ในตอนที่4 นี้จะถึงไฮไลท์ของทริปนี้แล้วครับ มีสองภาพที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากมาที่พุกาม เมืองแห่งทะเลเจดีย์แห่งนี้ หนึ่งคือภาพทะเลเจดีย์ยามต้องแสงสีทองของพระอาทิตย์(อยู่ในตอนสอง) อีกภาพคือ ภาพของบอลลูนลอยอยู่เหนือทะเลเจดีย์นี่แหละครับ ซึ่งในตอนที่4 นี้เราจะได้เห็นกันล่ะ
![](/f/33456/5f27c81df4c28167e6938864.jpg)
หลังจากเดินเที่ยววัดกันมาครึ่งวันแล้ว ช่วงบ่ายแก่ๆของวันที่สาม แสงอาทิตย์กำลังดี เราก้อไปเดินเที่ยวถ่ายรูปกันในเจดีย์เล็กๆกันต่อครับ โดยในเจดีย์เล็กๆพวกนี้ ก้อจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหลักๆ เลยไม่มีไฟส่องสว่างด้านใน ซึ่งจะมืดเอามากๆเลย
![](/f/33456/5f27c81df4c28167e6938865.jpg)
![](/f/33456/5f27c81df4c28167e6938862.jpg)
![](/f/33456/5f27c81ff4c28167e693886a.jpg)
![](/f/33456/5f27c81ff4c28167e6938869.jpg)
บ่ายแก่ๆแล้วหามุมดีๆ ยังพอมีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาทางช่องหน้าต่าง เกิดแสงเป็นลำอยู่บ้างครับ โดยจะมีเทคนิคนิดนึงคือ จะต้องจุดธูปให้มีควันคละคลุ้ง พอแสงอาทิตย์ส่องเข้ามากระทบควันจะเห็นเป็นลำแสงได้ชัดขึ้นกว่าปกติ
![](/f/33456/5f27c81ef4c28167e6938866.jpg)
![](/f/33456/5f27c820f4c28167e693886b.jpg)
![](/f/33456/5f27c81df4c28167e6938863.jpg)
ถ้าสังเกตุดูดีๆ จะเห็นว่าศิลปะของพระพุทธรูปที่พม่านั้น มีความแตกต่างจากของไทยอยู่พอสมควรเลยทีเดียว โดยเฉพาะในส่วนของใบหน้าของพระพุทธรูป ลายเส้น ความอ่อนช้อย ต่างๆจะไม่เหมือนกัน แต่ก้อสวยไปอีกแบบ
![](/f/33456/5f27c81ff4c28167e6938868.jpg)
![](/f/33456/5f27c81ef4c28167e6938867.jpg)
![](/f/33456/5f27c821f4c28167e6938870.jpg)
พอตกเย็น แดดเริ่มไม่แรงมาก เราก้อย้ายมาถ่ายภาพกันด้านนอก บริเวณนี้เป็นเนินที่นูนสูงขึ้นมา พูดไปแล้วก้อแปลก พุกามส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ แต่มีตรงนี้แหละเป็นเนินอยู่ที่เดียว จนอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าข้างใต้มีอะไรอยู่ หรือเป็นสุสานที่ยังไม่ได้ค้นพบหรือเปล่า แล้วผมมายืนถ่ายรูปอยู่ด้านบน บรึ๋ยยยยย!!!!!!
![](/f/33456/5f27c821f4c28167e693886d.jpg)
![](/f/33456/5f27c821f4c28167e693886e.jpg)
![](/f/33456/5f27c820f4c28167e693886c.jpg)
เหลือบไปเห็นด้านข้าง มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าชาติไหนมาถ่ายรูปบริเวณนี้เช่นกัน เค้าได้ว่าจ้างชาวพม่ามาหาบของเป็นแบบ เนื่องจากเคยมีช่างภาพเคยจัดฉากถ่ายภาพในลักษณะเช่นนี้ แล้วได้รางวัลในการประกวดถ่ายภาพ เลยมีคนอยากถ่ายภาพตาม (ภาพที่ว่าระหว่างที่เที่ยวในเมืองพุกามลองดูพวกร้านขายของที่ระลึกจะเห็นครับ)
![](/f/33456/5f27c824f4c28167e6938875.jpg)
![](/f/33456/5f27c821f4c28167e693886f.jpg)
![](/f/33456/5f27c823f4c28167e6938874.jpg)
![](/f/33456/5f27c824f4c28167e6938877.jpg)
![](/f/33456/5f27c823f4c28167e6938873.jpg)
และแล้วก้อถึงเวลาพระอาทิตยอัสดง แสงอาทิตย์ค่อยๆเลือนลับหายไปยังของฟ้า ฟ้าวันนี้สวยมากๆ เพียงแต่น่าเสียดายที่จุดนี้เป็นเนินเล็กๆ ไม่สูงมาก เลยไม่เห็นวิวอะไรมากนักครับ
![](/f/33456/5f27c822f4c28167e6938871.jpg)
![](/f/33456/5f27c822f4c28167e6938872.jpg)
![](/f/33456/5f27c824f4c28167e6938876.jpg)
เช้าวันที่สี่ ตื่นกันตั้งแต่ตี3กว่า ล้อหมุนตี4ครึ่ง เพื่อรีบไปจองมุมถ่ายภาพ วันนี้ไปขึ้นเจดีย์ Shwesandaw เหมือนเช้าวันที่3 โดยมีเป้าหมาย โดยวันนี้เรามีเป้าหมายจะถ่ายภาพบอลลูนอยู่เหนือทะเลเจดีย์ให้ได้ ที่วันที่สามไม่ได้ดูบอลลูนเพราะว่ามีโปรแกรมเน่นเอี๊ยด จะอยู่รอดูบอลลูนต้องรอฟ้าสว่าง บอลลูนถึงจะลอยออกมา
![](/f/33456/5f27c826f4c28167e693887d.jpg)
![](/f/33456/5f27c825f4c28167e6938878.jpg)
![](/f/33456/5f27c825f4c28167e6938879.jpg)
ที่พุกามมีบอลลูนให้เราขึ้นไปนั่งชมวิวเหมือนที่ตุรกีด้วย โดยค่าขึ้นไปค่อนข้างแพงใช้ได้ ได้ยินมาว่าประมาณ 300 US Dollar ก้อราวๆหมื่นบาทได้ครับ โดยจะได้ชมวิวทะเลเจดีย์เมืองพุกามจากอากาศ ไม่แน่ใจว่าใช้เวลาเท่าไหร่ แต่เท่าที่เห็นนานอยู่พอสมควร โดยเมื่อฟ้าเริ่มสว่างแล้ว เค้าจะเริ่มปล่อยบอลลูนออกจากจุดปล่อย ลอยไปยังจุดจอด โดยวิวจากเจดีย์ Shwesandaw จะเห็นบอลลูนลอยผ่านอยู่เจดีย์เลยครับ สวยงามน่าประทับใจสุดๆ
![](/f/33456/5f27c826f4c28167e693887b.jpg)
![](/f/33456/5f27c826f4c28167e693887a.jpg)
![](/f/33456/5f27c826f4c28167e693887e.jpg)
ภาพบอลลูนลอยเหนือทะเลเจดีย์ ในขณะที่แสงสีทองยามเช้าสาดส่องไปทั่ว ต้องบอกเลยว่า บรรยากาศตอนนั้น สวยงามมากๆเลยครับ ผมนี่ตะลึงจนแทบจะลืมถ่ายรูป พอรู้สึกตัวก้อรีบกดชัตเตอร์รัวๆ ภาพบอลลูนลอยเหนือเจดีย์ Dhammayangyi เป็นอะไรที่สุดๆจริงๆ
![](/f/33456/5f27c826f4c28167e693887c.jpg)
![](/f/33456/5f27c828f4c28167e693887f.jpg)
![](/f/33456/5f27c828f4c28167e6938880.jpg)
หลังจากชมบอลลูนกันหนำใจ ก้อได้เวลาหาอะไรลงท้อง
เราได้เดินทางกันไปที่ตลาดยองอู (Nyaung OO) ในเมืองพุกาม
ยองอูเป็นตลาดพื้นบ้านขนาดใหญ่ครับ ซึ่งมีขายของหลายหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวปลาอาหาร ผักสด เสื้อผ้า
ของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ เดินกันฟินไปเลยกับบรรยากาศแบบชาวบ้านๆ
![](/f/33456/5f27c828f4c28167e6938881.jpg)
![](/f/33456/5f27c828f4c28167e6938882.jpg)
![](/f/33456/5f27c829f4c28167e6938883.jpg)
![](/f/33456/5f27c82af4c28167e6938887.jpg)
![](/f/33456/5f27c829f4c28167e6938884.jpg)
![](/f/33456/5f27c82af4c28167e6938885.jpg)
![](/f/33456/5f27c82bf4c28167e6938888.jpg)
เดินถ่ายรูปจนเหนื่อยล่ะ มาหาอะไรกินกันดีกว่า ได้กาแฟร้อน กับปาท่องโก๋มา ปาท่องโก๋ที่นี่แปลกดีครับ ไม่ได้ทำเป็นคู่เล็กๆเหมือนเมืองไทย แต่เป็นชิ้นยาวๆใหญ่ๆแบบในภาพเลย ใหญ่ไปไหมนะ กินชิ้นเดียวก้อแทบจุกแล้วครับ
![](/f/33456/5f27c82af4c28167e6938886.jpg)
![](/f/33456/5f27c82cf4c28167e6938889.jpg)
ที่ตลาดยองอู (Nyaung OO) เจอเด็กน้อยทาแป้งทะนาคาเดินมาขาย Postcard
พอดีเพื่อนร่วมทริปอุดหนุนไป เลยขอแจมถ่ายรูปหน่อย
เด็กน้อยใสๆ น่ารักครับ แต่ถ่ายยากมากมาย น้องเค้าหันไปหันมาหาคนซื้อของอยู่ตลอดเวลาเลย
![](/f/33456/5f27c82cf4c28167e693888a.jpg)
หลังจากนี้เราเดินทางกลับไปยังเมืองมัณฑะเลย์กันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเที่ยวต่อกับวันสุดท้ายของทริปนี้ และเจอกันต่อในตอนหน้าครับ
Voravud Santiraveewan
วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.05 น.