โฮมสเตย์กลางป่าหิ่งห้อย ใกล้กรุง ....นอนตีพุงที่คุ้งบางกระเจ้า...

ถ้ามองจากแผนที่ บางกระเจ้า

น่าจะเป็นจุดพื้นที่เขียวสุด ใกล้กรุงเทพฯ ที่สุดแล้ว

มาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 ครั้งนี้จะลองมานอนพักที่นี่ดูบ้าง

เราเดินทาง กว่าจะถึงที่หมายปาไป 4 โมงเย็น

ที่นี่ค่อนข้างจะเงียบสงบเพราะเต็มไปด้วย ธรรมชาติและชาวบ้าน

มาเดินถ่ายรูปเล่นวัดบางนานอก

เราเก็บของเข้าที่พักแล้ว ไม่รู้จะไปทานข้าวเย็นที่ไหนดี

เลยแวะไปทานที่ร้าน พบรัก ณ บางน้ำผึ้ง

ลืมบอกไปว่า สามารถจอดรถไว้ที่ วัดบางนานอก แล้วเดินเลาะเลียบไปตามสะพานมาได้เลย

ผ่านร้านบางกอกทรีเฮ้าส์ด้วยนะ

ร้านพบรัก ณ บางน้ำผึ้ง นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ยังเป็นคาเฟ่ ที่นี่มีบริการที่พักด้วย
ส่วนรสชาติอาหารก็โอเคอยู่นะ อร่อยใช้ได้
ราคาก็ตามร้านอาหารทั่วไปเริ่มที่ 60
มีทั้งอาหารจานเดียวและเมนูกับข้าว ถ้ามาเร็ว
ก็จะได้นั่งมุมวิวดีๆของร้านซึ่งเป็นศาลาริมน้ำ

ระหว่างทางเดินไปร้านก็จะมีมุมให้เราได้ถ่ายรูป มีท่าเทียบเรือ ที่สามารถแวะถ่ายรูปชมวิว
ดูเรือขนส่งสินค้า มองไปที่คุ้งน้ำจะเห็นโซนเขตเมืองและโซนป่าอย่างชัดเจน

ซึ่งที่บางกระเจ้านี้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและสวน มีร่องน้ำให้เห็นเป็นระยะ ลมพัดโชยๆยามเย็น

กินข้าวถ่ายรูปเสร็จแล้วเข้าที่พัก

เราพักที่บ้านสวนบางน้ำผึ้ง

เลือกที่พักโซนริมน้ำในราคา 800 พร้อมอาหารเช้า ส่วนอีก ที่เป็นวิวสวนราคา 700

เราสามารถมองวิวผ่านกระจกห้องนอนได้เลย

บ้านริมน้ำ

ข้อแนะนำสำหรับการเข้าพัก

งดใช้เสียง

งดใช้ยากันยุง เพราะหิ่งห้อยจะหนีโหม้ดดด ความจริงยุงไม่ค่อยมีเท่าไหร่นะ

ถ้ามาถูกช่วง คุณจะพบกับหิ่งห้อยนับร้อยบนต้นลำพู

อะเมซิ่งมากๆ

ไม่คิดว่าจะได้เจอ

ความสวยงาม ที่เห็นได้ด้วยตา สัมผัสด้วยใจ

ผ่านความเงียบ

มีระเบียงที่สามารถนั่งพักผ่อนในยามเย็น

ตอนเช้าจะมีข้าวต้มหมูร้อนๆ เสิร์ฟให้ถึงหน้าที่พัก
ฟังเสียงนก ดูปลาไป เพลินๆ

ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็นอนกลิ้งเกลือกไป

ไม่ต้องรีบออกไปใหน

ขึ้นมาชมวิว สูดอากาศให้เต็มปอด

เมื่อคืนก็ปีนมาดูหิ่งห้อยบนนี้ เยอะดีใช้ได้เลย

ทางลงอาจจะหวาดเสียวนิดหน่อย

พอถึงเวลา ก็เตรียมเช็คเอาท์ แล้วไปตลาดบางน้ำผึ้ง มีของให้เลือกซื้อเยอะมาก

ร้านอาหารก็เยอะ มีผักผลไม้ชาวบ้านที่นำออกมาขาย อุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหารจริงๆ

ของกินเยอะแบบไม่ต้องกลัวอด

มีที่เช่าจักรยาน

ใครมีแรงเหลืออยากปั่นจักรยานทัวร์รอบคุ้งบางกระเจ้าก็ลุยย โล้ด

มีโซนให้อาหารแพะ ป้อนนมปลา แต่ออกแนวสงสารมากกว่า มีของกินแปลกๆเยอะเช่น รากบัว เมล็ดบัว มะเฟือง แล้วก็จะเป็นผักผลไม้ ที่ชาวบ้านเก็บมาขายจากสวนสดๆใหม่ๆ
ของโอท้อป ของใช้ เสื้อผ้า คนเยอะประมาณหนึ่งเลยแหละ ยิ่งสายคนยิ่งเยอะ

จุดเด่น

มีกิจกรรมให้ทำทั้งวันไม่ว่าจะเป็น

นั่งคาเฟ่ริมน้ำ คาเฟ่ รอบๆคุ้งบางกระเจ้า ถ้าไม่จอดรถแถวลานจอด ออกไปจะหาที่จอดยากนิดนึง

ปั่นจักรยานกับแก๊งเพื่อน ซึ่งเป็นจุดปั่นจักรยานที่ดี เพราะมีจุดแวะจุดถ่ายรูปสวยๆเยอะ หิวก็มาเดินตลาดบางน้ำผึ้ง ร่มรื่นต้นไม้เยอะ

กิจกรรมพายเรือคายัคในคลองบางน้ำผึ้ง ที่เช่าเหลืออยู่ใต้สะพานในตลาดน้ำบางน้ำผึ้งลำละ 100 บาท ถนนสายจักรยานที่นี่ร่มรื่น
จุดชมนกที่หอชมนกสามารถปั่นไปถึงสวนสาธารณะจุดชมนกที่หอชมนกที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เราสามารถถ่ายภาพมุมสูงได้อย่างสวยงาม ต้นไม้เยอะมากทำไม้ดอกไม้ประดับ ข้อแนะนำ ควรพกครีมกันแดดหมวกน้ำของกินหักจะมาปั่นจักรยานในคุ้งบางกะเจ้า วันแรกอาจจะมาปั่นจักรยานแล้ววันที่ 2 เดินตลาดน้ำเผื่อเวลาด้วยข้างในตลาดน้ำบางน้ำผึ้งรถค่อนข้างติดยิ่งใกล้เที่ยงยิ่งติด เตรียมกล้องและพกเมมกล้องมาให้ดีๆ เพราะมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะ ถ้าซื้อของเยอะเตรียมรถเข็นไว้ได้เลย
ถ้ามาดูหิ่งห้อย ไม่แน่ใจว่ามีมั้ยโทรถามที่พักได้
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ค่อนข้างกว้างอาจจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง แต่ต้องปั่นจักรยานไปไกลประมาณนึงเลย

ได้เวลากลับบ้านแล้ว...เป็นช่วงเวลาดีๆอีกทริปที่ประทับใจมาก

เสพธรรมชาติแล้ว ก็อย่าลืมช่วยกันดูแล

เพราะต้นไม้คือปอดของเรา

ไม่ต่าจากที่นี่ ที่ได้ขึ้นชื่อว่า ปอดของคนกรุง

ขากลับรถเยอะมาก