรยากาศ Haji Lane
เป็นซอยเล็กๆ เเต่คนเยอะมาก วันที่ 3 ก็เลยต้องกลับมาอีกครั้ง เพื่อเก็บแบบเช้าๆ
ก็ได้บรรยากาศ แต่เสียดายครับ ผมใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไม่นานเพราะต้องไป
Marina Barrage

หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าต่อไป Marina Barrage เเล้วไปต่อ Garden by the bay หลังจากนั้นเราไปยังสถานี Marina bay ทางออก B เดินข้ามถนน ขึ้นรถบัสสาย 400 โดยใช้เวลาไม่นานครับ (ย้ำไม่นานนะครับเพราะเส้นทางนี้ รถน้อย รถเมล์จะขับเร็วมาก) ก็มาถึง Marina Barrage ก่อนอื่นขอบอกเลยว่าขาเเทบลาก ก็เก็บบรรยากาศ Marina Barrage มาชมกันครับ

ผมมาถึง Marina Barrage เเดดยังไม่ตกครับประมาณ 17.45 น. ซึ่งอากาศร้อนมากครับ ถ้าเเนะนำให้มาเย็นกว่านี้หน่อย เช็คเวลาตะวันตกดิน เเล้วมาก่อนซัก 30 นาที ผมว่าจะโอเคกว่า เเต่ Marina Barrage เป็นที่ที่เหมาะเเกการนั่งชมบรรยากาศเมืองได้จริงๆ จากนั้นเราก็ไปรอชม Garden by the bay ช่วงค่ะกันเพื่อรอการแสดงโชว์ เเต่เอาจริงๆ ชั่วโมงที่ผมไปถึงตอนนั้นเนี้ยเหนียวตัวมากจริงๆ ครับ อยากเเวะไปนั่งตากแอร์เย็นๆ สำหรับ Garden by the bay สวยงาม ล้ำค่าจริงๆ ครับ ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควรเลยครับ

หลังจากนั้นก็ตั้งใจเเล้วครับ ต้องเปลี่ยนชุดเเระ เพราะเหนียวตัวมาก ก็กลับไปยังโรงเเรม โดยนั่ง MRT กลับ Chinatown เพื่อไปอาบน้ำ ถึงโรงเเรมเกือบ 3 ทุ่ม ทำธุระ เเล้วเเวะทานข้าวย่าน Chinatown เเล้วก็ไปเก็บถนนสวยๆ ที่ Orchard Road ก็นั่ง MRT ไปยังสถานี Orchard Road ซึ่งตอนที่ผมถึง Orchard Road ห้างต่างๆ ก็ปิดหมดเเล้วครับ ก็เดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศกันไป

เสร็จสิ้นวันที่ 2 ที่ Mustafa Centre เพื่อเก็บของที่ระลึกครับ บอกตามตรงมันเหนื่อยที่ไม่ได้ถ่ายรูปเลย 55 เเล้วที่สำคัญผมไปถึง Mustafa ก็ 11.00 น. เเล้วครับ เรามีเวลาลุยที่ห้างไม่ถึง 1 ชั่วโมง เพราะรถไฟฟ้าหยุดเที่ยงคืน ก็ส่งด้วยภาพสวยๆ ของวันที่ 2 กันครับ

Day 3 [Ya Kun Kaya Toast, Haji Lane]

สองวันที่ผ่านมาทำเอาล้าจริงๆ ครับ เดินไปเกือบ 30 กว่ากิโล เหมือนที่บอกไปครับว่า ผมยังไม่พอใจการเก็บภาพที่ Haji Lane เมื่อวานเพราะว่ามีคนอยู่เยอะ ดูเเล้วจะได้คนมากกว่าตึก ก่อนที่จะลุยวันที่ 3 ก่อนขึ้นเครื่อง ผมก็ออกจากโรงเเรมเวลาเดิมเลยครับ คือ 07.00 น. เริ่มเก็บภาพบรรยายกาศบริเวณที่พักมาให้ชมกัน เสร็จเเล้วผมก็จะไปทานอาหารเช้าที่ Ya Kun Kaya Toast ร้านต้นตำรับอาหารเช้าสไตล์สิงคโปร์ ที่เค้าบอกกันว่า ขนมปังปิ้งไส้แยมมะพร้าวอร่อยมาก

เก็บภาพเสร็จมองนาฬิกา 7.30 ก็เดินไป Ya Kun Kaya Toast ถ้าใครเดินทาง MRT ก็สถานี Chinatown(DT19,NE4) ทางออก E >> เดินผ่านหน้าห้าง Chinatown Point และตรงไปทางถนน Upper Cross ประมาณ 400 >> เลี้ยวซ้ายเข้าถนน China Street เดินตรงไปสักพักก็จะเป็นร้านยาคุนคายาโทสต์อยู่ทางขวามือ ตึกสีเหลือง บรรยากาศดังภาพครับ อยากบอกว่าเมนูที่ร้านเป็นภาษาไทยด้วยครับ ห้ามพลาดๆๆ

หลังจากทานเสร็จผมก็ลุยต่อไปที่ Haji Lane ก่อนที่จะมา Checkout เพื่อไปยังสนามบิน กลับหาดใหญ่ สายการบิน NokScoot TR634 เวลา 13.30 สิงคโปร์ เพื่อกลับหาดใหญ่ครับ ก็เอาภาพบรรยากาศมาให้ชมกันครับ รอบนี้บอกก่อนว่า ตอนที่ออกจาก China Town ฝนยังไม่ตกครับ พอมาถึง MRT Bugis Station ตกเเรงเลยครับ เลยไม่ได้รูปเลย แอบถ่ายตามซอกตึกมาบ้างเพราะต้องรีบกลับไป Checkout

ผมมาถึงสนามบินก่อน 11 โมงโดยคิดว่าจะเก็บบรรยากาศเครื่องบิน (ชอบตั้งเเต่เด็ก) จบทริปสิงคโปร์แบบเดียวๆ การเดินทางผมคิดว่าการเดินหลง นั่งรถเมล์หลง นั่งรถไฟฟ้าผิด มันคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง การมาครั้งนี้ ผมนั่งรถเมล์ผิดไปเยอะมาก บางทีก็เเอบตกใจว่ามันจะพาเราไปไหน เราก็ได้เห็นบรรยากาศบนรถเมล์ นี้คือเสน่ห์ของมัน ครั้งนี้ผมหยิบกล้องฟิล์มกับ Go Pro มา หลายคนมองว่าการถ่ายฟิล์มในยุคนี้ กดกับโปรแกรมเเต่งภาพ มันก็สามารถทำได้ สำหรับผมมันต่างกันครับ ถ้าเป็นดิจิตอล ผมอาจจะกดไปเกือบพันรูป สองพันรูปก็ได้ เเต่ฟิล์ม เราต้องใช้เวลา เราต้องใช้สมาธิ สิงคโปร์เป็นอีก 1 เมืองที่สะอาดมากครับ ของทุกอย่างค่อนข้างเเพง เตรียมกระป๋องน้ำเล็กๆ มันจะประหยัดเงินได้มาก

ที่ประทับใจจริงๆ ก็เป็นวันที่ 2 ที่ผมอยู่ Maxwell Food Centre ผมนั่งทานข้าวคนเดียวก็จะมี อาม่า ที่เก็บจานเข้ามาทักผม ว่ามาคนเดียวเหรอ เค้าก็เริ่มคุยว่าทำงานอะไร มากี่วัน คืออาม่าพูด Eng บร๋อ เลย จบทริปอย่างสมบูรณ์ ถ้ามีโอกาส อยากมาช่วงหนาวๆ บ้าง เเต่ไม่มี 55 ครั้งนี้เราใช้เวลามาแปปเดียวจริงๆ ครับ ก็พยายามเก็บให้หมด ก็ได้เเค่นี้ ครั้งหน้าไปไหน รอติดตามนะครับ

สำหรับผลงานเก่า ๆ ของผมสามารถเข้าไปอ่านได้นะครับตามลิงค์

Backpack [ตะลุยเกาะฮ่องกง ... ลากขาล่าจุด unique ถ่ายภาพ] 4 วัน 3 คืน
https://th.readme.me/p/7537

ชิคอีกครั้ง !! ปีนังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออิโปห์ [มาเลเซีย] Wide angle lenses
https://th.readme.me/p/5352

ชิค ๆ ที่ Riverside Resort l สตูลไม่ได้มีเเค่ทะเล l
https://th.readme.me/p/3561

ตะลุยเมือง Penang - Cameron Highland, Malaysia อีก 1 ที่ที่ห้ามพลาด !!!
https://th.readme.me/p/3161

Trip by train Hatyai - Padang Besar
https://en.readme.me/p/2830

รีวิวอาหารทะเลร้าน The ZeaFood Bar @Hatyai
https://th.readme.me/p/2810

บุก!! เขาน้ำค้าง มุดอุโมงค์ฐานที่มั่นครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 [สงขลา]
https://th.readme.me/p/2657

[CR]ll ปีใหม่นี้ที่ Kuala Lumpur ll เมืองรถไฟ กับมุมชิค ๆ [มาเลเซีย]
https://th.readme.me/p/1832

ll Countdown at Kuala Lumpur ll a city of train and chick corners ll
https://en.readme.me/p/1843

[CR]ชิค ๆ กับรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ [มาเลเซีย]
https://th.readme.me/p/1739

[CR]ลากเพื่อนม.ปลายไปอ่าวนาง กระบี่ กับทัวร์ Sunset ที่จำไม่รู้ลืม lol
https://th.readme.me/p/2686

ขอบคุณทุกท่านครับ

Isarapab Chumruksa

 วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.40 น.

ความคิดเห็น