ตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้แล้วค่ะ เราเที่ยวในวอร์ซอประมาณ 2 วัน แพลนค่อนข้างโล่ง เพราะที่เที่ยวในวอร์ซอไม่ใช่สไตล์เราเท่าไหร่

สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้าสามารถไปตำกันที่ลิ้งก์นี้ได้เลยค่ะ https://th.readme.me/p/39977

ส่วนลิ้งก์ตอนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะแปะไว้ท้ายบทความนะคะ

สำหรับใครที่จะบินกลับจากวอร์ซอ และต้องการแลกเงินโปแลนด์คืน เราแลกกับร้านใกล้ๆ Royal route จำไม่ได้แล้วว่าชื่อร้านอะไร แต่เราลองดูรีวิวในกูเกิ้ลแล้วว่าค่อนข้างดี แถมยังเปิดวันอาทิตย์ด้วย รับทั้งเหรียญและแบงก์ 

ซุปเปอร์มาเก็ต

ใครต้องการซื้อของ แนะนำให้แวะมาที่ซุปเปอร์มาเก็ต Biedronka ค่ะ สินค้าชิ้นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่ถ้าซื้อที่นี่จะราคาถูกกว่าซื้อซุปเปอร์อื่น


ที่เที่ยว

ในช่วงเวลา 2 วัน เราแวะไปประมาณ 6 ที่ค่ะ เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเป็นหลัก ใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านการเดินทาง สามารถคลิกไปอ่านตอนแรกตามลิ้งค์ด้านบนได้เลยนะคะ

1..Polin museum

คือพิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึงชนชาติยิวนับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ตรงจุดที่เคยเป็นใจกลางกร็อตโตของวอร์ซอร์ วอร์ซอร์เสียหายยับเยินเมื่ิอสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านเมืองปัจจุบันคือถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากนั้น

พิพิธภัณฑ์นี้ถือว่างานดีมาก สังเกตได้เลยว่าพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์จะค่อนข้างไฮโซ ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยเยอะมาก แปลกตาไปอีกแบบ ข้อมูลในนี้คือเยอะมาก มีตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของศาสนายิว ชาวยิว ประวัติชาวยิวคนสำคัญ วัฒนธรรม เหตุการณืต่างๆ ที่เกิดขั้นกับชาวยิวในยุคสมัยต่างๆ มาจนถึงสมัยปัจจุบัน 

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตอบคำถามที่เราสงสัยมานานแล้ว แต่หาคำตอบในเน็ตยังไงก็หาไม่เจอสักที จนมาเจอโดยบังเอิญที่นี่

คำถามนั้นคือ ทำไมภาพยนตร์แทบทุกเรื่องเกี่ยวกับชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงเกิดในโปแลนด์ และทำไมต้องเป็นที่โปแลนด์ ทั้งที่มีชาวยิวอยู่ทั่วทั้งยุโรป

คำตอบของมันต้องเท้าความไปในอดีตอันแสนไกลโพ้นค่ะ (เว่อร์ไป)

1.ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อชาวคริสต์ปฏิเสธชาวยิว 2 ศาสนานี้เหมือนจะแตกออกมาจากศาสนาเดียวกัน ตำนานบางเรื่องจะขัดแย้งกันเอง การยอมรับศาสนาของยิว เท่ากับยอมรับเรื่องราวทางศาสนาที่บิดเบือนจากความเชื่อของชาวคริสต์ ประเทศต่างๆ ในยุโรป จึงออกกฎให้ โบสถ์ของชาวยิวต้องแยกออกมาจากชาวคริสต์ ใช้ร่วมกันไม่ได้อีกต่อไป - ยกเว้นโปแลนด์

2.กษัตริย์โปแลนด์คนหนึ่ง เคยมีสนมที่รักมากเป็นหญิงชาวยิว จึงสนับสนุนชาวยิว ค่อนข้างเอื้อเรื่องความเท่าเทียมมากกว่าประเทศอื่นในยุโรป

3.ชาวยิวทำมาค้าขายเก่ง กลายเปึนคนรวย จ่ายภาษี+ช่วยเงินตอนขึ้นครองราชย์ก้อนใหญ่ให้กษัตริย์โปแลนด์

4.ประเทศอื่นๆ ค่อนข้างปิดกั้นการย้ายไปอาศัยอยู่ของชาวยิว ถ้าจะย้ายไป ต้องมีงานทำแน่นอน มั่นคงเท่านั้น ถึงจะย้ายไปได้ บางส่วนก็ทนไม่ไหว หนีมาตั้งรกรากในโปแลนด์เลยก็มี

5.นานๆ ไปโปแลนด์จึงเป็นประเทศที่มีชาวยิวมากที่สุด

(อันนี้อ่านจากที่อื่นมา) หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมันแพ้สงคราม เศรษฐกิจตกต่ำ อีท่าไหนไม่รู้ ชาวเยอรมันในสมัยนั้นก็โบ้ยว่า เพราะชาวยิวชนชั้นร่ำรวยนี่แหละ ทำให้ชนชาติยอรมันอันยิ่งใหญ่ย่ำแย่ จึงต้องกำจัดชาวยิวให้หมด

6.พอนาซีบุก ในฐานะที่ประชากรชาวยิวเกือบทั้งหมดอยู่ในโปแลนด์ ค่ายกักกัน Auchwitz ที่ใหญ่ที่สุดจึงถูกตั้งขึ้นที่โปแลนด์ (สามารถอ่านตอนก่อนหน้าได้ค่ะ)

7.ช่วงสงครามโลก มีชาวยิวตายไปประมาณ 6 ล้านคน 3 ล้านคนในนั้นอาศัยอยู่ในโปแลนด์ (ถือเป็น 90% ของชาวยิวในโปแลนด์ทั้งหมด)

ช่วงสงคราม เพื่อช่วยเหลือชาวยิว ประเทศที่เป็นกลางได้เสนอตัวออกพาสปอร์ตให้ชาวยิว จึงมีการซื้อขายพาสปอร์ตปลอมกันลับ เพื่อจะได้หนีออกนอกประเทศไป บางส่วนก็หนีได้ บางส่วนก็ถูกจับและส่งไปค่ายกักกัน ชาวยิวบางคนก็หนีเข้าไปอยู่ในป่าเลยก็มี

2..Royal route

เป็นถนนที่มีอดีตวังและร้านค้ามากมายตั้งอยู่ คล้ายๆ กับเป็นสยามบ้านเรา ใครที่ชอบดูบ้านเมืองตะวันตกเก่าๆ สามารถมาเดินเล่นที่นี่ได้

3..Warsaw Barbican อยู่ตรง Royal route เป็นป้อมปราการเก่า สามารถเดินตามแนวป้อมได้ เอาจริงๆ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เดินไปดูของแปลกๆ เฉยๆ ค่ะ

4..Warsaw zoo แต่ถ้าเราหาในกูเกิ้ลแมปด้วยชื่อนี้ จะหาสวนสัตว์นี้ไม่เจอนะคะ ต้องหาด้วยชื่อว่า City Zoological Garden in Warsaw

ที่นี่สำคัญยังไงเหรอ ที่นี่มีบ้านพักของซาบินสกีอยู่ (Żabińskich Villa) ครอบครัว Żabińskich ดูแลสวนสัตว์นี้ในช่วงนาซีเข้ายึดครอง สวนสัตว์นี้อยู่ห่างจาก Gretto ของวอร์ซอแค่ประมาณ 2 กม. สิ่งที่พวกเขาทำคือ ลักลอบพาชาวยิวใน Gretto หนีไป ซึ่งถือว่าเป็นการเสี่ยงมากในสมัยนั้น หากถูกจับได้ โทษที่พวกเขาจะได้รับคือประหารทั้งครบอครัว เรื่องราวของพวกเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Zoo keeper’s wife

Żabińskich Villa เป็นอาคารเดียวในวอร์ซอที่เหลือรอดจากสงคราม ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมได้แต่ต้องนัดหมายล่วงหน้าทางโทรศัพท์หรือทางอีเมล ค่าใช้จ่ายคือค่าเข้าสวนสัตว์ และค่าไกด์ รวมกันประมาณ 25 Zloty แต่ตอนนั้นเรายังไม่แน่ใจว่าจะติดโควิดก่อนบินกลับหรือเปล่า เลยไม่ได้นัดล่วงหน้าค่ะ เลยแค่เดินไปดูข้างหน้าสวนสัตว์แล้วเดินกลับไปเฉยๆ


5..Cathedral of St. Michael the Archangel and St. Florian the Martyr
– เป็นโบสถ์ที่อยู่ใกล้ๆ กับสวนสัตว์ สามารถเข้าไปชมได้ค่ะ

6.Łazienki Park เป็นสวนสาธารณะที่อยู่ติดกับ พระราชวัง Łazienki สวนสาธารณะเข้าฟรี แต่ถ้าจะเข้าวังหรืออาคารอื่นๆ ต้องเสียบัตรผ่านประตูค่ะ เราแค่รอเวลาบินกลับ เลยไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ถึงจะเรียกว่าสวนสาธารณะ แต่ที่นี่กลับมีนกยูง และหงส์เดินเล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่กลัวคนเลยค่ะ โดยรวมแล้วคือเหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

รีวิวทั้งหมดในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอนค่า

1 การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2 เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994
3 เดย์ทริป Wachau Valley และ Melk Abbey UNESCO 2 แห่งระหว่างเมือง Melk Dürnstein และ Krems https://th.readme.me/p/39997
4 เดย์ทริปไป Budapest เยี่ยมชม Buda castle และโรงพยาบาลใต้ดิน Hospital in the Rock Nuclear Bunker Museum https://th.readme.me/p/39998
5 เดย์ทริปไป Kutna Hora แวะชม Sedlec Ossuary โบสถ์โครงกระดูกอันโด่งดัง กับประสบการณ์ตกรถไฟคนเดียวที่เช็ก! https://th.readme.me/p/40003
6 สองวันในเวียนนา ลัลล้าใน Museum of natural history และ ทำความรู้จักกับ Sisi ใน Hofburg palace และ Schonbrunn palace https://th.readme.me/p/40004
7 ยินดีต้อนรับสู่เมืองคราคุฟ เมืองที่ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวยิว เยี่ยมชม Oskar Schindler's Enamel Factory Rynek Underground ใน Kraków โปแลนด์ https://th.readme.me/p/40102
8 ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์แห่งความตาย Auschwitz and Birkenau concentration camps และเหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine https://th.readme.me/p/40103
9 เดย์ทริปไป ปราสาทมาลบอร์ก UNESCO ปราสาทยุคกลางที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก Malbork castle Poland https://th.readme.me/p/40104
10 2 วันในวอร์ซอ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิวที Polin Museum และเดินเล่นที่ Łazienki Park https://th.readme.me/p/40105

Duck's journey

 วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.33 น.

ความคิดเห็น