ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่าผมเขียนเขียนกระทู้รีวิว ปล่อยหัวใจที่ "ไร่เลย์" เมื่อธันวาคม ปี 2555

http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13050585/E13050585.html
ตอนนี้ ผมประทับใจกับการท่องเที่ยวแบบ SUNSET มากครับ โดยเขียนรีวิวเเล้วมีคนมาสอบถามผม
ค่อนข้างเยอะมากครับ เรื่องการเที่ยวแบบ SUNSET วันนี้มีโอกาสอีกครั้งในการเที่ยวกระบี่กับเพื่อน ๆ
ม.ปลาย เมื่อช่วงกลางเดือน พฤษภาคม 2558 เเต่ครั้งนี้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ จะเป็นอย่างไรเดียว
จะมารีวิวเเล้วไปพร้อมกันนะครับ !!!!

กล้องที่ถ่ายในทริปนี้นะครับ
Canon 60D + Lens 50mm f1.8 + 18-55

Contact
instagram @iddekfilm
https://www.facebook.com/Isarapabc-153377218149435/

ผมเดินทางจากหาดใหญ่ครับ ออกจากหาดใหญ่เวลาประมาณ 10.00 น. ไปถึงกระบี่ประมาณ 15.00 น.

โดยเราจองโรงแรมผ่าน AGODA โดยเข้าพักที่ Aonang Silver Orchid Resort โดยมีค่าใช้จ่ายต่อห้อง

อยู่ที่ห้องพักละ 1200 - 1500 บาท แบบ Superior Room ครับ สำหรับโรงแรมที่พักค่อนข้างไกลจาก

ถนนคนเดินและทะเลครับ โรงเเรมนี้เหมาะสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวในการเที่ยว ข้อดีของที่นี้ เป็นโรงแรม
ที่ยังใหม่ครับ และค่อนข้างส่วนตัว โดยส่วนใหญ่เเล้วคนที่เข้าพักจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาพักเพื่อ
เดินทางต่อ (พูดง่าย ๆ เข้าพักตอนสี่ทุ่มเเล้วเช้าเดินทางต่อครับ) โรงเเรมเลยค่อยข้างส่วนตัว โดยเฉพาะ
สระว่ายน้ำ ไม่มีใครว่ายน้ำเลยครับ ตลอดเวลา 2 คืนที่พวกผมเข้าพัก

https://www.agoda.com/aonang-silver-orchid-resort/hotel/krabi-th.html?asq=v0rS0a1OqoRQ7bXy1Mh94p2kCzVRB2sXBxqcn4ezepFozvPhdPOUT08nHla2fPuM&is_new=1

ต้องขออภัยผมไม่ได้ถ่ายรูปที่ห้องพักเลยครับ (เพราะส่วนตัวในห้องไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่)

เนื่องจากในคืนแรก เรามาถึงก็เหนื่อยจากการเดินทาง จึงตัดสินใจว่าจะไปหาร้านอาหารดี ๆ ทานกัน

ก็เลยเลือกที่จะไปทานอาหารเเล้วค่อยไปเดินถนนคนเดินที่อ่าวนางเพื่อหาร้านทัวร์เพื่อที่จะเที่ยว SUNSET

ในวันถัดมา (ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมประทับใจกับทัวร์ SUNSET ที่รีวิวไว้เลยอยากจะมากันอีกรอบ)

เลยเลือกไปทานอาหารร้าน เรือนไม้ กระบี่ ร้านนี้ผมเเนะนำเลยครับ บรรยากาศดีมาก อาหารจัดจ้านนน

ที่สำคัญ บรรยากาศดีมาก เคยมีคนรีวิวนะครับ http://pantip.com/topic/31925864

อาหารที่ผมเเนะนำ สำหรับร้านเรือนไม้นะครับ ก็จะเป็น น้ำพริกกุ้งเสียบ ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา

แกงกระทิเนื้อปู่กินกับหมี่ ใบเหลียงผัดไข่ ยำถั่วพลู อาหารโดน ๆ ทั้งนั้นครับ เดินทางออกมา

จากอ่าวนางนิดหน่อย ก็ได้ทานอาหารดี ๆ ครับ เป็นร้านที่ถูกใจเเล้วผมว่าไม่น่าพลาดด้วยประการ

ใดทั้งปวง ผมไปทานกันทั้งหมด 10 คน โดยเเยกอาหารเป็นสองชุดเช็คบิลมากก็ประมาณ

2,000.- บาท ครับจากนั้นก็เดินทางไปหาทัวร์เพื่อที่จะเที่ยวในวันพรุ่งนี้ครับ

เราเลือกซื้อทัวร์ แบบ SUNSET กับทัวร์ที่ชื่อ "มาเรียมทัวร์" ครับ โดยเดินทางทั้งสิ้น 9 คน ตอนแรก

ทัวร์บอกเราว่าคนละ 700 บาท ก็ต่อไปต่อมาก็เป็นคนละ 600 บาท โดยทัวร์จะมารับที่โรงเเรมเวลา

13.00 น. โดยทัวร์ระบุว่าเที่ยว 7 เกาะ เเล้วทานบาบีคิว ที่เกาะปอดะ ก็ตกลงคืนนั้นก็เดินเล่นกันที่

ถนนคนเดินอ่าวนาง ข้อควรระวังสำหรับเดินถนนคนเดินอ่าวนาง ให้ระวัง สาวประเภทสองที่เเต่งตัวสวย ๆ

นะครับ ถ้าถ่ายรูปเค้าต้องจ่ายเงินเเล้วเข้าไปถ่ายดี ๆ อย่าเเอบถ่าย ถ้าไม่จ่ายเงิน กะโดนตำหนิเสียงดัง

ให้อับอายประชาชีได้ ^^

เช้าวันที่ 16 พฤษภาคม ทัวร์ก็มารับเราที่โรงเเรมประมาณ 12.45 น. โดยมาเป็นรถตู้ปรับอากาศครับ

ก็นำเราไปที่ท่าเรือ เพื่อออกเดินทางไปยัง 7 เกาะตามที่บริษัททัวร์ได้เสนอไว้ มาถึงทัวร์ก็จะให้เรา

ลงชื่อเพื่อซื้อประกันภัย และ เลือก สน็อกเกิ้ล ซึ่งการเลือกตรงนี้เช็คอุปกรณ์ให้ดีนะครับบางอันก็

สภาพเเย่มาก เเล้วก็เดินทางไปรอขึ้นเรือใหญ่ โดยก่อนขึ้นเรือ ทางทัวร์ก็เเจ้งเราว่าเราโชคดีครับ

ที่ได้เดินทางเรือใหญ่ เพราะวันนี้ จะมีการถ่ายโฆษณาเรือด้วย (ตรงนี้เหละครับ ที่จะบอกว่ามันเเย่)

เราก็เดินที่ท่าเรือเเระไปขึ้นเรือใหญ่ ตามที่ทัวร์คุยว่าสบาย ครับก็เริ่มเดินทางเวลา 13.30 น. พร้อม

สมาชิกท่านอื่น ๆ อีกประมาณ 50 - 60 กว่าชีวิต ><

ที่มันเเย่ คือ ทางทัวร์ ไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณาครับ เกาะเเรกที่จะหยุดคือ ไร่เลย์ ก็ไม่เเวะครับ

เดินทางไปเรื่อย โดยให้เหตุผลว่าต้องถ่ายภาพเพื่อที่จะทำโฆษณา เราก็เดินทางไปเรื่อยครับ

จุดเเรกที่เเวะคือ บริเวณเกาะไก่ (เพื่อดำน้ำดูประการัง) จุดที่พักผมจะบอกว่า เเย่มากครับ

มีเเต่น้ำขุ่น ๆ เเล้วให้เราเเวะพัก โดยคล้ายกับว่า จอด ๆ ไปให้พวกเค้าลองใช้ สน็อกเกิ้ล

เราก็คิดในใจว่า เอาว่ะ ไม่มีอะไรหรอก มาเที่ยวกับเพื่อน ๆ เเล้วสิ่งที่เเย่กว่านั้นคือ ทัวร์ลืมเสื้อชูชีพ

เสื้อชูชีพมีไม่ครบ (ผมก็สละเสื้อให้คนอื่น ๆ เพราะเราว่ายน้ำได้ดีอะนะครับ) เเล้วก็เดินทางไป

วนเรือดูเกาะไก่ เเล้วมาจอดจุดที่กระโดดผา (ถึงไม่มีในโปรแกรม ก็จอดอยู่นาน โดยให้กลุ่มนักท่องเที่ยว)

คนอื่นๆ เค้ากระโดด เราเสียเวลาอยู่จุดนี้ประมาณ 30 นาทีบนเรือ โดยไม่มีอะไรเลยครับ

หลังจากนั้นก็เเวะมาดำน้ำอีกที่ หลังเกาะไก่ ก็เป็นเขตที่มีหินค่อนข้างเยอะครับ

ก็ปล่อยให้ลงไปว่ายน้ำ จุดนี้หอยเม่นเยอะมากครับ ก็มีนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่ระวัง

ก็โดนหอยเม่นจากจุดนี้ไป ก็ลงไปว่ายอยู่ประมาณ 15 นาที เพราะไม่ไหวครับ

เพราะหอยเม่นเยอะมาก หลังจากนั้น ก็เดินทางต่อไปยังทะเลแหวก

(จุดนี้ทางทัวร์ทิ้งขวดน้ำไว้ ดีนะครับที่มีนักท่องเที่ยงลงไปเก็บ)

มาถึงทะเลแหวก ก็เเวะให้พวกผมถ่ายรูปกันประมาณ 30 นาทีครับ ที่เคยบอกว่า ครั้งก่อนที่เคยมา

ทะเลเเหวก จะเเวะจุดหลังสุดเพื่อให้ทานข้าวบริเวณนี้เเต่ครั้งนี้ไม่ครับ ทัวร์บอกเราว่าจะไปทาน

ข้าวกันที่เกาะปอดะ ด้วยความสวยของทะเลเเหวก ก็เเวะถ่ายภาพเพื่อน ๆ ไปเยอะเลยครับ

เเต่สภาพทะเลบ้านเราตอนนี้ ผมว่าค่อนข้างเเย่ครับ ทัวร์ไม่ค่อยสนใจความสะอาด ก็บันทึกภาพ

ไปเยอะเลย เเต่ก็แอบเสียดายว่าเราไม่ได้เเวะทานข้าวกันที่นี้ เพราะที่นี้ ตอนตะวันตกดินจะสวย

มากเลยครับ ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยสีชมพู

หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปทานข้าวที่เกาะปอดะครับ โดยตอนนั้นเวลา 17.25 น. ฟ้าเริ่มมืด

เมื่อเดินกลับมาที่ทัวร์ก็มีบริการผลไม้ เป็นเเตงโม (ส่วนน้ำดื่มทัวร์มีบริการตลอดครับ)

เมื่อมาถึงเกาะปอดะ เราก็ไปเข้าเเถว โดยอาหารก็มีบริการเป็น บาบีคิว ข้าว ผัดผัก ฯลฯ นะครับ

ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายอาหารมาให้ชม กันครับ

เมื่อทานอาหารเสร็จเเล้ว เรือก็ปล่อยให้เรา ชมพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อเดินทางไปยัง

จดสุดท้าย ที่เราจะดูคือแพลงก์ตอนทะเล (ที่ตอนนี้มีประเด็นเรื่องทัวร์ในสื่ออนไลน์) ครับ

สิ่งที่ประทับใจมาเรียมทัวร์


1. ไกด์ดูเเลดีมากครับ คอยเเวะมาคุยตลอด (น่าจะเพราะเราเป็นคนไทย)

2. น้ำดื่มมีบริการตลอด

สิ่งที่ไม่ประทับใจ

1. เขียนไว้ 7 เกาะ ที่นับได้คือ 3 เกาะ
2. เรื่องเสื้อชูชีพ ไม่ควรขาดนะครับ อันตรายมากสำหรับคนที่ไม่มีใส่
3. การดูเเลสิ่งเเวดล้อม ค่อนข้างน้อยไปนิด ขวดน้ำตกทะเลก็ปล่อย ซึ่งมันเสียหาย

สรุปเเล้ว มันให้ 3 ดาวเต็ม 10 ครับ อาจจะเป็นเพราะ SUNSET ครั้งเเรกประทับใจมากครั้งนี้เลยเฉย
เเต่ที่ดี ก็คือ มีเพื่อน เเละธรรมชาติสวย ๆ เลยช่วยได้เยอะเลยครับ


สุดท้าย ก็เเวะดูแพลงก์ตอนทะเลครับ โดยเรือพาไปที่จุดมืด ๆ เพื่อชมแพลงก์ตอน ลักษณะของ แพลงก์ตอน

จุดนี้สวยมากครับ เเต่ข้อเสียคือเรือไปจอดในจุดที่มืด น้ำเชียวมาก ซึ่งเราจะมองไม่เห็นด้านล่าง ว่ามีหินหรือ

ปะการังหรือไม่อะนะครับ ก็จอดอยู่ 20 นาทีเเล้วเดินทางกลับ ซึ่งสภาพก็อิดโรยกันทุกคนครับ

ผมเเนบไฟล์ แพลงก์ตอน โดยได้ดึงมาจากในอินเตอร์เน็ตลักษณะเป็นแบบนี้นะครับ

สุดท้ายก็เดินทางกลับมายังท่าเรือ เพื่อคืนของ โดยถึงท่าเรือประมาณ 20.30 น. ครับ

สุดท้ายก็กลับมาที่ทัวร์ เเล้วทัวร์ ก็บอกว่าจะมีการโชว์ ควงไฟ (ซึ่งต้องคิดสภาพทุกคนครับ)

ว่าอิดโรยกันมา ก็เสียเวลาตรงนี้อยู่ประมาณ 20 นาที ก่อนขึ้นรถกลับ ซึ่งถ้าผมเเนะนำ วันหลัง

ใครจะไปให้เอารถไปเองครับ จะได้ไม่เสียเวลาดู เพราะมันเหนื่อยจริง ๆ ครับ หลังจากนั้น

เราก็กลับไปยังห้องพักเเล้วไปหามื้อดึกทาน ก็อย่างที่บอกครับ ครั้งต่อไป จะเที่ยวเกาะ

ผมว่าต้องดูทัวร์ให้ดีจริง ๆ นะครับ ฝากไว้เลยครับ สำหรับผม การเที่ยว ทัวร์ออกเกาะสำคัญมา

มันคือทั้งทริปเลยครับ ได้ทัวร์ดี ก็ประทับใจ เเต่ดีว่าครั้งนี้เพื่อนเยอะ มันจึงสร้างบรรยากาศ

ดี ๆ ได้เยอะเลยครับ

สุดท้ายนี้รีวิวค่าใช้จ่ายทั้งหมดนะครับ

ค่าโรงเเรม 2 คืน คนละ 1200 บาท

ค่าเรือเที่ยว 600 บาท

ค่าน้ำมันเดินทางจากหาดใหญ่มากระบี่ไปกลับคนละ 700 บาท

ก็ตกคนละ 2500 บาทครับ สำหรับข้อเเนะนำ ผมว่าอ่าวนาง เป็นที่ที่มีที่พักเยอะ

เเละค่อนข้างถูกครับ ถ้าได้ทัวร์ดี ๆ สามารถที่จะเดินทางไปพักผ่อนได้เลยนะครับ

มีข้อสงสัยอื่นๆ สอบถามมาได้ครับ ที่

https://www.facebook.com/pages/Isarapabc/153377218149435?fref=ts

THANK : เพื่อน ๆ ม.ปลาย หาดใหญ่วิทยาลัย 2


ภาพทั้งหมดผมถ่ายกับ CANNON 60D เลนท์ FIX 50 F 1.8 ครับ


ฝากรีวิวงานเก่าด้วยนะครับ

บุก!! เขาน้ำค้าง มุดอุโมงค์ฐานที่มั่นครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 [สงขลา]
https://th.readme.me/p/2657

[CR]ll ปีใหม่นี้ที่ Kuala Lumpur ll เมืองรถไฟ กับมุมชิค ๆ [มาเลเซีย]
https://th.readme.me/p/1832

ll Countdown at Kuala Lumpur ll a city of train and chick corners ll
https://en.readme.me/p/1843

[CR]ชิค ๆ กับรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ [มาเลเซีย]
https://th.readme.me/p/1739

Isarapab Chumruksa

 วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.54 น.

ความคิดเห็น