สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้าสามารถไปตำกันที่ลิ้งก์นี้ได้เลยค่ะ https://th.readme.me/p/39977

ส่วนลิ้งก์ตอนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะแปะไว้ท้ายบทความนะคะ

ตอนนี้จะเล่าถึง 2 วันในเวียนนาของเราคjะ แพลนเราในแต่ละวันจะเป็นตามนี้เลยค่า

วันที่ 1

1.Hofburg palace

2.Museum of Natural History

วันที่ 2

1.Schonbrunn palace

2.Imperial Furniture Collection

ที่เวียนนายังมีพิพิธภํณฑ์อีกมากมาย หลักๆ จะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าเราไม่อิน เราเลยไม่ได้ไป ใครที่เน้นเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในเวียนนา และกะจะอยู่ที่นี่นานๆ แนะนำให้ลองศึกษา Vienna pass ดูค่ะ อาจจะใช้คุ้มก็ได้ แต่สำหรับเราคือใช้ไม่คุ้ม

นอกจาก Vienna pass ที่นี่ยังมีพาสย่อยๆ อีกหลายแบบ พาสย่อยที่เราซื้อใช้ Sisi pass ราคา 36 EU จะเข้าได้ 3 แห่งคือ Hofburg palace, Schonbrunn palace แบบ Grand tour และ Imperial Furniture Collection แถมยังได้ออดิโอไกด์มาฟังแบบไม่เสียเงินอีกต่างหาก ตั๋วสามารถซื้อออนไลน์ หรือซ์้อหน้างานก็ได้ค่ะ 

ถ้าถามเราว่าพาสนี้คุ้มไหม เราว่าเหมาะสำหรับคนที่คิดจะเข้าพระราชวังทั้ง 2 แห่งอยู่แล้ว เพราะค่าเข้าพระราชวังทั้ง 2 แห่ง ราคาพอๆ กับ Sisi pass 1 ใบเลย ถือเสียว่าได้เข้า Imperial Furniture Collection เป็นของแถม แต่ถ้ามีเวลาเข้าพระราชวังแค่ที่เดียว แนะนำให้เข้าที่ Schonbrunn palace ค่ะ ดูมีอะไรมากที่สุด

ราคาค่าเข้าแบบผู้ใหญ่

1.Hofburg palace ค่าเข้า 15 EU

2.Schonbrunn palace

- Imperial tour 18 EU – จะได้ชมห้องน้อยกว่าแบบ Grand tour

- Grand tour 22 EU –

3.Imperial Furniture Collection ค่าเข้า 10.5 EU

ส่วนการเดินทางไปแต่ละที่ ทุกที่เข้าถึงได้ด้วยขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟใต้ดิน รถราง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนค่ะ ใครที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องการเดินทางในเวียนนา สามารถไปอ่านจากตอนแรกได้เลยค่ะ

รีวิวที่เที่ยว

1. Hofburg palace (Sisi museum)

เนื่องจากคืนก่อนหน้านี้เรากลับที่พักดึกเพราะตกรถไฟที่เช็ก (เราเล่าไปในตอนก่อนหน้านี้ค่ะ) วันนี้เราเลยตื่นสาย พอถึงเวลาเที่ยว เราเลยปักหมุดไปที่ Hofburg palace ปรากฏว่าพอเดินเข้าไปในจุดที่น่าจะเป็นที่ขายตั๋วปุ๊บ....มันไม่ใช่อ่ะ เขามีป้ายติดไว้อย่างชัดเจนว่าที่นี่ไม่ใช่ Tourist information 5555 ถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย เราก็งงว่า อ้าว แล้วอย่างนี้ต้องไปเข้าทางไหนอ่ะ เรามารู้ทีหลังว่าพื้นที่พระราชวังนี้คือกว้างมากกกกก จนปัจจุบันมีการซอยแบ่งแยกย่อยออกเป็นพิพิธภัณฑ์และออฟฟิศต่างๆ 

เราเดินมาตรงนี้ ซึ่งมันไม่ใช่จุดซ์้อตั๋วค่าคุณผู้ชม 55

เอาล่ะ หลังจากที่ถามคนแถวนั้นแล้วไม่ได้คำตอบ เราก็เลยเปลี่ยนจากปักหมุดว่าไป Hofburg palace เป็นไป Sisi museum (ตอนหาข้อมูลในเน็ตเห็นพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ใน Hofburg palace เลยลองมั่วๆ ดู) แล้วก็เดินตามแมปไป เดินต่อเข้าไปข้างในเรื่อยๆ แล้วก็โป๊ะเชะ เจอที่ขายตั๋วแล้ว 55 สรุปว่า ถ้าจะมาที่นี่ให้ปักหมุดว่ามา Sisi museum แล้วจะเจอทางเข้านะจ๊ะ อย่าไปปักหมุดว่าไป Hofburg palace เชียว

ตึกล่าสุดที่เราเข้ามา จะมีทั้งหมด 3 พิพิธภัณฑ์คือ Sisi Museum, Imperial Apartments และ Imperial Silver Collection แต่เราไม่แน่ใจว่าได้เข้า Imperial Apartments หรือเปล่า และเราลืมขอออดิโอไกด์ 555 เรานึกว่าออดิโอไกด์จะได้แค่ที่ Schonbrunn palace ที่เดียวเสียอีก มิน่าล่ะ ตอนเดินในพิพิธภัณฑ์ถึงเห็นคนถือออดิโอไกด์เต็มไปหมดเลย ตอนนั้นยังคิดเลยว่า คนมาเที่ยวที่นี่ชอบเดินพิพิธภัณฑ์แบบได้ความรู้กันจังเลยนะ

Imperial Silver Collection

พิพิธภัณฑ์ตั้งโชว์เครื่องเงิน เครื่องครัว และอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารของราชวงศ์ Habsburg ราชวงศ์สุดท้ายของออสเตรีย และมีเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของ Sisi หรือจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งออสเตรียตั้งโชว์เป็นระยะๆ

ของชิ้นนี้ ถ้าจำไม่ผิดคือเครื่องบดกระดูกเป็ด เพื่อให้ของเหลวในกระดูกไหลออกมา ใช้ในครัวค่ะ

Imperial Apartments

เป็นที่พำนักของจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งออสเตรียและจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย

เดินดูได้เรื่อยๆ แต่ไม่ได้ว้าวมาก จึงไม่ได้ถ่ายรูปมา

Sisi Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าประวัติความเป็นมา จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ของที่ตั้งโชว์ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า (ที่เอวคอดกิ่วมากก) ถ้าจำไม่ผิด ที่นี่จะห้ามถ่ายรูปค่ะ เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา

ระหว่างที่เราเข้า 2 แห่งแรก ก็เห็นแต่คำว่า Sisi เต็มไปมหด จนสงสัยว่า คนๆ นี้คือใครกันนะ ทำคุณประโยชน์อะไรให้ประเทศเหรอ ในพิพิธภัณฑ์ถึงมีแต่ชื่อและเรื่องราวของคนๆ นี้เต็มไปหมด ถึงขนาดมีพิพิธภัณฑ์เล่าชีวิตความเป็นมา และจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของเธอโดยเฉพาะ!

พอเราหาข้อมูลดูจึงรู้ว่า Sisi เป็นชื่อเล่นของจักรพรรดินีเอลิซาเบธ จักรพรรดินีองค์สุดท้ายแห่งออสเตรีย ขึ้นชื่อเรื่องความสวยมาก ปกติมักจะอยู่แต่ในพระราชวังไม่ได้ไปไหน เพราะฉะนั้นเมื่อออกจากพระราชวัง จะมีประชาชนแห่ตามมาดูความสวยทุกครั้ง...ในใจเราคือ ห๊ะ นี่คือเหตุผลที่พิพิธภัณฑ์นี้พูดถึงแต่ Sisi ง้นเหรอ เอิ่มม แล้วเราก็เดินชมพิพิธภัณฑ์ที่เหลือต่อไปอย่างงงๆ ค่ะ

รูปวาดของ Sisi จากกูเกิ้ลค่ะ


2.Museum of Natural History

ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เราชอบมากที่สุดใน 4 แห่งนี้แล้วค่ะ ค่าบัตร 14 EU ตอนแรกก็ลังเลว่าเข้าดีไหม กลัวไม่คุ้มค่าบัตร แต่พอได้เข้าไปจริงๆ คือ คุ้มค่ามากจ้า

ชื่อพิพิธภัณฑ์บอกไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับธรรมชาติ เพราะฉะนั้น ในนี้จะตั้งโชว์ตั้งแต่ แร่หลากหลายชนิด หลากหลายแบบ รวมไปถึงหินอุกกาบาตที่ตกลงมาในออสเตรียด้วย ถัดจากโซนแร่ก็จะเป็นโซนกำเนิดโลก แต่โซนที่เราชอบมากที่สุดคือโซนฟอสซิลลลล เราเคยได้เห็นฟอสซิลมาบ้างแล้วในไทย ทั้งที่สตูล และทางอีสาน แต่บอกเลยว่า ที่นี่มีเยอะมากกกกกกกกกกกก มากถึงมากที่สุด มีฟอสซิลหลายแบบมาก เดินดูจนอิ่มเลยค่ะ หลังจากนี้จะไม่ไปตามล่าฟอสซิลที่ไหนอีกแล้ว พอออออ

ส่วนหนึ่งของแร่และหินที่นำมาจัดแสดง มีประมาณ 2-3 ห้องใหญ่ เราได้แต่เดินผ่าน เพราะแทบจะไม่รู้จักอะไรเลย 

Iron flower เข้าใจว่าเป็นเหล็กชนิดหนึ่งค่ะ

อันล่างนี่คือชอบมากก ยืนดูอยุ่ตั้งนานว่ามันคืออะไรบ้าง

ห้องฟอสซิลก็มีหลายห้องไม่แพ้กัน ว้าวมากกก

ให้ทายว่ารูปล่างนี่คือฟอสซิลอะไร....มันคือฟอสซิลรอยเท้าของแมงดาค่ะ 


นอกจากนี้ก็มีโซนวิวัฒนาการของมนุษย์ และสัตว์สตาฟต่างๆ แบ่งเป็นโซนๆ ทั้งนก สัตว์น้ำ สัตว์บก บลาๆๆๆ

พิพิธภัณฆ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Hofburg palace ระหว่างเดินจะได้เห็นความเป็นวังบ้างในบางช่วง

3.Schonbrunn palace

ถ้่าจำไม่ผิด ที่นี่ไม่ให้ถ่ายรูปข้างใน เราจึงไม่ได้ถ่ายมาค่ะ

ใครที่มีเวลาจำกัด แล้วต้องเลือกระหว่าง 2 พระราชวังนี้ เราแนะนำให้มาที่พระราชวังนี้พอค่ะ เราว่ามันคุ้มกว่า การประดับตกแต่งในแต่ละห้องอาจไม่ได้หวือหวามากเท่าพระราชวังที่รัสเซีย แต่เราชอบความอาร์ทในการตกแต่งห้องแต่ละห้องของที่นี่มาก

4.Imperial Furniture Collection

ถ้าให้รีวิวอย่างตรงไปตรงมาคือ สมกับเป็นตั๋วแถมค่ะ แบบซ้อตั๋ว 2 ใบ แถม 1 ใบ งี้ ในความเห็นเราคือไม่ค่อยมีอะไรว้าวๆ ให้ดูมากนัก ข้าวของเด่นๆ ส่วนใหญ่ของที่ยังคงเกี่ยวข้องกับ Sisi เหมือนเคยค่ะ ด้วยความที่ไม่ได้ประทับใจ และกำลังปวดหัวเพราะใส่หน้ากากเดินในพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เปิดแอร์ ไม่ได้ระบายกาศ ทำให้มึนและปวดหัวตุบมาตั้งแต่ Schonbrunn palace แฃ่ง เราเลยรีบดูรีบกลับไม่ได้ถ่ายมาเลยสักรูป

ตอนต่อไปจะย้ายสำมะโนครัวไปรีวิวที่คราคุฟ โปแลนด์แทนแล้วนะค่า

รีวิวทั้งหมดในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอนค่า

1 การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2 เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994
3 เดย์ทริป Wachau Valley และ Melk Abbey UNESCO 2 แห่งระหว่างเมือง Melk Dürnstein และ Krems https://th.readme.me/p/39997
4 เดย์ทริปไป Budapest เยี่ยมชม Buda castle และโรงพยาบาลใต้ดิน Hospital in the Rock Nuclear Bunker Museum https://th.readme.me/p/39998
5 เดย์ทริปไป Kutna Hora แวะชม Sedlec Ossuary โบสถ์โครงกระดูกอันโด่งดัง กับประสบการณ์ตกรถไฟคนเดียวที่เช็ก! https://th.readme.me/p/40003
6 สองวันในเวียนนา ลัลล้าใน Museum of natural history และ ทำความรู้จักกับ Sisi ใน Hofburg palace และ Schonbrunn palace https://th.readme.me/p/40004
7 ยินดีต้อนรับสู่เมืองคราคุฟ เมืองที่ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวยิว เยี่ยมชม Oskar Schindler's Enamel Factory Rynek Underground ใน Kraków โปแลนด์ https://th.readme.me/p/40102
8 ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์แห่งความตาย Auschwitz and Birkenau concentration camps และเหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine https://th.readme.me/p/40103
9 เดย์ทริปไป ปราสาทมาลบอร์ก UNESCO ปราสาทยุคกลางที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก Malbork castle Poland https://th.readme.me/p/40104
10 2 วันในวอร์ซอ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิวที Polin Museum และเดินเล่นที่ Łazienki Park https://th.readme.me/p/40105

Duck's journey

 วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 20.25 น.

ความคิดเห็น