เกริ่นก่อนว่ารีวิวนี้ถูกแบ่งเป็นสองตอน เพราะไปมาเยอะแบบจัดเต็มมาก
อันนี้เป็นตอนที่หนึ่ง
เที่ยวไปตามรถไฟฟ้า MRT Day 1 สถานีสนามไชย มิวเซียมสยาม สถานีวัดมังกร เยาวราช
ส่วนนี้คือตอนที่สอง มาต่อกันได้เลยค่าาาา
วันที่ 2 สถานีบางไผ่ >>>> สถานีสามย่าน สามย่านมิตรทาว >>>>ไหว้พระวัดหัวลำโพง >>>>
ตามหาสตีทอาตร์ >>>> พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก >>>> ไปรษณีย์กลาง >>>> ท่าเรือวัดท่าแค >>>> ไอคอนสยาม >>>> ท่าเรือสี่พระยา >>>> สถานีหัวลำโพง>>>>สถานีบางไผ่
วันนี้รีบตื่นมากินข้าวเช้า มาดูความดีงามของข้าวเช้าที่นี่กัน
ออกมาปาไปเก้าโมงกว่า วันนี้เราจะไปเดินชิคๆ ที่สามย่านมิตรทาว
ก่อนอื่นก็มาแวะวัดหัวลำโพงไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยก่อน
วัดนี้คือห้อมล้อมไปด้วยเมืองมากๆ สวยใหญ่โตไม่แพ้วัดต่างจังหวัดเลย
จากนั้นเดินทางลอดผ่านอุโมงค์แล้วก็มาโผล่ในห้างเลย
ช่างเป็นความสะดวกสะบายที่ลงตัวมากๆ พอถึงก็ใกล้เที่ยงพอดี
คนประมาณนึงเลยแหละ
ด้านหน้าโล่งมาก แดดเริ่มแรง
เลยแวะทานข้าวเที่ยงที่นี่ซะเลย ทานข้าว ช้อปปิ้งเสื้อผ้า ก็จะอยู่ในโซนด้านล่าง
เจอร้าน Muji คุมโทนได้ดีงามมาก อดใจไม่ไหวเลยแวะอยู่นาน
เหมาะสำหรับมาตากแอร์ฉ่ำๆ เลือกซื้อของเพลินๆ
ไปหาของหวานทานต่อตามรีวิว ร้านเพลินจิต
โอ้วว ไกลเอาเรื่อง หลงเดินมาแล้ว กลับไม่ได้ ขนมปังเนยนมดีงาม กับความกรอบนอกนุ่มใน
กินกับชาเย็น เข้ากันดีอยู่นะ
เหนื่อยๆจากเมื่อกี้ หายเลย ชื่นนนนนนใจ
จากนั้นเราเดินมาเรื่อยๆตามหาสตีทอาร์ต คือ... ไกลมากกกก
ไกลจนขนมปังย่อยหมด ก็มีเจอบ้างประปราย ประมาณนี้
สวยงามถูกซ่อนตามซอกมุมตึก
เดินมาไกลจนถึงพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก มาเป็นครั้งที่สองแล้ว ทำให้นึกถึงเมื่อครั้งที่แล้ว
สามารถจอดรถข้างๆได้ แต่ตอนนี้ปิดไม่ให้จอดแล้ว ที่นี่เข้าฟรีนะ ลงทะเบียนด้านหน้าเก็บเป็นข้อมูล
ด้านการหางบประมาณมาบูรณะ
สำหรับที่นี่แล้วทุกอย่างยังเหมือนเดิม หมาอ้วนที่เราเคยซื้ออาหารให้กิน
ก็ยังนอนอ้วนแผ่หลาหน้าพิพิธภัณฑ์เช่นเดิม แต่แก่ขึ้นตามวัน เวลา
เรามานั่งพักผ่อนเงียบๆ เปิดโทรศัพท์ดู เฟสบุ๊คก็ขึ้นเตือน ความทรงจำเมื่อสามปีที่แล้ว
เป็นวันเดียวกัน ที่เรามาถ่ายรูปที่บ้านหลังนี้ บ้านที่มีเจ้าของนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์ใต้ถุนบ้าน
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงสามเดือน ท่านก็จากบ้านหลังนี้ไป คุณยาย สุรสวดี ท่านเป็นอาจารย์ และผู้มีแนวคิดส่งมอบทุกอย่างของบ้านหลังนี้ ให้อยู่ในการดูแลของเขตบางรัก บ้านที่รวมความเป็นมา วิถีชีวิต ของคน กทม. และเรื่องราวความเป็นอยู่ของครอบครัวท่าน เป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
เป็นอย่างยิ่ง
เราเดินชมอาคารเก่าแก่หลังนี้ มีตึกด้านหน้า ศาลาพักผ่อนริมบ่อน้ำ อาคารพิพิธภัณฑ์ด้านใน
และอาคารจัดแสดงของโบราณด้านล่าง ซึ่งด้านบนจะเล่าประวัติความเป็นมาของชาว กทม. ในเขตบางรัก
ดูข้าวของเครื่องใช้แล้วพลอยดื่มด่ำไปในอดีต ทุกอย่างยังคงถูกเก็บรักษาและสภาพดี
หน้าบ้านจะมีคุณป้าคอยเป็นไกด์เชิญชวนเราให้เข้าไปเยี่ยมชม
บริเวณตัวบ้านและด้านในร่มรื่น มีชานเรือน เหมาะกับการมานั่งอ่านหนังสือเงียบๆ
พอบ่ายแก่ๆ เราเดินไปไปรษณีย์กลาง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ตึกใหญ่โต ภายในมีศูนย์ PDCA ซึ่งเป็น space zone
อยู่ชั้น 5 ด้านซ้ายมือของตึก ซึ่งสามารถเที่ยวชมทัศนียภาพในมุมสูงของ กทม. ได้
บ่ายแก่ๆ เราสามารถเดินเลียบฝั่งซ้ายของตึก จะมีซอยเล็กๆ ไปขึ้นเรือข้ามฟากวัดท่าแค
เพื่อข้ามไป ไอคอนสยาม ห้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยของแบรนเนม
มาตอนเย็นๆ มีไฮไลท์เป็นน้ำพุดนตรี และวิวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ผู้คนมาเก็บแสงสุดท้ายของวัน ที่นี่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวจีน
คนเยอะมากกกกก
แวะเดินช้อปเสร็จแล้ว ขากลับข้ามฝั่งมาที่ ท่าเรือสี่พระยา ต่อตุ๊กๆ มายัง MRT สถานีหัวลำโพง
แวะทานก๋วยเตี๋ยว ฮ่องกง นู้ดเดิ้ล ซึ่งต้องสังเกตทางออกดีๆ เพราะมีหลายทางออกมาก
อิ่มแล้วตบท้ายด้วยของหวาน กินโรตีกู สั่งโรตีชีท กับธรรมดา อิ่มแล้วก็ได้เวลากลับ
ใช้เวลานั่งรถไฟฟ้า 20 นาทีก็ถึงที่พัก
กลับมาสลบยันเช้า
Day 3 วััดปากน้ำ >>>> ตลาดพลู
สายๆได้เวลากลับ ขับรถสิบนาทีจากที่พักก็มาถึงวัดปากน้ำ
ภาพนี้เป็นหอไตร นับเป็นหอไตรที่สวยสุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยแหละ
หอไตรโบราณสร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ฝีมือช่างสกุลช่างสมเด็จพระนารายณ์ เป็นไม้จำหลักทั้งหลัง หลังคาเป็นมุขประเจิดทั้งสองด้าน พบเอกสารขอพระบรมราชานุญาตปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่5
ในปีพ.ศ.2529ทางวัดทำการบูรณะอีกครั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เนื่องจากของเก่าผุผังหมดแล้วจึงถอดแบบทำใหม่เทียบเท่าของเดิม ฝาผนังด้านนอกปิดทองทึบทั้งหลัง เสาทุกต้นปิดกระจกประดับลายงดงาม
แล้วก็ต้องตะลึงในความยิ่งใหญ่ของเสาต้นสักอันใหญ่โตมโหฬาร
กราบศพหลวงปู่สด ไหว้พระในโบส์ถ เดินชมเดินชมพิพิธภัณฑ์ทั้งพระ ของเก่าสะสมโบราณ ที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหานำมาถวายวัด
มีทั้งตาลปัตร และพระเก่าโบราณ
ไฮไลท์อยู่ที่มีเจดีย์ที่ผนังมรกต
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมที่นี่จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
เห็นแค่ภาพถ่าย ทำให้ชวนคิดไปว่า ขอมาดูด้วยตาตัวเองสักครั้ง
ถ้าเดินไปตามทางในวัดจะพบกับคลองท่าด่าน สามารถชมวิวทิวทัศน์ฝั่งคลอง
ชมเรือที่สัญจรไปมา ให้อาหารปลา
ความมีดีอีกอย่างของวัดก็คือ ร่มรื่นและสะอาดเวอร์ๆ
ถึงเวลาเที่ยง เดินมากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดในซอย อยู่ตรงสามแยก เจอร้านอร่อยไปอีกกก
และมาต่อกันที่ตลาดพลู หาขนมกิน ถ่ายรูปเล่นกันที่สถานีรถไฟตลาดพลู
ของอร่อยเต็มไปหมด
ที่เด็ดสุดเป็นไอศรีมไข่แข็ง ไอศรีมเนื้อเนียนๆ ละมุนกลมกล่อมไม่เหม็นคาว อร่อยดีแปลกๆไปอีก
เดินไปอีกหน่อยใต้สะพานมีร้านขายของกินอีกสองสามร้าน ขนมปังกรอบ ขนมกุ้ยช่าย ลูกชิ้นปลากรอบ อร่อยแทบทุกร้าน
ทริปนี้เรายังไม่จบเพียงเท่านี้ เราไปต่อกันที่ปทุมธานี ได้ที่พักหลักร้อย ใหม่เอี่ยม ห้องสะอาด ที่จอดรถดีงาม ที่กินอาหารใกล้ๆ เดินไปก็ถึง
ติดตามรีวิวฉบับหน้าเราจะพาไปลุยกันที่พิพิธภัณ์พระรามเก้า
ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่
กางเต้นท์ริมเล นอนเซฟังเสียงคลื่น
ตลาดน้ำสามวัง กับเมืองเก่า ที่นี่พนัสนิคม
พายคายัควังบอน นอนเต้นท์เล่นน้ำตก
กว่าจะถึงภูเก็ตตอนที่ 2 ตามล่าหาติ่มซำ
กว่าจะถึงภูเก็ต ตอนที่ 3 บทส่งท้าย
จากโคราชถึงปากช่อง...ที่เที่ยวลับๆ ที่น้อยคนนักเข้าไม่ถึง
เลเจนด์ สยาม ความงามแบบฉบับไทยๆ
ยิ่งรู้จัก ยิ่งหลงรักเมืองลำปาง
เติมความสุขอิ่มแปล้ ณ สะพานแพ โฮมสเตย์
เที่ยว อิต่อง เหมืองปิล๊อค น้ำตกจ๊อคกระดิ่น กางเต้นท์ที่ทองผาภูมิ
แมวเหมียว ไปเที่ยวกัลลลล
วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 22.07 น.