สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้าสามารถไปตำกันที่ลิ้งก์นี้ได้เลยค่ะ

1. การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2. เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994

ตอนที่ 3 นี้จะเป็นรายละเอียดและรีวิวการไปเที่ยว Wachau Valley แบบเช้าไปเย็นกลับจากเวียนนาค่ะ

Wachau Valley เป็นเส้นทาง (ที่เขาว่ากันว่าสวย) ระหว่าง เมือง Melk และเมือง Krems ที่ติด UNESCO บริเวณนี้จะมีไร่องุ่นและไวน์องุ่นท้องถิ่นเป็นของฝาก แต่ตอนที่ไปเป็นช่วงหน้าหนาว บรรยากาศมันก็จะเหงาๆ หน่อยๆ เลยไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรมากมายค่ะ

วิวระหว่างนั่งรถบัสบนเส้น Wachau Valley

แพลนเที่ยวในวันนี้ของเราคือ

1. นั่งรถไฟจากเวียนนาไปเมือง Melk

2. Melk Memorial –ค่ายกักกันนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้

3. Melk Abbey

4. Burgruine Dürnstein

5. นั่งรถไฟจาก Krems กลับไปเวียนนา

Melk Abbey

การเดินทาง

-การเดินทางจากเวียนนา

นั่งรถไฟจากเวียนนามาประมาณชั่วโมงเดียวมาลงที่ Melk หรือ Krems  ใครที่ต้องการจองรถไฟมาหรือกลับจาก Krems ชื่อเต็มของเมือง Krems คือ Krems an der Donau ดังนั้น เวลาซื้อตั๋ว เราต้องพิมพ์ชื่อ Krems an der Donau หรือ Krems/Donau นะคะ หากพิมพ์แค่ Krems เฉยๆ เราอาจได้ไปเที่ยวเล่นที่เมืองอื่นแทนค่ะ

หากเราต้องการชม Wachau Valley และไป Burgruine Dürnstein เราสามารถนั่งรถไฟมาลงที่ Melk แล้วกลับจาก Krems หรือจะสลับกันก็ได้ แต่ถ้าเราต้องการเที่ยวแค่เมืองใดเมืองหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟไปกลับคนละเมือง

เราจองรถไฟกับ ÖBB ล่วงหน้าค่ะ (รายละเอียดและวิธีการจองสามารถดูได้ในตอนที่ 1) ค่ารถไฟเที่ยวละ 9.9 EU หรือประมาณ 380 บาท

-การเดินทางจากเมืองหนึ่งไปเมืองหนึ่งใน Wachau Valley

ระหว่าง Melk และ Krems จะมีรถบัส VOR วิ่งไปกลับอยู่ค่ะ ช่วงที่เราไป รถจะออกชั่วโมงละคัน รถบัสมีตารางเวลาออกที่แน่นอน และค่อนข้างตรง สามารถเช็กตารางเวลา และราคาได้จากเว็ปไซต์ www.vor.at นี้เลยค่ะ ในหน้าแรกจะยังเปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษไม่ได้ แต่จะกดเปลี่ยนภาษาได้ในหน้าค้นหาเที่ยวรถค่ะ

รูปแคปหน้าจอนี้สามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่เราไม่ได้เปลี่ยน เพราะแค่ดูข้อมูลนิดหน่อยเองค่ะ

รถบัสสายที่เรานั่งคือสาย 715 ระหว่างทางจะมีเมืองเล็กเมืองน้อยหลายเมืองสามารถแวะเที่ยวได้ถ้ามีเวลา แต่เราต้องการแวะเที่ยวที่เมือง Dürnstein เมืองเดียวเท่านั้น ค่ารถจาก Melk-Dürnstein และ Dürnstein-Krems อยู่ที่ 8.6 และ 2.5 EU ตามลำดับค่ะ จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง รูดบัตรไม่ได้จ้า

รอบรถเมล์จะอิงกับรอบรถไฟที่จะผ่านเมืองต่างๆ และป้ายรถเมล์ของ Melk และ Krems จอยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย ไม่มีหลงแน่นอนค่ะ

รถเมล์ และป้ายรถเมล์ที่ Melk 

ป้ายรถเมล์ที่ Dürnstein คิดว่า...มีอยู่ป้ายเดียวทั้งเมือง 55


เมืองไหนเป็นยังไงบ้าง

ระหว่าง 3 เมืองที่เราไปคือ Melk Dürnstein และ Krems เราชอบเมือง Dürnstein มากที่สุด รองลงมาคือ Melk

ถ้าเรียงลำดับความโบราณของเมือง เราจะเรียงลำดับจากโบราณมากไปน้อยตามนี้ Dürnstein –  Melk – Krems

Dürnstein - สไตล์บ้านเรือจะออกยุคกลางหน่อยๆ มีบ้านหิน ประปราย

รูปบ้านเมืองใน Dürnstein

วิวริมแม่น้ำดานูบ

Melk - ทันสมัยขึ้นมาอีกนิ๊ด ระหว่างทางจะมีป้ายความรู้บอกประวัติความเป็นมาของอาคารแต่ละจุดประปราย

ถ้าจำไม่ผิด อาคารนี้อยู่ตรงท่าเรือเก่า จึงมักจถูกน้ำท่วมอยู่าบ่อยๆ ตรงกำแพงจะมีเส้นขีดไว้ว่า น้ำท่วมสูงแค่ไหนในแต่ละปี

Krems -  ที่เที่ยวของเมืองนี้ไม่ค่อยใช่แนวเรา  เราเลยไม่ได้ไปไหน แค่รอเวลาอยู่ในสถานีรถไฟเท่านั้นค่ะ


สถานที่เที่ยว

1.Melk Memorial

เป็นค่ายกักกันนาซีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Mauthausen museum (ค่ายกักกันอีกแห่งหนึ่ง อยู่ในเมือง Linz สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ฟรี แต่นักโทษส่วนใหญ๋ของที่นี่จะเป็นนักโทษทางการเมืองมากกว่า) การจะเข้าไปชมข้างในได้ เราต้องเอาพาสปอร์ตไปแลกกุญแจจากป้อมยามที่อยู่ไม่ไกลก่อน แต่วันนั้นเราถึงเช้าไปหน่อย ประตูเข้าป้อมยามเลยยังไม่เปิด เราเลยตัดใจเดินกลับ ไม่ได้เข้าไปข้างใน

อุตส่าห์เดินมาตั้งไกล ปรากฎเข้าไม่ได้เฉยๆ ป้ายหน้าประตูบอกให้ไปเอากุญแจ เอาได้ตลอด 24 ชม.

แต่พอเดินมาถึงปุ๊บ ประตูปิดอยู่อ่ะ แถมไม่มีใครโผล่หน้าออกมาเลย จบข่าว 55

2.Melk Abbey

เป็นวิหารแบบบาโรกที่สร้างมาประมาณ 300 ปีแล้ว ในหน้าหนาวจะเข้าชมได้แบบกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น  บริเวณใกล้เคียงกันจะมีจุดชมวิวและสวน Melk อยู่ (ปิดในหน้าหนาวเช่นกัน)

เราไปเพราะเห็นว่าหลายคนรีวิวว่าดี สวย และเข้าใจว่า ถ้าไม่เข้าไปพร้อมทัวร์ ก็จะเข้าไปดูอะไรข้างในไม่ได้เลย ปรากฎว่าคิดผิดถนัด! ห้องสวดไฮไลท์ของที่นี่ ต่อให้ไม่ได้ซื้อบัตรก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ฟรีค่ะ เพราะเป็นห้องที่ชาวคริศต์เขามาอธิษฐานกันอยู่แล้ว

พอได้เห็นห้องสวดแล้ว เราก็เริ่มเอะใจว่า แล้วเราจะจ่ายเงินค่าทัวร์เพื่ออะไรกันหว่า แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่า ข้างในคงมีอะไรให้ดูมากกว่านี้แหละ(มั้ง) ใจคืออยากเข้าไปชมพวกการตกแต่ง ความสวยงามของแต่ละห้องงี้ แต่พอเอาเข้าจริง มันคล้ายเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์โชว์ของโบราณค่ะ ห้องที่เข้าไปเกือบทั้งหมดถูกปรับเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่มีเค้าเดิม แต่บางห้อง ไกด์เล่าว่าเป็นห้องโล่งมาตั้งแต่แรกแล้ว ข้าวของถูกขโมยไปหมด 

ห้องที่เป็นไฮไลท์หน่อยคือห้องสมุดโบราณ 2 ชั้นที่ปัจจุบันยังใช้งานอยู่ แต่ต้องมีเอกสารขออนุญาตเข้ามาใช้งาน กับห้องสวดมนต์ที่เราเห็นในตอนแรก แต่รอบนี้จะได้เข้ามาจากทางอื่น และมองเห็นทุกอย่างชัดเจนกว่ามองจากข้างนอก นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ ส่วนตัวแอบเสียดายเงินนิดๆ 

ราคาค่าเข้าแบบทัวร์ คนละ 16 EU ต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านทางอีเมล์ แล้วมาจ่ายเงินซื้อบัตรหน้างาน ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ห้ามถ่ายรูปข้างใน

ก่อนเริ่มทัวร์จะมีล็อกเกอร์ให้ฝากกระเป่าฟรี แต่ต้องหยอดเหรียญ 1 EU ลงไปก่อนถึงจะดึงกุญแจออกได้ และจะได้เงินนี้คืนเมื่อมาเปิดตู้

เขาห้ามถ่ายรูปข้างใน เลยได้แต่ถ่ายข้างนอกอ่ะจ้า

ทัวร์พาเดินออกมาตรงระเบียงทางเชื่อมสองตึก

วิวก็โอเคอยู่ แต่ไม่ได้ว้าวมาก

3.Burgruine Dürnstein

Dürnstein เป็นเมืองเล็กๆ สไตล์โบราณๆ ที่อยู่บนเส้นทางของ Wachau Valley สถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนมากันคือ Burgruine Dürnstein ซากปราสาทบนยอดเขา ระยะทางไปถึงยอดเขาไม่ถึง 1 กม. ใครที่มา แนะนำให้ใส่รองเท้าเดินป่า หรือปีนเขา ทางเดินมีหินเป็นส่วนใหญ่ 

ปราสาทนี้เคยเป็นที่คุมขังพระเจ้าริชาร์ดที่ 1 ของอังกฤษ (Richard the Lionheart) ก่อนที่เขาจะกลับประเทศได้ด้วยเงินค่าไถ่จำนวนมหาศาล

ตรงจุดนี้จะมีคนปีนขึ้นปีนลงตลอดทาง ข้างบนลมแรงมากกก ถึงเราจะใส่เสื้อหนาวกันลมอยู่ แต่ตัวก็แทบปลิวไปเลยเหมือนกัน ที่นี่มีเส้นทางเดินเทรกกิ้งหลายเส้นมาก บางเส้นก็ยิงยาวไปเมืองถัดไปเลย ใครที่ชอบเทรกกิ้งและมีเวลา แนะนำให้แบ็กแพ็กมาที่นี่เลยค่ะ 

วิวจากปราสาท

ทางเดินต่อไปยังเมืองถัดไป เห็นอยู่ลิบๆ 

ขอจบตอนนี้ด้วยวิวพาโนราม่าค่าะ

รีวิวทั้งหมดในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอนค่า

1 การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2 เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994
3 เดย์ทริป Wachau Valley และ Melk Abbey UNESCO 2 แห่งระหว่างเมือง Melk Dürnstein และ Krems https://th.readme.me/p/39997
4 เดย์ทริปไป Budapest เยี่ยมชม Buda castle และโรงพยาบาลใต้ดิน Hospital in the Rock Nuclear Bunker Museum https://th.readme.me/p/39998
5 เดย์ทริปไป Kutna Hora แวะชม Sedlec Ossuary โบสถ์โครงกระดูกอันโด่งดัง กับประสบการณ์ตกรถไฟคนเดียวที่เช็ก! https://th.readme.me/p/40003
6 สองวันในเวียนนา ลัลล้าใน Museum of natural history และ ทำความรู้จักกับ Sisi ใน Hofburg palace และ Schonbrunn palace https://th.readme.me/p/40004
7 ยินดีต้อนรับสู่เมืองคราคุฟ เมืองที่ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวยิว เยี่ยมชม Oskar Schindler's Enamel Factory Rynek Underground ใน Kraków โปแลนด์ https://th.readme.me/p/40102
8 ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์แห่งความตาย Auschwitz and Birkenau concentration camps และเหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine https://th.readme.me/p/40103
9 เดย์ทริปไป ปราสาทมาลบอร์ก UNESCO ปราสาทยุคกลางที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก Malbork castle Poland https://th.readme.me/p/40104
10 2 วันในวอร์ซอ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิวที Polin Museum และเดินเล่นที่ Łazienki Park https://th.readme.me/p/40105

Duck's journey

 วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 17.41 น.

ความคิดเห็น