ทริปเพ็ดชะบุรี – เพชรบุรี (ต่อ)
EP. 2 ขาร่องกลับ
หลังจากเดินทางออกจากแก่งกระจาน ขาร่องกลับขึ้นกรุงเทพ ฯ ในแผนมีที่สามารถแวะเที่ยวก่อนกลับได้ 2 – 3 แห่ง หากใครยังไม่ได้อ่านเรื่องราวตอนขามา สามารถย้อนกลับไปอ่านที่เที่ยวของเราได้ ทริปเพ็ดชะบุรี – เพชรบุรี EP. 1 แก่งกระจาน ตามลิงค์นี้เลย.......
>> https://th.readme.me/p/38749 <<
อุทยานประวัติศาสตร์
เมื่อมาถึงเพชรบุรีแล้ว ก่อนจะกลับไปใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง ก็ขอแวะขึ้นเขาวังกันก่อนแล้วกัน (เดินเท้านะจ๊ะ) เขาซึ่งเคยเป็นที่ประทับของรัชกาลที่ 4 ด้านบนมีโบราณสถานที่คงไว้ซึ่งศิลปะอันสวยงาม เช่น หอชัชวาลเวียงชัย พระที่นั่งต่าง ๆ วัดพระแก้ว พระธาตุจอมเพชร และที่อื่น ๆ อีกมากมาย ตั้งอยู่บน “เขามหาสวรรค์” ชื่อเดิมคือ “เขาสมณะ” ปัจจุบันเรียก “เขามไหศวรรย์”รวมเขาทั้ง 3 ลูกและสิ่งก่อสร้างทั้งหมดนี้ว่าพระนครคีรี (silpa-mag 2564) และที่มีมากไม่แพ้ความสวยวิจิตรตาตรึงนั้นก็คือ เหล่าวานรหรือพวกลิงซุกซน ที่พร้อมชนแล้วแย้งของไปจากเรา
- เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.00 น.
- ค่าเข้าชม : คนไทย 60 บาท ต่างชาติ 190 บาท (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี และค่ารถรางไฟฟ้า) (แต่ตอนเราไปเสีย 20 บาท (10/10/2564))
พอเดินได้สักหนึ่งเหนื่อย ขวามือของเราจะเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี เดิมทีเคยเป็นตำหนักที่ประทับของรัชกาลที่ 4 ด้านในมีห้องบรรทม ห้องทรงงาน และอีกมาก เพราะเป็นสถานที่ที่พระองค์เคยใช้งานจริงมาก่อนในสมัยนั้น ซึ่งมีเครื่องใช้ หรือสิ่งของที่ประดับมีศิลปะให้ความเป็นยุโรปสวยงาม และที่สำคัญด้านในมีแอร์คอนดิชันเนอร์ที่พอจะให้เราได้ผ่อนกายคล้ายร้อนกันได้บ้าง
สำหรับท่านสุภาพสตรี ประสงค์จะเข้าชมด้านในอาจจะต้องสวมกางเกงหรือกระโปรงที่ยาวสักหน่อย แต่ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่มีเจ้าหน้าบริการผ้าถุงให้เช่าสำหรับผลัดเปลี่ยนเพื่อเข้าชมด้านในได้ ราคา 10 บาท มัดจำ 100 จะได้คืนตอนออกมา
(ปล. ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพหรือ VIDEO หากท่านอยากเห็นก็ต้องมาดูด้วยตาของตัวเองแล้วหละ)
พอหายเหนื่อย ออกแรงก้าวเดินต่อ สถานที่ต่อไปของเราคือ พระธาตุจอมเพชร เป็นพระเจดีย์ทรงลังกาสีขาว ประดิษฐานบริเวณยอดกลางของเขามหาสวรรค์นี้ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ตัวพระธาตุสูงจากฐานถึงยอด 40 เมตร ฐานกว้าง 20 เมตร ตั้งอยู่บนฐานทักษิณ 2 ชั้น ภายในทำเป็นห้องกลวงทรงกลม มีเสาใหญ่รับน้ำหนักอยู่ตรงกลาง มีช่องเข้าไปภายในได้ทั้ง 4 ทิศ และจากห้องกลมบริเวณฐานนั้นมีช่องบันไดขึ้นไปลานทักษิณชั้นที่ 2 ได้อีก 4 ทาง จากลานทักษิณชั้นที่ 2 นี้ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเพชรบุรีได้โดยรอบ (virtualhistoricalpark,2021)
วัดพระแก้วน้อย เป็นวัดประจำพระราชวังบนพระนครคีรี บริเวณวัดประกอบด้วย พระอุโบสถ หอระฆัง พระพุทธเสลเจดีย์ ศาลารายและพระปรางค์แดง ซึ่งสำหรับเราความพิเศษคือทั้งหมดเหมือนถูกสร้างให้เรียงเป็นแนวเดียวกัน หากมองจากพระอุโบสถออกไป
งั้นเดี่ยวเรา GOOGLE รายละเอียดไว้ให้ (ตามด้านล่าง)
- พระวิหาร มีลักษณะเป็นพระอุโบสถขนาดเล็ก ผนังประกอบด้วยหินอ่อน หลังคากระเบื้องสี กรอบหน้าบันประกอบด้วยปูนปั้นฝีมือของช่างเมืองเพชรบุรี ใบระกาหางหงส์ เป็นรูปนาค และมีจุดเด่นอยู่ที่ตรงหน้าบันที่ประดับรูป พระมหาพิชัยมงกุฏ ซึ่งเป็นงานปูนปั้นอันงดงามมีชื่อเสียงชิ้นหนึ่งของเมืองเพชรบุรี เดิมประดิษฐานพระแก้วผลึก แต่หลังจากรัชกาลที่ 4 สวรรคตของจึงเชิญพระแก้วผลึกกลับกรุงเทพมหานคร แล้วประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนไว้แทน ด้านล่างประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลอง
- พระสุทธเสลเจดีย์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ศิลา สีเทาอมเขียวทรงกลม ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 3 เมตร เจดีย์สูง 9 เมตร ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ซึ่งการสลักหินอ่อนประกอบประกอบเป็นองค์เจดีย์นั้นทำสำเร็จที่เกาะสีชัง เสร็จแล้วจึงถอดเป็นชิ้นแล้วนำมาประกอบอีกครั้งบนยอดเขาวัง
- พระปรางค์แดงและศาลาราย ลักษณะของพระปรางค์แดง (ชาวบ้านมักเรียกกันว่า เจดีย์แดง) สร้างเป็นพระปรางค์จตุรมุขทาสีแดงทั้งองค์ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพระวิหาร ภายในพระปรางค์มีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป คือ พระไพรีพินาศ (จำลอง) ส่วนศาลารายสร้างเป็นศาลาโถงขนาดเล็กสามหลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าตรงข้ามหอระฆัง
- หอระฆัง ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนเนินที่สูงลดหลั่นลงมาจากพระวิหาร (วิกิพีเดีย,2021)
วัดถ้ำเขาย้อย
อีกหนึ่งวัดที่มาเมืองเพชรแล้วถ้าไม่แวะคงจะเสียดาย วัดแห่งนี้อยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ แหงนมองขึ้นไป ประดับไฟสวยงามอร่ามตา ด้านในมีพระพุทธไสยาสน์ มีรอยพระพุทธบาทจำลอง สำหรับผู้ที่ศรัทธาสามารถแวะเวียนมากราบนมัสการ เพื่อเป็นศิริมงคลตามความเชื่อของแต่ละบุคคล
ปิดทริป (เขาอิบิดสวิสต์แลนด์แดนเพชรบุรี)
วันเวลาเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแล้วก็มาถึงสถานที่สุดท้ายของทริปนี้ เขาอีบิดแห่งโรงโม่หินเพชรลดา ถูกขนานนามว่า“สวิสเซอร์แลนด์แห่งดินแดนเมืองเพชร” เดิมทีที่นี่เคยมีชื่อเสียงอย่างมากอยู่ช่วงหนึ่ง มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมและถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คของจังหวัดเพชรบุรี แต่เรามาตอนที่ตลาดวายไปแล้ว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้สร้างรั้วชิดปิดกั้นกันไว้ไม่ได้เปิดให้เข้าสบาย ๆ อย่างเช่นแต่ก่อน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ของเอกชนดูแล และยังเป็นพื้นที่อันตรายจากการระเบิดหิน มีรถบรรทุกวิ่งเข้า-ออกอยู่ตลอด
แต่วันนี้วันอาทิตย์ เมื่อมาถึงแล้ว ก็สองมือประนมขออนุญาตเจ้าหน้าที่ขอเข้าชมเหมือนเช่นเคย ลุงแกก็ใจดีอนุญาตให้เข้า อาจเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเขาไม่ได้ทำงานกัน นับว่าเป็นโชคดีของเราที่จะได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมและเก็บภาพคู่กับสถานที่แห่งนี้ก่อนจะหมดไป แม้จะรกร้างไปบ้างแต่มิอาจปิดกั้นความงามของแนวสนที่เรียงรายตรงขอบบึงขนาดมหึมานั้นได้ ไม่รู้ว่าภาพตรงหน้าจะเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ดินแดนที่ห่างไกลสักแค่ไหน แต่รู้ว่าเบื้องหน้าภาพวิวทิวทัศน์ช่างสวยงามตรึงตาตรึงใจ เหมือนมีเวทมนต์ดูดกลืนเราเข้าไป มิอาจให้ละสายตา
สวัสดี
-เสือซ่อนยิ้ม-
สามารถติดตามผลงานก่อนหน้านี้ได้ที่
>> เพ็ดชะบุรี – เพชรบุรี - ตอนที่ 1 แก่งกระจาน
>> "น่าน" ไงที่ไหนหละ
>> เมนูวันหยุด กุ้งดองปลาร้า
>> ปิ้งย่างยุคโควิด
>> กระบี่ 3 วัน 2 คืน
>> นั่งรถไฟ ไปปัตตานี
>> สองวันหนึ่งคืน ครึกครื้น แก่งกระจาน
>> เเบกเป้ขึ้นภูสอยดาว
>> พังงา ภูเก็ต เสม็ดนางชี แหลมพรหมเทพ (นางชีทิ้งตะวัน)
>> " บ้านป่าหมาก " จุดกางเต็นท์ริมเขตแดน - ประจวบคีรีขันธ์
>> 7 คต โป่งเส้าก้อน
>> เเบกเป้เที่ยว ลำพูน
>> ภูกระดึง ตึงทั้งตัว
เสือซ่อนยิ้ม
วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14.28 น.