เที่ยวจีน19วันโดยไม่ใช้ทัวร์และไม่รู้ภาษาจีน Ep10 ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ จิ่วจ้ายโกว Jiuzhaigou 九寨溝

จิ่วจ้ายโกว Jiuzhaigou 九寨溝 เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน(ซื่อชวน) ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 350 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน และได้รับประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยUNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992

คำว่า จิ่วจ้ายโกว หมายความว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เนื่องจากในสมัยก่อนมีหมู่บ้านของชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน ภายในพื้นที่อุดมไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู และจะเห็นความสวยงามของจิ่วจ้ายโกวที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา

ฤดูท่องเที่ยว

ฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิประมาณ : 4°C – 24°C

เดือนมีนาคม อากาศยังหนาว น้ำในทะเลสาบน้อย หิมะเริ่มละลาย

เดือนพฤษภาคม อากาศเย็น น้ำในทะเลสาบมีน้อย หิมะเริ่มละลาย ดอกไม้เริ่มบาน

ฤดูร้อน อุณหภูมิประมาณ : 15°C – 29°C

เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม อากาศอุ่นขึ้น น้ำในทะเลสาบมาก ฝนตก

ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี อุณหภูมิประมาณ : 9°C – 23°C

ปลายสิงหาคม-ต้นกันยายน ต้นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี น้ำมาก มีฝนตกบ้าง

ตุลาคมถึงพฤศจิกายน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี น้ำมาก ฝนตกน้อย เริ่มมีหิมะมาก อากาศหนาว

ฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ : -2°C – 14°C

ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นมีนาคม มีหิมะมากน้ำในทะเลสาบน้อยและจับตัวเป็นน้ำแข็ง

ช่วงเวลาที่ถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของที่นี่ก็คือ ฤดูใบไม้ร่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่ละลานตาไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทั่วหุบเขา ตัดสะท้อนน้ำในทะเลสาบสีมรกตที่ใสราวกับกระจก งดงามสมกับเป็นดินแดนสวรรค์บนดิน

การเดินทางไปจิ่วจ้ายโกว ปัจจุบันยังไม่มีเครื่องบินตรงไปยังจิ่วจ้ายโกว แต่สามารถเลือกเดินทางตามความสะดวกได้หลายวิธี

1. โดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไป เฉิงตู ลงสนามบินนานาชาติเฉิงตูซวงหลิว (Chendu Shuangliu International Airport) ใช้เวลา 3 ชั่วโมง

- ต่อเที่ยวบินภายในประเทศไปลงท่าอากาศยานนานาชาติหวงหลง (Jiuzhai Huanglong Airport ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

2. โดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไป เฉิงตู ลงสนามบินนานาชาติเฉิงตูซวงหลิว (Chendu Shuangliu International Airport) หรือสนามบินนานาชาติเฉิงตูเทียนฟู่ (Chengdu Tianfu International Airport) ใช้เวลา 3 ชั่วโมง

- ต่อรถบัสที่ สถานี Xinnanmen Bus station ไปลงที่สถานีซงพาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง หรือ ลงที่จิ่วจ่ายโกว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง

- ต่อรถไฟความเร็วสูง ที่ chengdu east railway station ไปลงที่ zhenjiangguan ใช้เวลา 2.5 ชั่วโมง ต่อรถ 1 ชั่วโมงไปหวงหลง 3.5 ชั่วโมงไปจิ่วจ้ายโกว

🚗🚗 หากเลือกนั่งรถบัสจากเฉิงตูไปจิ่วจ้ายโกว จะมีรถให้เลือก2แบบ

รถบัส 1 แถวมี 4 ที่นั่งราคา 1020 บาท ราคาจองผ่านเอเจนซี่ หากจองเองที่สถานี ราคา 168 หยวน (840 บาท)

รสบัสแบบVIP 1 แถวมี 3 ที่นั่ง ราคา 1180 บาท

ราคาตั๋วและการเดินทางในจิ่วจ้ายโกว

สามารถซื้อเป็นแพคเก็จโดยจองผ่านเพจต่างๆ ด้านล่างเป็นราคาของเพจคนไทยที่เราสอบถามมา(สอบถามส่วนตัวมาได้นะคะ)

1. ค่าตั๋วเข้าจิ่วจ้ายโกว + ค่ารถเวียนในอุทยาน 1650 บาท

2. ค่าตั๋วเข้าจิ่วจ้ายโกว ค่ารถ Vip 19 ที่นั่ง 2700 บาท เป็นลักษณะทัวร์ ขึ้นลงตามเวลา

หรือเพจนี้ค่ะ 九寨沟观光车多少钱(九寨沟观光车多少钱一位)-黑龙江旅游网 (ljly.net)

ค่ารถ Vip 17 ที่นั่ง 395 หยวน

👩 เราจองเองที่อุทยาน ตั๋วเข้าอุทยาน 170 หยวน รถเวียน 90 หยวน

จุดท่องเที่ยวไฮไลท์ในจิ่วจ้ายโกว

อุทยานจิ่วจ้ายโกวมีลักษณะเป็นรูปตัวY แบ่งฝั่งขวา ฝั่งซ้าย และด้านล่าง (หางตัว Y)

ฝั่งด้านขวา Premival forest /Arrow Bamboo Lake / Arrow Bamboo lake Waterfall / Panda Lake / Five Flower Lake / Pearl Shoal Waterfall / Mirror lake

ฝั่งซ้ายและด้านล่าง Long lake / Colorful pond / Upper seasonal Lake / Rhinoceros lake

Shuzheng waterfall / Shuzheng lake / Shuzheng Village / Double dragon lake

จบรีวิวนี้แล้ว ทุกท่านสามารถไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกวกันได้เลยค่ะ

ก่อนออกเดินทาง

ขอย้อนกลับไปเมื่อวาน 24 ตุลาคม ออกจากอุทยานแห่งชาติหวงหลงประมาณ 4 โมงเย็น ใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงถึงโรงแรมที่พัก ชื่อ ซิงหยาซวนอินน์ Qingyaxuan Inn (Jiuzhai Eternal Love ) เราจะพักที่นี่ 3 คืน

💰 ราคาห้อง 150หยวน/ห้อง/คืน พัก 2 คน (ไม่รวมอาหารเช้า) ได้ห้องชั้น 1 สบายค่ะ ไม่ต้องยกกระเป๋า

โรงแรม อยู่ห่างจากอุทยานจิ่วจ้ายโกวนั่งรถประมาณ 15 นาที ใกล้แหล่งชุมชน แต่ไม่เป็นเมืองเหมือนกับบริเวณอุทยาน ข้างๆโรงแรมมีร้านอาหาร เมนูอาหารจะประมาณนี้ค่ะ ถ้าเป็นต้มผักก็จะมีแต่ผักกับน้ำ ในราคาประมาณ ร้อยบาทกว่าๆ ถ้าเป็นข้าวผัดก็จะเน้นข้าวจานหญ่ายยยๆ

วันนี้ 25 ตุลาคมจะไปชิวที่จิ่วจ่ายโกว เริ่มการเดินทางกันเลยค่ะ

ออกจากโรงแรม ในเวลา 7 โมงกว่าๆ ด้วยอุณหภูมิ 12 องศา อากาศกำลังดี

🚗เดินทางจากโรงแรมโดยรถแท็กซี่ ค่ารถ 30 หยวน/5 คน ไปลงที่สถานขนส่งเพื่อซื้อตั๋วรถบัส

จากจิ่วจ้ายโกว ไปเฉิงตู ในวันที่ 27 ตุลาคม

ประมาณ 7 โมงครึ่ง ก็เดินเท้าจากสถานีไปยังจุดจำหน่ายตั๋วจิ่วจ้ายโกว ผู้คนล้นหลามมากๆค่ะ (วันธรรมดานะคะ)

ทิวทัศน์ระหว่างทาง ที่เดินไปยังที่ทำการอุทยาน

ป้ายอุทยานด้านหน้า แวะถ่ายรูปสักหน่อยค่ะ

คนเยอะตั้งแต่ทางเข้าไปซื้อตั๋วค่ะ จุดนี้วุ่นวายมาก คนที่มีตั๋วแล้วก็ต้องเดินมาทางนี้ เพื่อไปขึันรถไปในอุทยาน

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงยังไม่ได้ตั๋ว เพราะคนเยอะมาก

ราคาตั๋วเราจองเองที่อุทยานโดยใช้เงินสด ค่าเข้าอุทยาน 170 หยวน ค่ารถเวียน 90 หยวน

เกือบ 9 โมงเช้า กว่าเราจะได้ตั๋ว และเดินไปขึ้นรถบัส เพื่อเข้าไปในอุทยาน

ระหว่างทางที่นั่งรถในอุทยาน ทิวทัศน์โดยรอบสีสรร ละลานตา สวยงามมาก

เราเที่ยวตามแผนที่ของอุทยาน เน้นเฉพาะจุดที่เป็นดาว ในแผนที่ ประมาณ 9 โมงครึ่ง ถึงจุดลงรถซึ่งเป็นจุดจอดด้านบนสุดของอุทยานฝั่งขวา ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุด “Primerval Forest “ ซึ่งเป็นป่าดึกดำบรรพ์ สอบถามไกด์ท้องถิ่น บอกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ เราเห็นในแผนทีไม่ได้เป็นสถานที่แนะนำ(ไม่มีดาว) ก็ตัดสินใจไม่ไปดีกว่า

ประมาณ 9 โมงครึ่ง ถึงจุดลงรถซึ่งเป็นจุดจอดด้านบนสุดของอุทยานฝั่งขวา ต้องเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุด “Primerval Forest “ ซึ่งเป็นป่าดึกดำบรรพ์ สอบถามไกด์ท้องถิ่น บอกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ เราเห็นในแผนทีไม่ได้เป็นสถานที่แนะนำ(ไม่มีดาว) ก็ตัดสินใจไม่ไปดีกว่า

จากจุดลงรถ ไม่ได้เดินไปยังจุดชมวิว เมื่อดูแผนที่มีดาวอยู่ที่ Arrow Bamboo Lake และ Arrow Bamboo lake ก็ขึ้นรถอีกครั้ง

วิวจุดลงรถที่ Arrow Bamboo Lake และ Arrow Bamboo lake Waterfall

จากนั้นก็สามารถนั่งรถหรือจะเดินต่อไปยัง Panda Lake ก็ได้ เราเลือกเดินชมวิวไปเรื่อยๆ

Panda lake ทะเลสาบแพนด้า

เป็นทะเลสาบใหญ่ที่เชื่อมต่อกับภูเขาหลายลูกซ้อนทับกัน เป็นทางเดินริมเขาทำให้เห็นวิวรอบรอบได้ 180 องศา

เราเดินเท้าต่อไป ผ่านป่าสน ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามค่ะ

เดินจนกระทั่งถึง Five flower lake
เป็นทะเลสาบที่มีสีของน้ำแปลกตา โดยเฉพาะเมื่อยามแสงอาทิตย์ตกกระทบพื้นน้ำ สีของน้ำในทะเลสาบจะเปล่งประกายเป็นสีรุ้งดูงดงาม ซึ่งเกิดจากบรรดาพืชน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ในทะเลสาบ นอกจากนี้น้ำที่ใสมากราวกับกระจก ทำให้เราเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในน้ำ และเห็นเงาสะท้อนของธรรมชาติได้ชัดเจน

ก่อนจะเดินไปยังน้ำตกธารไข่มุก เราได้แวะพักทานกลางวันกัน (เตรียมเสบียงกันมาค่ะ) ระหว่างทางที่เดินไปยังน้ำตก จะเป็นลำธารสายน้ำตกย่อมๆ แต่กว้างขวางใหญ่มาก

Pearl Shoal น้ำตกธารไข่มุก
หรือ น้ำตกนู่รื่อหลาง ซึ่งเป็นภาษาทิเบตแปลว่า ยิ่งใหญ่และอัศจรรย์ เป็นน้ำตกธารหินปูน มีรูปทรงเป็นรูปพัด ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่ มีสายน้ำที่ทอดธารลดหลั่นยาวถึง 310 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความงามราวกับเส้นไข่มุก และเคยเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ไซอิ๋ว เป็นน้ำตกที่กว้างทีสุดในจิ่วจ้ายโกว ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมน้ำตกธารไข่มุก คือตอนเช้า เพราะจะได้เห็นละอองน้ำต้องประกายแสงอาทิตย์ทอเป็นสายรุ้งสวยงาม

ระหว่างเส้นทางเดินผ่าน ลำธาร น้ำตกน้อยใหญ่มากมาย ก่อนจะถึงทะเลสาบกระจก

ก่อนถึงทะเลสาบกระจก ก็มีวิวสวนสนที่สวนงามให้ได้เก็บภาพถ่ายกันอีก

Mirror lake ทะเลสาบกระจก
ทะเลสาบกระจก เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงกลางของอุทธยาน

จากตรงนี้ ก็เดินเท้าไปยังจุดขึ้นรถ เพื่อไปจิ่วจ้ายโกวฝั่งซ้าย (ณ จุดนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารด้วย)

จิ่วจ้ายโกว – ด้านซ้ายและด้านล่าง

Long lake ทะเลสาบยาว เป็นทะเลสาบที่ใหญ่และลึกที่สุดในจิ่วจ้ายโกว มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร พื้นที่กว่า 581 ไร่ รูปร่างของทะเลสาบเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว น้ำในทะเลสาบ มาจากหิมะบนภูเขาที่ละลายลงมา ล้อมรอบด้วยวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นสน สีน้ำจะเป็นสีฟ้าสวยงามมาก

ทางเดินลงไปทะเลสาบมีความชันพอสมควร เมื่อลงไปถึงจุดถ่ายรูปบริเวณทะเลสาบ จะมีทางเดินไปได้ทั้งทางซ้ายและขวาอีก ระยะทางยาวมาก ลงด้านหนึ่งต้องไปขึ้นอีกด้านหนึ่ง แต่วันนี้ฝนตก เราเดินได้ไม่นาน ก็วิ่งกลับขึ้นมาทางเดิม(สวนทางขึ้นมา)

จากทะเลสาบยาว ก็เดินเท้าไปอีกฝั่งหนึ่ง เป็นทางเดินที่ค่อนข้างชัน โดยรอบจะเป็นป่า ใช้เวลาเดินระยะหนึ่ง ก็ถึง Colorful pond ที่นี่เป็นทะเลสาบเล็กๆ น้ำเป็นสีฟ้าเทอคอยซ์ สีสวยสดมากเป็นเหมือนอัญมณีกลางป่า

เดินจากจุดนี้ไปสักระยะหนึ่ง ก็จะเจอหมู่บ้าน Zechawa village (หมู่บ้านทิเบต)
จะมีร้านอาหาร ซื้อของฝาก และที่นี่เป็นป้ายรถบัสด้วย เราไม่ได้เดินในหมู่บ้าน ก็ขึ้นรถลงไปด้านเลย (เพราะเล็งไว้แล้วว่าด้านล่างมีมุมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆหลายจุดเลย)

เราไม่ได้แวะจุดอื่นๆ หลายจุด เพราะเห็นว่าไม่ได้เป็นไฮไลท์ ในแผนที่ ที่เราได้มา (ไม่มีดาว)

อีกจุดที่เราแวะคือ Tiger Lake ทะเลสาบเสือ ที่มาของชื่อ เนื่องจากช่วงปลายฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้สีส้ม สีแดง สะท้อนบนน้ำใสของทะเลสาบ ระลอกคลื่นเกิดเป็นริ้วรอยเหมือนลายเสือหลากสีสัน

เดินริมถนน แวะหามุมถ่ายภาพไปเรื่อยๆค่ะ

และขึ้นรถอีกครั้ง ไปลงที่หมู่บ้านชาวทิเบต Shuzheng Village ตอนแรกตั้งใจจะไปเดินที่หมู่บ้าน แต่เลือกเดินชมวิวก่อน แล้วค่อยไปหมู่บ้าน สรุปเดินชมวิวไปเรื่อยๆ หากจะมาที่หมู่บ้านต้องเดินย้อนกลับมาอีกก็เลยไม่ได้เดินกันค่ะ

ด้านหลังเป็นหมู่บ้านค่ะ

ภาพนี้ เพื่อนในกลุ่มถ่ายมา เป็นภาพที่ถ่ายจากมุมบนหมู่บ้าน สวยงามค่ะ

ส่วนภาพด้านล่างนี้เราถ่ายจากมุมด้านล่างค่ะ

จากหมู่บ้านข้ามถนนมาอีกฝั่ง มีทางเดินชมธรรมชาติ เดินไปเจอน้ำตก หลายจุดมาก สีของน้ำตัดกับใบไม้หลากหลายสี สวยงามค่ะ

เดินกันจนเย็น ทั้งเมื่อย ทั้งหิว เรื่องเมื่อยไม่เท่าไหร่่ วิวสวยๆ เดินต่อยังไหว แต่เรื่องหิวนี่สำคัญ

วันนี้แม้ว่าจะเดินไม่ครบทุกจุด แต่ก็ได้ครบทุกจุดไฮไลท์ และได้ครบทุกบรรยากาศ ถือว่าคุ้มค้ามากๆค่ะ

การเที่ยว จิ่วจ้ายโกวแบบครบทุกจุดและ เดินเรื่อยๆชิวๆ นั้นควรมาสัก 2-3 วัน แปลนเดิมของเราก็จะเข้า 2 วัน แต่ดูแล้วบรรยากาศและวิวจะคล้ายๆกันแล้วอยากพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมสักวัน ท้ายทริปเริ่มล้าค่ะ ก็แอบเสียดายนะคะ เพราะอีกวันมีหิมะตกด้วย (ไม่งั้นจะได้2บรรยากาศเลย)

ภาพที่เพื่อนส่งมาให้ดูค่ะไปห่างกันวันเดียว (ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็มีหิมะในบางวันนะคะ)

วันนี้อิ่มกับบรรยากาศแต่ไม่อิ่มท้อง กลับก่อนนะค่ะ เราขึ้นรถบัส กลับ ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนอกอุทยานกันค่ะ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีร้านอาหารประเภทแมคโดนัลขาย แต่ไม่มีให้เลือก ก็เลยหาเรียกแท็กซี่ไปทานอร่อยๆในเมือง แต่ขอบอกว่าหาเรียกรถแท็กซี่ยากมาก เราดูจาก google map ก็ไม่น่าไกล แต่พอเดินก็ไกลนะคะ 500 เมตรได้ค่ะ

มีร้านแบบเดิมอีก สไตส์แมคโดนัล เคเอฟซี แต่ก็ต้องทานล่ะ หิวค่ะ อิ่มแล้วเดินชมเมืองไปเรื่อยๆก็เจอร้าน เคเอฟซีตัวจริงเสียงจริง ก็จัดไปอีกนิดดดหนึ่งค่ะ

ถึงเวลาเรียกแท็กซี่กลับโรงแรมแล้ว ค่าแท็กซี่ 20 หยวน / 3 คน

วันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

26 ตุลาคม แปลนเดิมเราจะไปเดินที่จิ่วจ้ายโกวอีกวัน แต่ด้วยความเหนื่อยอยากนอนพักนานๆ ตื่นสายๆบ้าง วันนี้เลยชิวๆ เก็บบรรยากาศความเป็นอยู่ของชาวเมืองกัน

ครึ่งวัน @ หมู่บ้านทิเบตนอกอุทยานจิ่วจ้ายโกว

หมู่บ้านทิเบต อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 30 กม. เป็นสถานที่ที่ โรงแรมแนะนำ พร้อมกับติดต่อรถให้พวกเราเรียบร้อยค่ะออกเดินทางกันช่วงบ่าย

ค่ารถเหมา 200 หยวน / 6 คน เป็นรถ 7 ที่นั่งคันนี้ค่ะ

ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านของชาวทิเบต มีการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติโดยรอบ มีที่พัก ให้บริการขี่ม้าคิดราคาตามระยะทางค่ะ เริ่มต้นที่คนละ 100 หยวน หากไม่ขี่ม้า สามารถเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านได้ค่ะ มีค่าเข้าสถานที่คนละ 10 หยวนหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ

หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

ตามภาพจะมีหอคอย สามารถชึ้นไปชมวิวด้านบนได้

รถที่ใช้ในการทำงานของชาวบ้าน

ชาวบ้านที่นี่เลี้ยงม้า เลี้ยงจามรี ทำการเกษตร และให้บริการนักท่องเที่ยว

กิจกรรมยามว่างของพวกเขาค่ะ

ปิดท้ายการท่องเที่ยวสำหรับทริปนี้นะคะ เย็นนี้กลับไปใกล้ๆโรงแรมหาอาหารมื้อเย็นทานกัน

สำหรับวันพรุ่งนี้จะเป็นวันเดินทางไกลกลับเข้าเมืองเฉิงตูอีกครั้ง

27 ตุลาคม อำลาจิ่วจ้ายโกวค่ะ เดินทางโดยรถบัสประจำทาง ที่ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าในราคา 168 หยวน (ใช้ Alipay ที่ผูกไว้กับบัตร Youtrip ได้ส่วนลดนิดหน่อยค่ะ)

รถและตั๋วค่ะ

รถบัส ได้แวะให้ทานกลางวันและเข้าห้องน้ำ 2 ครั้ง สภาพห้องน้ำจะประมาณนี้ค่ะ มีค่าเข้าครั้งละ 1 หยวน

เรื่องกลิ่น แนะนำใส่แมสค่ะ ส่วนเรื่องสิ่งแปลกปลอมเราว่าไม่มีนะคะ เพราะมีน้ำไหลตลอดเวลาแต่ก็ไม่ได้ก้มมองค่ะ เชิดหน้าไว้อย่างเดียว ใครจะว่าหยิ่งก็ตาม555

เรื่องอาหารแนะนำว่าควรพกอาหารที่ชอบและทานง่ายๆไว้ทานระหว่างเดินทางนะคะ เพราะจุดที่แวะไม่ค่อยจะมีอะไรน่าทาน(สำหรับเราเลย)

ผ่านเมืองหนึ่ง แปลกตาดีค่ะ มีกำแพงล้อมรอบเมือง

เข้าเขตเมืองเฉิงตู รถติดมาก กว่าจะถึงจุดจอดรถใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมง (รถไม่ได้จอดให้ลงที่สถานีขนส่ง ไม่แน่ใจว่าเพราะรถติดหรืออะไร) ทำให้เราต้องเดินไปสถานีรถไฟใ้ต้ดินไกลมาก

ต่อรถไฟใต้ดิน 2 ครั้งเช่นเคย กว่าจะถึงสนามบินก็ 3 ทุ่มกว่า