ชินจาโย ร้านเกาหลีที่ ศรีนครินทร์

ชินจาโย 진짜요 jinjjayo Korean
ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์

ถ้าพูดถึงดินแดน “แดฮันมินกุก” คงต้องนึกถึงความน่าทึ่งของวงการเพลง K-POP (พอดีเพื่อนเป็นแฟนคลับแบบคลั่งสุด ๆ) รวมไปถึง K-Series หรือ ซีรีย์เกาหลีที่คนไทยส่วนมากก็ติดกันงอมแงม (รวมถึงผมด้วย) ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์ มี culture เฉพาะและเมื่อเราเสพผลงานต่าง ๆ ที่แพร่หลายเข้ามาทำให้ซึมซับวัฒนธรรมในหลาย ๆ ด้านรวมไปถึงวัฒนธรรมทางด้านอาหารด้วย แล้วคุณหละนึกถึงอะไรเมื่อพูดถึงประเทศเกาหลี....

เอาหละวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับร้านอาหารร้านหนึ่งที่ ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ที่มีชื่อว่า
“ชินจาโย” (진짜요) ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ได้กลิ่นอายความเป็นเกาหลี ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังไปนั่งในร้านเต็นท์ข้างทางในซีรีย์แบบว่าเวลาที่เพื่อน ๆ ไปปรับทุกข์หรือสังสรรค์กัน ที่แบบกินไปกรึ๊บไป

ภายนอกร้านตกแต่งด้วยผ้าใบสีแดง ด้านในแสงสลัว ๆ ประดับไฟสีสันต์สดใสเล็กน้อย มีโต๊ะอยู่ 4 – 5 โต๊ะ แอร์เย็น (แบบว่าเหมือนอากาศในกรุงโซลคงคล้ายๆ กันแหละ) และหากใครไม่ชอบแอร์ก็ยังมีอีกโซนด้านนอกร้านติดถนนทางเข้าตลาดรถไฟ

มาว่ากันด้วยเรื่องของเมนู ร้านนี้มีหลากหลายให้คุณเลือกสรรมากมายตามสไตล์เกาหลี ราคาก็ไม่ได้แพงหูฉี่แต่ก็ไม่ใช่ราคากระเพราไก่ไข่ดาวแน่ ๆ ส่วนเครื่องดื่มก็มีจัดจำหน่ายจะแอลไม่แอลก็สั่งกันไปสบาย ๆ เผื่อใครมาเป็นแก๊งค์แล้วอยากแบบ “คัมปาย ๆ ” กับเพื่อน ๆ ก็ได้ฟิลกันเลยทีเดียว

แต่ก่อนที่เมนูต่าง ๆ ที่เราสั่งจะมาก็จะมีออเดิฟมาให้ก่อน ถ้วยสังกะสีขนาดเท่าถ้วยน้ำจิ้มตามจำนวนคน มีนมเปี้ยวผสมโซจูบาง ๆ กับน้ำแข็ง 1 ก้อน มาให้จิบแก้กระหายรออาหารพูดคุยกันไปพลาง ๆ (เราว่าอันนี้แหละคือตัวกระตุ้นให้เรารีบเรียกเด็กให้เอาโซจูขวดมาเสริฟให้ไว 555) รอไม่นานพออาหารมาก็...คีบไป เคี้ยวไป...คัมปาย ไปอย่าได้ช้าที

ส่วนพวกเรา 4 คนเลือกสั่งเมนู กุ้งดองซีอิ้วเกาหลี ข้าวมันปูเกาหลี บีบิมบับ หมูสามชั้นย่าง จับแช ซุปกิมจิ และที่ไม่พลาดก็คือ โซจู

(กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี)

(ข้าวมันปูเกาหลี)

(บีบิมบับ)

(หมูสามชั้นย่าง)

(จับแช)

(ซุปกิมจิ)

รสชาติอาหารโดยรวมนับว่าอร่อยถูกใจ โดยเฉพาะ ข้าวมันปูเกาหลี และ หมูสามชั้นย่าง เราสั่งมาอย่างละ 2 ชุด เพราะเป็นเมนูที่จัดว่าเด็ด ตัดเลี่ยนกันด้วยโซจู และสำหรับเราเมนูที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างคือ ซุปกิมจิ ร้อน ๆ เอามาซดกันให้โล่งคอ ความเผ็ดของเครื่องแกงพอจะแก้อาการหน้าตึงและมึนงงจากน้ำในขวดเขียว ๆ ที่ชนกันแบบชนเอาชนเอาก่อนหน้านี้ได้ดีเลยทีเดียว

อิ่มท้องร้อง “คำซามิตา” แบบเนียน ๆ เหมือนอยู่เกาหลี (แต่โควิดนี่ทำให้เราได้แค่ทำเนียน ๆ แบบนี้ไปก่อน) อาหาร 7 - 8 อย่างเป็นค่าเสียหายจำนวน หนึ่งพันสามร้อยกว่าบาท เรามากัน 4 คนหารกันแล้วคนละ 3 ร้อยกว่าบาท

อ๋อลืมบอกไปในร้านจะเปิดเพลงเกาหลีวงต่าง ๆ สร้างบรรยากาศวนไปด้วย หากใครชื่นชอบเพลงไหนวงใดก็สามารถขอเพลงได้ เจ้าของร้านใจดี (ถ้ามีโอกาสได้มาเห็นโพสต์นี้คราวหน้าไปขอโซจูฟรีก็ดีนะครับอิอิ หยอก ๆ)

หากใครสนใจตามไปชิมลิ้มลองกันได้ ร้านเปิดวันอังคาร-วันศุกร์ 16.00-23.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ 12.00-00.00 น. (ปิดวันจันทร์) สามารถโทรสอบถามเพิ่มเติม โทร. 083-741-8433 แต่หากมาแนะนำให้โทรจองกันก่อนเพราะโต๊ะจะเต็มค่อนข้างไว ถ้าจะมา walk in อาจจะเสียเที่ยวได้นะบอกก่อน

หากกินเสร็จแล้วก็สามารถเดินย่อยจับจ่าย ช้อปปิ้ง ไปสอยของที่ชอบกันได้ต่อที่ตลาดนัดรถไฟเดินไปนิดเดียว ส่วนใครเอารถมาก็เอาไปจอดในตลาดได้มีค่าบริการ 40 บาท (ออกตัวก่อนเรามารีวิวครั้งนี้ไม่ได้สปอนเซอร์ใด ๆ จากทางร้านกินเองเสียตังค์เอง 100%) ครั้งหน้าจะไปกินที่ไหนอีกรอติดตามตอนต่อไป