สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้าสามารถไปตำกันที่ลิ้งก์นี้ได้เลยค่ะ https://th.readme.me/p/39977

แพลนเที่ยวของเราในวันนี้คือ

  1. เดินทางด้วยรถไฟจากเวียนนา ประเทศออสเตรียไปกลับเมือง Kutna Hora สาธารณรัฐเช็ก
  2. Sedlec Ossuary
  3. The Assumption of Our Lady
  4. Cathedral of St. Barbara
  5. นั่งรถไฟกลับเวียนนา

หมายเหตุ จริงๆ เราอยากชม Silver mine tour ที่เมืองนี้ด้วย แต่เขาปิดช่วงหน้าหนาว จะเปิดอีกทีเดือนเมษา เลยอดไป

การเดินทาง

หากเดินทางด้วยรถไฟจากเวียนนา จะต้องซื้อตั๋วรถไฟ 2 ใบ รถไฟจากเวียนนาจะไปไม่ถึง Kutna Hora แต่จะไปสิ้นสุดที่ Kolin เท่านั้น จากนั้นเราต้องนั่งรถไฟหรือรถบัสจาก Kolin ต่อไปที่ Kutna Hora แต่เราเลือกนั่งรถไฟไป เพราะรถบัสจะใช้เวลาเดินทางนานกว่า และเราไม่รู้ราคารถบัสค่ะ 55

นอกจากเมือง Kolin ยังมีเมืองอื่นๆ ให้เลือกต่อรถไฟอีก แต่เที่ยวรถไฟ และรถบัสไป Kutna Hora จะน้อยกว่าเมือง Kolin

ค่าตั๋วรถไฟ ÖBB จาก Vienna – Kolin ขาละ 14.9 EU ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง

ค่าตั๋วรถไฟ Kolin – Kutna Hora ราคาขาละ 28 CZK หรือประมาณ 45 บาท ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ถ้าจองตั๋วออนไลน์ผ่านเว็ปคนกลาง จะโดนที่ขาละ 8 EU กว่าๆ หรือประมาณ 300 บาท โดนฟันไปจุกๆ เลยจ้า ดีนะ ที่เราตัดสินใจมาซื้อหน้างาน

เบ็ดเสร็จแล้ว จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชม.ค่ะ ค่อนข้างจะเดินทางนานอยู่ แต่เราไม่มีทางเลือก เพราะในเช็กเราอยากมาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น เลยยอมมม

เมื่อนั่งรถไฟมาถึง Kolin แล้ว เราก็เดินไปถามเคาเตอร์ขายตั๋วรถไฟสายของสาธารณรัฐเช็ก พิมพ์ชื่อเมืองลงมือถือให้เขาดูว่าจะไปที่นี่นะ เจ้าหน้าที่พูดอังกฤษไม่ได้ ก็แบบ โอเคๆ พอถามว่าราคาเท่าไหร่ออกกี่โมง แกก็ยกนิ้วโป้งให้ถามว่า โอเค๊ เอ๊า โอเคก็โอเค 55 แต่เราดูตารางเวลาในกูเกิ้ลมาก่อนแล้ว เห็นอยู่แล้วกว่ารถไฟรอบต่อไปจะออกประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง เลยไม่ได้อะไรมาก

แต่บนตั๋วระบุแต่วันที่อ่ะจ้า งงเลย แล้วไอ้ที่ซื้อมารถไฟมากี่โมง ชานชาลาไหนอ่ะ ถึงจะดูรอบรถไฟมาแล้วก็อยากรู้เวลาที่แน่นอนชัวร์ๆ นะ เลยต้องใช้อากู๋แปลภาษาไปถามเขาต่อ เขาถึงให้ใบสีขาว + เขียนชานชาลารถไฟให้

สถานีรถไฟ Kutna Hora ตอนแรกเกือบไม่ได้ลงเพราะไม่รู้ว่าถึงแล้ว ดีที่ดูกูเกิ้ลแมปไปด้วย เลยยื่นหน้่าไปถามเจ้าหน้าที่ว่า ใช่สถานีนีไหม พอเขาตอบว่าใช่ก็รีบลงเลยจ้า

สถานีรถไฟด้านนอก

ป้ายรถบัสจะอยู่หน้าสถานีเลย รถบัสคันนี้เหมือนจะเป็นรถบัส Kolin - Kutna Hora

และตามเคย เราเลือกที่จะเดินเท้าไปโน่นมานี่ ไม่ได้นั่งรถเมล์ค่ะ ระหว่างทางจึงได้ถ่ายรูปในเมืองมาบ้างประปราย เมืองนี้เป็นเมืองที่เราชอบมาก เมืองเล็กๆ ได้บรรยากาศชานเมือง ตึกรามบ้านช่องก็สวยในระดับหนี่ง

ถังขยะสำหรับทิ้งอึหมา พร้อมกับถุงใส่ให้ด้วยจ้า เตรียมพร้อมมากก


ที่เที่ยว

1.Sedlec Ossuary (UNESCO)

เป็นโบสถ์สมัยโบราณ เคยกินอาณาบริเวณกว้างขวางจนฝังคนที่ตายจากโรคระบาดประมาณ 3 หมื่นคน และคนที่ตายจากสงครามอีกประมาณ 1 หมื่นคนได้ ภายหลังโบสถ์มีพื้นที่เล็กลง โครงกระดูกถูกย้ายลงไปใต้ดิน ช่วงศตวรรษที่ 18 มีนักบวชนำกระดูกมาเรียงกันเป็นพีระมิด และมีการนำตกแต่งโบสถ์ด้วยกระดูกในภายหลัง

พีระมิดบางส่วนเริ่มเสียหายจากน้ำหนักกระดูก และพื้นดินที่ทรุดตัว กระดูกฐานด้านล่างเริ่มแตก เอียง ทางโบสถ์กำลังพยายามบูรณะพีระมิดให้กลับมาเหมือนเดิมมากที่่สุด

โบสถ์ค่อนข้างเล็กกว่าที่คิดเยอะ เดินแปปเดียวก็ครบแล้ว โครงกระดูกที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นหัวกะโหลก

เนื่องจากเขาห้ามถ่ายรูปข้างในแล้ว ใครที่สนใจสามารถหาดูรูปจากกูเกิ้ลได้เลยนะคะ

ภาพด้านนอก รอบด้านคือเต็มไปด้วยสุสานจ้า

พีกสุดคือ ของฝากกกกกกก ใครได้ไปคงดีใจแยยย่


2.The Assumption of Our Lady (UNESCO)

ตั้งอยู่ตรงข้ามโบสถ์หัวกะโหลก ใช้บัตรเข้าชมใบเดียวกันได้ ข้างในไม่มีมาก เดินได้ 2 ชั้นค่ะ


3.Cathedral of St. Barbara

อยู่ห่าง 2 ที่แรกไปประมาณ 3 กม. เราดูภาพข้างในแล้วรู้สึกไม่อิน เลยไม่ได้จ่ายเงินเข้าไปชม แต่เดินทอดน่องไปถ่ายรูปด้านนอกแทน เอาจริงๆ นะคะ แค่ได้ไปถ่ายรูปด้านนอกก็คุ้มค่าแล้วล่ะ


ค่าเข้า

ตั๋วจะมีให้เลอืก 2 แบบ คือตั๋วรวมค่าเข้าแบบ 3 หรือ 2 แห่ง (Sedlec Ossuary และ The Assumption of Our Lady เท่านั้น) สามารถซื้อออนไลน์ หรือมาซ์้อที่จุดขายตั๋ซได้

จุดขายตั๋วจะเป็นอาคารขายตั๋วแยกตั้งอยู่ตรงปากซอย ก่อนจะถึง Sedlec Ossuary หรือปักหมุดกูเกิ้ลแมปมาที่อยู่ Zámecká 279 นี้ก็ได้ค่ะ

อาคารนี้ค่ะ

ป้ายราคาตั๋ว ราคาเท่ากันทั้งในเว็ปและหน้างานค่ะ


รีวิวการตกรถไฟ (อ่านได้ แต่ไม่ควรทำตามนะจ๊ะ มันไม่ดีต่อใจเลยยย)

เอาเป็นว่า เมื่อเราเดินเที่ยวจนพอใจ แล้วจึงกะเวลากลับไปที่สถานี Kutna Hora เพื่อนั่งรถไฟกลับ Vienna ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เราไปถึงสถานีรถไฟ Kolin ก่อนเวลารถไฟออกเกือบชั่วโมงในสถานีรถไฟจะมีจุดนั่งรอ และบอร์ดโชว์ตารางรถไฟพร้อมเลขชานชาลากำกับ ในนี้จะอุ่นๆ แต่เป็นห้องปิดไง เราเลยกังวลโควิด และขอออกไปรอที่ชานชาลาด้านนอกดีกว่า หนาวหน่อย แต่อากาศถ่ายเทแน่นอน แต่รอแล้วรอเล่า รถไฟก็ไม่มา บนป้ายไฟด้านบนก็ไม่ได้ระบุว่าจะมีรถไฟขบวนใหม่เข้ามาจอด อากาศก็หนาว ใจหนึ่งก็คิดว่า เอ๊ะ หรือจะกลับเข้าไปที่สถานีนั่งอุ่นๆ สักพักค่อยออกมาอีกดีไหม แต่ก็แบบ อีกสิบนาทีกว่าๆ รถก็มาแล้วล่ะ เลยนั่งรอต่อไป

ตอนที่รถไฟของชานชาลา 3 ที่อยู่ถัดไปออก เราก็เห็นว่าตรงชานชาลาที่ 4 มีรถไฟสองชั้นจอดอยู่ ในใจก็แบบโอ้วโหหห สองชั้นเลยเหรอ น่านั่งจัง จนกระทั่งรถไฟสองชั้นแล่นออกจากชานชาลา เราก็ก้มหน้าดูเวลา รอบรถไฟเราคือ 17.03 แต่นี่มัน 17.01 แล้ว ทำไมรถถึงยังไม่มาอีกนะ ในใจคิดว่รถไฟคงดีเลย์แน่เลย แล้วเราเลยเปิดแอปรถไฟ ÖBB ในมือถือ แล้วก็ตกใจอย่างแรง

ในแอป ÖBB ขึ้นว่า รถไฟได้ออกจากสถานีไปแล้ว และเวลาที่รถไฟออกจากสถานีคือ 17.01 (ตอนที่ดูล่าสุด มันแจ้งว่าจะดีเลย์ 2 นาที เป็นออกตอน 17.03 เราก็จำว่า รถออกตอน 17.03) แล้วก็มีอีเมลเด้งเข้ามาว่า ชานชาลาถูกเปลี่ยนจาก ชานชาลาที่ 2 เป็น 4 เมื่อประมาณ 7 นาทีก่อนรถไฟออก อ้าวเว้ยเฮ้ย อีรถไฟสองชั้นขบวนเมื่อกี้แน่เลย ตายล่ะหว่า เอาไงต่อเนี่ย

เราเดินกลับไปที่สถานี เที่ยวรถไฟของเราหายไปแล้ว ตอนแรกกะจะถามเจ้าหน้าที่รถไฟว่า สามารถเปลี่ยนไปนั่งขบวนอื่นได้ไหม แต่เคาเตอร์เจ้าหน้าที่ก็ปิดไปแล้วเช่นกัน มีแต่ของรถไฟสายอื่น ถ้าจะติดต่อคอลเซ็นเตอร์ ÖBB  ก็ต้องโทรเท่านั้น แต่เราไม่ได้ซื้อซิมที่ยุโรป และไม่ได้เติมเงินใน Sim2Fly ไว้ด้วย เพราะไม่คิดจะโทรอยู่แล้ว เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟขบวนใหม่ที่จะออกในอีกหนึ่งชม.ให้หลัง จากที่ต้องนั่งกลับ 5 โมงเย็น เลยเป็น 6 โมงเย็น และจะถึงประมาณสามทุ่มครึ่งแทน

ราคาตั๋วใหม่แพงเป็น 2 เท่าของที่เคยซื้อ ตอนซื้อล่วงหน้าเราได้ราคารอบละ 14.9 EU ในขณะที่ตั๋วใบใหม่ ราคา 28.9 EU แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จ้า ชั้นอยากกลับห้องพักแล้ววว

รถไฟเที่ยวที่เราพลาดไป เป็นรถไฟขบวนเดียวน่งยิงยาวไปถึงเวียนนา ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลย แต่ตั๋วใหม่ที่เราซื้อมีการเปลี่ยนขบวนหนึ่งครั้ง เป็นเส้นทางเดียวกับตอนขามา (ชีช้ำไหมล่ะทุกคน จ่ายแพงกว่าไม่พอ ยังเป็นสายต่อขบวนอีกต่างหาก กระซิกๆ)

แต่ความตื่นเต้นยังไม่จบเพียงเท่านี้ หุๆ เรื่องต่อจากนั้นคืออออ

1. ระหว่างรอรถไฟ คราวนี้เราเปิดแอปรถไฟบ่อยๆ เพื่อเช็กดูเผื่อมันจะเปลี่ยนชานชาลากระทันหันแล้วตกรถไฟอีกรอบ ระหว่างนี้เราก็ส่งอีเมลไปร้องเรียนรถไฟ ÖBB พร้อมแนบหลักฐานภาพถ่ายของเราที๋โชว์เลขชานชาลาเก่า และภาพอีเมลแจ้งเปลี่ยนชานชาลาที่ส่งมา 7 นาทีก่อนรถไฟออก - - เพื่อขอเงินค่าตั๋วรถไฟ 28.9 EU คือฃน ด้วยเหตุผลที่ว่า มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เราที่ปิดเน็ตไปจึงไม่รู้ และไม่ได้ยินว่ามีการประกาศใดๆ เลย (หรือเราอาจจะไม่ได้ยินก็ได้) ดังนั้น มันไม่น่าใช่ความผิดของเรา และเราไม่ควรจ่ายเงินค่าตั๋วใบใหม่นี้ จึงขอเงินค่าตั๋วใบใหม่คืน แต่เราก็ร้องเรียนไปแบบไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คืนหรอกนะ 

2.ขึ้นรถไฟแล้ว ตั้งเวลาปลุกก่อนเวลาเปลี่ยนขบวนในอีก 3 ชม ให้หลัง เผื่อเผลอหลับไป ด้วยความที่เดินทางคนเดียว เราเลยจะตั้งเวลาแบบนี้ตลอด กันพลาดค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราจะตื่นขึ้นมาก่อนนาฬิกาปลุกเสมอ

3.เปิดแอปรถไฟเช็กเวลาอีกที ปรากฏ อ้าวววววว รถไฟขบวนที่สองดีเลย์จากที่จะออกจากชานชาลาตอนประมาณ 3 ทุ่ม เป็น 5 ทุ่มต้นๆ และจะถึงเวียนนาตอนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว

4.จำได้ว่ารถไฟใต้ดินที่เวียนนาเปิดถึงเที่ยงคืน ลองกูเกิ้ลดูก็จริง รถไฟใต้ดินจะวิ่งทั้งคืนเฉพาะช่วงวันหยุด หรือคืนวันศุกร์ข้ามเสาร์เท่านั้น 555 เอาไงล่ะทีนี้้ ที่พักห่วงจากสถานีรถไฟตั้ง 10 ป้ายแน่ะ

5.เราเลยลองหาวิธีอื่นดู เช่น

นอนค้างก่อนเปลี่ยนขบวนไหม พรุ่งนี้ค่อยกลับ - ที่พักอย่างแพง

นอนแถวสถานีรถไฟไหม - ก็แพงอีกเช่นกัน รู้สึกว่าเสียเงินนอนแค่ 4-5 ชม. ไม่คุ้ม

เดิน? อหหหห ที่ไม่ใช่โอ้โหหหหหหห อย่าแม้แต่จะคิด ไกลโฮก แถมค่ำแล้วอีกต่างหาก

นั่งรอเวลาใต้ดินเปิดตอนประมาณตีห้า - อาจจะต้องเลือกทางนี้

เราลองเช็กตารางขนส่งในแอป WienMobil ว่าหลังเที่ยงคืนมีรอบรถใต้ดินหรือเปล่า ปรากฏว่ามีเว้ยยย ขบวนสุดท้ายผ่านสถานีรถไฟตอน 0.24 รถไฟจะไปถึง ประมาณ 0.15 พอรถไฟถึงแล้วต้องรีบพุ่งตัวไปใต้ดินอ่ะ

ด้วยความสติเตลิด รู้สึกปวดหัวแล้ว เลยพยายามข่มตานอนเอาแรงไปก่อน ขณะที่ยังนอนได้

6.ตื่นมาในอีกประมาณ 1 ชมให้หลัง เริ่มทำใจได้ล่ะ อย่างน้อยก็มีใต้ดินกลับที่พัก เลยเปิดแอพรถไฟเช็กเวลาอีกที

อ้าว เฮ้ยย รถไฟเปลี่ยนจากดีเลย์ 2 ชม. เป็นชมเดียว เย้ๆๆ

7.เปิดแอพเช็กเรื่อยๆ และพบว่า มันเปลี่ยนเวลาต่อขบวนและเวลาถึงเวียนนาตลอดเวลา 555 สรุปชั้นต้องต่อรถไฟขบวนที่ 2 ตอนกี่โม๊งงงงง

8.ลงจากรถไฟขบวนแรก ไปดูบอร์ดตารางรถ ไม่โชว์ชานชาลา แต่มีตัวเลข 140 กำกับด้านหลัง แต่ในแอปคือ จะออกในอีก 2 นาทีนี้ อ้าวเฮ้ย เดี๋ยวๆ แย่ละสิๆๆๆ

9.ถามคนแถวนั้น(ซึ่งมีน้อยมาก เพราะค่ำแล้ว) เขาบอกว่ารถไฟจะดีเลย์ไป 2 ชมกว่าๆ เลยแนะนำว่า (ขอบพระคุณผู้ชีทางสว่างง) ให้ไปที่เคาเตอร์ด้านใน บอกกับจนท แล้วเขาจะเชียนกระดาษใบนึง ว่าสามารถขึ้นรถไฟขบวนไหนก็ได้ที่ไปลงเวียนนา เพราะ ถือเป็นความผิดของรถไฟ

10.ทำตามที่เขาแนะนำ และได้ใบใหม่มาจริงๆ หลังจากนั้นก็รออีกครึ่งชม. กว่ารถไฟขบวนต่อไปจะมาถึง

ใบที่เราได้รับมาค่ะ

11.เราออกจากรถไฟตอน 5 ทุ่ม (แพลนเดิมควรถึงตั้งแต่ 3 ทุ่มแล้ว) แล้วก็เดินทางกลับที่พักอย่างสบายใจ (แต่แอบเสียดายเงินค่าตั๋วที่ต้องซื้อใหม่)

วันที่ถือเป็นวันที่สนุกสนานมากวันหนึ่งค่ะ 555 ถึงจะมีเรื่องไม่คาดฝัน แต่ถ้ามีคนถามว่า วันไหนในทริปนี้ที่ชอบที่สุด เราก็คงบอกว่าวันที่มาเที่ยวเช็กนี่แหละค่ะ 555

เสริม:

หลังจากที่เราส่งอีเมลร้องเรียน ÖBB ไปตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่ได้รับอีเมลตอบกลับจาก ÖBB อีกเลยจนกลับมาถึงไทย ในใจคิดว่า เขาคงไม่สนใจอีเมลเราแล้วล่ะ เพราะยังไงเราก็เป็นคนต่างชาติ แถมการที่เราตกรถไฟ สาเหตุหนึ่งเพราะเราชะล่าใจ ลืมไปว่า มันอาจจะมีการเปลี่ยนชานชาลารถไฟก็ได้

แต่แล้วหลังจากนั้นประมาณสามอาทิตย์มีอีเมลจาก ÖBB ส่งมาบอกว่า เขาทำเรื่องคืนเงินยอด 28.9 EU เข้าบัตรเราเรียบร้อยแล้ว เราก็ตาโตเลยจ้า จริงดิ๊ คืนเงินให้จริงอ่อ แล้วหลังจากนั้นสองสามวัน เงินก็ถูกคืนเข้ามาในบัตรเราค่ะ เรียกได้ว่า ประทับใจมากเว่อรร์

จบตอนนี้ค่ะ 

รีวิวทั้งหมดในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอนค่า

1 การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2 เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994
3 เดย์ทริป Wachau Valley และ Melk Abbey UNESCO 2 แห่งระหว่างเมือง Melk Dürnstein และ Krems https://th.readme.me/p/39997
4 เดย์ทริปไป Budapest เยี่ยมชม Buda castle และโรงพยาบาลใต้ดิน Hospital in the Rock Nuclear Bunker Museum https://th.readme.me/p/39998
5 เดย์ทริปไป Kutna Hora แวะชม Sedlec Ossuary โบสถ์โครงกระดูกอันโด่งดัง กับประสบการณ์ตกรถไฟคนเดียวที่เช็ก! https://th.readme.me/p/40003
6 สองวันในเวียนนา ลัลล้าใน Museum of natural history และ ทำความรู้จักกับ Sisi ใน Hofburg palace และ Schonbrunn palace https://th.readme.me/p/40004
7 ยินดีต้อนรับสู่เมืองคราคุฟ เมืองที่ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวยิว เยี่ยมชม Oskar Schindler's Enamel Factory Rynek Underground ใน Kraków โปแลนด์ https://th.readme.me/p/40102
8 ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์แห่งความตาย Auschwitz and Birkenau concentration camps และเหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine https://th.readme.me/p/40103
9 เดย์ทริปไป ปราสาทมาลบอร์ก UNESCO ปราสาทยุคกลางที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก Malbork castle Poland https://th.readme.me/p/40104
10 2 วันในวอร์ซอ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิวที Polin Museum และเดินเล่นที่ Łazienki Park https://th.readme.me/p/40105

Duck's journey

 วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 16.47 น.

ความคิดเห็น