พักผ่อนในหัวหิน แล้วไปผจญภัยในป่าโกงกาง

เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปี
หน้าหนาวกับทะเลก็ไม่แย่ซะทีเดียว

เมืองชายหาด สถานที่ตากอากาศใกล้กทม.

หนึ่งในตัวเลือกในใจก็คงเป็นที่นี่
หัวหินนนน

ก่อนถึงเราแวะตลาดน้ำวัดทองนพคุณ
แวะทานข้าวมื้อสาย ไปตั้งแต่เค้ายังไม่เปิดร้านดี

กับไอติม หอมกระทิ นัว ไม่หวานมาก แก้วละสิบบาท
ต้องไปลอง

บรรยากาศดีกว่าที่คิด กับอากาศเย็นๆริมน้ำ

เดินชมของที่ชาวบ้านนำมาวางขายไปเพลินๆ
ที่สำคัญถูกมาก
ใครแวะก็อย่าลืมไปอุดหนุนกันได้
ก๋วยเตี๋ยวอร่อย ชามละ 35

แล้วก็ออกเดินทางต่อ เป็นหัวหินครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้

ครั้งนี้ขอมาพักผ่อนสบาย ๆกันที่
บ้านนพปฎลหัวหิน มาแบบไร้แพลนในหัว

จองผ่านแอพ Reddoorz
ได้รหัสส่วนลด ที่พักมีให้เลือกเยอะ
แอพใช้งานง่าย แถมมีตัวเลือกเปรียบเทียบราคา

เป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีอ่างจากุชชี่หน้าบ้าน พร้อมสระว่ายน้ำ
เหมาะกับปาร์ตี้ในครอบครัว หรือแก้งค์เพื่อนที่มากันหลายคน เพราะบ้านค่อนข้างกว้าง

บรรยากาศหน้าบ้านร่มรื่น ไม่ร้อน

ห้องใหญ่มีระเบียง วิวสวนเห็นสระว่ายน้ำ

ส่วนภายในบ้านแบ่งเป็นสองห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัว
ชั้นล่างเป็นห้องโถง มีทีวี แอร์ โซฟา ห้องน้ำอีก 1 ห้อง

มีห้องครัวแบบ FULL option ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เตาไมโครเวฟ
จานชามอุปกรณ์เครื่องครัวพร้อมมาก

แถมที่นี่ยังมีเตาสำหรับปิ้งย่างให้ยืมด้วย
สายปิ้งย่างต้องมา

เหมาะกับการพาครอบครัวใหญ่มาพัก
เพราะบ้านหลังใหญ่มากๆเลย ราคาหลังได้รหัสส่วนลดแล้วก็คุ้มมาก

เตียงนุ่มไม่ไก่กา

มาทั้งทีสบายขนาดนี้ก็ไม่คิดจะไปไหนแล้ว

ทริปนี้ก็คือเล่นน้ำในอ่างจากุชชี่ กิน นอน
ตื่นมาอีกทีก็เย็น พักผ่อนแบบพักผ่อนจริงๆ

กะว่าจะไปเดินชิวทะเลหัวหิน แต่ไหงมาโผล่ที่
สวนหลวงราชินี 19 ไร่

ตามของกินมานั่นเอง

มีตลาดริมทะเล ของกินเยอะ

เป็นตลาดริมทะเลที่บรรยากาศดีมากๆ อิจฉาคนที่นี่เลย
มีที่จอดรถริมถนนเดินไม่ไกล

บางคนมาออกกำลังกาย บางคนมานั่งปิกนิก ซึมซับอากาศเย็นๆ

ฟังเสียงคลื่น

แล้วไปต่อที่ตลาดโตรุ่งหัวหิน แต่.................ที่จอดรถหายากสมคำร่ำลือ

วนอยู่หลายรอบ เลยไปเดินเล่น ถ่ายรูปที่สถานีรถไฟหัวหินแทน

เช้านี้อุ่นอาหารจากตลาดเมื่อวาน

อากาศอย่างนี้ก็ได้แต่นอนเอื่อยเฉื่อยอยู่หน้าทีวี พร้อมกับดูสารคดีสัตว์โลก

ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านตัวเอง

ลืมสนิทเลยว่าวันนี้เรานัด เจ้าหน้าที่เพื่อไปพายคายัคในป่าโกงกาง
ที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร

ซึ่งฤดูที่สามารถพายคายัคได้เป็นช่วงฤดูหนาว

คือ เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม มกราคมและกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่น้ำขึ้น

เหมาะกับการพายคายัค
ก่อนอื่นก็ไปหัดพายก่อน

คิดค่าบริการลำละ 300 บาท มีน้ำให้ 2 ขวด โดยมีเจ้าหน้าที่นำทาง
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการพายและให้ความรู้ตลอดเส้นทางรอบป่าโกงกาง
แถมช่วยถ่ายรูปให้อีก

น้ำค่อนข้างใส เราใช้เวลาที่นี่ ชั่วโมงนิดๆ
ใครกลัวหิว ก็เตรียมเสบียงเล็กๆน้อยๆไป แล้วอย่าลืมเก็บขยะมาทิ้งกันด้วย

เหมาะกับการเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ถ้ามาช่วงเช้า อากาศจะไม่ร้อนมาก สนุกคุ้มค่าเหมือนได้ไปผจญภัยในป่าโกงกาง
ลัดเลาะชิมใบต้นแสม ที่มีการขับเกลือออกทางใบ มีบางช่วงที่พายเข้าป่า ชนต้นไม้
โดยรวมแล้วสนุก

นับเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ควรค่าแก่การออกมาสัมผัส

ถัดจากสถานที่พายคายัคลึกเข้าไปจะเป็นชายหาดซึ่งมีดงต้นสนให้ร่มเงา
อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การมานั่งปิกนิก
แต่ตอนนี้คลื่นลมค่อนข้างแรง เล่นทรายเสร็จ ก็ได้เวลางีบเอาแรงในรถ

ขากลับแวะชายหาดชะอำ นอนชะอำอีกคืน
ชะอำให้ความรู้สึกเดียวกันกับชายหาดแถวระยอง
แต่ของกินตอนเย็นเยอะกว่า ถนนแทบจะทั้งเส้น มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด
มีเตียงผ้าใบให้นั่งรับลม เหมือนบางแสน

มีม้าเดินตามชายหาด ให้นักท่องเที่ยวได้ขี่ ถ่ายรูป
เหมือนหัวหินเลย

แต่เราแอบสงสารอยู่นะ

บางตัวโดนผูก เชือกแบบสั้นมาก แทบจะไม่ได้ขยับตัว
เค้าก็ยืนนิ่งๆอยู่อย่างนั้น

มื้อเย็นไปกินครัวลุงมัน ร้านอาหารติดทะเล แต่เรามาคือมืด
อาหารสด รสชาติดี
หมดนี่หมดไปแปดร้อย

ชายหาดกว้างๆจะอยู่ในส่วนของหาดชะอำเหนือ เตียงผ้าใบน้อย มีร่มของดงต้นสน
ส่วนใครที่ชอบปิ้งย่างอาหารทะเลมีตลาดสะพานเหล็กปูชัก
ซึ่งเราไม่ได้แวะไปเพราะเวลาไม่พอ